ตอนจบ : จุดจบของการทำงานร้านอาหาร
จริงๆๆร้านอาหารร้านนี้มันก้อเป็นของเค้าอ่ะนะ แต่ถ้าเค้าจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน แล้วปล่อยให้พนักงานดูแลซะส่วนใหญ่ ตัวเค้าแค่คอยมาชี้นิ้วสั่งก้อพอ เข้าใจว่าเค้าอาจจะหงุดหงิดบ้างเวลาร้านไม่สะอาด แต่มันก้อมีที่มาที่ไปว่าทำไมร้านไม่สะอาด พอดีร้านอาหารร้านนี้เป็นเฟรนไชน์ เค้าก้อจะมีประชุดผู้ประกอบการ 3 ครั้งต่อปี เราก้อมีโอกาสได้ไปนั่งประชุมกับผู้ประกอบการร้านอื่น (จริงๆๆเป็นหน้าที่ลูกสาว Mr. B แต่ชีไม่เอาไหนจริงๆๆ ไม่เคยไป ปล่อยเราไปเองตลอด)พอได้ไปประชุมกับผู้ประกอบการคนอื่น เราก้อได้มุมมองหลายอย่างเพื่อที่จะมายกระดับร้านที่เราทำอยู่ แต่เพราะความประหยัดของ Mr. B และเมียแก จึงไม่มีโอกาสได้ยกระดับเล้ยยย ยกตัวอย่างความประหยัดของเจ้าของร้านนะ (ประหยัดมันประหยัดได้ แต่ต้องมีขอบเขตุ)
1. พนักงานทำความสะอาดร้านอื่น ได้ลิมิตเวลาในการทำงาน 6 ชั่วโมง ร้านเราได้ 3 ชั่วโมง คือพนักงานทำความสะอาดต้องทำทุกอย่างเลยนะ ล้างเครื่องย่างเนื้อ เปลี่ยนน้ำมัน ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนที่ลูกค้านั่ง ทำความสะอาดห้องน้ำ 5 ห้อง ทำความสะอาดในครัว ขัดพื้นครัว ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนนอก 3 ชั่วโมงนี้แทบจะไม่พอเลยนะ แกยังจะมาถามเราว่าเอาไปทำไมตั้ง 3 ชั่วโมง ลองลดชั่วโมงพนักงานทำความสะอาดได้มั้ย เราปฎิเสธไปทันทีว่าไม่ได้ ก้อมาถามว่าลดจำนวนพนักงานคนอื่นได้ป่าว คือจริงๆๆนะ ลดอ่ะลดได้ แต่คนที่ทำงานอยู่จะไหวหรือป่าว ทุกวันนี้มีพนักงาน 3 คน คนนึงในครัว คนนึงยืนแคชเชียร์ คนนึงยืน Drive thru ถ้าหักออก เหลือสองคน เราถ้ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน พร้อม Drive Thru จะให้ทำยังไง? ช่วงกลางวัน ลูกค้าเยอะอยู่ เค้ามากินอาหารเที่ยง แล้วต้องกลับไปทำงานต่อ จะให้เค้ารอนาน ลูกค้าหายหมด อธิบายให้แกฟังนะ เหมือนแกจะเข้าใจ แต่เมียแกอ่ะไม่เข้าใจ
2. เครื่องอุปกรณ์ต่างๆๆในร้านอาหาร แกไม่ซื้อ Service ร้านอื่นจะจ่ายค่า Service รายปี เวลาเครื่องมีปัญหา เค้าจะมาซ่อมให้ฟรี แต่แกไม่ซื้อ พังแกก้อไม่ซ่อม เครื่องย่างเนื้อส่วนใน มันหลุดออกมาจะหมดแล้ว เบี้ยวแล้วเบี้ยวอีก ถ้ามันพังจนใส่ไม่ได้ก้อคือจบ ไม่สามารถขายอะไรได้เลย เพราะไม่มีเนื้อ ก้อไม่มีอาหารขายให้ลูกค้า เครื่องอื่นๆๆก้อเหมือนกัน พังเกือบทุกอย่าง ยกเว้นเครื่องกาแฟ เพราะเพิ่งซื้อ 555 ขนาดเครื่องน้ำดื่มอัดลม เค้าบังคับต้องมี Service พอดีมันพัง แกก้อไม่ให้เราโทรตามเค้ามาซ่อม เพราะค่าซ่อมฟรี แต่ต้องจ่ายค่าน้ำมันและค่าเดินทางให้คนมาซ่อม สรุปก้อพังไป
3. แกชอบมาบ่นๆๆ พอดีช่วงหลังๆๆลูกค้าน้อย (เอาจริงๆๆนะ อุปกรณ์อะไรในร้านนี้แทบจะใช้ไม่ได้เลย มีแต่พัง การทำอาหารก้อต้องใช้เวลานานขึ้น ลูกค้ามาหนเดียว เค้าก้อหนีกันหมดแล้ว รอนาน เค้ารีบมากินอาหารกลางวันก้อต้องรีบกลับ) พอลูกค้าน้อย รายได้ก้อน้อยตามมา แกก้อบ่นว่าแกสงสัยว่ามีคนมุบมิบเงิน แบบขโมยเงินในร้านไรงี้ เราก้อเลยถามว่าเงินมันหายเหรอ เงินมันไม่ตรงกับบัญชีรายรับในเครื่องแคชเชียร์เหรอ สรุปก้อครบ ไม่ได้มีหาย แต่แกสงสัยบ้าๆๆ
4. อย่างที่บอกว่าร้านเป็นเฟรนไชน์ มันจะมีโปรโมชั่นที่ทุกร้านต้องขายเหมือนกัน คือเค้าเรียกอันนี้ว่า International Promotion ที่ Denmark, Sweden, Norway and Finland จะต้องขายโปรนี้ มันจะแบบขายถูก เพื่อดึงลูกค้าเข้าร้าน อย่างโปรตอนนี้คือ Cheeseburger ใส่ BBQ มันจะแค่ 10kr แกก้อหงุดหงิด ให้เราโทรไปที่ออฟฟิสเจ้าของเฟรนไชน์ บอกว่าจะไม่ขาย มันถูกไป เราก้อบอกว่าเจ้าของร้านเซ็นต์ยินยอม ว่าด้วยกฎ International Promotion เราไม่สามารถปฎิเสธไม่ขายได้ แกก้อโมโหให้เรา เราเลยบอกแกให้โทรเองล่ะกัน เพราะการจะมีปัญหาเรื่องราคาขายในร้าน เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้จัดการร้าน เราดูแลร้าน ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลเรื่องส่วนนี้ แกก้อโกรธธธธธมาก แกก้อรู้นะ ว่าถ้าร้านไม่ขายราคานี้ เจ้าของเฟรนไชน์สามารถฟ้องร้องแกได้ เพราะแกเซ็นต์ยินยอมไปแล้ว เฮ้อออ
มีเยอะอ่ะ ขี้เกียจอธิบายหมดทุกอย่าง คงต้องนั่งทั้งวันทั้งคืนกว่าจะอธิบายครบ
สรุปเราทำต่อไม่ไหว แกกดดันเรามาก อย่างเรื่องที่เราบอกว่าลดชั่วโมงพนักงานไม่ได้ พอเราปฎิเสธ แกก้อขู่หักเงินเดือนเรา หักโบนัสเรา สรุปแกหักเงินเดือนไม่ได้ แกก้อหักโบนัสรายเดือนเรา เราก้อโมโหสินะ เพราะอย่างที่บอกไว้แต่แรกแล้วว่าเราได้เงินเดือนระดับรองผู้จัดการร้าน แต่ทำหน้าที่ผู้จัดการร้าน อุตสาห์ทำให้ ไม่มีปากมีเสียง พอไม่พอใจ มาหักโบนัสเราอีก (ไม่เยอะหรอก โบนัสรายเดือน เดือนนึงก้อไม่เท่าไร แต่มันเสียความรู้สึก) ก้อเลยลาออก
ลาออกทั้งๆๆที่ยังไม่ได้งานใหม่ คิดดูแล้วก้อคงลำบากน่าดู 5555 หัวเราะทั้งน้ำตา แต่ปวดหัวมาเยอะแล้ว จะเป็นโรคประสาทตายสักวัน
ตอนนี้ก้อรอกลับไปเที่ยวเมืองไทย ซื้อตั๋วไปเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ถ้ารู้ว่าจะลาออกจากงานคงไม่ซื้อตั๋วกลับ แต่ตอนนี้คงต้องประหยัดขึ้น เที่ยวน้อยลง หาเที่ยวอะไรๆๆที่มันประหยัดๆๆจะดีที่สุด
ช่วงกลับไทย บุ๊คตั๋วไปดูไบกะฮองกงไว้ด้วย โรงแรมที่ดูไบก้อจ่ายแล้ว เลยไม่สามารถแคลเซิลได้ (ได้อยู่ แต่ไม่ได้เงินคืน)
ได้แต่ท่องไว้
ประหยัด
ประหยัด
ประหยัด
ปล. คิดเสมอ ถ้าตอนมีเงิน เราเก็บๆๆๆ ประหยัดไว้แต่แรก คงไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะไม่มีเงินเที่ยวเมืองไทย
Create Date : 07 ตุลาคม 2559 |
Last Update : 7 ตุลาคม 2559 14:35:30 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1053 Pageviews. |
|
|
|
ยังไงเที่ยวให้สนุกนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ กลับมาจากเที่ยวค่อยมาว่ากันใหม่เนอะ ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นกันต่อไปค่ะ