ฟิคyและเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังของtsktonight.
ตอนที่ 3 กลับด้วยกันนะ (yaoi)

*** ///เรื่องนี้เป็นนิยายวายมีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย/// บอกไว้ให้สำหรับคนที่ไม่ชอบแนวนี้จะได้ไม่ต้องอ่านนะคะ แต่ถ้าใครสนใจ หรือชอบแนวนี้ ก็เชิญให้ลองอ่านและติดตามกันได้ตามอัธยาศัยค่า^^ เนื่องจากเรื่องนี้อาจมีคำไม่สุภาพค่อนข้างเยอะ เพื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่องและลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัว เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ชอบใจขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่า คนแต่งขอขอบคุณแฟนๆไว้ก่อนล่วงหน้า (จุ๊บๆ รักครับผม)











เช้าของอีกสองวันต่อมาครับ ผมกำลังนั่งลอกการบ้านภาษาอังกฤษอย่างขยันขันแข็ง
มีเพื่อนแม่งเขียนคำตอบขึ้นกระดานให้ สบายกู ก็นั่งลอกกันทั้งห้องล่ะครับตามอัธยาศัย
(เตือนว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่างเลยครับ เพราะผมไม่รู้อะไรเลย ตกแล้วตกอีกกว่าจะผ่านได้)

“อ้าวน้อง มาผิดห้องรึเปล่าครับ55”
เสียงไอ้ยูทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองมัน มันทำหน้าแสยะยิ้มขยี้หัวผมด้วย

“สัด” คำเดียวสั้นๆถือว่าผมทักมัน เรื่องหัวผมก็โดนล้อตามระเบียบตั้งแต่วันแรกแหละ คือถ้าผมยิ่งสั้น
หน้าผมมันยิ่งเด๋อๆด๋าๆเหมือนเด็ก พวกมันชอบไล่ผมไปเรียนกับเด็กม.ต้น

ยูมันหันไปเห็นกระดานแล้วผิวปากอารมณ์ดี ที่นั่งมันก็ใกล้ๆกันแหละครับ หยิบสมุดขึ้นมา
บรรจงลอกการบ้านตามอย่างมืออาชีพ ท่วงท่ามึงเหนือมาก และอยากบอกว่ามันเขียนแค่แป๊บเดียว
ได้เยอะกว่าผมที่ทำก่อนอีก

ไอ้กีต้าร์ ไอ้ซีนก็นั่งเขียนยิกๆๆอยู่ข้างๆผม ผมนั่งโต๊ะคู่กับไอ้กีต้าร์ครับ ไอ้ซีนมันมาเจ๋อนั่งเบียดกับกีต้าร์
ให้พวกผู้หญิงห้องผมแม่งฟินกันแต่เช้า ในห้องผมมีสาววายแฝงตัวยุบยับไปหมด
และยัยพวกนี้ชอบจิ้นกระจายไร้ขอบเขต จับคู่มโนให้พวกผมคนนั้นคนนี้ชอบกันได้กันเอง
ไอ้ยูน่ะโดนหนักสุดเพราะใครๆก็รู้ว่ามันเป็นเกย์จริง55 มันดังจะตายไป

สมัยนี้กับเรื่องแบบนี้ ตอนแรกผมบอกเลยว่ากูโคตรไม่เข้าใจอ่ะครับ
คือถ้าพวกผมได้กันเอง แล้วพวกหล่อนจะได้อะไรครับ?... ก็สงสัยกันต่อไปไม่กล้าถามมัน
แต่หลังๆมาเห็นบ่อยเจอบ่อยๆ ก็คือยังงง แปลก ยังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนเดิม.....แต่ชิน

“เฮ้ยต้าร์...............ไอ้เดย์นี่มันเป็นคนยังไงวะ” ผมลอกเสร็จแล้วปิดสมุด ท้าวคางคุยกับมัน

ไอ้กีต้าร์ปรายหางตามาชำเลืองมองหน้าผมเล็กน้อย ก่อนหันไปมองกระดานต่อ
ไอ้นี่เรียนเก่ง ได้ที่หนึ่งของห้องด้วย แต่แม่งเรื่องการบ้านมันไม่ค่อยทำ ถ้าหนังสือยังเห็นมันขยันอ่านอยู่บ้าง
มันเป็นประเภทความจำดีครับ ไม่ต้องอ่านมากก็เข้าใจง่ายไม่เหมือนผม.....จำอะไรไม่ค่อยได้
ส่วนไอ้พวกที่เหลือนี่แม่งยิ่งรั่วเลย ไหลเข้ามาไหลออกหมด

“ถามทำไมเหรอ” ..ไม่เสือกตอบตอบมาวะ มาย้อนถามอีก ผมก็แค่นึกถึงมันขึ้นมาได้เฉยๆ

“กูก็ถามไปงั้นๆอ่ะ” จริงนะครับผมก็แค่ถามไปอย่างนั้นๆแหละ “เมื่อวานเดินสวนกันตอนกลางวัน
กับก่อนกลับบ้าน แม่งกวนตีนขยิบตาข้างนึงใส่กูด้วย”

ไอ้ซีนยื่นหน้ามาพูดเลยครับ “เฮ้ยมันคบได้ไอ้นี่ คบๆไปเหอะเพื่อนๆกันทั้งนั้นไม่มีปัญหา”

“แน่ล่ะเพราะตัวปัญหาคือมึงไง ดูพวกกูดิ ปวดหัวกับมึงทุ๊กวัน” กีต้าร์เอียงหน้าไปยักคิ้ว
จ้องหน้าไอ้ซีนพูดแสยะยิ้มใกล้หน้ามัน ไอ้ซีนก็ทำปากจู๋ขมวดคิ้วแกล้งงอนทุเรศๆของมันไป
ไม่สนใจเสียงแอร๊ย อร๊ายชอบใจจากพวกผู้หญิงที่นั่งโต๊ะแถวข้างกันกระจุกนั้น


“โห่! ไรวะ รู้งี้กูไม่รีบทำมาก็ดีหรอก โด่เอ๊ย!” เสียงไอ้คิมเดินเข้าห้องมาก็สบถบ้าบอต่ออีกยาวแบบเสียดาย
ที่มันดันเสือกขยันทำการบ้านมาแล้ว เพิ่งมาเห็นว่ามีเทพมาโปรดลงไว้ให้ที่กระดานตอนเช้า

“ใครขึ้นกระดานวะ” ไอ้คิมถามมันเดินมานั่งที่ข้างหน้าผม ที่ประจำมัน และความจริงที่ประจำไอ้ซีนคือนั่งข้างมัน
แต่ตอนนี้ซีนมันยังกระแดะเบียดเก้าอี้ไอ้กีต้าร์นั่งอยู่ ผมว่ากีต้าร์เริ่มทำหน้ารำคาญมันแล้ว ท่าจะอึดอัดทนทำไมวะ
เป็นผมคงถีบมันออกไปแล้ว

ตอนนี้ที่ข้างไอ้คิมเลยว่างอยู่ ดุ๊กดิ๊กกระเทยอ้อนแอ่นหัวดีประจำห้องคนขยันศรีบ้านสางเมือง
เลยแทรกร่างมันมานั่งฉอเลาะ ทำตาโตไม่ห่างน่าหมั่นไส้มากมายครับ
“เค้าเองแหละ คิกๆขอบคุณเค้ารึยังพวกมึงอ่ะคริๆๆ”

ไอ้คิมทำหน้าเอือมๆไล่มัน ไอ้ซีนกับไอ้กีต้าร์เร่งมือ พวกมันใกล้ลอกเสร็จแล้วเลยร่วมมือกันไล่ผลักหัวดุ๊กดิ๊กออก
ด่าว่าอย่าบังกระดาน ผมนั่งขำเฉยๆครับ แล้วนังสองสาวคู่หูเพื่อนซี้ของดุ๊กดิ๊กก็เดินมา ทำตัวเป็นแบ็คข้างหลังมัน
สองคนนี้ชื่อแมวเหมียวกับโฟร์ ประสานเสียงพูดซะพร้อมกัน
“ยู! ยูทำเสร็จแล้วอย่าลืมมาหอมแก้มขอบคุณดุ๊กดิ๊กด้วยนะจ๊ะ 555555” กรี๊ดกร๊าด..

เจาะจงชื่อไอ้ยู ไอ้ยูเงยหน้ามาหน้าเหวอมอง ดุ๊กดิ๊กมันก็แกล้งเอียงแก้มทำแก้มป่องไปให้
รู้กันอยู่ครับว่าไอ้ยูมันใจดี ยัยพวกนี้ก็แค่ชอบแกล้งขำๆ

ไอ้คิมสงสัยหมั่นไส้เห็นไอ้ยูได้แต่ยิ้มใสๆ ส่ายหน้าหัวเราะ คิมมันเลยไล่จับหน้านังดุ๊กดิ๊กมาหอมซะเอง
กระเทยร้องยี้อี๋กรี๊ดหนีมันจ้าล่ะหวั่น ถูแก้มแบบโคตรรังเกียจไอ้คิมเลย นี่ขนาดแค่โดนเฉียดๆ
ไอ้คิมแม่งหัวเราะโรคจิตสะใจได้อีก เลยโดนโฟร์กับแมวด่าไล่ตี มันยิ่งจะชอบดิ

ทีนี้ไอ้ซีนกับไอ้กีต้าร์เลยรุมด่าพวกข้างหน้าว่ายืนบังกระดานกันอยู่ได้ แล้วตอนนั้นไม่รู้ทำไม
ผมนึกอยากกินเอแคลร์ขึ้นมา.. เลยออกจากห้องว่าจะไปโรงอาหาร
ไอ้คิมหนีพวกสามสาวนั่นร้องเรียกตามผม เราเลยไปด้วยกัน


..................................

..............

ถึงสหกรณ์ขายขนมแล้วผมก็รีบเลยครับ แต่สรุปมาช้าไปซื้อไม่ทันเห็นน้องม.ต้นคว้าชิ้นสุดท้ายไปต่อหน้าต่อตา

เอแคลร์ที่โรงเรียนอร่อยครับทำเป็นรูปปลาบ้างเต่าบ้าง ชิ้นใหญ่ชิ้นละเจ็ดบาท อาจารย์สอนคณิตที่โรงเรียน
เอามาขาย เมียแกเป็นคนทำมาทุกเช้า มันอร่อยผมเลยซื้อกินบ่อยๆ ตอนแรกวันนี้ว่าจะไม่ แต่เอาไปเอามา
อยากกินก็ดันหมด ไอ้คิมที่เมื่อกี้ยังวางแขนเกยไหล่ผม รี่เปลี่ยนเป้าไปต่อคิวซื้อซาลาเปาหมูสับไข่เค็มแทน

ผมยืนทำปากยื่นแบบเคว้ง แล้วกูจะกินไรดีอยู่พักนึง ก็สะดุ้งมีคนมาเอามือมาตบไหล่แรง
หันไปดูเป็นไอ้บ้าเดย์ มันมาลากผมไปนั่งดูมันกินข้าวเช้าเฉยเลย

“อะไรของมึงเนี่ย เพื่อนไปไหนเลิกคบมึงแล้วเหรอทำไมกูต้องมานั่งเฝ้ามึงกินข้าวต้มเนี่ย”
ผมนั่งตรงข้ามมันตรงหน้ามันเลย โต๊ะที่โรงอาหารเป็นโต๊ะยาวๆสีขาว ผมท้าวคางมองหน้ามัน

“มองไร อยากกินเหรอ” เดย์มันตักข้าวเข้าปากแล้วถามผมยิ้มๆ เห็นควันยังขึ้นฉุยๆอยู่เลย
เฮ้ยมันก็กินของร้อนๆเก่งเหมือนกันเนอะ มิน่าล่ะปากดีตลอด.. เอ๊ะเกี่ยวกันรึเปล่าหว่า?

“ให้กินเหรอ” ผมแกล้งกวนมัน ดูก็รู้ว่ามันเฟคชวนไปงั้นๆ
“ข้าวกูไม่ให้ แต่ถ้าตัวกูอ่ะ ได้!”
“สัด!! แดกๆไปกวนตีนว่ะ!” มันเป็นคนทะลึ่งนะผมว่า.. แต่คุยกับมันแล้วไม่ต้องปั้นหน้าหรือเสแสร้งดี
ผมชอบที่มันเป็นตัวของตัวเองตั้งแต่เริ่มรู้จักกันอย่างนี้ก็ดีแล้ว

แล้วไอ้คิมก็เดินเคี้ยวซาลาเปาแก้มตุ่ยหน้าดำมาเลย เอ๊ยลืมไปมันดำอยู่แล้ว คึคึ
“เฮ้ยยยย ทิ้งกูมาหาผู้ชายเหรอมึง”
ไอ่สัดทักดีจริงๆ ผมส่ายหัวดันซาลาเปาที่คาปากมัน ให้มันสำลักหันหน้าหนี
“เดย์นี่คิม” ผมพยักเพยิดหน้าบอกไอ้เดย์ มันกินข้าวต้มต่อทำแค่ยักคิ้วข้างนึงให้ไอ้คิม

ไอ้คิมก็ไม่เคยคุยกับไอ้เดย์แค่เคยเห็นหน้ากันเหมือนผมนี่แหละ ผมกับคิมนั่งเป็นเพื่อนเดย์
ไอ้คิมก็ยิ้มเรี่ยราดของมันไป มันเข้ากับคนง่ายไม่เหมือนไอ้เดย์ไอ้นี่กับคนไม่คุ้นมันไม่ค่อยพูด
แต่จะว่าไปผมว่ามันก็เป็นธรรมดา ไอ้เดย์คุ้นกับผมเร็วมากเกินไปด้วยซ้ำ...

เมื่อวานตอนสวนกับมันที่หน้าห้องน้ำ(อันนี้ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง)ผมจะเข้าห้องที่มันเพิ่งออกมา
มันก็ทำตาขู่ชี้หน้าผมแล้วบอกผมว่า [ห้ามขี้ซ้ำรอยกู กูถือ แต่ถ้าจะว่าวกูอนุญาต] แล้วมันก็เดินไป.........
เชี่ยเอ๊ยกูต้องทำไง ขี้ไว้บนพื้นรึไง คนประสาท


“อยู่ชมรมดนตรีไทย นายเล่นอะไรเดย์” คิมผู้มีมารยาท เรียกมันว่ามึงจะเหมาะสมกว่าว่ะ

“….ตีฉิ่ง”

“555555555” ผมกับไอ้คิมขำพร้อมกัน เดย์แม่งทำหน้ายุ่งเหมือนคนหน้าด้านจะอายเป็น

“อย่าหัวเราะดิ แย่งกับไอ้ซีนแทบตายนะเว้ยตำแหน่งเนี้ย” ดูมันพูดดิผมไม่ขำไงไหวครับ

พอไอ้เดย์ก้มหน้าก้มตากิน ไอ้คิมเลยชวนคุยเรื่องเครื่องปั่นอเนกประสงค์ แม่งดูทีวีไดเรกซ์โฮมทูยูทีไร
ร้องอยากได้ทุกอย่างแม่งไอ้นี่ ผมก็บอกให้มันเลิกดูแต่ก็ไม่ มันบ้าพวกเครื่องครัวครับ ตลกไหมก็มันอยากเป็นเชฟ

คิมชอบทำกับข้าว มันก็ทำอร่อยดีนะผมเคยกิน มันชอบลองทำอะไรมาให้กินบ่อยๆ
มันชอบนะที่ได้อยู่ชมรมคหกรรม แล้วถ้าได้ทำกับข้าวทำขนมวันไหน ไอ้นี่แม่งยิ้มทั้งวัน

“พลังเหลือรับมอเตอร์เป็นพันวัตต์เลยมั้งมึง! ใบมีดงี้มีเป็นสิบกว่าแฉก! กูว่าเสาไฟแม่งก็ปั่นได้!”
“ไม่ใช่ละไอ้คิม.. มึงดูโฆษณาขายของรึดูการ์ตูนมาเนี่ย เบลอป่าวโม้เป็นไอ้ซีนไปได้”
“3,999 บาทเอง”
“เองเชี่ยไร แพง! ไม่ต้องซื้อเลย!”
“โหยลูกคิด! มันดีนะมึง! แถมแก้วตั้งแปดใบ ชุดโถปั่นอีก ใบมีดอีก
ได้หนังสือทำน้ำผลไม้ด้วย!ถ้ากูได้มาทำได้ตั้งหลายอย่าง! เดี๋ยวกูทำให้มึงกินคนแรกเล้ย!”

เด็กผู้ชายม.ปลายโลกไหนเค้าร้องอยากได้เครื่องปั่นน้ำผลไม้แบบมึงบ้างเนี่ยคิม
“อันที่แล้ว กูเห็นมึงก็พูดงี้ แล้วพอซื้อมาเป็นไง ไอ้กรรไกรอเนกประสงค์ห่าไรของมึงอ่ะ
ตัดได้ยันเหล็กไหล โม้ฉิบหายกูยังไม่เห็นมึงเอามาตัดเชี่ยไรสักอย่างเลยกี่เดือนแล้วคิม”

“จะว่าไป กูจำไม่ได้แล้วว่ากูเอาไปไว้ไหนว่ะ”
“มึงไม่ต้องซื้อเลย เครื่องปั่นเชี่ยไรอีกบาทเดียวก็สี่พันแล้ว”
“แต่กูอยากได้!”
“งั้นก็ตามใจมึง! ซื้อดิสัด!”
“อ่า....เฮ้ยแต่มึงว่ามันจะดีจริงป่าววะ มึงว่าคุ้มมั้ย มึงว่ากู..ซื้อดีจริงเหรอ”
“เอ้า! ไอ้นี่...ก็มึงจะซื้อ อยากได้นักก็ซื้อไป ตังค์มึงนิ!”
“ก็กู....อยากได้ ก็อยากได้ แต่แม่ง....เออมันก็แพงนะ เออกลัวไม่ทนว่ะ มันก็แพงจริง”
“เห็นมั้ย ไม่ต้องซื้อ”
“เฮ้ยแต่มันดีนะ! กูอยากได้! แถมแก้วด้วย!”
“กูซื้อให้มึงมั้ยแก้ว! ไอ่เชี่ยจะเอากี่ใบ ร้านยี่สิบบาทเพียบ! แก้วแปดใบร้อยกว่าบาท!”
“มันไม่เหมือนกันเว้ยลูกคิด นี่มันได้เครื่องปั่นด้วย”
“กูว่าไม่คุ้ม”
“โธ่ก็กูอยากได้! มึงเห็นใจกูหน่อยดิ๊” เอ่อ..กูใช่คนขายให้มึงรึเปล่าเนี่ย..
“อ่ะงั้นกูให้มึงซื้อ!”
“จริงดิ!.....อืม มึงว่ามันจะ.. เอ...กูเอาดีป่าวว้า..มันก็แพงนา มึงว่าจะดีจริงเหรอ”
“ อ้าวไอ่สัด! ห่าเอ๊ย ไม่ต้องซื้อเชื่อกู!”
“แต่ว่าอยากได้..”
“เชี่ย! แม่ง! งั้นซื้อๆไป!!”
“เฮ้ย..แต่........”

เป็นแบบนี้อยู่สิบกว่ารอบ... มันชอบมาปรึกษาเพื่อนอวดสรรพคุณของอยากได้ไอ้นู่นไอ้นี่ แล้วไม่แน่ใจจะซื้อดีมั้ย
ยุให้ซื้อก็ลังเล พอบอกห้ามซื้อแม่งก็บอกอยากได้.. เอากะมันไอ้บ้า
แต่ไอ้เครื่องนี่ผมว่าแพงไปนะ ผมว่าให้มันไปซื้อเครื่องปั่นธรรมดาแถวบ้านเอาดีกว่า

ไอ้เดย์มันก็นั่งฟังอยู่ด้วย ผมแอบเห็นนะว่ามันแอบขำเราสองคนไปเขี่ยผักจากชามมันไป
“มึงไม่กินผัก” ผมพูดยิ้มๆ เดย์มันก็มองหน้าผมขมวดคิ้ว ประมาณว่ารู้ดีนักนะมึง..หึหึ

“ไม่แดกผักเดี๋ยวไม่โตนะเดย์ หึหึ” ผมแกล้งแซวมัน บร๊ะไอ้นี่มีแสยะยิ้ม ทำไมหน้ามันใสจังวะ
“กูอ่ะโตพอแล้ว เกินตัวด้วย มึงจะดูป่าวล่ะ”
“ดูเชี่ยไร” ชะชะชะ ทำท่าขยับเป้าไอ่สัด
“หึหึ... อย่าเพิ่งไปนะ กูไปซื้อน้ำแป๊บ” เออ นั่งกินอยู่ตั้งนานเพิ่งนึกได้เหรอมึง
ผมเห็นเดย์เดินไปแล้วเลยสะกิดไอ้คิม เล่าเรื่องวันนั้นให้มันฟัง

“55 เร็วขนาดนั้นเลยเหรอวะ มึงเว่อร์รึเปล่าลูกคิด เบบี้ว่ะมึงแค่นี้ก็ปอดแหกแค่ซ้อนมอไซค์”
“กูไม่เว่อร์ ไม่เชื่อวันไหนมึงขอนั่งรถมันไปดิ เชี่ยยยยเอ๊ยกูรอดมาได้เพราะพระแม่กูแน่ๆ”
“555 555มึงเล่นของเหรอ 55”
“คอยดูนะกูจะไม่หลงกลซ้อนท้ายมันไปไหนด้วยอีกเลย สาดดดเอ๊ยขี่รถได้ส้นตีนมาก”

ปึ้ง!!!

สะดุ้งเฮือกเลยครับ ไอ้เดย์เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แม่งวางแก้วกระแทกแรงชะมัด
ผมหุบปากอัตโนมัติ สีหน้ามันดูไม่เป็นมิตรแปลกๆชอบกล สงสัยได้ยินกูพูดแน่ๆๆๆ ซวยละ

“เฮ้ยเชี่ยคิม! ไปไหน!?” ไอ่สัดจะทิ้งกูเหรอรีบลุกทำไมวะ
“กูจะไปซื้อซาลาเปาอีก ปล่อยกูเลย” มันสะบัดแขนออกจากมือผมอย่างไม่ใยดี

มองไอ้คิมเดินหายไปแล้ว ผมว่าบรรยากาศไม่ค่อยสู้ดี ไอ้เดย์แดกข้าวไม่ยิ้มเลย ทีตอนแรกแม่งยิ้มอย่างกะคนบ้า
“เฮ้ยไปไหน” มันถามผมเลยต้องชะงักขาหันมา ว่าจะลุกตามไอ้คิมไปเนียนๆ ไม่รู้เดย์มันโกรธรึเปล่า
หน้าเปลี่ยนขนาดนี้คงไม่เหลือ อย่างว่าแหละคนเพิ่งรู้จักกันไม่เท่าไหร่ ได้ยินผมแอบด่ามันต้องโกรธผมแน่เลย

“ไป.....หาไรกิน”
“กินนี่ดิ!”
เอิ่ม มันยัดเยียดผลักชามข้าวต้มที่มันกินเหลือแต่ผักไว้เพียบมาให้ตรงหน้าผม
น้ำเสียงมันฟังเย็นยะเยือกแบบสั่งๆไงไม่รู้ ผมก็ส่ายหน้านะ “ไม่อ่ะ..มีแต่ผัก”
“ก็กินดิ กินผักซะ ไม่งั้นเดี๋ยวมึงจะไม่ได้โตนะ”

เฮือก แววตามึงขู่อาฆาตเคืองแค้นกูทำไม เห็นแล้วผมต้องกลืนน้ำลายหนืดลงคอ
ไอ้เดย์ยังจ้องหน้าผมเขม็ง ดูดน้ำไปก็ยังสั่งให้ผมกิน ผมไม่รู้ว่าควรทำไงดี เลยตักกินไปคำนึง แบบว่าเกรงใจมัน

“กูอิ่มแล้ว” ผมรีบบอกมัน ดูตามันดุมากๆเลย ผมเลยตักกินอีกคำ เผื่อมันจะใจเย็น
เห็นว่าผมไม่ได้รังเกียจน้ำใจมันนะ แต่เหม็นเขียวต้นหอมผักชีว่ะ ความจริงผมเกลียดต้นหอมมากๆครับ
ไม่น่าปากดีเลย ผมก็ไม่ได้ชอบกินผักนักหรอก โดยเฉพาะไอ้พวกผักจำพวกที่มีกลิ่นแรงๆ พะอืดพะอมไงไม่รู้

ไอ้เดย์จ้องหน้าผมอย่างโกรธๆจะแดกหัวผมได้ ผมตักข้าวมันกินอีกคำแล้วเหมือนจะแหวะให้ได้
รีบเอามือปิดปาก T|||T แหยะต้นหอมอ่ะ ตอนนั้นแหละไอ้เชี่ยเดย์ก็หลุดหัวเราะก๊ากออกมาลั่น
จนโต๊ะใกล้ๆสะดุ้งมองกันเพียบ
“55555555555ก๊าก5555555555 ควาย! แดกจริงด้วย555555 เชี่ยหลอกโคตรง่าย55”

มันหลอกผมครับ ไอ่สัด..

“โห่! ไอ่ๆๆๆ แม่ง!!! มึงอ่ะ! ก็...กูนึกว่ามึงโกรธกูนิ” ตอนท้ายผมแอบพูดเบาๆแล้วนะมันดันเสือกได้ยิน
มึงจะยิ้มให้ปากฉีกไปถึงหูเลยไหม แหมเมื่อกี้ทำหน้าเหมือนจะต่อยกู

“กลัวเดย์โกรธเหรอครับลูกคิด คึคึ”

เฮ้ยยยยยย ไอ้บ้าเดย์ดัดจริตพูดซะเพราะใส่ผม ทำอยากจะอ้วกยิ่งกว่าตอนกินผักอีก
ผมเห็นผู้หญิงโต๊ะข้างๆแอบมองมันแล้วหน้าแดงด้วย เขินมันทำม๊ายคนหัวหอกหักพรรณนี้

“เดี๋ยวเย็นนี้กลับกับกูนะ เดี๋ยวกูไปรับที่ห้องเลย”
“ฝันเหอะสัด! กูไม่กลับกะมึงหรอก!” ถ้าเป็นไปได้กูอยากเผามอไซค์มึงทิ้งด้วย
“55555555”

ผมก็เลยลุกหนีมันไปเลย เดินไปเจอไอ้คิมเดินกลับมาพอดีเลยคว้าคอมันหมุนกลับไปอีกทาง
ทิ้งให้ไอ้เดย์มันนั่งขำเป็นไอ้บ้าไอ้บอไปคนเดียวของมันเหอะ




**********************************************


ตกเย็นครับ
วันนี้หลังเลิกเรียนโดนบังคับให้อยู่ซ้อมสอบพูดบทสนทนาวิชาภาษาอังกฤษ

ความจริงก็ไม่ได้ยากอะไรมาก แค่ช่วยกันแต่งบทสนทนาให้มีพวกศัพท์ใหม่ๆกับสำนวนอังกฤษที่หามา
แต่มันเลวร้ายตรงที่ดันมีไอ้ตัวมารอย่างไอ้เดย์ มานั่งเสนอหน้ารอดูพวกผมซ้อมละครสั้นๆนี่
แล้วอับปรีย์ศรีกะบาลมากคือตรงชื่อตัวละครที่ผมได้รับ

“oh! Hello! Mr. kamoydom matrim nice to meet u again!”
(สวัสดีครับ คุณขโมยดม มาตรึม! ดีใจที่ได้พบคุณอีกจัง)
มึงจะเล่นอย่างนี้กะกูใช่ม๊ายอ่ายเชี่ยซีน มันตั้งให้ผมเป็นลูกครึ่งเขมรครับ ชื่อขโมยดมมาตรึม จันนะไรมาก

“55555 Hi! Mr. sungting nice to meet u too.”
(5555สวัสดี! คุณซ่งติง! ผมก็ดีใจ)
ผมเลยให้มันเป็นลูกครึ่งจีนชื่อคุณ ซ่งติง(ส้นตีน) เนี่ยเหมาะกับมันที่สุดแล้ว

“โหยไม่เอาแล้ว! ลูกคิดมึงมาเปลี่ยนกับเค้าเถอะ!” อินังดุ๊กดิ๊กครับมาเกาะแข้งขาผม ทำหน้าเบะๆไม่พอใจ
พวกผู้หญิงก็พากันโวยไม่ยอมรับชื่อตัวเอง ไอ้พวกคู่มันตั้งให้ดีๆทั้งน้าน

“ดุ๊กดิ๊ก มึงจะเอาเหรอ กูชื่อขโมยดม มาตรึม นะเว้ย”
“ก็ยังดีกว่าหว่างดำปึ๊ด ที่อีคิมมันตั้งให้อ่ะ! กูไม่เอ๊า!!!” มันหันไปค้อนใส่ไอ้คิม
แต่กูว่าชื่อแม่งเชี่ยพอกันทุกชื่อ เปลี่ยนไปก็ไม่น่าจะอุบาทว์น้อยลงหรอกเพื่อน

“โด่! ก็มึงเล่นเป็นคนเวียดนาม คนเวียดนามอ่ะนามสกุลเค้าก็มีหว่างๆแบบนี้แหละอิดุ๊กดิ๊ก
ทีมึงยังตั้งชื่อให้กูเป็น จั๊กแร้เปียก อะไรของมึ๊ง!” ไอ้คิมนั่งบนโต๊ะโวยใส่บ้างแต่มันแกล้งทำผมรู้

“ชื่อนั้นแหละเหมาะกับคนอย่างมึงแล้ว ไม่งั้นมึงมาใช้หว่างดำปึ๊ดเอามั้ยล่ะ แลกกันอีบ้า!”
อิดุ๊กดิ๊กไม่ยอมครับ ขำทั้งห้อง ไอ้นอกคอกหน่อนึงอย่างไอ้เดย์นั่งกอดเป้ตัวเองดูพวกผมขำสบายใจเฉิบ

แล้วแมวเหมียวกับโฟร์คนอวบ อีกนิดมันก็จะอ้วนละ ก็ร้องเปลี่ยนคู่ด้วย
“เค้าได้เป็นคนฝรั่งเศษอ่ะ ชื่อบ้าบออะไรเนี่ย แวะซ่องสิเออ น่าเกลียดที่สุดเลย” โฟร์บ่น

แมวเหมียวเลยท้าวเอวยืนยันจะไม่คู่กับไอ้กีต้าร์แล้ว จะคู่กับโฟร์แทน เพราะกีต้าร์มันตั้งชื่อแมวเหมียว
ให้เป็นคนญี่ปุ่นว่า ดักดานจัง คู่เก่าของโฟร์อย่างไอ้ยูเลยไม่มีที่ไป ยูมันได้เป็นคนเกาหลี โฟร์ตั้งชื่อให้มันว่า
คุณวอนโดนยิง ก็ไม่ต่างกับคนอื่นหรอกโฟร์..มึงอ่ะ

สุดท้ายพวกผมเลยสลับคู่กันใหม่หมด ผมคู่ไอ้คิม ยูคู่ดุ๊กดิ๊ก โฟร์คู่กับแมวเหมียว
ไอ้ซีนคู่กีต้าร์ ไอ้กีต้าร์แต่เดิม เป็นคนไทยชื่อนุณรเค (เนรคุณ) ไอ้ซีนมันตั้งให้ใหม่เป็น ..
คุณอัครอลังการอภิมหามหึมาโอฬารบานตะไท ...

ดูความกวนซ่งติงของมันครับ มันยอมลำบากเรียกไอ้กีต้าร์ยาวๆอย่างนี้(ทุกรอบไม่มีจะเหมือนเดิมสักรอบ)
เพื่อได้แกล้งเพื่อนมัน รับรองพรุ่งนี้อาจารย์สุนีย์แกได้ขำจนตกเก้าอี้ยิ่งกว่าสอบพูดคราวที่แล้วแน่

ดูพวกผมซ้อมพูดภาษาอังกฤษกันไป ไอ้เดย์ก็นั่งขำไปตลอด ดูเหมือนมันจะสนุกมาก


....................................

..................

.......


ซ้อมพูดบทสนทนากันพอเป็นพิธีเสร็จก็กลับบ้านครับ จดไปท่องที่บ้านต่อ พรุ่งนี้สอบแล้ว
ผมเดินไปจนถึงป้ายรถเมล์กับเพื่อนๆ พอเลยป้ายไปผมก็เดินต่อแต่พวกมันรอรถเมล์กัน

แต่วันนี้ผมไม่ได้เดินคนเดียวครับ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่าไอ้เดย์จะตามผมมาจริงๆ มันบอกจะกลับด้วยทุกวันเลย
หาเพื่อนเดินกลับบ้านมานานแล้ว จะได้ไม่ต้องเอามอไซค์มา ผมก็ยิ้มรับ
ขอบคุณฟ้าดินที่ดลใจให้มันไม่ขี่รถมาโรงเรียน ผมจะได้ไม่ต้องซ้อนรถมันอีก

“ลูกคิดๆ เอาชาเย็น รึนมเย็นดี รึเอากาแฟดีวะ”
ไอ้เดย์สะกิดเรียกให้ผมแวะรอมันซื้อน้ำข้างทาง ระหว่างทางกลับบ้าน มึงเลียนแบบไอ้คิมรึไง
ตัดสินใจอะไรกันเองเถอะได้โปรด ไม่ได้ไม่ดีมาเดี๋ยวจะเป็นความผิดกูอีก

“มึงจะกินไร ทำไมมาถามกูอ่ะ”
“มึงไม่กินรึไง”
“ซื้อให้กูแก้วนึงเหรอ”
“กินแก้วเดียวกันนี่แหละ ซื้อทำไมสองแก้ววะเปลือง กูถึงถามมึงไงว่าเอาอะไรดี”
“โหยเสี่ยเดย์ครับ ทำไมวันนี้มางกล่ะครับ ทีวันนั้นยังเลี้ยงสุกี้..” ผมเงยมองป้ายชื่อน้ำในรายการ
ที่เขาเขียนไว้บนป้ายหน้ารถเข็นอืมมมม... ผมว่าสั่งชาเย็นดีกว่า
“เอาชาเย็น! /นมเย็นแก้วป้า!” พูดพร้อมกันเลยครับ ผมมองหน้ามันควับ...
มันก็หันไปบอกย้ำกับป้าคนขายว่าเอานมเย็นครับ คือไอ่บ้า แล้วมึงมาถามกูทำไม

ได้นมเย็นมา มันรีบดูดก่อนแล้วยื่นให้ผมแบบไม่ยอมปล่อยแก้ว ผมเลยเหมือนโดนมันป้อน ดูดน้ำไปสองอึก
ก็ได้ยินเสียงไอ้ตัวกวนข้างๆพูด “ไง..ขี้ปากกูอร่อยป่ะ คึคึ”

“เออ อร่อยดี แต่หลอดเหม็นฉิบหาย!”
ผมมองค้อนใส่มัน มันก็ขำดึงน้ำไปดูดอีกไม่กี่อึกก็ยื่นให้ผมถือตลอดทาง มันไม่กินแล้ว
ผมเลยต้องกินคนเดียวจนหมดแก้ว กินมากก็หวานบาดคอถึงบ้านผมรีบหาน้ำกินก่อนเลย


มาถึงบ้านผม ไอ้เดย์ก็ยิ้มหล่อทำตาหวานตรงไปสวัสดีแม่จ๋าของผมอย่างเรียบร้อย ฝากเนื้อฝากตัวคุยกับแม่ผม
กระหนุงกระหนิงเสร็จ ก็จูงมือผมขึ้นห้อง บอกแม่ว่ามาช่วยผมทำการบ้านภาษาอังกฤษ ผมยังเหวอๆงงๆอยู่เลย
นี่ผมพามันเข้ามาในห้องผม มานอนบนเตียงของผม กอดหมอนข้างผม แล้วมาจ้องหน้าจ้องตาผมได้ไงวะ..

“เดย์... มึงอย่ามาหลับ..อ้าว..เฮ้ยไม่ทันแล้ว เฮ้อ” ผมนั่งหันหลังให้มัน รำคาญมัน ขำคิกคักฟังผมท่องภาษาอังกฤษ
นอนกลิ้งไปกลิ้งมา สงสัยเคลิ้มเพลงที่ผมเปิดมั้ง หันมาดูมันดันหลับใส่ผมซะงั้น

มึงหลับง่ายไปนะ นี่ห้องนอนกูนะเดย์ไม่ใช่บ้านมึงเลย มันจะทำตัวตามสบาย โคตรสบายมากไปป่ะวะ ผมต้องปลุกมัน

ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือก็ลุกเดินเข้าไปใกล้มัน แม่งนอนกอดหมอนกูหลับสบายเลย น้ำก็ไม่ได้อาบ
ที่นอนกูจะเหม็นรึเปล่าเนี่ย...

โอ๊ะ แปลกแฮะ เข้ามาใกล้มันแล้วได้กลิ่นหอมๆแทนที่จะเหม็นเหงื่อรึอะไร มันคงจะใช้น้ำหอม
หรือโคโลญจน์พวกนั้น กลิ่นหอมดีไม่ฉุนแต่หอมอ่อนๆ ผมดมๆมันแล้วก็มาดมในเสื้อตัวเอง
ผมไม่เคยใช้อะไรแต่ก็ไม่เหม็นนา..

“เดย์... เดย์! ไอ้เดย์! ตื่นเลยตื่น อย่ามาหลับตรงนี้ กลับบ้านได้แล้วมืดแล้วเฮ้ย”
ผมเรียกมัน นั่งอยู่ข้างเตียงเขย่าตัวมันแรงๆแกล้งมัน มันก็งัวเงียขยี้ตา ลืมตามายิ้มแฉ่งให้
“หึ ตกใจหมด นึกว่าจะลักหลับกูซะแล้ว”
“เพ้อแล้วมึง ละเมอดิ ไป ไป ล้างหน้าไป ห้องน้ำอยู่โน่น”

มันก็ลุกเดินเข้าห้องน้ำไป ผมดันนึกสงสัยว่าหมอนข้างที่มันกอดเมื่อกี้จะติดกลิ่นน้ำหอมมันรึเปล่า
เลยหยิบมาดมๆดู ไม่ได้กลิ่นอะไรนะ คงเพราะกลิ่นจากตัวมันก็จางมากแล้วต้องใกล้จริงๆถึงจะได้กลิ่นหอมๆนั่น

แต่ตอนนั้นแหละ! ที่ผมต้องสะดุ้งเฮือกตาโต ตกใจหมดเลย

ไอ้เดย์แม่งดันโผล่หน้าจากห้องน้ำ ออกมาเห็นช็อทที่ผมกำลังดมหมอนพอดี T T

….. แล้วหน้ามันนะ โคตรเหวอ..





tsktonight...

*** หวังว่าคนอ่านจะหนุกหนานเน้อ อิอิ






Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 16 พฤษภาคม 2558 22:16:14 น. 0 comments
Counter : 949 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tsk.love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




เพื่อนกัน คนที่มีใจรักวายๆๆๆๆ
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
15 กุมภาพันธ์ 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tsk.love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.