รีวิวหนังสือกินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม





  หนังสือ กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม




น่าจะเป็นหนังสือสำหรับผู้ที่ชอบอ่านเรื่องราวประวัติ การบากบั่น การฟันฝ่า 

และแง่คิดของคนที่ประสบความสำเร็จหรือมีชื่อเสียง

เพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง ต่อยอดความคิด และสร้างแรงบันดาลใจ

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่คุณวิกรมตั้งใจเขียนขึ้น และได้บอกเล่าเรื่องราว ประวัติในแง่มุมหลายแง่มุม

ทำให้เราได้รู้จักตัวตนของเค้ามากยิ่งขึ้น



เรื่องราวของคุณวิกรม เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ 

เค้านับเป็นคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ด้านการทำมาค้าขาย ตั้งแต่ 5 ขวบก็สนใจทำธุรกิจ และมีเงินเก็บเกือบ 10,000 บาท ซึ่งนับว่ามากแล้วในสมัยนั้น

เค้าได้สร้างอมตะนคร เมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เขียนหนังสือที่มียอดขายสูงสุด และทำสารคดีเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้ผู้คนทั้งหลาย

ในหนังสือเล่มนี้ ได้บอกกล่าวเรื่องราวตั้งแต่สมัยที่คุณวิกรมยังเด็ก ว่าได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างไร

อยู่กับพื้นฐานครอบครัวแบบไหน ซึมซาบอะไรอย่างไรมาบ้าง

จนถึงตอนเรียน ที่เริ่มสนใจการออกกำลัง ไม่ชอบแอลกอฮอล์เพราะประสบการณ์ที่เมาค้างคนคิดได้

กระทั่งถึงความเจ็บป่วยของร่างกายที่เกิดจากโรคหัวใจทำงานผิดปรกติ คือเต้นเร็วผิดปรกติ

เพราะความผันผวนของร่างกาย จึงทำให้คนเราหันมาสนใจสุขภาพทั้งกายและจิตใจอย่างผสมผสาน

จนในที่สุดก็ตกหลุมรักการดูแลตัวเองอย่างเป็นจริงเป็นจัง ทั้งการกิน การใช้ชีวิต และการบริหารใจด้วยธรรมมะ



เพราะต้องการจะเขียนหนังสือเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้ผู้อื่น

ทำให้เขาซึ่งเขียนไทยไม่ค่อยเก่ง ต้องพยายามอย่างหนักเพื่องานเขียนชิ้นนี้ ซึ่งก็ดีและสนุกมากๆค่ะ

การเขียนนั้นมากับธรรมชาติ คุณวิกรมเลือกเขียนงานที่เขาใหญ๋ เพราะไม่ไกล เดินทางไม่ลำบาก

เขาใช้เวลาในการอยู่หลายวันต่อสัปดาห์ และยังคงบริหารเวลาได้ดีแบบนักธุรกิจ

เพราะเขายังให้เวลากับการดูแลคนในองค์การ

ด้วยคำพูดที่ว่า ความสัมพันธ์ขององค์กรณ์เป็นสิ่งสำคัญ เค้าต้องการให้ตัวเองได้เข้าพบคนในบริษัท

ฉะนั้นเขาจะต้องจัดเวลาเพื่อกลับมาประชุมร่วมกับทุกคน ไม่ว่าจะมีเรื่องใหญ่หรือไม่

เพราะสิ่งที่เค้าให้ความสำคัญคือความสัมพันธ์ของคนในองค์กรณ์ และเค้าก็พบว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ

การที่เค้ากลับมาทุกอาทิตย์ ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง

หลายคนอยู่มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และยังคงอยู่ร่วมกันอย่างไม่คิดจะไปไหน



คุณวิกรม ได้ผ่านช่วงเวลาย่ำแย่ที่สุดของชีวิต คงไม่พ้นช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง

ซึ่งช่วงนั้น เค้าเพิ่งกู้ธนาคารเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่

ในช่วงนั้น มีแต่ดอกเบี้ยธนาคารที่เดินไป ขณะที่ไม่มีรายได้ใดๆเลย

ช่่วงนั้นทั้งสภาพร่างกายและจิตใจแย่ลงถึงขีดสุดก็ว่าได้

แต่เค้าไม่ใช่คนหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ฉะนั้น เค้าเลือกที่จะตัดค่าใช้จ่ายหลายๆส่วน และจัดการธุรกิจในหลายๆอย่าง

และค่อยๆบริหารองค์กรณ์อย่างระวังมากๆ จนในที่สุดทุกอย่างก็ค่อยๆคลายตัวและดีขึ้น

ในที่สุดเค้าก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เพราะความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์

การยืดหยุ่น การเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปได้


หลายๆแง่คิดที่น่าสนใจจากในหนังสือเล่มนี้

หลายๆคนบอกว่าผมเป็นคน "หน้าชื่นอกตรม" ซึ่งก็คงจะจริง ผมเป็นแป๊ะยิ้มมาตั้งแต่เด็กๆ แน่นอน เพราะผมยึดคติว่า "ยิ้มไม่เสียสตางค์"

ผมไม่ชอบนำปัญหาไปแลกเปลี่ยนกับใคร แต่ละคนมีเรื่องต้องคิดต้องเครียดกันอยู่แล้ว เมื่อมาพบปะพูดคุยกันก็ควรทำชีวิตให้รื่นรมย์จะดีกว่า นี่เป็นคติเตือนใจที่ผมนำมาใช้กับคู่สนทนาอยู่เสมอ

การก้าวเข้าสู่ความเป็น "คนดี" นั้นดูเหมือนว่าจะมีนิยามที่กว้างขวางมาก ส่วนตัวผม ผมเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องต่อตนเองและสังคมด้วยการใช้เหตุและผลบนพื้นฐานของความยุติธรรม จริงใจ ซื่อสัตย์ ไม่เบียดเบียนใคร สิ่งที่ผมได้รับ คือความสุขอย่างแท้จริง

เราต้องมีกำลังใจให้กับตัวเอง คนรอบข้าง สิ่งต่างๆเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนเป็น"พลัง ดันเข้มแข็งที่ช่วยให้ผู้คนทั้งโลกสามารถฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆได้

"กำลังใจ ไม่ต้องเสียสตางค์" มนุษย์อยู่ได้ด้วยความฝันและการคิดบวก การมองโลกในแง่ดี

"ความฝันไม่เสียสตางค์" "ปัญหาคือสิ่งที่ท้าทายความสามารถ" แต่หากผมทำสิ่งใดไม่ได้ด้วยข้อจำกัดอะไรบางอย่าง และมื่อผมพยายามจนถึงที่สุดแล้ว ผมก็จะบอกกับตัวเองว่า "สุดท้ายของชีวิต ผมเดินไปสู่ศูนย์"


สิ่งที่ประทับใจในหนังสือเล่มนี้  คงเป็นความคิด แง่คิด แนวคิดที่เป็นแบบแผนของคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

ทำให้เรารู้สึกถึงความเข้มแข็งที่ไม่พึ่งพาคนอื่น ไม่อยู่บนพื้นฐานที่ไกลจนเกินไป

กำลังใจ และความเข้มแข็งทุกอย่างเหมือนกลั่นออกมาจากภายในได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ

บล๊อคนี้ไม่ต้องโหวตนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะคะ



Create Date : 21 กันยายน 2559
Last Update : 21 กันยายน 2559 16:53:42 น. 0 comments
Counter : 727 Pageviews.

ตุ๊กจ้ะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 264 คน [?]




Group Blog
 
 
กันยายน 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ตุ๊กจ้ะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.