....OUR FAMILY'S JOURNEY....
++ อิ น เ ท อ ร์ ล า เ ค่ น ...เ ย็ น จ ริ ง ๆ ++








อ่านเรื่อง : ต้นฤดูร้อนที่ เยอรมัน..ออสเตรีย..สวิส ในบล๊อก



บล๊อกเป็นเรื่องราวของการเดินทางต่อเนื่องในยุโรปของเรา โดยเริ่มต้นที่ประเทศอิตาลีซึ่งเราได้นำเสนอไปแล้ว และตอนนี้ก็มาถึงสวิสแล้วครับ (อ่านเรื่อง อิตาลี)

บ่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2012 เป็นช่วงเวลาและวันสุดท้ายที่เราอยู่ในประเทศอิตาลี ที่เมืองมิลาน ก่อนที่เราจะออกจากมิลานมุ่งสู่ทางเหนือ ผ่านเมืองตากอากาศที่สำคัญของอิตาลี คือเมืองโคโม ที่ว่ากันว่าชาวอิตาลีมักจะมาซื้อบ้านหลังที่ 2 ที่นี่ ไว้เป็นที่พักผ่อนตากอากาศกัน

บล๊อกนี้ทั้งบล๊อกเราจะพาคุณๆเดินทางข้ามประเทศจากอิตาลี สู่ สวิตเซอร์แลนด์กัน พาชมบรรยากาศตามเส้นทางที่ผ่าน แม้จะเก็บภาพขณะที่รถวิ่งค่อนข้างยาก กอรปรกับบรรยากาศแบบครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็ตาม แต่นำมาให้ชมพอได้ไอเดียกันครับ






เข้าเขตสวิส..เจอฝนและหิมะกำลังตก





ช่วงเวลาเดินทางยังคงเจอฝนอย่างหนักตลอดทาง ทำให้ถ่ายภาพไม่ค่อยได้ เพราะหน้าต่างรถที่กล้องจะส่องลอดออกไป มีไอน้ำจับเต็มไปหมด มีบางช่วงเท่านั้นที่เราพอจับภาพมาได้






เส้นทางจากมิลาน - อินเทอร์ลาเค่น




ตามเส้นทางที่ผ่านช่วงนี้ ส่วนมากจะเป้นภูเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะใกล้เทือกเขาแอลป์เต็มที่ ระหว่างภูเขาจะเป็นไร่ และทะเลสาบ บ้านเรือนสร้างเรียงรายตามไหล่และยอดเขา (แปลกว่าเขาจะมีกฏหมายห้ามไม่ให้บุกรุกภูเขาแบบบ้านเราหรือเปล่าน๊า..)







บางช่วงเห็นน้ำตกที่เกิดจากหิมะละลาย





ถึงด่านพรมแดนระหว่างประเทศ เรานั่งรอบนรถ ปกติจะเห็นเจ้าหน้าที่ ตม.ขึ้นมาดู Passport แต่วันนี้ไม่มี อาจจะเป็นเพราะว่ากฏการข้ามพรมแดนเปลี่ยนไป ให้ความสะดวกมากยิ่งขึ้น หรือเพราะวันนั้นฝนตกหนัก... แต่ก็ไม่น่าจะเป็นกรณีหลัง เพราะตอนข้ามพรมแดนสวิสไปฝรั่งเศสที่บาเซิลก็ไม่ขึ้นมาตรวจเหมือนกัน (จขบ.เคยเจอตรวจตอนข้ามพรมแดนเยอรมันเข้าสวิสเมื่อมาครั้งก่อน ในปี 2006) .... วันนั้นเราจึงผ่านเข้าสวิสแบบไม่เสียเวลามากนัก



รู้จักสวิตเซอร์แลนด์กันหน่อย

“..ประวัติศาสตร์สวิตเซอร์แลนด์ก็เหมือนกับอีกหลายๆประเทศในยุโรป ที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมัน..”

โดยชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้คือ เผ่าเฮลเวติ (Helvetii) อันเป็นที่มาของชื่อประเทศ ชนเผ่าเบอร์กันเดียน (Burgundian) ที่มีเชื้อสายฝรั่งเศสอาศัยอยู่ทางตะวันตก ชนเผ่าอลามานี่ (Alamanni) เชื้อสายเยอรมันอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งชนเผ่าเคลท์ (Celt) อาศัยอยู่ทางตะวันอกเฉียงใต้ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้ปัจจุบันทุกวันนี้สวิสจึงเป็นประเทศที่ประกอบด้วยชนหลายเชื้อชาติ จนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 10 ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยปัจจุบันนี้หลายเมืองยังปรากฏสิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลืออยู่ไว้ในเขตเมืองเก่าเช่นเดียวกับที่เราพบเห็นในอิตาลีหรือฝรั่งเศส

ต่อมาจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมันได้มอบอิสรภาพให้กับรัฐต่างๆ ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีอิสระในการปกครองตนเอง เมืองในเขตสวิสก็มี อูรี (Uri) ชวิซ (Schwyz) และอุนเทอร์วันเดิน (Unterwalden) ภายหลังอาณาจักรโรมันได้เริ่มเสื่อมอำนาจลง ราชวงศ์ฮัสบูร์ก แห่งออสเตรีย ก็เข้ามารุกราน ทำให้ 3 รัฐที่ว่านี้ได้ร่วมมือกันทำสัญญาต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติในปี ค.ศ. 1291


จากการร่วมมือกันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิดเกิดเป็นสมาพันธรัฐสวิสขึ้นมา และชื่อประเทศสวิส ก็มีที่มาจากเมืองชวีซ 1 ใน 3 รัฐผู้ก่อตั้งนั่นเอง หลังจากนั้นรัฐอื่นๆจึงเข้ามาเป็นพันธมิตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเป็น 13 รัฐ ในปี ค.ศ. 1513 จนถึงปัจจุบันสวิตเซอร์แลนด์ประกอบไปด้วยรัฐหรือแคนตอน (canton) ทั้งหมด 26 รัฐ แต่ละรัฐก็มีสิทธิในการปกครองตนเองและมีธงหรือตราสัญลักษณ์ประจำแต่ละรัฐ โดยธงชาติสวิสเป็นรูปเครื่องหมายบวกสีขาวบนพื้นแดง ซึ่งคล้ายกับธงของรัฐชวีซ จุดกำเนิดชองประเทศนั่นเอง..

สวิตเซอร์แลนด์ ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยและมีเศรษฐกิจแบบนายทุน แต่เป็นเรื่องแปลกมากที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีเป็นตัวเป็นตน จะมีก็เพียงแต่คณะรัฐมนตรี 7 คน ที่ถูกเลือกมาจากรัฐต่างๆ (แต่ละรัฐก็เลือกผู้แทนของตนเอง) ทำหน้าที่บริหารกิจการในประเทศและต่างประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การคลัง การไปรษณีย์ การรถไฟเป็นต้น โดยรัฐมนตรีเหล่านั้นจะสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศคราวละ 1 ปี ทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและเป็นประธานในพิธีสำคัญเท่านั้น เราจึงไม่ค่อยรู้จักชื่อประธานาธิบดีของสวิสซักเท่าไหร่ ..... สวิสดำรงความเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด จึงมีองค์กรระหว่างประเทศตั้งอยู่มากมายโดยเฉพาะที่เจนีวา.





หิมะที่คลุมบยอดเขาแบบบางๆ..ดูสวยเป็นพิเศษ





แม้จะมีองค์กรต่างของโลกตั้งอยู่ที่สวิส เช่น องค์การสหประชาชาติ (United Nation, UN) แต่สวิสก็ยึดมั่นในความเป็นกลางของประเทศตัวเอง สวิสเพิ่งมาเป็นสมาชิก UN เมื่อปี 2002 นี่เอง ที่เข้ามาเป็นสมาชิกเพราะการลงประชามติของประชาชนในชาติ







พักที่ปั๊มระหว่างทางก่อนเข้าอุโมง





อีกประเด็น เพราะความเป็นกลางของสวิส เลยมีนักเขียนหรือนักการเมืองที่มีความขัดแย้งกับรัฐบาลของประเทศตนเอง จึงมาลี้ภัยที่สวิสกันมาก รวมทั้งระบบธนาคารที่รักษาความลับของลูกค้าเอาไว้เป็นอย่างดี จนทำให้หลายๆประเทศมองว่า สวิสเป็นแหล่งฟอกเงินของเหล่าอาชญากรข้ามชาติ หรือรับฝากเงินของนักการเมืองคอรัปชั่น แต่สวิสก็ได้แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เมื่อผู้นำเผด็จการของหลายๆประเทศถูกประชาชนโค่นอำนาจ ธนาคารในสวิสก็จะประกาศอายัดทรัพย์ทันทีเช่นกัน








หิมะกำลังตก...





การเข้าไปท่องเที่ยวในสวิสจะต้องมีวีซ่าเชงเกน (Shengen Visa) เหมือนกับการเข้าไปเที่ยวยุโรปอีก 29 ประเทศ... เงินตราที่ใช้ในสวิสยังเป็นสวิสฟรังก์ (CHF) เพราะว่าสวิสยังไม่เป็นหนึ่งเดียวกับสหภาพยุโรป ที่ใช้เงินสกุลเงินยูโร (Euro) โดยที่เงินสวิสฟรังก์ มีอัดตราแลกเปลี่ยน คือ 1 CHF = 33.868 THB ( 1 ฟรังก์ = 33.868 บาท) อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 28 ธค. 2555








ตื่นเต้นตามประสาคนเขตร้อน





เราสามารถใช้เงินสกุลยูโรได้ในประเทศสวิส แต่เขาจะทอนให้เป็นเงินสวิสฟรังก์ ตรงนี้เราจะเสียเปรียบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และส่วนมากจะทอนเป็นเหรียญเสียด้วย เวลาแลกคืนเขาจะไม่ค่อยรับ จะรับเฉพาะธนบัตร การใช้บัตรเครดิตหรือเงินสดสวิสฟรังก์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ

การซื้อของในสวิสจะต้องทำ Tax Refund หรือการขอคืนภาษีก่อนออกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลย ไม่สามารถรวมไปทำครั้งเดียวเหมือนกลุ่ม EU ได้... แต่ก็ไม่ยุ่งยากครับ (แนะนำให้รับเป็นเงินสดกลับมาเลยครับ)







กดชัตเตอร์อุตลุต...ปั๊มน้ำมันก็ยังถ่าย





เมื่อเข้าสู่สวิตส์เซอร์แลนด์ดินแดนที่แสนจะโรแมนติก ที่ใครๆก็อยากไปเยือนซักครั้งในชีวิต เราเจอหิมะแรกที่ลงมาบนยอดเขาในขณะที่อุณภูมิภายนอกรถ อยู่ระว่าง -1 ถึง 3 องศาเซลเซียส ทุกคนในรถจึงตื่นเต้นกันใหญ่ นั่นไม่ใช่เพราะเห็นหิมะครั้งแรก แต่เพราะไม่คาดฝันว่าจะได้เห็นในช่วงนี้ต่างหาก ... หิมะที่ยังบางๆอยู่บนยอดสนที่ยังเหลือสีเขียวแจมบ้าง ทำให้ภูเขาด้านบนสวยงามยิ่งขึ้น..







หิมะทำให้เขาเหมือนคนหัวหงอก





ออกจากปั๊มนี้เราจะเข้าสู่อุโมงที่ยาวเป็นอันดับที่ 2 ของโลก (เมื่อก่อนอยู่อันดับหนึ่ง แต่ถูกแซงด้วยอุโมงในประเทศนอร์เวย์) คือยาว 17 กม. เป็นถนนแบบ 2 เลนวิ่งสวนทางกันไปมา น้องแนน ไกด์เราบอกว่าถ้ามาถึงตรงนี้ช้าเกินไปก็จะเจอรถติด เพราะว่าจากถนนปกติ 4 เลนมายุบเข้าเป็น 2 เลน เลยกลายเป็นคอขวด ..... จากอุโมงยาว 17 กม.นี้แล้ว เรายังต้องผ่านอุโมงอีกแห่ง ที่ยาว 10 กม. (นั่งคุยกับคนขับเขาเลยบอกมา) ก่อนที่เข้าเขตทะเลสาบลูเซิร์น...







พื้นหญ้ากำลังถูกปกคลุมด้วยหิมะ





ตอนอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน BP ได้สัมผัสกับหิมะที่กำลังลงปอยๆมาพอดี ดีใจกันใหญ่ว่ามาเดือน ตค. ก็ได้เจอหิมะข้างล่างนี่แล้ว ต้นไม้ริมเขากำลังเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นเหลือง และก็แดงเพื่อรอวันร่วงหล่นตามระยะเวลา ทำให้ป่าเขาแถบนั้นดูมีสัสันเพิ่มมากขึ้นด้วย







บนเส้นทางสู่อินเตอร์ลาเค่น








เข้าเขตสวิสจะเริ่มเห็นทะเลสาบมากขึ้น









ลอดอุโมงยาวๆ 2 แห่ง








ธรรมชาติที่สวยงาม ตามชนบทของสวิส








ยิ่งตะวันคล้อย...ภาพด้านหน้ายิ่งสวย








ต้นไม้ที่อินเทอร์ลาเค่นกำลังเปลี่ยนสี









ตามเส้นทางไปที่พัก








จุดที่พักริมทะเลสาบ Brienzsee อีกด้านคือทะเลสาบ Thunsee




อินเทอร์ลาเค่น (Interlaken)

อินเทอร์ลาเค่น เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการท่องเที่ยว ตั้งอยู่ระหว่าทะเลสาบทูนกับทะเลสาบบรีเอ็นซ์ โดยมีทางน้ำเหมือนแม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่านกลางเมือง เชื่อทะเลสาบทั้งสองเข้าด้วยกัน ชื่อเมืองจึงมีความหมายว่า "เมืองระหว่างทะเลสาบ" ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสเราสามารถมองเห็นยอดเขายุงเฟราอันลือชื่อเป็นฉากหลัง

อินเทอร์ลาเค่นมีพื้นที่ประมาณ 4.3 ตารางกิโลเมตร ประชากร 5,468 ค (Dec 2011) อยู่ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 568 เมตร ตั้งอยู่ในรัฐเบิร์น (canton Bern)








ทิวทัศน์ในระหว่างทางอีกภาพ








บ้านที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม





วันนี้เราพักที่ Seiler Au Lac Hotel CH 3806 Bonigen ติดกับทะเลสาบบรีเอนซ์ เป็นคล้ายๆรีสอร์ทมากกว่าจะเรียกว่าโรงแรม ห่างจากตัวเมืองอินเทอร์ลาเค่น 6 กม. หลังจากเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อแล้ว เราขึ้นรถเมล์ประจำเมืองเพื่อไปทานมื้อเย็นที่ร้าน Schuh Restaurant ซึ่งเป็นร้านอาหารจีน ค่อนข้างใหญ่ใจกลางเมือง Interlaken (แต่ค่าเบียร์แก้วละ 4 ยูโร หรือ 120 บาท)

ส่วนสาเหตุว่าทำไมเราต้องขึ้นรถเมล์เข้าไปในตัวเมือง ก็เพราะว่าเรามาถึงอินเตอร์ลาเค่นนี้ค่ำ คือเกิน 20:00 น. ซึ่งทางสหภาพแรงงานหรือกฏหมายเกี่ยวกับการขับรถของเขามีกฏว่าพนักงานขับรถจะโดนใช้งานเกินเวลาไม่ได้ เราก็เลยไม่อยากให้คนขับเขาทำผิดกฏอันนั้นครับ







หน้ารีสอร์ทที่พัก










ที่พักติดกับทะเลสาบ Brienzersee





ที่พักแม้ห้องจะไม่กว้างขวางนัก แต่บรรยากาศรอบๆถือว่าห้าดาวเลยทีเดียว หน้าต่างและระเบียงห้องเราหันไปหาทะเลสาบบรีเอนซ์ ทำให้ทั้งตอนเช้าและค่ำคืนได้เห็นแสงสีบ้านเรือนและรีสอร์ทรอบๆทะเลสาบได้เป็นอย่างดี เพื่อนบางคนที่ไปในทริปเดียวกันยังบอกว่า อยากมาพักที่แบบนี้ซักอาทิตย์เลยล่ะ...แต่กรุ๊ปเราได้พักที่นี่ 2 คืน







เข้าที่พัก








ภายในห้องพัก




วันนี้กว่าเราจะกลับจากเมืองมาที่พักก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน และเที่ยงคืนที่นั่นก็หนาวมากเสียด้วย ลองนึกภาพตามเอาละกันว่าตอนรอรถจะกลับที่พักเราไปแอบซอกตึกยังเอาไม่อยู่เลย แจ้นเข้าไปที่ร้าน ร้านก็กำลังจะปิด ต้องไไยืนแอบบตามมุมทางเข้าร้านขายของ ถึงขนาดนั้นก็ยังหนาวลมจนสะท้าน....






ที่พักในยามค่ำคืน





หลายๆคนได้อะไรที่อยากจะได้ติดไม้ติดมือมาบ้าง เช่น นาฬิกาแบรนด์ดังของสวิส

เราต้องเข้านอนและพักผ่อนกันแล้ว เพราะพรุ่งนี้ทั้งวันเรามีนัดกับยุงเฟรา ยอดเขาแสนเสน่ห์ของสวิตเซอร์แลนด์... แน่ล่ะ พรุ่งนี้หลายๆคนคงได้สัมผัสกับหิมะจริงๆกันซะที... แล้วเจอกันใหม่บล๊อกหน้านะครับ Good night






ลาด้วยภาพนี้ครับ





Simon & Garfunkel : Scarborough Fair



_____________







Create Date : 07 มกราคม 2556
Last Update : 28 กรกฎาคม 2556 13:58:04 น. 18 comments
Counter : 8258 Pageviews.

 
บ้านเมืองเค้าสวยงามมากๆเลยค่ะ ถ้าดิฉันได้ไปต้องตื่นเต้นมากกว่า
นางแบบมากๆเลยค่ะ 555 ขอบคุณคุณWICที่นำภาพสวยๆมาแบ่งให้ชมกัน
และมาสวัสดีปีใหม่อีกครั้งค่ะ ขอให้คุณและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขมากๆ
และประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ตลอดไปนะคะ ^_^


โดย: andrex09 วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:11:00:01 น.  

 
สวยงามมากจริงๆค่า ถ้ามีโอกาสในชีวิตสักครั้ง จะขอตามรอยน้าค้า
มาสวัสดีหลังปีใหม่ค่า ช้าไปหลายวันเลย ขอโทษน้าค้า

อัญเชิญเทพบนสวรรค์ทุกชั้นฟ้า
ประสิทธิ์สถาพรชัยให้สุขศรี
ขอให้ชาวร้อยฝันทุกท่านมี
สุขเกษมเปรมปรีดิ์ทุกวี่วัน

สรรพโศกโรคร้ายให้หายหมด
เกียรติยศพร้อมพรั่งบันดาลขวัญ
เกียรติศักดิ์พูนเพิ่มเสริมชีวัน
สบสุขสันต์วันดีปีใหม่เทอญ


โดย: tayya tatar วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:15:03:40 น.  

 
แค่ตามมาในรูป ก็หนาวด้วยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:16:34:26 น.  

 
วิวสวยหลายภาพเลยค่ะ หิมะปกคลุมบนยอดสนนี่ก็สวย วิวทะเลสาบก็สวย ปั้มน้ำมัน ภาพภายในอุโมงค์ หน้าที่พัก ชอบหมดค่ะ

ใครไปก็คงตื่นเต้นทั้งนั้นค่ะ

ได้ความรู้เยอะขึ้น เคยคิดว่าสวิสฯ อยู่ไกลตัวมาก คงไม่ได้ไป รู้ไว้ใช่ว่านะคะ

ขอบคุณ คุณ wic ค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:17:22:27 น.  

 
ชอบภาพ วิว สวยเยอะมาก ชอบถนนที่เขาตัดโค้งไปมา แต่ไม่โค้งมาก

แต่คงหนาวหน้าดู..... เขาให้สีบ้านอาคารสวย ไม่เบื่อครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:19:07:52 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณวิค
ตามไปเที่ยวด้วย
ถ่ายภาพได้สวยคมชัดมากเลย อยากถ่ายได้แบบนี้บ้างจัง

อากาศเย็น รักษาสุขภาพด้วยนะ


โดย: pantawan วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:20:45:13 น.  

 
เห็นแล้วใจละลาย วิวสวยมากเลย
ถึงแม้จะต้องถ่ายภาพจากบนรถ
ถ้าเป็นเวเลซ ก็คงอดใจไม่ไหวเหมือนกัน
ไม่ชัดก็ถ่ายค่ะ อยากเก็บภาพสวยๆแบบนี้ไว้ดูนานๆ

ชื่อโรงแรมในInterlakenนี่ แนวดีนะคะ
ย๊าวยาว


โดย: VELEZ วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:21:13:06 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาเที่ยวด้วย ท่าทางคงหนาวน่าดู
เราคงหมดสิทธิ์ไปแน่ อยู่ที่หนาวๆไม่ค่อยได้
แพ้อากาศหนาวมากก
สถานที่สวยมากๆค่ะ ดูเพลินเลย

ยกหมี่ซั่วผัดพริกสดมาฝากด้วย



อร่อยแบบไทยๆ น่าลิ้มลองค่ะ
คอนเฟิม อิอิ







โดย: mambymam วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:14:24:01 น.  

 
แวะมาทักทายคุณWICยามบ่ายค่ะ
ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ ^_^


โดย: andrex09 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:15:24:23 น.  

 
สวยงามมากกกค่ะ
อยากไปสวิสมานานแล้ว
แต่ตอนนรี้ขอตามไปเที่ยวกับคุณ wicsir ก่อนนะคะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:19:56:56 น.  

 
สวัสดีปีใหม่คะ คุณ wicsir ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งทางกายและทางใจนะคะ


โดย: marzo วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:21:13:32 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ วิก

โห.. บรรยากาศน่าไปมากๆเลยค่ะ เห็นแล้วมีความสุขจัง
อยากไปเยือนบ้างอ่ะค่ะ .. ดูจากท่าทางของหวานใจบ้านนี้แล้ว
ก็รู้ว่า ..สุขจังเลย ..

ยิ่งคุณวิกบอกว่า ทัวร์ดี กินอยู่สบาย นกยิ่งอยากไปค่ะ
อืมม.. ราคานี้ถ้านกไปคนเดียว ไหวอยู่นะ แต่ต้อง คูน สามเนี่ย
ต้องคิดอีกนานเลยค่ะ .. เฮ้อ..

สวยจัง คนเรา ต้องมีฝันนะคะ .. ฝันต่อปายยยย... อิอิ..


โดย: Nongpurch วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:11:17:51 น.  

 
ตามมาารับความเย็น และสวยงาม ของเมืองอินเทอร์ลาเคน
ไปกับคุณอ๊อดค่ะ อากาศดูแล้วกำลัง
สดชื่นเย็นสบายเลยนะคะ กับสีขาว เขียว




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:20:36:36 น.  

 
ชม Interlaken แล้วรู้สึกเย็น สงบ คลายร้อนจากอากาศบ้านเราได้เยอะเลยค่ะคุณวิค
วิวสวยๆกับตากล้องเก่งๆ ช่างลงตัวจริงๆค่ะ
บล๊อกนี้ยังมีสีเขียวของต้นไม้สวยให้เห็นอยู่
แต่บล๊อก Jungfrau คาดว่า ขึ้นไปแล้วจะเห็นแต่สีขาวของหิมะ
สีฟ้าของท้องฟ้า และสีเทาไล่เฉดของภูเขา แซมด้วยสีเสื้อผ้าของนักสกีนะคะ
เดาค่ะเดา รอชมบล๊อกหน้านะคะว่าจะเดาถูกรึเปล่า


โดย: Sweet_pills วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:21:07:41 น.  

 

สวย แหล่ม แล้วก็สวย แล้วก็อิจฉาจังค่ะ
ไม่กด LIKE ไม่ได้แล้วค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:21:13:01 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆ ครับคุณ wicsir .....

สวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองในฝันของผมเลยครับ อยากไปมานานแล้วตั้งแต่เริ่มรู้จักการอ่านสารคดีท่องเที่ยวต่างประเทศเมื่อครั้งเรียนมัธยมปลาย
แต่ค่าใช้จ่ายสูงเหลือเกิน ทัวร์ยุโรปส่วนใหญ่ราคาเหยียบแสนทั้งนั้น
ไปคนเดียวยังพอว่า แต่ถ้ายกขบวนไปหมดทั้งบ้านผม ราคาก็แทบจะซื้อ ecocar คันหนึ่งได้เลยทีเดียว คิดๆ แล้วรู้สึกเสียดายเงินเลยยังไม่กล้าไป .....

เสียดายที่คุณ wicsir ไปเจอฝนตก ฟ้าเลยออกจะครึ้มๆ แต่ขนาดว่าครึ้มแบบนี้ ถ่ายภาพออกมายังดูสวยเลย นี่ถ้าฟ้าใสๆ คงจะสวยจนใจละลายแน่ๆ ......



โดย: NET-MANIA วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:22:00:58 น.  

 
อ่านมา 2 บล็อก ประชากรในแต่ละเมืองของเขาไม่มากเลยนะคะ
แค่หลักพันเอง ในความรู้สึกของตัวเองคิดว่าดีค่ะ ไม่วุ่นวาย ไม่พลุกพล่าน
ไม่รู้เพราะเหตุนี้ด้วยหรือเปล่า ธรรมชาตอในบ้านเมืองของเขาจึงยังสมบูรณ์
เพราะไม่ค่อยแย่งกันกิน แย่งกันใช้ อีกอย่างคงเพราะความสวยงามของธรรมชาติ
เดาว่ารายได้หลักของประเทศนี้ต้องมาจากการท่องเที่ยว
.........................................................................................................................
แต่เป็นเรื่องแปลกมากที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีเป็นตัวเป็นตน จะมีก็เพียงแต่คณะรัฐมนตรี 7 คน ที่ถูกเลือกมาจากรัฐต่างๆ (แต่ละรัฐก็เลือกผู้แทนของตนเอง) ทำหน้าที่บริหารกิจการในประเทศและต่างประเทศ
.......................................................................................................................................
คิดว่าการปกครองแบบนี้ดีออกค่ะ จะได้ไม่มีปัญหารรวมศูนย์อำนาจ.........

ภาพสวยทุกภาพ like ค่ะ







โดย: ฝากเธอ วันที่: 10 มกราคม 2556 เวลา:18:57:43 น.  

 
ภาพสวยมากเลยค่ะ ได้ไปเหยียบอินเทอลาเค่นเหมือนกันแต่ไม่ได้ขึ้นยุงเฟราค่ะ เสียดายมากๆ (แอบงกน่ะค่ะ)


โดย: vivoly วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:1:25:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
มกราคม 2556
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.