....OUR FAMILY'S JOURNEY....
โคลอสเซี่ยม .... มหึมาบนซากชีวิต







อ่านตอนที่ 2 : จัตุรัสเวเนเซีย น้ำพุจตุมหานที และวิหารแพนธีออน




สวัสดีครับเพื่อนๆชาว bloggang ที่รักทุกท่าน ผมหายไปจากบล๊อกประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อไปพักผ่อนให้รางวัลกับชีวิต หลังจากที่เหนื่อยมาเกือบทั้งปี.... ก็พยามจะบาลานซ์ชีวิตกับงานการ (work life balance) ให้ดีล่ะครับ แล้วคุณๆที่รักก็อย่าลืมหาเวลาไปพักผ่อนบ้างนะครับ






ที่สนามบินสุวรรณภูมิ




ผมลาพักร้อนไปหลายวันเพื่อเดินทางไปกับ Group Tour เพื่อไปเทียวประเทศทางยุโรป คือไปทั้งหมด 3 ประเทศ เริ่มที่อิตาลี ต่อไปที่สวิตเซอร์แลนด์ และจบลงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลายๆท่านคงเคยไปกันมาบ้างแล้วนะครับ ถ้าไปมาแล้วก็มาช่วยกันรีวิวเพื่อเพื่อนนักเดินทางก็แล้วกันนะครับ ส่วนการรีวิวจากนี้ไปก็ประมาณเดิมตามสไตล์บล๊อกของนาย wicsir คือเที่ยวด้วยภาพ.

ในส่วนของประเทศอิตาลีนี้เราเริ่มเที่ยวกันตั้งแต่โรม แล้วขึ้นไปตรงกลางประเทศคือฟลอเรนซ์ แว๊บไปทางตะวันตกคือปิซ่า แล้วออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือที่เวนิส แล้วขึ้นเหนือไปที่มิลาน ก่อนออกจากอิตาลีไปสวิสส์ครับ

ผมจะไม่เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม และการปกครองของอิตาลีลงในนี้ เพราะคุณๆคงหาข้อมูลพวกนั้นได้ไม่ยากจากเวบไซต์ทั่วไปครับ แต่จะสอดแทรกเฉพาะเรื่องที่สำคัญที่เกี่ยวกับภาพและ route ที่เราผ่านไปเท่านั้นครับ...






แผนที่อิตาลี...ประกอบการเดินทาง




เตรียมตัวเดินทาง

ทริปนี้ไปต้นเดือน ตุลาคม ที่ยุโรปกำลังจะเปลี่ยนฤดู จึงมีฝนตลอดการเดินทาง การถ่ายภาพยากส์มากๆ เดี๋ยวแดด เดี๋ยวคลึ้ม เดี๋ยวฝน ปรับกล้องตามแทบไม่ทัน แต่ข้อดีของการไปเวลานี้ก็คือ ได้เห็นใบไม้กำลังจะเปลี่ยนสีด้วย ทำให้การนั่งรถนานๆไม่น่าเบื่อ

เพราะการเดินทางประมาณ 1 ใน 3 ต้องอยู่บนรถ ภาพที่ถ่ายอาจจะไหวบ้าง คงไม่ว่ากันนะครับ เพราะลึกๆแล้ว อยากให้คุณๆได้เห็นภาพของเมืองที่เราผ่านไป ทั้งภูมิประเทศ บ้านเมือง ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นอกเหนือจากในโปรแกรมที่เรามี.

เกริ่นมาซะครึ่งหน้า เดี๋ยวเซ็ง พาไปเที่ยวเลยดีกว่า และคงเริ่มที่โคลอสเซียม กรุงโรม ประเทศอิตาลีก่อนเลยนะครับ..







ที่สนามบินเลโอนาร์โด ดา วินชี่ ที่กรุงโรม





วันที่ 11 ตุลาคม 2555 กรุ๊บเรานัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 21:00 น ช่องผู้โดยสารขาออก แถว D ของการบินไทย และเช็คอินเพื่อเตรียมออกเดินทางในเวลา 00:20 น ของวันที่ 12 ต.ค. กร๊ปที่ไปก็มากพอควร คือมีทั้งหมด 38 คน รวมทั้งหัวหน้าทัวร์อีก 2 คน คือ น้องแนน และน้องบุ๋ม ซึ่งเป็นไกด์จาก D-star group ก็คือบริษัททัวร์ ที่พาเราไปนี่แหละ (www.d-stargroup.com) แต่ทริบนี้เราบินภายใต้ชื่อ "European Holiday" ในกรุ๊บมีหลากหลายวัย ตั้งแต่ 3 ขวบถึง 80 ปีครับ แต่ทุกคนก็เป็นกรุ๊บที่ดี ไม่ค่อยมีปัญหาครับ

เครื่องบินไทย เที่ยวบินที่ TG - 944 โดยเครื่อง 747-400 ออกเดินทางตามเวลา บนเครื่องเสริฟอาหาร 2 มื้อ คือหลังจากเครื่องขึ้น และก่อนเครื่องลงอีก 2 ชั่วโมง... เครื่อง 747-400 ใช้เวลาบิน 11 ชั่วโมง กับอีก 15 นาที ก็ถึงสนามบิน เลโอนาร์โด ดา วินชี่ ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ก่อนเครื่องจะลงฝนเทลงมามากมาย ทำให้ใจไม่ดีเหมือนกัน แต่จะทำยังไงได้ ต้องเชื่อใจกัปตันเท่านั้นเอง แต่สุดท้ายเราทุกคนก็ถึงกรุงโรมโดยปลอดภัยครับ







ระหว่างทางเข้าโรม




การเข้าไปเที่ยวในประเทศยุโรป คนไทยเราจำเป็นต้องของวีซ่าเช็งเก็น คือวีซ่ารวมเข้าได้เกือบทุกประเทศในสหภาพยุโรบ คือสามารถนั่งรถเชื่อมต่อข้ามประเทศไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าอีก....ส่วนประเทศในแถบอาเซียนที่เข้าไปยุโรปโดยไม่ต้องขอวีซ่าเช็งเก็น (Schengen) ก็มี มาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์

ส่วนคำว่า เช็งเกน (Schengen) นั้น มาจากข้อตกลงของกลุ่ม European Economic Community 5 ประเทศจากทั้งหมด 10 ประเทศที่มีอยู่ในขณะนั้น ซึ่ง 5 ประเทศที่ร่วมลงนามนั้นประกอบไปด้วย เบลเยี่ยม เยอรมัน ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ ได้ทำข้อตกลงใช้อาณาเขตเดียวกัน ที่เมือง (หรือหมู่บ้าน) Schengen ประเทศ Luxembourg ในวันที่ 14 มิถุนายน 1985 (อ่านเพิ่มเติม)






หน้าตาของวีซ่าเช็งเก็น




ปัจจุบัน Schengen Visa ใช้ได้กับ 26 ประเทศและมีอนุญาติให้เข้าได้อีก 4 ประเทศคือ สวิสเซอร์แลนด์ เล็กเก็นสไตน์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ บัลกาเรียกับโรมาเนีย กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อเข้าร่วม ส่วนสหราชอาณาจักรกับ Ireland ยังต้องมีวีซ่าเข้าต่างหากครับ (ดูเพิ่มเติม)

การเข้าเมืองในกลุ่มประเทศ Schengen Visa ไม่ต้องกรอกใบ ตม. เหมือนเข้าบ้านเรา รวมทั้งขาออกก็ไม่ต้องเช่นกัน ดูสะดวกมากครับ แต่การรักษาความปลอดภัยด้านอื่นยังเข้มงวดเหมือนสนามบินทั่วไป






ถนนหนทางในโรม






รถในโรมส่วนมากเป็นคันเล็กๆแบบนี้ และเป็นเกียร์กระปุกด้วย




หลังลงเครื่องก็เดินไปขึ้นรถไฟเพื่อไปรับกระเป๋ากันครับ บริเวณที่รับกระเป๋าแคบ อาจจะเรียกว่าแคบมากเมื่อเทียบกับบ้านเรา อีกอย่างห้องน้ำไม่ค่อยสะอาดเหมือนที่สุวรรณภูมิครับ คงเป็เพราะค่าแรงแพงเลยหาคนทำความสะอาดยากมั๊ง...Overview ของสนามบินที่นี่ดูเล็กและแคบไปเมื่อเทียบกับสนามบินทางแถบตะวันออก เช่น ที่ฮ่องกง ปักกิ่ง อินชอน ชางงี นาริตะ หรือแม้แต่สุวรรณภูมิครับ






มารู้จักกับหัวหน้าทัวร์เราหน่อย


น้องแนน (ซ้ายมือ) เป็นหัวหน้าทัวร์หลักของเรา ชำนาญเรื่องทัวร์ยุโรปทั้งหมด พูดได้หลายภาษา จุดเด่นคือ ประวัติศาสตร์ยุโรปแม่น ลึกลงไปถึงชื่อคนที่เกี่ยวข้องและ ค.ศ เลยล่ะ อารมณ์ดี และเป็นกันเองมาก..เรียกว่าเพิ่งได้เลย เธอเป็นไกด์ประจำที่ D-star Group ครับ.










น้องบุ๋ม (ขวามือ) เป็นผู้ช่วยหัวหน้าทัวร์ของเรา ชำนาญเรื่องทัวร์ยุโรปตะวันออกทั้งหมด พูดได้หลายภาษา รวมทั้งภาษาญี่ปุ่นด้วย เพราะเธอเคยเป็นล่ามมา...จุดเด่นคือ ประวัติศาสตร์ยุโรปตะวันออกดี อารมณ์ดี น่ารัก และเป็นกันเองมาก..เรียกว่าเพิ่งได้เลยเช่นกัน เธอเป็นไกด์ประจำที่ D-star Group เหมือนกันครับ.





พอขึ้นรถเรียบร้อย แล้วไกด์เราก็บอกว่า การเดินทางท่องเที่ยวในอิตาลีสิ่งที่ต้องระวังมากๆคือทรัพย์สมบัติที่เอาติดตัวไป ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสะตังค์ หรือของมีค่าอื่นๆ (พวกสร้อยคออะไรนั่น ไม่จำเป็นอย่าใส่ไป) เพราะว่าหลังจากที่ประเทศในยุโรปส่วนมากรวมตัวกันเป็นสหภาพยุโรปแล้ว คนในยุโรปก็สามารถไปมาหาสู่กันสะดวกขึ้น พวกมิจฉาชีพก็ตามมาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะที่มาจากยุโรปตะวันออก เพราะประเทศทางแถบยุโรปตะวันออกยังมีฐานะความเป็นอยู่ที่ด้อยกว่าคนในฝั่งตะวันตกมาก






Rome Marriott Park Hotel ที่เราจะมาพักคืนนี้




บ้านเมืองในโรมรอบในไม่ค่อยมีตึกสูงให้เห็น เขาคงไม่อยากให้บดบังภาพของเมืองโบราณเหล่านั้น ส่วนผู้คนในโรมมักจะชอบสูบบุหรี่ และทิ้งก้นบุหรี่ไม่ค่อยจะเป็นที่เท่าไหร่ ยิ่งพอเจอทัวร์จีนเข้าให้เลยไปกันใหญ่ ใครแพ้บุหรี่แนะนำให้หาผาปิดปากและจมูกไปด้วยครับ






เข้าเขตใจกลางกรุงโรมเดิมแล้ว





ตำนานการเกิดโรม

มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า หลังจากกรุงทรอย (ในตุรกี) แตก อีเนียสได้ออกเดินทางไปยังดินแดนตะวันตก และได้เป็นกษัตริย์ปกครองดินแดนลาติอุม ให้กำเนิดพระธิดานามว่า เจ้าหญิงเรอา ซิลเวีย เจ้าหญิงได้สมสู่กับ “มาร์ส” เทพเจ้าแห่งสงคราม จนให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดขึ้นมา นามว่า โรมิวลูส (Romulus) กับเรมูส (Remus) ทำให้กษัตริย์ (อีเนียส) ทรงกริ้วมากที่พระธิดาควรครองพรมจารีย์เพื่อปกป้องวิหารเทพีเวสต้าไปจนชั่วชีวิต จึงรับสั่งให้จับพระนางไปขังและนำทารกแฝดใส่ตะกร้าไปทิ้งแม่น้ำไทเบอร์




(ภาพจากเวบ)



แต่เคราะห์ดีที่บังเอิญมีสุนัขป่าตัวหนึ่งผ่านมา เห็นตะกร้าที่ลอยมาเกยฝั่ง จึงได้ให้นมและเลี้ยงดูฝาแฝดทั้งสอง จนคนเลี้ยงแกะมาพบเข้าจึงนำไปเลี้ยงต่อจนเติบใหญ่เป็นชายชาตรีที่แข็งแรง ชาวบ้านจึงตั้งให้เป็นผู้นำเพื่อต่อต้านการรุกรานจากชนเผ่าใกล้เคียง และแสวงหาทำเลที่ตั้งบ้านเมืองใหม่ จนเดินทางมาถึงเนินเขาปาลาติเน ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ จึงได้สร้างกำแพงเมืองขึ้นมา แต่ระหว่างการสร้างเมือง พี่น้องทั้งสองก็เกิดทะเลาะกัน และโรมิวลูสก็พรั้งมือฆ่าเรมูสตาย แล้วตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ และเรียกชื่อเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ว่า “โรม” ตามชื่อตัวเอง และสัญลักษณ์แม่สุนัขป่่ายืนแยกเขี้ยวกำลังให้อาหาร(นม)ทารกแฝดก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโรมมาจนถึงปัจจุบัน.






ภาพนี้ถ่ายก่อนถึงประตูชัยคอนสแตนติน..แต่จำชื่อสถานที่ไม่ได้




รถบัสไปส่งเราลงที่หน้าประชัยคอนสแตนตินเพื่อให้เราได้เดินถ่ายภาพกัน อากาศไม่เย็นมากนัก ประมาณ 9-11 องศา C แต่ท้องฟ้าสีขาวสลับดำเหมือนฝนกำลังจะมาอีก...ภาพช่วงแรกๆจึงออกมาเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่ฟ้าจะสวยเมื่อตอนเรากำลังจะกลับ...เมื่อยจังเลยกับอากาศ






ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine)




ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine)

สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่งหมายแห่งชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินเหนือจักรพรรดิมัเซนติอุสในการรบที่สะพานมิลเวียน เมื่อครั้งยาตราทัพเข้ายึดบัลลังก์กรุงโรมในปี ค.ศ. 312 โดยทรงนิมิตรเห็นไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ จากนั้นพระองค์ก็ขึ้นครองราชย์ประกาศให้ศาสนาคริสเป็นศาสนาประจำอาณาจักรโรม ให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการนับถือ แม้บางส่วนจะยังนับถือเทพเจ้าอยู่ก็ตาม นับว่าเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกที่นับถือศาสนาคริสต์..

อย่างไรก็ตามแม้จะเปลี่ยนมานับถือคริสต์แล้ว จักรวรรดิโรมันก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ พระองค์จึงตัดสินใจย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิ้ลในปี ค.ศ. 330 ในที่สุดกรุงโรมก็ถูกรุกรานจากเหล่าอาณารยชนจนกระทั่งแตกในปี ค.ศ. 410

ประตูชัยสร้างในปี ค.ศ. 315 ซึ่งเป็นช่วงที่กรุงโรมันประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ วัสดุหรือภาพจึงนำมาจากวิหารหรืออนุสาวรีย์หลายๆแห่ง เรื่องราวจึงอาจดูไม่สอดคล้องกัน เช่นภาพล่าสัตว์ที่ได้มาจากวิหารที่สร้างอุทิศแด่อันโตนิอัส ผู้เป็นที่รักของจักรพรรดิแฮเดรียน.



หลังจากที่เราถ่ายภาพกับประตูชัยพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องไปเข้าคิวเพื่อรอเข้าชมด้านในของโคลอสเซี่ยมกัน ค่าเข้าชมทางทัวร์เขาเป็นคนจัดการให้เลยไม่รู้ราคาครับ เมื่อเข้าไปด้านในแล้วจะมีห้องน้ำให้ใช้ เพราะอากาศเย็นๆแบบนี้ห้องน้ำเป็นสิ่งสำคัญ.... หลังจากนั้นเราก็เข้าไปชมด้านในของอัฒจันทร์ ซึ่งใหญ่โตกว้างขวางมาก มีระเบียงให้เราถ่ายภาพในมุมต่างๆมากมาย







โคลอสเซียม





โคลอสเซียม....มรดกโลก

โคลอสเซียม (อังกฤษ: Colosseum หรือ Flavian Amphitheatre; อิตาลี: Colosseo - โคลอสโซ)
เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณปี ค.ศ. 80 (สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 72)

อัฒจันทร์เป็น รูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน ในบางครั้งจะมีการเรียกชื่อ โคลิเซียม (Coliseum)










ความมหึมาของเสาและโครงสร้าง






สิ่งก่อสร้างรูปทรงโค้งเป็นวงกลมซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของกรุงโรมแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเหล่านักรบโรมันและเป็นอนุสรณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สนามกีฬาแห่งนี้สูง 48 เมตร ยาว 188 เมตร และกว้าง 156 เมตร แนวคิดในการออกแบบโคลอสเซียมนี้ยังคงมีความสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้ ดังจะเห็นได้จากการออกแบบสนามกีฬาแทบทุกแห่งในโลกนับตั้งแต่นั้นมาต้องปฏิบัติตามแม่แบบดั้งเดิมของโคลอสเซียมอย่างปฏิเสธไม่ได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้สิ่งที่ได้รับรู้จากภาพยนตร์และหนังสือบันทึกทางประวัติศาสตร์จะแสดงให้เห็นว่าสนามกีฬาแห่งนี้มีแต่การต่อสู้และการแข่งขันที่โหดร้ายต่างๆ นานา เพื่อความสุขของผู้ชมเท่านั้นก็ตาม









ด้านในยังกับสนามกีฬายักษ์





ใต้อัฒจันทร์โคลอสเซียม (Colosseum) และใต้ดินโคลอสเซียม (Colosseum) มีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต และสิงโต หลายร้อยห้อง ใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษ ต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะ ฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ก็รอดชีวิตไป หรือ ไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเอง ยิ่งถ้าต่อสู้กัน จนถึงสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตาย ก็จะได้รับเกียรติอย่างสูงเพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมและยกย่องกันมาก ปีหนึ่งๆต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน










สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) แห่งนี้ จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรโรมันโบราณ แต่เมื่ออาณาจักรโรมันเสื่อมลง โคลอสเซียม (Colosseum) ก็ถูกข้าศึกทำลายหลายครั้งหลายหน ในปัจจุบันเหลือแต่ซากโครงสร้างอันใหญ่โตมโหฬารไว้ให้ชม








จากระเบียง..มองลงไปยังจัตุรัจโรมัน




7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โคลอสเซียมได้รับเลือกให้เป็น1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ

Colosseum ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1980 อยู่ในรายการของ Historic Centre of Rome (อ่านเพิ่มเติม)














ก่อนกลับออกมา...เราเองได้แต่มองว่า สิ่งก่อสร้างอันมหึมาแห่งนี้คงเกิดขึ้นจากแรงงานทาสมากมายมหาศาล เพราะเครน ปั้นจั่น หรือเครื่องมือทุ่นแรงในสมัยนั้นคงไม่มี...ในขณะก่อสร้างคงสังเวยชีวิตมนุษย์ หรือที่เรียกว่าทาสมากมายเท่ากับอัฒจันทร์ที่มันจุผู้คนได้หรือมากกว่า...

นั่นกระมังที่มนุษย์อยากมีอำนาจ มีอำนาจเพื่อบังคับให้ผู้อื่นทำตามที่ใจตัวเองปราถนา ถ้าไม่ได้ดังใจก็เข่นฆ่า ทำลายล้าง ยังกะไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นเดียวกัน ยิ่งนึกถึงหนังเรื่องเกลดิเอเตอร์ (Gladiator) เมื่อไหร่ ก็ยิ่งทำให้เรามองเห็นภาพในโคลอสเซียมแห่งนี้ได้มากขึ้นเท่านั้น โอ..โคลอสเซียม ความยิ่งใหญ่ที่ทับถมด้วยซากและจิตวิญญาณของมนุษย์










เลยออกมาหน่อยเป็นสนามกีฬาแข่งรถศึก หรือสนามกีฬามักซิมุส ซึ่งเป็นรูปวงรียาว (กำลังปรับปรุงบางส่วน) ที่สามารถจุคนดุได้ 250,000 คน โดยมีเนินอยู่รอบๆ






Circus Maximus ในปัจจุบัน (ภาพจากเวบ)




บล๊อกนี้เขียนค่อนข้างยาว เอาภาพมาลงมากมาย อาจจะโหลดช้าหน่อยครับ เลยขอจบตอนตรงนี้เลยเพราะเกรงว่าคุณๆจะเบื่อ เอาไว้ต่อตอนหน้าละกันนะครับ บล๊อกหน้าก็ยังคงอยู่แถวๆโรมนี่แหละ...ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ







ลาด้วยภาพประตูชัยคอนสแตนตินภาพนี้ครับ





Paul Anka - Papa


_______________





Create Date : 29 ตุลาคม 2555
Last Update : 24 สิงหาคม 2556 19:28:45 น. 25 comments
Counter : 13835 Pageviews.

 
ภาพสวยงามมากค่ะ

ตามมารำลึกความหลัง...ขอบคุณนะคะ


โดย: @NBC วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:9:08:48 น.  

 
สวัสดีครับ ทักทายวันจันทร์






โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:10:06:09 น.  

 
คุณวิคบันทึกเรื่องราวแบบนี้ดีจังค่ะ
นอกจากเก็บไว้เป็นความทรงจำอันน่าประทับใจแล้ว
ยังได้แบ่งปันให้ผู้อื่นด้วย



โควต้าวันนี้ใช้หมดแล้ว ไว้ต๋าแวะมาใหม่นะคะ
สุข สดชื่นในวันนี้ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:10:34:11 น.  

 
ดูเพลิน ภาพสวย แล้วได้ความรู้ด้วย เสียดายจบเสียแล้ว...แล้วจะตามอ่านตอนต่อครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:10:56:19 น.  

 
ถึงว่าสิคะ หายไปซะหลายวันเลย ไปทัวร์ซะตั้งไกลแน่ะ
เขียนได้ละเอียดดีค่ะ บล็อกยาว รูปเยอะแต่ไม่น่าเบื่อ
อ่านเพลินๆก็จบซะแล้ว เพิ่งรู้ประวัติศาสตร์กำเนิดกรุงโรมก็วันนี้ล่ะค่ะ
ภาพสวย คมชัดมากๆ แม้ จ.ข.บ.จะบอกว่าอากาศไม่เป็นใจ
แต่ต้องขอชมค่ะ เคยได้เห็นภาพโคลอสเซียมจากหลายสื่อ
แต่ยังไม่เคยเห็นในสื่อไหนที่ถ่ายรูปในมุมที่คุณวิคถ่ายมาให้ชมที่นี่เลย
ตื่นตา ตื่นใจมากๆ มุมกล้องของคุณเป็นดวงตาแทนผู้อ่านได้ดีเยี่ยมค่ะ
แล้วจะรอชมบล็อกต่อไปค่ะ ชอบทัวร์ยุโรปและอยากเห็นภาพใบไม้เปลี่ยนสี
อัพบล็อกใหม่เมื่อไหร่อย่าลืมแวะไปเรียกที่บ้านด้วยนะคะ ^_^


โดย: ฝากเธอ วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:12:46:17 น.  

 
ลืมไปค่ะ เป็นกำลังใจในการเขียนบล็อกนะคะ ^_^

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog


โดย: ฝากเธอ วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:12:49:43 น.  

 
ภาพสวยเชียวค่ะ ไม่มีวาสนาได้เที่ยวไกลค่ะ คิดเยอะค่ะ จะไปไหนก็คูณ 4 ราคาหนักเอาเรื่อง อาจจะได้ไปตอนอายุมากหน่อย แต่ไม่รู้จะมีปัญญาเดินมั้ย ก็อีกหล่ะ

ถ้าอยากดู คงเป็นแบบนี้นี่หล่ะค่ะ ถนนหนทาง ระหว่างทาง สถานที่ประวัติศาสตร์ โบราณสถานบ้านเมืองเค้า ความเป็นมา... แบบคุณ wic พาเที่ยวนี่ก็ข้อมูลล้นหลามแล้วค่ะ แบบเราสิ ขนานแท้ เที่ยวด้วยภาพ...

ขอบคุณนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

wicsir Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:13:37:14 น.  

 
ติดตามมาอย่างกระตือรือร้นค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:14:04:53 น.  

 
ปูเสื่อรอคร๊า ^^
Ying


โดย: กาแฟไม่ใส่กาแฟ IP: 115.87.117.55 วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:16:26:31 น.  

 


ตามคุณWICไปเที่ยวด้วยค่ะ โหวตให้กับภาพสวยๆด้วย
จะตามมาชมภาพสวยๆจนจบทริปนะคะ ขอบคุณที่นำภาพมาแบ่งปัน
และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการไปเที่ยวค่ะ ^_^


โดย: andrex09 วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:16:41:36 น.  

 
ตามมาเที่ยวโรมอีกรอบค่ะ
สวยงาม ยิ่งใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆสำหรับโคลอสเซียม
ถ่ายทอดภาพมาได้อะลังมากๆ ชอบมากกกกกกค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:17:41:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ Wic ไม่ได้แวะมาบ้านนี้ตั้งนานแน่ะ

โห.. อยากไปทริปยุโรปแบบนี้บ้างจังเลยอ่ะค่ะ ..
อยากให้รางวัลกับตัวเองแบบนี้บ้างจัง ..อิอิ..

แต่ไม่มีกะตังค์

เกาะบล็อคคุณ Wic ไปยุโรปก่อนละกันค่ะ


โดย: Nongpurch วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:19:28:09 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆ ครับ .....

เห็นคุณ wicsir หายไปนาน ปล่อยให้เจ้ากระปุกเฝ้าบล็อกอยู่พักใหญ่ ที่แท้ก็ไปเที่ยวยุโรปมานี่เอง .....

ภาพสวยคมชัดมากครับ ข้อมูลรายละเอียดครบครันอีกเช่นเคย .....

หวังไว้ว่าในวันข้างหน้าตอนลูกๆ โตแล้ว ผมคงได้ไปท่องโลกเป็นรางวัลชีวิตแบบคุณ wixsir บ้างนะครับ .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 30 ตุลาคม 2555 เวลา:0:05:35 น.  

 
โอ้ว..ได้ภาพสวย ๆ มาเยอะเลยค่ะคุณวิค ขอตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ


โดย: i'm not superman วันที่: 30 ตุลาคม 2555 เวลา:11:49:30 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
anigia Parenting Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
..................
โหวตให้คุณวิคค่ะ



มีความสุขตลอดวันนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 30 ตุลาคม 2555 เวลา:13:28:02 น.  

 
แวะมาดึกๆมาชวนไปชมโลกใต้น้ำค่ะ :)



โดย: AdrenalineRush วันที่: 30 ตุลาคม 2555 เวลา:23:54:28 น.  

 


ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณวิค
นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:22:51:32 น.  

 

มา BLOG คุณแล้วเห็นภาพแล้วสวยมากกกกกก
เห็นแล้วอยากมีกล้องดีดี เลยส์แจ่มๆ กะเขาบ้างเน๊าะ
เลยโหวตหมวดท่องเที่ยวและการเดินทางให้ค่ะ
TRAVEL BLOG


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:04:21 น.  

 
อนุสรณ์ของความโหดร้ายค่ะ


โดย: aor_wal วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:08:41 น.  

 
สวัสดีครับ

ขอเกาะไปเที่ยวอิตาลีแบบฟรีๆด้วยคน

ยังไม่เคยไปเลยครับ ที่ยุโรปนี่น่าสนใจมากกว่าฝั่งอเมริกา มีสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมที่น่าชมมากมาย


โดย: chaangfun2020 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:46:27 น.  

 
ปรบมือให้กับรายละเอียดค่ะ รู้สึกจะได้รับความรู้เพิ่มขึ้นอีกนะคะ คุณยุทธชัยชื่นชมคุณมากมายเลยล่ะค่ะ คราวหน้าคงมีโอกาสร่วมทริปกันอีกนะคะ คุณมีเฟสบุคมั้ยคะ


โดย: สุธิดา IP: 203.130.141.202 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:14:42 น.  

 
ตามมาอ่านแล้วเด้อ อนุญาตสะกดอย่างนี้จ้า
ตกลงสองสาวนั่น พึ่งได้ หรือคุณวิกเพิ่งได้ 555




โดย: หอมกร วันที่: 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:08:39 น.  

 
ได้รับคำเชื้อเชิญจาดหัวหน้าทัวร์คุณแนน ให้มาอ่านบล็อกของคุณwicsir ซึ่งเพิ่งกลับจากทริปเดินทางยุโรปตะวันออกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณแนนเป็นคนเก่งและเป็นมิตรนะค่ะ


โดย: Sceptre_man IP: 171.98.70.209 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:2:39:38 น.  

 
เช่นกันครับ Sceptre_man
ขอบคุณที่แวะมานะครับ...


โดย: wicsir วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:7:23:59 น.  

 
มาแล้วมาแล้ว มาเกาะทัวร์ยุโรปมั่ง ช้าไปหน่อยแต่คุณวิคทำรอยไว้ชัดเจนย้อนมาจุดเริ่มต้นได้ไม่ยาก ตอนนี้ปาไปหกเจ็ดตอนแล้ว โฮะๆ

กรุ๊บใหญ่มากเลย รวมไกด์แล้วปาไป 40คนแต่เห็นบอกว่าเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาคงเพราะว่าความน่ารักของสองไกด์สยบความวุ่นวายได้นั่นเอง อิอิ

เห็นแผนที่ประเทศประกอบคำอธิบายroute แล้วเห็นภาพทัวร์อิตาลีครั้งนี้ชัดเจนเลย คนส่วนใหญ่คงไปเริ่มกันที่โรมใช่มั้ยครับ มีประตูชัยคล้ายที่ฝรั่งเศสด้วย

โคลีเซี่ยมดูภาพนอกมันเล็กๆไงไม่รู้แต่ว่าพอดูภาพด้านในต้องยอมรับเลยว่ามีมนต์ขลัง รู้สึกสะท้านถึงความยิ่งใหญ่เลย


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:11:03:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.