....OUR FAMILY'S JOURNEY....
::ซาปา..น้ำตกซิลเวอร์..ลาวไก ในวันที่แสนหนาว:: (ซาปา ฮานอย และฮาลองเบย์ 3)






อ่านตอนที่ 1 : จากสุวรรณภูมิ - ซาปา
อ่านตอนที่ 2 : ฝ่าหมอก ลุยฝน ทนหนาวที่ Cat cat ซาปา-เขาฮามรอง




มี 3 เมืองในอินโดจีนที่มีความคล้ายกันอยู่หลายอย่าง แต่ที่เหมือนกันมากที่สุดคือเป็นเมืองที่ไม่ติดทะเล แต่อยู่ในหุบเขา-ภูเขสูง ที่ผู้คนชอบไปพักผ่อนกัน เพราะเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยงาม และเป็นเมืองที่ยังไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากมายนัก....เมืองที่ว่า คือ ปาย - ในบ้านเรา วังเวียง -ในลาว และเมืองซาปา-ในเวียตนาม ซึ่งผมเคยไปเยือนมาแล้ว 2 เมือง คือ ปายและวังเวียง และไปมาเมืองละ 2 ครั้งด้วยซ้ำไป.... ก็ยังเหลือแต่เมืองซาปานี่แหละที่ยังไม่เคยเห็น นี่จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ผมอยากมาที่นี่มากๆ เมื่อคืนที่สถานีรถไฟ ก็เจอฝรั่งมากมายกำลังเดินทางมาที่นี่เช่นกัน ที่ซาปานี่ค่อนข้างจะหนาวกว่า 2 เมืองที่ว่ามา เมื่อปลายปีที่แล้วที่นี่หนาวจัดจนหิมะตกด้วยซ้ำไป







โบถส์คาทอลิกในเมืองซาปา






เมื่อเข้ามาเห็นตัวเมืองของจริง ก็ได้แต่บอกว่า มิน่าล่ะคนเขาถึงอยากมากันจัง ซาปาเป็นเมืองเล็กๆ ถ้าเป็นสาว ก็กำลังแรกรุ่น เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่ได้ทำให้เสียความบริสุทธิมากนัก อาคารเดิมๆแบบโคโลเนียลยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ผู้คนในเมืองนี้มากมายด้วยชนเผ่าต่างๆ เดินกันเต็มถนนไปหมด.... ว่ากันว่าเมืองนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ เพราะอากาศเย็นทั้งปี จะมีก็แต่เตาผิงเท่านนั้นที่จำเป็น...








บ้านเรือนในซาปา ส่วนมากปลูกตามไหล่เขา





ซาปา (Sapa)

ซาปา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศเวียตนาม ใกล้กับชายแดนจีน ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 350 กิโลเมตร อยู่ในเขตจังหวัดลาวไก สูง 1,650 เมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้เพาะปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาวได้ดี และเป็นดินแดนแห่งขุนเขาที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศเวียตนาม








ร้านขายสินค้าตามถนน












ในอดีตเมืองซาปาเคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม ในปี พ.ศ. 2465 และได้มีการสร้างสถานีภูเขาขึ้น เพราะด้วยเมืองซาปาโอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี ชาวเวียตนามและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในฮานอย ก็จะหาเวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุดมาที่นี่ และยังมีการทำนาขั้นบันไดมากมายท่ามกลางลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างสวยงาม








โรงแรม Holiday Sapa Hotel






เมื่อซาปาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็มีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว มีอาคารสมัยใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก มีโรงแรม ร้านอาหารแบบตะวันตก และร้านคาราโอเกะ จุดเด่นอีกแห่งของเมืองซาปาคือ โบสถ์คาทอลิก ในใจกลางเมือง








ราตรีที่ค่อนข้างเงียบในหน้าหนาว






เราไม่ได้เข้าเช็คอินที่โรมฮอลิเดย์ซาปาในช่วงเช้าที่มาถึง แต่เราเอาของไปฝากไว้ก่อน เจ้าหน้าที่ทัวร์พาเราไปตระเวนตามที่ต่างๆก่อน คือที่หมู่บ้านแค๊ทแค๊ท และเขาฮามรอง.... วันนี้ทั้งวันหมอกปกคลุมทั่วเมืองซาปา ไม่เจอแสงอาทิตย์เลย เลยทำให้อากาศที่นี่หนาวเย็นลงไปอีก หลายๆคนที่เตรียมเสื้อกันหนาวประมาณว่าเอาอยู่แบบอากาศในบ้านเรา ต้องเปลี่ยนใจหาซื้อเสื้อกันหนาวกันเพิ่มจ้าละหวั่น แต่ราคาเสื้อกันหนาวเลียนแบบที่นี่ถูกมาก ทำได้เหมือนจริงอีกต่างหาก เพียงแค่วัสดุภายในอาจจะไม่มีเหมือนของแท้ เช่นยี่ห้อ Columbia ที่นี่ถูกมากๆ

โรงแรมระดับ 3 ดาวที่เราไปพักสร้างอยู่ริมหน้าผา เวลาเราเข้าไปชั้น Lobby จึงเท่ากับชั้นที่ 5 ของโรงแรมแล้ว หลายๆแห่งคงเป็นเช่นนี้ เวลาขึ้นลงลิฟท์ต้องอ่านป้ายให้ดีว่า จากชั้นที่เราอยู่จะขึ้นหรืองลง







เมนูอาหารเอามาตั้งไว้หน้าร้าน






ว่าเรื่องของโรงแรมต่อนิดหนึ่ง คือในห้องพักและชั้นลอบบี้ จะมีเตาผิงให้ อันนี้ช่วยได้เยอะเลยล่ะ เวลาเราเจออากาศหนาวๆจากด้านนอกมา ได้อังมือให้เลือดสูบฉีด อันนี้มีประโยชน์มาก.... ในห้องอาจจะมองหาเครื่องทำความร้อน (Heater) ไม่เจอ ที่โรงแรมนี้เขาใส่เจ้า Heater ไว้ในที่นอน ต้องเปิดสวิทซ์เพื่อให้เจ้าฮีตเตอร์นั้นทำงานครับ.... ห้องโดยทั่วไปก็พอใช้ได้ ส่วนอาหารเช้า เราอย่าไปคาดหวังอะไรมากนักสำหรับโรงแรมในจีนและเวียตนาม ก็เน้นไปทางข้าวต้มและก๋วยเตี๋ยว เมื่อเทียบกับบ้านเราแล้วยังห่างไกลกันมากครับ

วันนั้นเราเข้าโรงแรมเอาบ่าย 4-5 โมง และนัดกันเดินไปทานมื้อเย็นที่ร้าน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร แต่เป็น 100 เมตรที่ทรมานมากเมื่อเราต้องเดินฝ่าอากาศใกล้ๆจุดเยือกแข็งไป หลังมื้อเย็นเราไปเดินที่ถนนคนเดิน แต่เดินได้ไม่นามต้องรีบเผ่นกลับไปซุกผ้าห่มบนเตียงที่มีฮีตเตอร์ เพราะหนาวมากๆๆๆ..... เสียดาย ที่ว่าไม่ได้ออกไปเก็บความรู้ไนท์ไลฟ์มาฝากคุณๆ









บน : นักท่องเที่ยวกำลังถูกแย่งขายสินค้าให้ ล่าง : ถนนคนเดินที่ซาปา






ที่หน้าโบสถ์คาทอลิกจะมีนักท่องเที่ยวไปเก็บภาพตรงนั้นมากมาย และที่ตามมาคือ การเข้าไปเสนอขายสินค้าพวกของฝากจากชาวเขา เมื่อใครทำท่าจะซื้อ ทีนี้แหละเข้ามารุมเราเลย.... ส่วนท่านที่จะซื้อสินค้าพวกเสื้อผ้า ก็ใช้วิชาต่อรองกันมากๆหน่อย ว่ากันว่า 30% เลยนะครับ

บริเวณนั้นยังมีชาวเขาสาวๆแต่งตัวเพื่อถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยว ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องจ่ายเท่าไหร่...เพราะคนที่ตามไปไม่เปิดโอกาสให้ได้ถ่ายกะสาวซักที....

ถ้าคุณๆไม่มีกล้อง จะให้สาวชาวเวียต ซึ่งอยู่บริเวณนั้น ถ่ายให้ก้ได้นะครับ... ที่อีกด้านของโบสถ์ มีอนุสาวรีย์อะไรซักอย่าง อ่านไม่ออก อยู่อีกฝั่งของถนน ที่นี่ก็มีสาวๆชาวเขามารอถ่ายภาพกับคุณๆด้วยเช่นกัน

เสียดายวันที่เราไปโบสถืไม่เปิดให้เราเข้าไปชมด้านใน








ชีวิตที่ต้องสู็ของเด็กชาวเขา








บน : ชาวเขาแต่งตัวเพื่อถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยว ล่าง : สาวชาวเวียตรอถ่ายภาพให้นักท่อเที่ยว







น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Falls)

ออกจากเมือง ซาปาไปจะอยู่ริมถนนทางไปไลโจว (Lai Chau) น้ำตกซิลเวอร์ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม อยู่ริมถนน และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไกล มีความสูงประมาณ 100 เมตร ไหลเลาะลงมาจากหน้าผาหิน นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปชั้นบนของน้ำตกได้แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมประมาณ 3,000 ดอง ความสูงของน้ำตกซิลเวอร์นี้ มีทั้งหมด 9 ชั้น






ถนนที่หน้าน้ำตกซิลเวอร์





จากถนนใหญ่เราจะต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อย พอได้เหนื่อยเลยล่ะ แต่จะมีที่พักให้เป็นระยะๆ ไม่เป็นแบบรวดเดียวเหมือนน้ำตกเหวสุวัติที่เขาใหญ่ แต่ทัวร์ส่วนมากเราจะเดินไปถึงแค่สะพานประมาณ 200 - 300 เมตรตามทางขึ้นเขา ก่อนถึงสะพานเหล็ก จะมีลานให้ถ่ายภาพและมองเห็นสะพานชัดเจน

ช่วงที่เราไปแม้จะเป็นช่วงหน้าหนาว (หรือหน้าแล้ง) แล้ว แต่ยังมีน้ำตกมากอยู่ วันนี้อากาศที่น้ำตกหนาวเย็นมาก รีบเดิน รีบถ่ายภาพ แล้วกลับลงไปผิงไฟต่อ...หนาว เลยจากน้ำตกนี้ไปไกด์บอกว่าเป็นเส้นทางไปสู่ยอดเขา ฟาน ซี บัน ที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในอินโดจีน คือสูงประมาณ 3,150 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ปกติจะมองเห็นจากถนนบริเวณน้ำตก แต่วันนี้อากาศปิด เลยเจอแต่หมอก







ต้องเดินขึ้นไปด้านบนอีก








วันนี้เราจะเดินแค่สะพานนี้ ไปต่อคงไม่ไหวเพราะหนาวเหลือเกิน










บน : ไปชมน้ำตกท่ามกลางความหนาวเย็น...ต้องถ่ายภาพเก็บไว้หน่อย ล่าง : มองลงไปด้านล่าง













ขึ้นมาที่ลานจอดรถ เจอหนุ่มสาวชาวเวียต เลยขอถ่ายภาพเอาไว้





ขาลงเราเดินออกไปที่ลานจอดรถ จะมีร้านค้าขายของเช่น พวกเสื้อผ้า ผ้าคลุมเตียง และอะไรอีกหลายอย่าง รวมทั้งของที่ระลึกด้วย ที่นี่ถ้าคุยกันถูกคอ (ต่อรองกันดีๆ) ก็จะได้ของถูก เวลาจะซื้ของลองชำเลียงซ้าย-ขวาดูเพื่อนๆเราหน่อย ถ้าราคาพอยอมรับได้ ก็ซื้อกันหลายๆคน จะได้ของถูกทั้งเงินและใจ....







เด็กน้อยคนนี้ทนหนาวขายของอยู่กับแม่ที่ลานจอดรถ








กลับเข้าไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านเย้าแดงในซาปา





หลังจากชมน้ำตกเสร็จ เราเดินทางกลับเข้าไปในซาปา เพื่อทานมื้อเที่ยง ก่อนเดินทางต่อไปที่ลาวไก ผ่านหมู่บ้านตาฟิน (Taphin Village).... ร้านอาหารเย้าแดง ก็คงเป็นอีกหนึ่งร้านที่ทัวร์ไทยไปลง เข้าไปเจอพนักงานต้อนรับแต่งกายโพกผ้าแดงแบบชาวเขาเผ่าเย้าแดง ร้านอาหารจัดบนบ้าน หรือชั้นที่ 2 มีเตาผิงขนาดใหญ่สุมฟืนไม้สนไว้ ให้ลูกค้าได้ผิง ตอนเข้าร้านใหม่ๆ... อาหารวันนั้น รสชาดใช้ได้ ถือโอกาสถ่ายมาให้ชมเป็นตัวอย่าง

การเดินทางในเวียตนาม เรื่องห้องน้ำ ห้องท่ายังคงเป็นปัญหาอยู่ เพราะฉะนั้น ถ้ามีโอกาสเข้าร้านอาหาร ควรจัดการธุระให้เรียบร้อย จะไปหวังแวะปั๊มแบบบ้านเรา หมดสิทธิครับ เพราะปั๊มน้ำมันที่เวียตนามห้องน้ำไม่ค่อยสะอาด และมีไม่มากห้องด้วย..... ร้านอาหารเย้าแดงนี่ถือว่าใช้ได้ครับ เข้าไปในห้องน้ำ มีผ้าอุ่นๆไว้ให้เช็ดมือด้วย








บน : พนักงานชาวเย้าแดง ล่าง : ฮีตเตอร์แบบดั้งเดิมที่ร้านอาหาร







มื้อเที่ยงที่ร้านอาหารเย้าแดง








เด็กน้อยน่ารักแถวๆร้านอาหาร








หมูบ้านตาฟิน (Taphin Village)

หมู่บ้านนี้อนยู่ทางที่จะกลับไปลาวไก เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าเย้า อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจะทำนาแบบขั้นได บ้านแต่ละหลังจะปลูกห่างกันออกไป 10 - 20 เมตร มีถนนเดินผ่านหมู่บ้านเพื่อให้เราได้ชมวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของพวกเขา ในนั้นมีโรงเรียน สถานพยาบาล และมีครูสอนศาสนาเข้าไปด้วย

รถจอดที่ลานจอดในหมู่บ้าน จะมีกลุ่มชาวเย้าโพกหัวแดง (เย้าแดง) มารุมล้อมเรา และบอกชื่อเสียงเรียงนามว่าเขาชื่ออะไร บ้านอยู่ตรงไหน ประมาณว่าเริ่มทำความสนิทสนมกับเราว่างั้นเถอะ.....พวกเธอเหล่านั้นสามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วย คืออยู่ในระดับปานกลางถึงดีเลยล่ะ...






ไปเดินชมหมู่บ้านตาฟิน (Taphin Village).. เดินไปเป็นกลุ่มนั่นต้องการขายของนะ





พวกเธอต้องอาศัยเซ็นท์ว่าจะประกบใครแล้วจะได้ขายของ อันนี้เรื่องสำคัญ.... ขณะพาเราเดินที่จะไปดูถ้ำตรงอีกด้านหนึ่งของหมู่บ้าน อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 -700 เมตรจากที่จอดรถ พวกเธอก็ตีสนิทเราด้วยวิธีการชวนคุยเรื่องต่างๆ เป้าหมายคือขายสินค้า...สุดท้านเราเองก็โดนไป 20 ดอลล่าจนได้

ระหว่างทางจะมีคนอาสาพากลุ่มเราเข้าไปชมบ้านเขา ก็เหมือนชาวเขาในบ้านเรานี่แหละครับ ในครัวเขาจะถนอมอาหารด้วยการรมควันเก็บไว้บนขื่อเหนือเตาไฟ พื้นบ้านเป็นดินอัดแน่น วางเตียงไว้บนนั้น ส่วนของใช้แขวนไว้บนที่สูง...











บริเวณรอบๆหมู่บ้านเป็นไร่นา ค่อนข้างจะอุดมสมบูรณ์แม้ยามหน้าแล้งที่เราไป ยังมีน้ำไหลผ่านหมู่บ้านอยู่ ตามเชิงเขายังเป็นต้นสนเมืองหนาวอยู่ทั่วไป (ไม่ใช่สน 2 ใบแบบใน อช.น้ำหนาวบ้านเรา) แสดงว่าอยู่บนที่สูง ทางเข้าหมู่บ้านยังไม่ได้รับการพัฒนา แต่เชื่อว่าไม่นานคงเป็นถนนลาดยางอย่างดี.







สองคนนี่ประกบเราแจ..พูดอังกฤษได้ดีด้วยนะนั่น









บน : หนูน้อยที่ทำงานตั้งแต่เด็ก ล่าง : ผิงไฟรอนักท่องเที่ยว






หลังจากเดินชมหมู่บ้านตาฟินแล้ว เราออกเดินทางกลับเมืองลาวไก เพื่อชมเมืองและทานมื้อเย็นที่นั่นก่อนจะกลับฮานอย


การได้มาเยี่ยมซาปาครั้งนี้ของผม ถือว่ามีโชคเพราะเจออากาศหนาวๆ แบบที่ซาปาควรจะเป็น แม้ว่าจะไม่ได้ภาพถ่ายสวยๆ เหมือนบางทริปที่เขามา แต่นี่คือซาปาในรูปแบบของมันเอง คือต้องเย็น หนาว อะไรประมาณนั้น... เช่นเดียวกับที่เราอยากไปเยือย ปายในหน้าหนาวนั่นแหละ

ซาปาในวันนี้เริ่มจะเป็นสาวเต็มตัว นักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ อาหารการกินเริ่มแพงขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเป็นธุระกิจหมดแล้ว และอีกหน่อยคงหนักหนาสาหัสกว่านี้เป็นแน่ ซาปาเป็นเมืองไม่กว้างนัก เราสามารถเดินเที่ยวได้ หรืออย่างเก่งก็เช่าจักรยานปั่นเล่นก็ได้ ถ้าเผื่อเรามีเวลามากพอ...เหนื่อยก็มีพวกนวด (Massage) มากมายที่นี่.... ยอมรับว่าที่นี่น่ามาพักผ่อนจริงๆ ลาก่อนซาปา..







ข้ามแม่น้ำแดงไปตลาดลาวไก ใกล้แผ่นดินจีน




ลาวไก (Lao Cai)

เป็นจังหวัดหนึ่งของเวียตนามที่อยู่ติดกับมณฑลยูนนานทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ลาวไกมีพื้นที่ประมาณ 6,384 ตร.กม. พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา เมืองหลักของจังหวัดลาวไกคือ ลาวไก และเมืองซาปาที่ขึ้นชื่อเรื่องรีสอร์ท ที่พักบนเขา ลาวไกมีประชากร 602,301 คนจากการสำรวจในปี 2008






หน้าสถานีรถไฟลาวไก เป็นที่จอดรถยนต์โดยสารด้วย





เรากลับจากซาปาถึงลาวไกเอาตอนบ่ายๆ แล้วเดินข้ามสะพานเก่าข้ามแม่น้ำแดงไปทางผืนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งส่วนนี้ยังคงเป็นดินแดนของเวียตนามอยู่ ตลาดที่นี่จะขายพวกผลไม้จากประเทศจีน และของใช้ต่างๆจากเวียตนาม แต่ที่แปลกคือที่นี่มีกระทิงแดงกระป๋องจากไทยไปขายด้วย...








บน : ชายแดนเวียตนามฝั่งลาวไก ล่าง : ที่ชายแดนจีนเวียตนาม....ฝั่งที่เห็นคือจีน






ตรงชายแดนจีน-เวียตนามที่เราไปดู จะเป็นสะพานที่เรียกกันว่าสะพานมิตรภาพ จีน-เวียตนาม แม้แถวๆนี้จะเคยเกิดสงครามสั่งสอนกันมาคราวหนึ่ง แต่ด้วยระบบการปกครองที่เหมือนกัน ปัจจุบันจึงเหมือนเป็นญาติพี่น้องกันเหมือนเดิม เห็นผู้คนเดินข้ามสะพานไปมาหาสู่กันเป็นปกติ เราต่างชาติก็ดูได้แค่ตรงฝั่งแม่น้ำแค่นั้นเอง เพราะถ้าไปฝั่งจีนต้องมีวีซ่าด้วย..






เมืองลาวไกยามค่ำคืน...ถ่ายใกล้ๆกับสถานีรถไฟ





ชมเมืองลาวไกพอประมาณ ก็กลับไปที่โรงแรมหน้าสถานีรถไฟ เพื่อทานมื้อเย็น ก่อนที่จะลากกระเป๋าเข้าไปขึ้นรถเพื่อกลับกรุงฮานอย ซึ่งรถกำหนดออกจากลาวไกประมาณ 20.30 น. ถึงฮานอยประมาณตีห้า

นับเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกครั้งหนึ่งในการเดินทาง เพราะอีกไม่นานจังหวัดลาวไกและเมืองซาปา คงคลาคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ โดยเฉพาะจากเมืองไทย...

รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีตามกำหนดเวลา เรานั่งดื่มเบียร์เวียตนามไป 2 กระป๋องก่อนจะเอนตัวนอนหลับไป แล้วเจอกันใหม่ที่ฮาลองเบย์นะครับ







ลากันด้วยภาพโบสถ์คาทอลิคใจกลางเมืองซาปาครับ






______________END_____________












Create Date : 17 มกราคม 2555
Last Update : 24 สิงหาคม 2556 17:55:18 น. 31 comments
Counter : 11562 Pageviews.

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ WIC

แค่เห็นรูปก็หนาวแล้วค่ะ หมอกจัดมากๆๆ

ยิ่งเห็นยิ่งอยากไปซาปา ชอบๆ
อากาศเย็นๆ แบบนี้ได้กับข้าวร้อน ชาร้อนๆ เข้ากันดีนะคะ

เห็นว่าห้องน้ำแย่หรอคะ ถ้าเทียบกับที่เมืองจีนอันไหนดีกว่ากันคะ จะได้ทำใจไว้ก่อนอ่ะค่ะ 55

ลาวไกเหมือนเมืองจีนมากๆเลยอ่ะคะพี่WIC


โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:9:43:32 น.  

 
ท่าทางจะหนาวมากนะคะ

แต่ว่าเด็กน้อยที่ช่วยแม่ขายของแก้มแดงเป็นพวงน่าฟัดมากกกกกกกก


โดย: wendyandbas วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:10:19:04 น.  

 

[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]


แวะมาทักกันจ้าคุณวิก
อากาศหนาวเย็นตลอดปี สงสารเด็กน้อยแก้มแดงเลยเชียว




โดย: หอมกร วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:10:27:41 น.  

 
แวะมาทักทายครับ บรรยากาศน่าจะดีมากๆแน่เลย เห็นภาพแล้วอยากกลับไปเที่ยวซาปาอีก


โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:10:33:07 น.  

 
สวัสดีเช้า วันอังคารค่ะ คุณ Wic

ชอบคำว่า ... " วันที่แสนหนาว" จังเลย ..

โรแมนติกจัง คำนี้อ่ะค่ะ ..

ตามมาชมบรรยากาศหนาวๆ ด้วยค่ะ

ช่วงนี้ระยองร้อนมาก ฝนก็ตก แล้วก็ร้อน สุดๆ เลยค่ะ ..

แล้วตกลง คุณ wic ได้ไป เจียงใหม่ ก่อเจ้า..


โดย: Nongpurch วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:11:25:17 น.  

 
หนาวววววว ไปด้วยเลยค่ะ หมอกลงจัดมาก
เด็กๆแก้มแดงเพราะอากาศหนาว น่ารักจัง ^^


โดย: wilasinee_kae วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:15:54:39 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ Wic
ตามไปเที่ยวด้วยคน
ภาพสวยมากๆ ขอบคุณที่นำมาให้ชม
มีความสุขมากๆ
ฝันดีนะคะ


โดย: pantawan วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:2:25:15 น.  

 

emoemoemoemo
แมงสาปไม่ใช่ศาล คุณวิกก็อย่าไปใส่ใจเลย ทุกอย่างว่าตามเหตุผล
ช่างเถอะมีการตรวจสอบก็ดี จะได้ดูความสมเหตุสมผลจ้า
ป.ล. ขอบคุณที่นำรูปสวยๆ มาฝากกัน คมชัดมากๆ



โดย: หอมกร วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:9:19:05 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอ๊อด
ขอเปลี่ยนคำพูดใหม่ดีกว่าว่า
ซาปาเหมือนดอยปุยเชียงใหม่
ซาปาน่าไปเดินเที่ยวกว่าเยอะ ฮี่ๆๆๆ
ด้วยสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้าง อาคารบ้านเรือน
ที่ได้รับอิทธิพลมาจากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส

เคยได้ยินพี่ที่นับถือท่านหนึ่งบอกว่า
ถ้าไปถึงซาปา ต้องอย่าลืมทานช็อกโกแลตสด กับอะไรซักอย่างจำไม่ได้ค่ะ
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะทับทิมนะคะ บอกว่าที่นั่นอร่อยเหาะเลย
ไม่รู้ว่ากรุ๊ปคุณอ๊อดไป มีใครได้ทานสองอย่างนี้บ้างรึเปล่าค่ะ


โดย: JinnyTent วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:15:31:07 น.  

 

วันนี้ชอบหลายภาพค่ะ ได้เห็นบรรยากาศโดยทั่วไป เด็กๆ น่ารักค่ะ

ที่ไหนที่เป็นที่รู้จักแล้ว มีนักท่องเที่ยวเข้าไปแล้ว ดูเหมือนๆ กันนะคะ เข้ามารุมล้อมอ้อมหน้าอ้อมหลัง ถ้าทำท่าว่าจะซื้อ...เค้าเองก็คงต้องปรับตัวกับชีวิตความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไปเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ อยู่ที่เค้านะคะ ว่าจะเปิดรับ...อะไรได้มากแค่ไหน เพราะนักท่องเที่ยวที่ไป เพื่อต้องการดูอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เค้าอยู่ได้ เราเองก็สนุก และสะดวกสบายประมาณนึงเนาะ

เสียดายเลยไม่มีภาพถ่ายคู่กับสาวนะคะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:15:40:20 น.  

 
ชอบบรรยากาศเมืองซาปาค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:15:49:59 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่า
ได้ยินชื่อลาวไกมานานแล้ว
เพิ่งได้มีโอกาสเห็นจริงๆรอบนี้แหละค่ะ


ปล เพลงเพราะจัง ชอบๆค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:22:22:22 น.  

 
หวัดดีค่าคุณวิค

เห็นภาพเด็กน้อยแก้มแตกแดงไปหมดเลย
หลายต่อหลายภาพ ชี้ชัดว่าอากาศหนาวมากเลยค่ะคุณวิค โห อย่างนี้ไปเที่ยวน้ำตก
ละอองน้ำก็กระเด็นออกมายิ่งจะหนาวไปกันใหญ่นะคะเนี่ย
ขนาดควันออกจากปากตอนพูดแล้วด้วย บ้านเรายังหนาวไม่เท่านี้เลย บรื้อสส

หนาวได้ใจจริงๆค่ะ







โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:22:59:24 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะ
ตามมาเที่ยวต่อค่ะ เห็นหมอกแล้วคงหนาวน่าดู


โดย: luckyfarm6662 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:23:59:49 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันพฤหัสบดี
ตามคุณ wicsir ไปเที่ยวซาปาค่ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:6:58:37 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักกันจ้าคุณวิก ไปเยี่ยมอีกสองเมืองมาแล้วนะ
ป..ล. หลังๆ ศาลปกครองวางบทบาทตนเองได้ดี
ไม่ค่อยก้าวล่วงอำนาจบริหารเท่าไหร่จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:8:49:04 น.  

 
มาตามไปเที่ยวขุนวาง ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:14:19:22 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


幸福如意
(ซิ่งฝูหรูอี้)
มีความสุขสมปรารถนาค่ะคุณ wicsir


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:6:38:32 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:9:26:24 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ขอตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

บรรยากาศดีจังเลย

ขอบคุณที่แวะไปทักทายกกัน

เอา ขนม อร่อยๆ มาฝากค่ะ



ขอให้มีความสุขตลอดปีนะคะ


โดย: iamorange วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:9:51:35 น.  

 
สวัสดี ซาปา.. สวัสดี ฮานอย
สวัสดี พี่ wic
โอ้โห้..บรรยายกาศดีมากเลย รายละเอียดเพียบ ภาพสวยเช่นเคย
น่าไปเที่ยวจังเลยพี่ wic อากาศคงหนาวสมใจแน่เลย
ไม่รู้ว่าเหมือนดาลัทหรือเปล่าพี่ หนาวทั้งปี ดูจากภาพหมอกเพียบเลย
อยากรู้จังจากสนามบินฮานอย เข้าเมืองวิธีไหนบ้างพี่ wic
ขอบพระคุณพี่ wic ที่เก็บรายละเอียดและภาพสวยๆ มาฝากกัน
เดือนหน้ามีนัดกับลุงโฮ....เหมือนกันลังเลอยู่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือ
ออกไปบุกเที่ยวดาลัท มุ่ยเน่ ดีเวลาน้อยคงได้แค่ในเมือง
แล้วจะเก็บภาพมาฝากจ๊ะ


โดย: *SUPRA* วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:10:41:00 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาทักทายกันในเทศกาลตรุษจีนจ้าคุณวิก
โหวตให้กับความโดดเด่นด้วยเนื้อหาสาระการท่องเที่ยวเด้อ



โดย: หอมกร วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:11:07:15 น.  

 
สวัสดีตอนสายๆค่ะ
ตามมาเที่ยว ชอบภาพที่ 2-3-4 มากๆค่ะ
เหมือนแถบยุโรปเลย น่าอยู่จัง
ฝรั่งก็นิยมเที่ยวแถบนี้เหมือนกันนะคะ
เห็นในภาพ เยอะเหมือนกัน
ชมแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้มาชมใหม่ค่ะ บาย

เทคแคร์นะคะ


โดย: mambymam วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:11:38:55 น.  

 


ศุกร์สวัสดีวันสีฟ้าค่ะ คุณ wic




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:12:44:10 น.  

 
บรรยากาศหม่นๆ คุณ wicsir ยังถ่ายรูปออกมาสวย
ชวนคนชมให้ได้อยากไปมากๆ เลยค่ะ
ทั้งที่ปกติวาจะชอบแดดจัดๆ
ช่วงนี้มีเดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ ใช่ไหมคะ
วาคงได้ชมภาพและเรื่องท่องเที่ยวอีกเยอะเลย
คุณwicsir สบายดีนะคะช่วงนี้


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:13:04:12 น.  

 
แวะมาชมค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 21 มกราคม 2555 เวลา:8:21:39 น.  

 

 
ซินเจียอยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้



เฮงๆตลอดปีนะคะ


โดย: mambymam วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:20:33:44 น.  

 
สวัสดียามค่ำคืนค่ะ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้

เอา ยำทะเล รสแซบ มาฝากค่ะ




คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: iamorange วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:20:57:11 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆ ครับคุณ wicsir .....

เมืองซาปา ได้ยินชื่อมานานแล้วครับ เห็นว่าหลายๆ คนอยากไปเที่ยวที่นี่กันเยอะ .....

บรรยากาศการท่องเที่ยวซาปา ดูจากภาพแล้ว คึกคักไม่ต่างไปจากปายบ้านเราเลยนะครับ แต่ถ้าเทียบกับวังเวียง ผมว่าวังเวียงน่าจะยังเป็นธรรมชาติมากกว่าหรือเปล่าครับ .....

ชอบภาพเด็กๆ ครับ ขึ้นชื่อว่าเด็ก ไม่ว่าจะประเทศไหนๆ ก็น่ารักทั้งนั้น .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:1:20:41 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



祝你顺利 (จู้หนี่ซุ่นลี่)
ขอให้ประสบความสำเร็จในทุก ๆ เรื่องค่ะคุณ wicsir


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 23 มกราคม 2555 เวลา:6:20:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.