BlogGang.com : : tuk-tuk@korat : อุบลราชธานี - ทัวร์ตามรอยหลวงปู่ - ตอน 11 ... พระอาจารย์ชา วัดหนองป่าพง, หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง

อุบลราชธานี - ทัวร์ตามรอยหลวงปู่ - ตอน 11 ... พระอาจารย์ชา วัดหนองป่าพง, หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง

เป็นคำสอนของพระอาจารย์ชา แห่งวัดหนองป่าพงที่จะพาไปวันนี้

จากที่พักใช้ถนนวงแหวนเมืองอุบลราชธานี สะพานข้ามแม่น้ำมูล ไปฝั่งวาริณ

ทางเข้าวัดหนองป่าพงผ่านทุ่งนาเขียว

วัดหนองป่าพง

พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) ... ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด

พระอาจารย์ชานามเดิมว่า ชา ช่วงโชติ เป็นคน วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

บรรพชาเป็นสามเณรได้ 3 พรรษา แล้วก็ลาสิกขา

แล้วกลับอุปสมบทใหม่เป็นภิกษุอีกครั้ง

ท่านได้ศึกษาธรรมจากสำนักต่าง ๆ หลายสำนักจน พ.ศ.2486 โยมบิดาถึงแก่กรรม

ท่านก็สิ้นภาระห่วงใย ทั้งยังมองเห็นอนิจจังของชีวิต

หลังจากสอบนักธรรมเอกได้ ก็เกิดเบื่อหน่ายด้านปริยัติ

จึงมาศึกษาด้านวิปัสสนาธุระ จากพระอาจารย์หลายท่าน

จน ปี 2490 ได้ทราบข่าวว่าท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หรือ หลวงปู่มั่น เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระ

จึงเดินทางมาที่วัดหนองผือนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร

วันแรกย่างเหยียบเข้าสำนัก เห็นบริเวณร่มรื่น ปฏิปทาของพระภิกษุเคร่งครัดเป็นที่น่าเลื่อมใส

ทั้งหลวงปู่มั่นยังได้ให้ข้อชี้แจงว่า “ ไม่ต้องสงสัยนิกายทั้งสอง ”

ไม่มีความจำเป็นต้องแปลงนิกายเป็นธรรมยุติกาย เพราะ ในความเป็นภิกษุที่แท้จริงไม่ได้มีนิกาย

พระอาจารย์ชาได้เดินทางไปประกาศสัจธรรมในภาคพื้นยุโรปเป็นครั้งแรกปี 2522

ได้เดินทางไปอังกฤษ อเมริกา คานาดา เพื่อประกาศสัจธรรม เป็นครั้งที่ 2 ปี 2525

หลังจากนั้นไม่นานพระอาจารย์ชาอาพาธ เป็นโรคเกี่ยวกับสมองจนต้องผ่าตัด

หลังจากการผ่าตัด ท่านพูดไม่ได้ เคลื่อนไหวไม่ได้

ท่านถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2535

เจดีย์บรรจุอัฐิพระอาจารย์ชา

พระอาจารย์ชาได้เล่าให้ญาติโยมฟังว่า

วัดป่าพงสมัยก่อนนี้ลำบากมาก ที่แห่งนี้เป็นดงใหญ่ เป็นที่อยู่ของพวกช้างพวกเสือต่าง ๆ

มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งสำหรับสัตว์ป่าทั้งหลายอาศัยกิน

อาตมามาอยู่ที่นี่ทีแรกไม่มีอะไรทั้งนั้น มีแต่ป่า ถนนหนทางอะไรอย่าไปพูดถึง การไปมาลำบากมาก

ที่ของพวกชาวนาก็อยู่ไกลเขาไม่กล้าเข้ามาใกล้ป่านี้ เขาถือว่าเจ้าที่ที่นี่แรงมาก

คือ แต่ก่อนเจ้าที่เป็นนายโขลงช้าง พาลูกน้องไปคล้องช้างมาขาย

ผ่านไปผ่านมาอยู่แถบนี้เสมอ และในที่สุดจึงตั้งหลักฐานอยู่ที่นี่ รักษาดงแห่งนี้ไว้

ป่าจึงพอมีเหลือจนอาตมาได้มาอาศัย ถ้าไม่อย่างนั้นป่าไม้หมดไปนานแล้ว

เคยมีชาวบ้านผึ้ง บ้านบก เข้ามาจับจอง ถากถาง ทำไร่ทำนากัน แต่ก็ต้องมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา

พวกที่เข้ามาตัดไม้ตัดฟืนในป่านี้ ก็มักจะมีเหตุให้ล้มตายกัน

มันแกวมันสำปะหลังที่ขึ้นเองก็มีอยู่มาก แต่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง

พออาตมามาอยู่แล้วจึงมีคนมาทำนาอยู่ใกล้ๆ

ตั้งชื่อวัดแห่งนี้ว่า “วัดหนองป่าพง” โดยอาศัยสภาพภูมิประเทศเป็นหลัก

แต่ชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากก็คือ “ วัดป่าพง”

ต่อมาเกิดสำนักชีขึ้นที่วัดเพื่อสนองคุณต่อโยมมารดาให้ได้ปฏิบัติธรรม โยมแม่พิมพ์จึงเป็นแม่ชีคนแรกของวัดหนองป่าพง

ธรรมจากต้นไม้

เบื้องหลังการทำความเพียรนั้นคือไม้กวาดด้ามยาวมาก

พระอุโบสถอเนกประสงค์สมัยใหม่ที่เอื้อต่อประโยชน์ใช้สอย ยกลอยจากพื้นดิน

เบื้องล่างเป็นถังเก็บน้ำฝน ตัดสิ่งประดับฟุ่งเฟื่อย อาทิ ช่อฟ้า ใบระกา

พระท่านฉันอาหารเสร็จต่างก็ทำความสะอาดบาตร

คำสอนปฏิปทาของท่านไว้เป็นแนวปฏิบัติคือ

“ ทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อน แล้วจึงสอนคนอื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตสกปรก ”

ดังนั้นไม่ว่าจะทำกิจวัตรอันใด เช่น กวาดวัด จัดที่ฉัน ล้างบาตร นั่งสมาธิ ตักน้ำ ทำวัตร สวดมนต์ เดินจงกรม

ในระหว่างวันพระถือเนสัชชิไม่นอนตลอดคืน

พระอาจารย์ชาลงมือทำเป็นตัวอย่างของศิษย์โดยถือหลักว่า

“ สอนคนด้วยการทำให้ดู ทำเหมือนพูด พูดเหมือนทำ ”

วัดหนองป่าพงเป็นวัดที่เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ

คงความเป็นพุทธ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

ท่านเล่าว่า

สมัยที่อาตมาเป็นเด็ก ได้ยินโยมพ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านอาจารย์เสาร์ก็เคยมาพักอยู่ที่นี่

โยมพ่อเคยได้มาฟังธรรมกับท่าน

อาตมาเป็นเด็ก ๆ ยังจำได้ ความจำเช่นนี้แหละ มันติดในใจตลอดเวลา

นึกอยู่เสมอ ๆ เลย เพราะว่าบ้านนี้มันเป็นบ้านร้าง ดูต้นมะม่วงใหญ่ ๆ ของเก่าแก่ทั้งนั้น

โยมพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า มากราบพระกรรมฐาน มาดูท่านฉัน"จังหัน"

จังหัน ก็เอาอาหารอะไรรวมลงในบาตรทั้งนั้นแหละ

ข้าวก็รวมลงในบาตร แกงก็รวมใส่ในบาตร หวานคาวใส่ในบาตรหมด

โยมพ่อไม่เคยเห็น เอ๊ะ! นี่พระอะไร เคยเล่าให้อาตมาฟังตอนเป็นเด็ก ท่านเรียกว่าพระกรรมฐาน

เทศน์ก็ไม่เหมือนพระธรรมดาเรา

อยากจะได้ฟังเทศน์ก็ไม่ได้ฟัง มีแต่พูดไปโป้ง ๆ เท่านั้น ก็เลยไม่ได้ฟังเทศน์กัน

ได้ฟังแต่คำพูดท่าน อันนั้นคือพระปฏิบัติที่มาอาศัยอยู่นี้

ครั้นเมื่อได้ออกมาประพฤติปฏิบัติเองแล้ว

ความรู้สึกอันนี้มันมีอยู่ในใจตลอดเวลา เมื่อหันหน้าเข้ามาทางบ้านก็นึกถึงป่านี้ไม่ได้ขาด

จากวัดหนองป่าพง ตรงเข้าเมือง

ข้ามแม่น้ำมูล จากฝั่งวารินไปเมืองอุบล

หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

ตั้งอยู่กลางสระน้ำ สร้างราว พ.ศ. 2385 ตรงกับสมัยราชกาลที่ 3

ศิลปะผสมระหว่าง 3 สกุลช่าง คือ ไทย พม่า และ ลาว คือ

ส่วนหลังคาหลังคาเป็นชั้นซ้อนกัน 6 ชั้นเป็นศิลปะพม่า ลดหลั่นเป็นลำดับ

มีช่อฟ้า ใบระกาแบบไทย

ตัวอาคารเรือนฝาปะกนแบบไทย ขนาด 4 ห้อง

ผนังภายในห้องเขียนลายลงรักปิดทองแบบไทย

บานหน้าต่างและบานประตูที่ทำด้วยไม้แผ่นเดียว

ลวดลายแกะสลักบนหน้าบันลักษณะศิลปะสกุลช่างลาว

คันทวยแกะสลักเป็นเทวรูปพนมและนาค ด้านล่างแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ

ตัวเองจะไปกรุงเทพฯ แต่เค้าจะไปยโส

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2558

Last Update : 7 มีนาคม 2565 16:21:13 น.

30 comments

Counter : 3466 Pageviews.

ตามมาไหว้พระด้วยค่ะ
เป็นวัดที่ร่มรื่นจัง เรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ
แตกต่างจากวัดพุทธพาณิชย์โดยสิ้นเชิง

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 19 พฤศจิกายน 2558 เวลา:19:14:56 น.

เข้ามาอ่านธรรมะ ซึ้งๆของหลวงพ่อชา สุพัทโท ด้วยคนครับ...

โดย: พายุสุริยะ IP: 125.25.118.116 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2558 เวลา:20:23:09 น.

ตามคุณตุ๊กไปเที่ยว พร้อมกราบนมัสการ หลวงปูแหวนนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: กาปอมซ่า

วันที่: 19 พฤศจิกายน 2558 เวลา:21:20:34 น.

หลวงปู่ชาคำสอนเข้าใจง่ายครับ เป็นธรรมะแบบย่อยง่าย แต่ต่างจากพระนักเทศน์ แต่ถือว่าฟังเข้าใจง่าย

ตามาชมวัดด้วยคน ต้นไม่เขียวไปหมดเลย ดูแล้วสงบดี

+

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:0:11:07 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:3:00:53 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
นอกจาก จะ สงบร่มเย็น แล้ว ยังได้ ธรรมะ ดีดี สอนใจ ด้วยนะคะ

โดย: kwan_3023

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:7:55:56 น.

แวะเข้ามาตามไหว้พระด้วยคนครับ

tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: PZOBRIAN

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:10:49:51 น.

รู้สึกจะเป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่นของสมาคมสถาปนิก

โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:13:13:52 น.

ตามมาไหว้พระอีกรอบ
พร้อมกับส่งกำลังใจค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
กาปอมซ่า Literature Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:14:54:30 น.

สวัสดีค่ะคุณตุ๊ก . . .

ปอมมาทักทายยามบ่ายพร้อมกับภาพนกสวยๆ ในวันศุกร์สบายๆนะคะ

โดย: กาปอมซ่า

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:15:55:30 น.

ทักทายยามบ่ายค่ะ

โดย: blog pu

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:02:06 น.

หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก
ตั้งอยู่กลางสระน้ำ เพื่อป้องกันมดปลวกเข้าไปกัดกินทำลาย
เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามอันหนึ่งของจ.อุบลราชธานีและอิสาน
เป็นอีกสถานที่หนึ่งไม่ควรพลาดชมเมื่อมาจ.อุบลราชธานี หอฯเดียวนี้ไม่ค่อยมี หาดูยาก
เคยไปนอนอยู่วัดนี้ตอนไปเที่ยวแห่เทียนพรรษา(ที่พักเต็ม)
ที่พักจะอยู่หน้าเมรุ ปรากฏว่าคืนนั้นฝนตกใกล้รุ่ง กระทบหลังคาเสียงดัง
หมาหอนอีก นอนไม่หลับจนสว่างเลย เล่าแล้วขนลุกเลยครับหุหุ

โดย: moresaw

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:31:16 น.

หลวงพ่อ ชา ท่านเทศฯ์ว่า
"คนเรานีี่ก็แปลก อยากไปเกิดใหม่ แต่ไม่อยากตาย....
จริงด้วยน๊อ...

โดย: พายุสุริยะ

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:20:22:50 น.

ตามไปโลด ข้ามเขามาอ่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาปอมซ่า Literature Blog ดู Blog
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า

) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา:20:24:27 น.

เคยไปกราบหลวงปู่ชามาแล้วครับ แต่ยังไม่เคยไปวัดทุ่งศรีเมืองเรย

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 21 พฤศจิกายน 2558 เวลา:6:28:48 น.

สงบ เย็นใจ สาธุ ถ้ามีบุญพอ ขอให้ได้ไปซักครั้งเถอะ วัดหนองป่าพง

ขอบคุณเรื่องดีๆ ค่ะพี่ตุ๊ก

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 21 พฤศจิกายน 2558 เวลา:18:00:15 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
................
ร่มรื่นดูเป็นธรรมชาติล้วนๆ
อรุณสวัสดิ์นะครับ

โดย: ผมไม่ได้บินคนเดียว (เตยจ๋า

) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:6:38:33 น.

ตามมาเที่ยววัดด้วยคนค่ะ

ร่มรื่น เรียบง่าย เย็นใจเย็นกาย ได้ธรรม

tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

โดย: ร่มไม้เย็น

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:11:18:26 น.

ร่มรื่น สงบ น่าศรัทธา
ป่าเขียวขจี ต้นไม้ใหญ่
ขอบคุณครับที่นำชม
+

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:13:53:25 น.

สวัสดีค่ะ คุณตุ๊ก

ชอบหอไตรมาก งดงามที่สุด สุดจะบรรยายจริง ๆ เป็นหอไตรที่สร้างได้ตามโบราณคติจริง ๆ เดี๋ยวนี้หาดูยากมาก

ถ้ามีโอกาสอยากไปนั่งริมขอบสระ แล้วมองด้วยความชื่นชม คงได้แต่ฝันเท่านั้น อิ ๆ

แม้จะไม่ค่อยได้เข้ามาพูดคุยเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังคิดถึงคุณตุ๊กอยู่เสมอนะคะ

+

โดย: พรหมญาณี

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:29:25 น.

หอไตรสวยมากค่ะ

โดย: auau_py

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:19:20:36 น.

ขอบคุณ ภาษาเหนือ วันละคำ สองคำ ค่ะพี่ตุ๊ก

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:20:18:29 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ตามมาไหว้หลวงปู่อีกครั้ง

โดย: ป้าเก๋า (ชมพร

) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:21:46:57 น.

คำสอนของพระอาจารย์ชา เคยอ่านมาบ้างค่ะพี่ตุ๊ก
เป็นวัดที่ร่มรื่นสงบมากค่ะ เหมาะปฏิบัติธรรม

โดย: ที่เห็นและเป็นมา

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:23:12:07 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ตุ๊ก

ชอบคำสอนของหลวงพ่อชา
มีหลายคำสอนที่โดนใจมากๆเลยครับ

หอไตรกลางน้ำก็สวยสุดยอด
เป็นภูมิปัญญาไทยจริงๆครับ

โหวต Travel blog ครับพี่