twentytwo
 
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 พฤษภาคม 2559
 
 
กรุงโชล...วันที่ 2



กรุงโซล (Seoul) 2-4-16
- Bukchon Hanok Village หมู่บ้านบุกชอนฮันอก
- Changdeokgung Palace พระราชวังชังกย็อง
- Seoul N-Tower & Namsan Park โชล ทาว์เวอร์

08:30 เดินออกจากโรงแรม ก็เดินลัดเลาะเพื่อไปหาอะไรอร่อย ๆ ข้างทางกินเป็นอาหารเช้าไกล้ ๆ กับ Jongmyo Park มองเห็นเป็นรถเข็นเล็ก ๆ ที่มีขายของกินพร้อมกับกาแฟราคาโครตถูก ก็เลยได้สิ่งนี้มากิน แล้วเดินย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อจะกลับไปที่ที่ถนน Insa-dong หากาแฟร้อน ๆ นั่งดื่มให้ช่ำปอด ก็เลยได้ช็อคโกแลตร้อนถ้วยเป้ง ๆ ที่หวานแสบใส้ในร้านกาแฟสุดคลาสิคที่ ได้บรรยากาศบนชั้นสามของตึก




รถขายของจักรสานแบบเมืองไทย


ช็อคโกแลตแก้วโต ๆ หวานเจี๊ยบ

หลังจากที่นั่งจนสบายก้นไปแล้ว ก็เริ่มเดินต่อไปตามทางอย่างมีเรี่ยวแรง มาหยุดที่เดิมคือเจ้าพูกันยักษ์ Buk(North) Insa Madang Plaza แล้วก็มองหาป้ายบอกว่าไปที่หมู่บ้าน Bukchon Hanok Village จริง ๆ ก็ถือแผนที่มาด้วยที่เอามาจากโรงแรมอะนะ เดิน ๆ จนถึงหมู่บ้านตอนเช้า ๆ แบบนี้ยังไม่ค่อยจะเจออะไรมากมายแถมเป็นวันหยุดด้วย จึงไม่ค่อยได้เห็นอะไรนอกจากความเก่าแก่และวัฒธรรมเดิม ๆ ของคนที่นี่และสิ่งปลูกสร้างที่สวยงาม ก็เลยได้แค่ภาพถ่ายหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์แปลกตา ทางเดินที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปตามแนวของบ้านที่ติดกัน เล่นเอาเหนื่อยปวดขาไปเหมือนกัน


Bukchon Hanok Village หมู่บ้านบุกชอนฮันอก


Bukchon Hanok Village หมู่บ้านบุกชอนฮันอก

Changdeokgung Palace (พระราชวังชังกย็อง)
มาถึงที่นี่ก็ตอนเกือบ ๆ 11:00 นักท่องเที่ยวกำลังยืนต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วเข้าชมพระราชวังกันมากมาย และเป็นอีกที่หนึ่งที่ได้เจอคนไทยหลายร้อยชีวิตเลยก็ว่าได้ คนไทยมาเที่ยวเกาหลีกันเยอะจริง ๆ หลังจากที่เดินดูส่วนต่าง ๆ ของพระราชวังจนครบหมดทุกที่แล้ว(กว้างใหญ่มาก) 


Changdeokgung Palace (พระราชวังชังกย็อง)


Changdeokgung Palace (พระราชวังชังกย็อง)


Changdeokgung Palace (พระราชวังชังกย็อง)


กาแฟน้ำโลงเลงไม่ค่อยอร่อย แก้วใหญ่มาก 

เดินดูทุกซอกทุกมุมจนรู้สึกเหนื่อย ๆ เพราะอากาศเริ่มร้อนแดดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้องไปหยุดอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งนี้ ในส่วนของพระราชวังนั้นจะคล้าย ๆ กันกับพระราชวัง Gyeongbokgung Palace (พระราชวังคย็องบก) จะต่างกันก็ต้องสีสันที่แปลกตาแตกต่างกันไป และทางด้านหลังก็ยังมีสวนดอกไม้ให้เดินดูกันอย่างเพลิน ๆ อีกด้วย 

ผ่านไปเกือบสามชั่วโมงที่อยู่สถานที่แห่งนี้ และอาการก็เริ่มหิวตะหงิด ๆ ก็มาลงเอยที่ร้านแห่งนี้ด้วยก๋วยเตี๋ยวชามโต ๆ และเครื่องเคียงมากมายอีกตามเคยคงหนีไม่พ้นกิมจิ แต่พวกเครื่องเคียงกินฟรีเติมได้แบบไม่อั้น 


ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่กับข้าวร้อน ๆ


อย่าว่ามีแต่ผักเลย ขอเมนูเนื้อสักจาน

จากนั้นเดินกลับโรงแรม แต่ได้เดินกลับไปอีกทางจึงทำให้ได้เจอกับวัดเล็ก ๆ เงียบ เดินเข้าไปด้านในที่เป็นตึกสามชั้นได้ และบังเอิญได้เจอเข้ากับนักท่องเที่ยวที่มาจากสเปนทักทายกันนิดหน่อยแล้วก็แยกย้ายกันไป ช่วงที่เดินกลับโรงแรมนั้นเดินผ่านร้านค้ามากมายจึงสังเกตได้ว่าแถบนี้จะมีแต่ร้านขายพูกันกับกลองเยอะมากจริง ๆ เดินดูไปเรื่อย ๆ จนไกล้ถึงโรงแรมก็เจอร้านขายผลไม้ใหญ่มากได้ผลไม้ไปกินส่ะสะใจเชียว ถึงโรงแรมนอนหลับพักผ่อนเอาแรง ตอนเย็นจะไปที่ Seoul N-Tower


วัดนี้ไม่รู้จักชื่อลืมถาม พนง. ในโรงแรม


วัดเล็ก ๆ ที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าในแบบเกาหลี 

Seoul N-Tower
18:00 เรารู้สึกเสียใจมากสักหน่อยกับการมาเยี่ยมสถานที่แห่งนี้ เพราะคนเยอะมาก แถมข้างบนหอคอยก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลยสักอย่าง เสียเวลาไปกับการรอ ๆๆ ที่รอแล้วไม่สมหวังดังที่ใจคิด จากโรงแรมเรานั่งรถเมล์ที่หน้า Jongmyo Park บอกคนขับรถว่าจะไปลงที่ Seoul N-Tower คนขับก็แสนดีพอถึงที่ก็บอกเราให้เดินไปอีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว เรามองเห็นคนยืนต่อแถวอีกแล้วสิ เค้ากำลังรอขึ้นลิฟท์เพื่อขึ้นไปซื้อตั๋วไปที่ Namsan Park พอเดินออกจากลิฟท์ ก็เห็นคนยืนต่อแถวซื้อตั๋วแบบยาวเหยียดอีกรอบเราก็ยืนรอจนได้ตั๋วมา 


ยืนต่อแถวรอขึ้นลิฟท์ไปซื้อตั๋ว 


ต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วยาวมาก


ได้ตั๋วขึ้นไปที่หอคอย 

พอได้ตั๋วเสร็จก็คิดว่าจะได้ขึ้นไปข้างบนเลย คิดผิดอย่างแรงเพราะต้องมายืนต่อแถวที่ยาวอีกตามเคยเพื่อขึ้นกระเช้าไปข้างบน ดีที่ว่าที่นี่มีร้านมินิมาร์ทให้ เลยได้กินอะไรนิดหน่อยลองท้อง


ยืนรอต่อแถวเพื่อขึ้นกระเช้าไป 

พอขึ้นมาถึงด้านบนก็จะเจอกับสวนสาธารณะให้เดินดูรอบ ๆ แต่ด้วยความที่เรามาตอนกลางคืนจึงทำให้ได้บรรยากาศที่แย่สุด ๆ มองไม่เห็นอะไร เลยหมดอารมณ์ที่จะถ่ายรูป แถมหนาวก็หนาว


Seoul N-Tower & Namsan Park


หาความงามไม่เจอเลยเพราะมันมืด

และก็ตรงซื้อบัตรเพื่อที่จะขึ้นไปบนสุดหอคอยนั้น แต่เวรกรรมอันใดของข้าน้อยทำให้ต้องลำบากมากเช่นนี้ ต้องรอขึ้น 1 ชั่วโมง รอลง 40 นาที  ช่วงเวลาที่รอก็มองหาอะไรกินไปพลาง ๆ ได้กาแฟกับคุกกี้อร่อย ๆ เดินดูของฝากเล็กน้อยแก้เซ็งกับการรอ



พยายามเดินไปดูหมายเลขว่าถึงเลขของตัวเองหรือยังจะได้ขึ้นไปข้างบนสะที และเมื่อถึงคิวก็ต้องยืนรออีกรอบตามเคย เพื่อขึ้นลิฟท์ในลิฟท์มีการเปิดแสดงแสงสีเสียง แต่ในช่วงเวลานั้นหมดความตื่นเต้นไปแล้ว เพราะมันทั้งเหนื่อยอ่อนล้า เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่มเข้าไปแล้วที่สามารถไปยืนอยู่บนหอคอยได้ สุดท้ายก็ได้ภาพที่ไม่น่าประทับใจเพราะไกล้จะปิด และที่สวนสาธารณะก็ปิดแล้วด้วย


บรรยากาศแย่มาก


ถ่ายยังไงก็ออกมาไม่สวย เพราะมีรอยนิ้วมือติดกระจกเต็มไปหมด


กระจกสีขุ่นสุด ๆ

พอช่วงขาลงคนจะไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ต้องรอลิฟท์นาน แต่พอมาถึงที่สวนสาธารณะก็มีต้องเดินคอตก เพราะปิดแล้ว ผู้คนเริ่มหายไปกันเกือบจะหมดแล้วจะเหลือก็เราเป็นกลุ่มสุดท้ายที่อยู่ ประมาณ 5-6 คน ผู้คนยังคงต่อแถวเพื่อเข้าคิวลงกระเช้าไปข้างล่างอีกเยอะมาก ด้วยความเราที่เดินดูอะไรเรื่อย ๆ เลยเดินลงไปที่บันไดที่มีป้ายเขียนว่าร้านอาหาร แต่หารู้ไม่นั่นคือทางลงอีกทางเพื่อไปถนนข้างล่างโดยที่ไม่ต้องรอลงกระเช้าหรือรอลิฟท์ เราได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่าจะปิดประตูแล้วให้รีบลงเดินไปตามทางเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะเจอป้ายรถเมล์ก็ให้ต่อรถเมล์ไปได้ ก่อนหน้านั้นเราเห็นวัยรุ่น 2-3 คนเดินนำหน้าไปก่อนแล้ว จึงทำได้แค่เดินตาม ๆ กันไปตามทาง ช่วงระหว่างทางเดินก็ได้ถ่ายรูปไปเล็กน้อย 





มองเห็นป้ายรถเมล์ลิป ๆ จึงรีบจ้ำอ้าว เพราะคงไกล้หมดเวลารถเมล์สายนี้แล้วคิดเอานะ รอจนรถเมล์มาก็นั่งเพื่อที่จะกลับโรงงแรม แต่บังเอิญโชคร้าย ๆ จริงเลยเย็นนี้ พากันไปลงผิดที่ดันเสล่อไปลงเอาสวนสาธารณะอีกที่หนึ่งคือ Tapgol Park พอลงรถได้เท่านั้นแหละอยากจะร้องให้ดัง ๆ ออกมาจริง ๆ กลางคืนสายตามองอะไรไม่ค่อยชัด ก็เป็นเรื่องธรรมดาอะนะเที่ยวเองมันก็ต้องมีบางที่หลงทาง ฮ่าฮ่า


มีซุ้มดูดวงด้วยอะนิ
เลยพากันไปหาอะไรดื่มเย็น ๆ แก้กระหายในผับที่เปิดเต็มไปหมดในช่วงเวลาแบบนี้ จะได้บั่นทอนลดความโง่เขลาของตัวเองลงไปได้บ้าง และก็ได้เบียร์เย็น ๆ แก้วใหญ่มาส่ะเลย เดินมองหาไรลองท้องตามทางไปเรื่อย ๆ ดูหลาย ๆ อย่างในช่วงกลางคืนไปในตัว จนถึงโรงแรมก็เป็นเวลาตีหนึ่งฟ่า ๆ โหดร้ายสุด ๆ วันนี้เดินอย่างเดียว...

*** ข้อคิดเล็กน้อย
- จริง ๆ ถ้าไม่อยากรอขึ้นลิฟท์หรือรอขึ้นกระเช้าไปที่ Namsan Park ก็สามารถเดินไปตามทางที่เราเดินลงมาได้ ไม่ค่อยไกลมากแต่แค่จะเหนื่อยเพราะมันเป็นทางขึ้นเขาอะนะ จะมีรถเมล์วิ่งผ่านด้วยแต่เราไม่รู้ว่าสายอะไรไม่ได้ถ่ายรูปไว้ด้วยอ่ะ 
- ก่อนที่จะขึ้นรถเมล์ทุกครั้งเราจะบอกคนขับก่อนว่าจะไปสถานที่แห่งนี้ เค้าก็จะเรียกเราเองเมื่อถึง โดยเราจะถามข้อมูลจาก พนง. โรงแรมก่อนเสมอว่าเดินทางยังไง และก็จะเช็คสายรถเมล์จาก Map Google ตอนอยู่ในโรงแรมเพราะเราไม่มีอินเตอร์เน็ต และกูเกิลก็แม่นยำเอามาก ๆ หรือไม่ก็กลางแผนที่ให้ดูเลย
- เกาหลีจะดีอย่างปล่อยไวไฟให้เน็ตฟรีในเกือบทุกที่ เช่นสวนสาธารณะ รถไฟฟ้าไต้ดิน 
- ส่วนน้อยที่คนเกาหลีจะคุยภาษาอังกฤษได้ แต่เชื่อไหม๊..? ทุกครั้งที่เราถามหรือขอความช่วยเหลือคนเกาหลีจะกระตื้อรื้อร้นช่วยเหลือมากกก ยกนิ้วให้เลย





Create Date : 18 พฤษภาคม 2559
Last Update : 18 พฤษภาคม 2559 15:08:49 น. 0 comments
Counter : 1058 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

สมาชิกหมายเลข 822822
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




อย่าให้ความริษยามาควบคุมความคิด ความรู้สึกในตัวของคุณ เพราะมันจะทำให้คุณกลายเป็นมนุษย์ปีศาจไปในทันที




[Add สมาชิกหมายเลข 822822's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com