....OUR FAMILY'S JOURNEY....
++ พาชมปราสาทฮิเมจิ ++











อ่าน Romantic Japan 7 : พาชมวัดคิโยมิสึ เกียวโต
อ่าน Romantic Japan 9 : พาวัดโทไดจิ นารา





าทิตย์นี้เป็นบล๊อกที่จะพาไปชมปราสาทอีกแล้ว โดยจะพาไปที่ Himeji เพื่อชมปราสาทสีขาวสวยงามของที่นั่น ... หลังจากที่เราได้เที่ยวเกียวโตตามสถานที่ต่างๆมาวันกว่าๆ ก่อนที่จะนั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นมาที่โอซาก้า

ตามโปแกรมแล้ววันนี้เป็นวันฟรีเดย์ ให้ทุกคนเลือกเที่ยวตามใจชอบเพราะเรายังพักที่โรงแรม Hotel Osaka Bay Tower อีกคืน ฉะนั้นในช่วงกลางวันเราเลยแยกกันเที่ยว โดยเด็กๆเขามีโปรแกรมไปเที่ยวสวนสนุก Universal ผู้ใหญ่บางคนถือโอกาสไปเที่ยวช้อปปิ้งในเมือง ส่วนเรา 4 คนอยากจะสัมผัสบรรยากาศที่เป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเขาหน่อย เลยชวนกันไปเที่ยวชมปราสาท Himeji ที่อยู่ทางตะวันตกของ Osaka ในช่วงเช้าต่อบ่าย ส่วนบ่ายแก่ๆหรือก่อนค่ำจะนั่งรถไปที่เมืองนารา ชมวัด... หน่อย นั่นคือแพลนเราในวันนี้ครับ






Osaka ในยามเช้าจากชั้นที่ 51 Hotel Osaka Baytower



หลังอาหารเช้าที่ชั้น 51 ของ Hotel Osaka Baytower เรียบร้อยแล้ว เราก็รีบออกจากโรงแรมเพื่อเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี Bentencho (ซึ่งห่างจากที่พักเราซัก 200 เมตรได้) เพื่อนั่งรถเข้าไปสถานีโอซาก้า เพื่อต่อรถไฟ แบบรถเร็วขบวน Kobe Line (รถเร็วที่ไป Himeji จะออกจากโอซาก้า โดยจอดทุกสถานีใน Osaka Loop Line และจะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆหลังจากนั้น จนถึง ฮิเมจิ)




เส้นทางรถไฟสาย Kobe Line....ใช้เวลาประมาณ 1 ชม (เร็วกว่าเวลาในแผนที่)



ก่อนออกจากโรงแรม..จริงๆแล้วเราไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลยก็ว่าได้ ว่าจะนั่งรถไฟไปเที่ยวแบบไหน อาศัยสาวๆรีเซ็ปชั่นช่วยอธิบายให้ พร้อมแผนที่เส้นทางรถไฟในโอซาก้า ก็พอนึกภาพได้ลางๆ .... เอาน่ะ ก็อยากเที่ยวนี้ จขบ. เองในฐานะคนเขียนบล๊อกท่องเที่ยว จึงทำหน้าที่นำพาซะเลย คือไม่กลัวว่างั้นเถอะ ขอให้ตามสถานีรถไฟเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยอมพูดภาษาปะกิตกะเราก็พอ..ไปได้แน่ๆ





Osaka Railway & Sub-way Map



นิดหนึ่ง เผื่อผู้อยากรู้....สถานรถไฟในโอซาก้านั้นใหญ่มาก บางท่านคิดว่าจะไปยังไงดีหว่า อันนั้นไม่น่าวิตกเลยครับ เพราะญี่ปุ่นนั้นเขาถนัดในการทำเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่าย ดูตัวอย่าเช่นคู่มือการใช้รถเขาเป็นต้น รูปภาพจะช่วยอธิบายบายได้แทนคำพูด (เขียน) เป็นพันๆคำเลยทีเดียว

เรื่องรถไฟก็เหมือนกัน แต่ละสาย แต่ละเส้นทางจะกำกับด้วยสีต่างๆกัน เช่นเราจะไป Himeji ก็ขึ้นสาย Kobe Line สีแดง .... แต่ที่โอซาก้า เวลาจะซื้อตั๋วรถไฟ (อันนี้สำหรับคนที่มาซื้อที่สถานี) เราจะต้องรู้ราคาจากต้นทาง ไปปลายทางก่อน เพราะว่าถ้าเดินทางไกลแบบเราในวันนี้ มันมีทั้งรถความเร็วสูง รถเร็ว และรถธรรมดา (จอดทุกสถานี) ราคาจะต่างกันไปครับ ถ้าบางสถานีมีแต่ภาษาญี่ปุ่น ก็ถามเจ้าหน้าที่เลย ง่ายดี .... เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราก็ดูที่ ป้ายบอกทางที่ลูกศรชี้ และเส้นทางสีต่างๆที่พื้น ไปตามนั้นแหละครับ





พอไปถึงชานชลา เราต้องเช็คให้แน่ใจก่อนที่รถจะมานะครับว่าเรายืนถูกที่ถูกทางหรือยัง เดี๋ยวจะเสียเวลา ... วิธีการง่ายๆคือที่กำแพง (ข้างรางรถ) เขาจะเขียนทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษไว้ ว่าตรงที่เรายืนอยู่สถานีอะไร หมายเลขเท่าไหร่ (อย่างเช่น Benntencho ก็หมายเลข 13) และรถจะไปทางไหน (ดูลูกศร) ... ส่วนบางสถานีไม่มีภาษาอังกฤษและเราก็อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ก็เดินถือตั๋วไปถามคนญี่ปุ่นที่เข้าคิวนั่นเลย ว่าถูกทางไหม...นี่แบบที่เราใช้นะ ได้ผลด้วย.

วันนั้นเราขึ้นรถที่สถานี Bentencho (หมายเลข 13) ไปลงที่สถานี Osaka เพื่อซื้อตั๋วรถเร็วไปฮิเมจิ ซึ่งเป็น Kobe Line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง






จอดที่หน้าสถานีรถไฟ Himeji



เราลงรถไฟเสร็จก็เดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่ Information Center ในสถานีรถไฟ เธอบอกว่าไปไม่ไกลหรอก ประมาณ 700-800 เมตร เดินเอาก็ได้ หรือจะขึ้นรถเมล์ไปก็ได้ จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟนั่นเอง

พอข้ามถนนไป เจอนักท่องเที่ยวส่วนมากเขาเดิน เราก็เอาบ้างเพราะอากาศก็ดีไม่ร้อนจนเกินไป เดินดูบ้านเมืองเขาไปไม่นานก็เจอปราสาทสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า ... พอข้ามถนนไปด้านปราสาท เจอก้อนหินสลักชื่อปราสาท ก็แวะเก็บภาพแถวนั้น ก่อนเดินข้ามสะพานที่ทำข้ามคูน้ำรอบปราสาทด้านหน้าไว้ (คูเมืองซังโคคุ) แล้วผ่านประตูใหญ่ (ประตูแห่งฮิซิ) เข้าไปด้านใน.










ก่อนถึงปราสาท...เก็บภาพไว้หน่อย









บนสะพานข้ามคูน้ำหน้าประตูฮิซิ
เป็นประตูขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งคงสภาพในยุคอาจึชิโมโมยามะ






เข้าประตูฮิซิ



ผ่านสะพานเข้าประตูฮิซิแล้วเดินต่อผ่านสวนเข้าไป จนถึงจุดซื้อตั๋วเข้าชมบริเวณปราสาท (ส่วนในตัวปราสาทกำลังปิดซ่อแซมอยู่ คาดว่าจะเปิดให้เข้าชมได้ ในปี 2015) ... เราจัดการซื้อตั๋วเข้าชมคนละ 600 เยน แล้วเดินเข้าชมบริเวณที่เขากำหนดไว้ โดยไปที่พิพิธภัณฑ์ก่อน แล้วย้อกลับไปถ่ายภาพอีกด้านหนึ่งของปราสาท โดยเดินลงมาจากพิพิธภัณฑ์แล้ววกขึ้นเขาไปเล็กน้อย.





คูน้ำรอบนอกปราสาท




ปราสาทฮิเมะจิ

ปราสาทฮิเมจิ (ญี่ปุ่น: 姫路城 Himeji-jo, Himeji Castle ?) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2536 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก




ประวัติ

เมื่อปี 1346 อะกะมะสึ ซะดะโนะริ ได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิงเขาฮิเมจิที่ซึ่งอากามัตสึ โนริมุระ ได้สร้างวัดโชเมียวขึ้น หลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึ ตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาท แต่หลังจากสงครามโอนิน ตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้ง

ปี 1580 โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ ได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาท และมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3 ชั้น ดำเนินการโดยคุโรดะ โยชิทากะ

หลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปี ค.ศ. 1601 โทะกุงะวะ อิเอะยะสุได้ยกปราสาทฮิเมจิให้แก่อิเคะดะ เทะรุมะซะ อิเคดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลา 8 ปี จนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนต่อเติมส่วนสุดท้าย คือ วงเวียนด้านตะวันตก เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618

เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะ ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของไดเมียว โทะซะมะ ขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซะกะอิ ทะดะซุมิ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ปี ค.ศ. 1868 รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของทายาทของอิเคดะ เทะรุมะซะ เข้าบุกปราสาท และขับไล่ผู้ปกครองออกไป

ปราสาทฮิเมจิถูกทิ้งระเบิดในปี ค.ศ. 1945 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลาย แต่ปราสาทยังคงตั้งอยู่ได้โดยแทบไม่เสียหาย

ปราสาทฮิเมจิได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 17 เมื่อปี พ.ศ. 2536 ที่เมืองการ์ตาเฮนา ประเทศโคลอมเบีย




สถาปัตยกรรม

ปราสาทฮิเมจิเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทญี่ปุ่น ด้วยมีลักษณะสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคารต่างๆในบริเวณปราสาทถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น และรอบๆปราสาทยังมีเครื่องป้องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท

จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน
(ที่มา : วิกิพีเดีย)





เดินขึ้นชั้นฐานปราสาท เพื่อไปชมพิพิธภัณฑ์และบ่อน้ำ Okiku






สัญลักษณ์หนึ่งของปราสาทฮิเมจิ "Shachihoko" ปลาผู้พิทักษ์ปราสาท




หน้าพิพิธภัณฑ์ ที่ด้านในจัดแสดงเครื่องใช้ของเจ้าของปราสาทแต่ละรุ่น














ถ่ายภาพหน้าปราสาท ... ขวามือคือบ่อน้ำ Okiku






ทางเข้าตัวปราสาท...กำลังปิดซ่อแซม








กลับลงมาจากเขาทางด้านปราสาท เราเดินขึ้นชมบนอาคารอีกด้านหนึ่ง คือหมู่หอคอยนิซิโนะมารุและทางเดินระเบียงยาว(ระเบียงเฮียกุมะ)

นิซิมารุถูกสร้างเพื่อให้ฮอนดะ ทาดะโทกิและเจ้าหญิงเซ็นอยู่อาศัยอย่างสงบ เพื่อเป็นการป้องกันจุดอ่อนของรูปทรงปราสาทฮิเมจิ จึงได้สร้างโครงสร้างรั้วหน้าต่างที่แข็งแกร่ง หอคอยทิ้งก้อนหินใส่ข้าศึก เป็นโครงสร้างที่มีประตูไม้ขนาดใหญ่ตัดขวางและไม่มีโครงซึ่งเป็นส่วนเกิน นอกจากนั้นตรงข้างประตูทิศใต้มีลานรวมตัวเหล่าซามูไรก่อนออกรบ สวนที่มองเห็นตั้งตระหง่านอยู่ทางฝั่งตะวันตกของหอคอยโฮเท็นเป็นลานกว้างที่สงบและสว่าง ... แต่เสียดายเขาห้ามถ่ายภาพภายในครับ








วิวจากระเบียงเฮียกุมะ








เรากลับออกมาจากปราสาทฮิเมจิช่วงเที่ยงๆ ซึ่งเป็นเวลาที่ท้องกำลังหิว ผ่านร้านอาหารแบบญี่ปุ่น เลยแวะเข้าไป พอดีเจอลูกสาวคนขายเขาพูดอังกฤษได้ เราเลยเลือกนั่งร้านนั้น สั่งข้าวหน้าปลาไหลมาทาน...ได้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่นทีเดียว

มองเห็นคุณยายโต๊ะข้างๆ อายุมากแล้วนั่งทานข้าว กับเบียร์ญี่ปุ่นอยู่ อายุน่าจะเกินเลขเจ็ดแล้วนะ แต่ดูท่านยังแข็งแรงดี ซักพักเราเห็นคุณตาออกมาจากห้องน้ำมานั่งทานด้วยกันกับยาย เราทำได้แค่ส่งยิ้มให้ และในใจอยากมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงไปไหนมาไหนได้เหมือตายายทั้งสอง แถมนั่งดวดเบียร์ได้อีก...เป็นอะไรที่น่าอิจฉาจริงๆ







อาหารมื้อเที่ยงเสร็จบ่ายโมงกว่าๆ วันนี้ยังมีเวลาเหลือ ... เราปรึกษากันว่าจะไปต่อซักที่ ... โวตออกมาเป็นนารา จึงรีบไปที่ Himeji Station คุยกับสาวที่ Information Center ขอให้เธอช่วยเช็คเส้นทางที่เร็วที่สุด (แบบราคาพอไหว) ให้ด้วย เมื่อได้เส้นทางแล้ว เราก็เข้าไปเข้าคิวซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ (เพราะที่ตู้อัตโนมัติ มีแต่ภาษาญี่ปุ่น) ได้ตั๋วแล้วเรารีบไปรอรถไฟเที่ยวต่อไปเพื่อเข้าโอซาก้า และต่อไปเมืองนารา










แผนผังการชมปราสาท
เราเข้าชมตามเส้นทางสีส้ม ต่อด้วยสีแดงก่อนออก...ยกเว้น Main Castle (ที่ระบายสีแสดอ่อนๆ) ที่ยังซ่อมอยู่




ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

เวลาเปิด-ปิด: 9:00 - 17:00 น. (ปลายเดือนเมษายน - สิงหาคม: 9:00 - 18:00 น. )
วันปิดทำการ: ปิดวันที่ 29 - 30 ธันวาคม

ค่าเข้าชม: 600 เยน

เดิน 15-20 นาที จาก Himeji Station

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน พบกันบล๊อกต่อไปครับ






ลาด้วยภาพนี้ครับ








ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2015 นี้
จขบ. ขอภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ จงดลบันดาลให้ท่านและคนที่ท่านรัก
จงประสบแต่ความสุขกาย สบายใจ และสุขพลานามัยแข็งแร็งตลอดไปครับ







______________









Create Date : 29 ธันวาคม 2557
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2561 16:05:34 น. 21 comments
Counter : 14504 Pageviews.

 

ชมภาพเพลินเลยค่ะ
เหมือนได้มาเห็นด้วยตาอุ้มเอง
โหวตให้เลยค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog


โดย: อุ้มสี วันที่: 29 ธันวาคม 2557 เวลา:12:36:07 น.  

 
เมืองสวย ปราสาทสวย ใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยสุด ๆ คะ่


โดย: mariabamboo วันที่: 29 ธันวาคม 2557 เวลา:18:24:14 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา:3:38:13 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ค่ะ สุข สดชื่น แข็งแรงนะคะ


โดย: mariabamboo วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา:10:31:29 น.  

 
เห็นแผนที่แบบข้างบน บอกเส้นทางเป็นสี แบบนี้ดีครับ ดูง่าย ไม่ต้องโค้งไปมาแบบ
ของจริงมากนัก...

นึกถึงไป ร.พ.จุฬาเมื่อก่อน พยาบาลจะบอกว่า ให้เดินตามทางเดิน เส้นสีนั้นสีนี้
ง่ายดี ไม่หลงด้วย..

ภาษาญี่ปุ่นนี่เขียนยากน่าดู หมายถึงเป็นภาษาไทยนะครับ 555 คุณวิค จำได้ไงครับ
ผมถ้าได้ฟัง แล้วเกิดเดินสะดุด ก็ลืมแล้วครับ..

ปราสาทสีขาวสวย เสียดายไม่ได้เข้าไป.... ทางเดินสวย สอาดเป็นระเบียบดี

แต่เห็นบ้านคนที่มองจากข้างบน คงจะเป็นบ้านที่สร้างมานานปี เลยไม่เป็นระเบียบ
แบบ ตีเส้นตรง... แต่ก็โอเคครับ... ไงก็ดูดีกว่าใน กท.บางแห่งครับ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
foreverlovemom Art Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา:13:09:51 น.  

 
พาเที่ยวด้วยภาพสวยมากค่ะคุณวิค
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากๆ
เดี๋ยวนี้ไม่ต้องใช้วีซ่าด้วย ...ต้องไปเที่ยวให้ได้ค่ะ
เรียนรู้เก็บเกี่ยวเรื่องราวจากบล๊อกนี้ไว้ก่อนเลยคร้า

:: สุขสันต์วันปีใหม่ ๒๕๕๘ ขอให้คุณวิคและครอบครัวมีความสุขกาย สบายใจ
ปราศจากทุกข์โศก โรคภัยทั้งหลายทั้งปวง พร้อม โชค ลาภ ตลอดปีค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Diarist ดู Blog
anigia Parenting Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา:15:01:50 น.  

 
ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ค่ะ


ประสาทฮิเมจิในวันฟ้าใสสวยงามสมกับเป็นปราสาทที่สวยที่สุดขอวเค้าจริงๆค่ะ
เห็นด้วยจริงๆว่า ญป เค้าเก่งเรื่องทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย


โดย: AdrenalineRush วันที่: 31 ธันวาคม 2557 เวลา:0:27:57 น.  

 

มาชมปราสาทเมจิด้วยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog


newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 31 ธันวาคม 2557 เวลา:2:14:55 น.  

 
รูปสวยมากๆ ค่ะ ชอบรูปคูน้ำรอบปราสาท




โดย: sawkitty วันที่: 31 ธันวาคม 2557 เวลา:15:41:50 น.  

 



สวัสดีปีใหม่ 2015 ค่ะ

ภาพสวยงามมากค่ะคุณวิค
โหวต Best of the blog สาขานี้ให้คุณวิคนะคะ

Best design wicsir

ขอให้คุณวิคประสบแต่ความสุข
มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
และสมปรารถนาในทุกสิ่งที่ตั้งใจไว้ในปีใหม่นี้ค่ะ

Sweet_pills


โดย: Sweet_pills วันที่: 31 ธันวาคม 2557 เวลา:22:29:10 น.  

 
งดงาม ยิ่งใหญ่ อลังการณ์
ที่สำคัญสะอาดสะอ้านมากค่ะ
ถ่ายภาพสวยมาก เนื้อหาดีเช่นเคย

สวัสดีปีใหม่นะคะ
ขอให้คุณ Wic และครอบครัวประสบแต่ความสุข
ความสำเร็จ สมปรารถนาในทุกสิ่ง พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ
ตลอดปีและตลอดไปนะคะ ^_^


ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog


โดย: มัลลิกา ป 402 วันที่: 31 ธันวาคม 2557 เวลา:22:51:56 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
หวัดดีปีใหม่jค่ะ คุณwic
ยังคงเอกลักษณ์ บล็อกท่องเที่ยว ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เปลี่ยนแปลง ข้อมูล เยี่ยม ภาพสวย
สุดยอดค่ะ..ชมแล้วเพลิดเพลินเลย..
มีความสุข นะคะ..



โดย: tifun วันที่: 1 มกราคม 2558 เวลา:13:11:14 น.  

 
ปราสาทสวยงามอลังการมากเลยค่ะ
ญี่ปุ่นรักษาวัฒนธรรมเค้าได้ดีมากเลยนะคะ

สวัสดีปีใหม่ค่า
ขอให้มีความสุขมากๆค่า

>


โดย: lovereason วันที่: 1 มกราคม 2558 เวลา:13:47:03 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ฟ้ามาอวยพรปีใหม่ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ




โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 1 มกราคม 2558 เวลา:18:20:15 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรปีใหม่นะคะ ^_^



โดย: ฝากเธอ วันที่: 1 มกราคม 2558 เวลา:23:04:59 น.  

 
เป็นปราสาทที่งามทั้งภายในและภายนอกจริงๆค่ะ
สมคำค่ำรือว่าโรแมนติกด้วยนะคะ
ปีที่ผ่านมาคุณวิคได้ท่องเที่ยวได้มาแบ่งปันเรื่องราวให้ชาวบล็อกชาวเน็ต
ได้รู้ ได้เห็นมากมาย
อย่าเพิ่งหมดไฟก่อนน้า ทำไปเรื่อยๆ เพื่อความสุขใจของเราค่า






สวัสดีปีใหม่ 2558


ขอให้ปีนี้ได้ท่องเที่ยวในที่ๆอยากไปในทุกๆทริป
เดินทางราบรื่นปลอดภัยค่า


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 2 มกราคม 2558 เวลา:15:48:04 น.  

 
สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพดี มีเงินใช้ไม่ขาดมือนะคะ ^^
มาเกาะติดเที่ยวด้วยคนนะคะ ภาพสวยมากเช่นเคย เห็นนางแบบและนายแบบ ว้าวๆ ชอบมากเลยค่ะ ^^


โดย: auau_py วันที่: 2 มกราคม 2558 เวลา:18:04:53 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ส่งความสุขปีใหม่ มีความสุขสุขภาพแข็งแรงจ้าคุณวิก
ปราสาทญีปุ่นสวยมากมายต้องไปสักครั้งเลยเชียว



โดย: หอมกร วันที่: 2 มกราคม 2558 เวลา:20:19:11 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่า คุณวิก
ขอให้คุณวิกและครอบครัว มีแต่ความสุขสมหวังทุกประการตลอดปีนะคะ

ภาพสวยมาก ๆ ค่ะ ปราสาทฮิเมจิสวยมากเช่นกัน
รูปถ่ายออกมาสวย ตระหง่านเลยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 3 มกราคม 2558 เวลา:21:15:32 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ปราสาทสวยเรียบร้อยเหมือนคนญี่ปุ่นเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 มกราคม 2558 เวลา:13:51:29 น.  

 
สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ ค่ะ


โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 5 มกราคม 2558 เวลา:14:14:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.