....OUR FAMILY'S JOURNEY....
ไหว้หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง



วัดหนองป่าพง




อ่านเรื่องเกี่ยวกับอุบลราชธานี

วันสบายๆ..ที่ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท (ที่นี่)
แกรนด์แคนยอนสยาม 3000 โบก (ที่นี่)
รุ่งอรุณที่เขื่อนสิรินธร (ที่นี่)
เที่ยวตามเส้นทาง โขงเจียม - อุบล (ที่นี่)
อุบล ปากเซ วัดพู (ที่นี่)





หลังอาหารเช้าที่เขื่อนสิรินธร เราก็ขับกลับเมืองอุบลฯ ตามเส้นทาง 2173 และมาเข้าสาย 217 ที่อำเภอพิบูลมังสาหาร พอขับมาถึงอำเภอวารินฯก็ออกไปทาง อำเภอกันทราลักษณ์ พอถึงสี่แยกใหญ่บายพาส ก็สามารถไปวัดหนองป่าพงได้ ทั้งสองทาง คือทางไป อ.กันทราลักษณ์ ก็มีทางเลี้ยวขวาเข้าวัด ส่วนท่านที่ตรงไปทางแม่น้ำมูล ก้จะมีทางเลี้ยวซ้ายเข้าวัดได้เช่นกัน วันนั้นเรามาเข้าด้านนี้..





เจดีย์หลวงพ่อ









ประตูวัดหนองป่าพง






ประวัติหลวงพ่อชา

หลวงพ่อชา สุภทฺโท นามเดิม ชา ช่วงโชติ เป็นบุตรของ นายมา และ นางพิมพ์ ช่วงโชติ เกิดเมื่อ วันศุกร์ ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2461 ตรงกับวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ (เดิมเรียกบ้านก้นถ้วย) หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

เมื่ออายุ 13 ปี เดือนมีนาคม พ.ศ.2474 ได้บรรพชาที่ วัดมณีวนาราม โดยมี พระครูวิจิตร ธรรมภาณี (พวง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะเป็นสามเณรได้ท่องทำวัตรสวดมนต์ เรียนหนังสือพื้นเมือง (ตัวธรรม) และได้ศึกษานักธรรมชั้นตรี อยู่ปฏิบัติครูบาอาจารย์ บวชอยู่ 3 พรรษา ก็ได้ลาสิกา เนื่องจากมีความจำเป็นต้องไปช่วยงานบิดามารดา

อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2482 เวลา 13.55 น. ณ วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี ท่านพระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิรุฬสุตการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการสวน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระโพธิญาณเถร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2516 มรณภาพเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 16 มกราคม พ.ศ.2535 ณ วัดหนองป่าพง สิริรวมอายุได้ 74 ปี 5 เดือน 1 วัน พรรษา 52





พิพิธภัณฑ์







ตามทางเดินในวัด




















ไทรตรงทางเดิน








ยอดเจดีย์







ภายในเจดีย์







พิพิธภัณฑ์ อีกมุม



















รถเข็นหลวงพ่อ








พระพุทธบาทจำลอง








หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อ








ผอบใส่เส้นผมหลวงพ่อ








ภายในห้องหุ่นขี้ผึ้ง ชั้น 3








ชาวอีสานเรียกผลไม้นี้ว่า 'หมากแงว'






ออกจากวัดหนองป่าพง เราก็ใช้เส้นทางวงแหวนรอบเมืองอุบลฯ เพื่อไปเข้าทางสาย 23 และเดินทางต่อไปจังหวัดยโสธร โดยมีจุดมุ่งหมายว่าจะไปเยี่ยมชม ธาตุกองข้าวน้อยฆ่าแม่ ก่อนเข้าเมืองยโสธร...










ธาตุก่องข้าวน้อย ยโสธร


ธาตุก่องข้าวน้อย เป็นเจดีย์สมัยขอม ตั้งอยู่ในทุ่งนา ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร ห่างจากตัวจังหวัด 9 ก.ม. ไปตามทางหลวง หมายเลย 23 (ยโสธร - อุบลราชธานี) ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 194 เลี้ยวซ้ายไปอีก 1 กิโลเมตร

ธาตุก่องข้าวน้อยก่อสร้างตั้งแต่เมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดจากลักษณะที่ปรากฏเป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะล้านช้างที่พบอยู่ทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๓ – ๒๕ สมัยอยุธยาตอนปลาย กรุงธนบุรี ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มชนเชื้อสายลาวที่จะอพยพมาจากเวียงจันทร์ในสมัยธนบุรีที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตจังหวัดยโสธรในปัจจุบัน เป็นผู้ก่อสร้างธาตุเจดีย์ไว้เป็นปูชนียสถาน

จากการศึกษาทางโบราณคดีพบว่าบริเวณบ้านตาดทอง เป็นชุมชนโบราณ มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย จนรับวัฒนธรรมแบบทวารวดี โดยพบใบเสมาปักอยู่ทั่วไปในบริเวณหมู่บ้านและเป็นเมืองโบราณในสมัยขอม โดยพบจารึกที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕ กล่าวถึง พระเจ้าอีสานวรมันที่ ๒ (พ.ศ.๑๔๖๘ – ๑๔๗๑) ได้ส่งพระราชธิดาพร้อมด้วยทาสชายหญิง และทรัพย์สิ่งของเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มาเป็นมเหสีของเจ้าชายเมืองนี้ ซึ่งสันนิฐานว่าจะตั้งอยู่ในบริเวณบ้านตาดทอง ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีลูกหลานของพระวอ พระตา ได้อพยพมาตั้งที่บ้านสิงห์ท่า ซึ่งภายหลังยกฐานะเป็นเมืองยโสธร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ลักษณะทางศิลปกรรม

ธาตุก่องข้าวน้อย หรือ ธาตุตาดทอง มีโครงสร้างเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐมีฐาน ๒ ชั้น ทำเป็นแอวขันตามแบบสถาปัตยกรรมล้านช้าง มีเรือนธาตุเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมีซุ้มจระนำอยู่ทั้งสี่ทิศ ตัวธาตุสูงประมาณ ๑๐ เมตร โดยแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน คือ
ส่วนฐาน กว้างด้านละประมาณ ๒ เมตร ทำบัวคว่ำบัวหงายลดหลั่นกันเป็นแอวขันปากพานและย่อมุมไม้สิบสองทั้งสี่มุม ส่วนบนของฐานจะผายออกเพื่อรับเรือนธาตุ ส่วนฐานสูงประมาณ ๓ เมตร
เรือนธาตุ เป็นทรงสี่เหลี่ยม ทำซุ้มจระนำประดับพระพุทธรูปยืนทั้งสี่ทิศ เหนือซุ้มจระนำทำเป็นลายกระหนกประดับ ที่เสาซุ้มจระนำมีดอกจันทร์เทศขนาดใหญ่ประดับเสาละ ๑ ดอก ส่วนที่เป็นเรือนธาตุผายออกไปเพื่อรับกับส่วนยอดพระธาตุ
ส่วนยอดธาตุ ทำแปลกกว่าสถาปัตยกรรมล้านช้างทั่วไป คือ มีปลียอดเล็กๆ แซมอยู่ทั้งสี่ด้าน โดยเสริมให้ยอดกลางโดดเด่นขึ้น ตัวยอดแซมไม่ได้เป็นซุ้มแต่ทำเพียงอิงฐานของยอดกลางไว้เท่านั้น ลักษณะยอดทำทรงหีบมีกลีบบัวอยู่ที่โคนหีบสูงชะลูดไปสู่คอขวด แล้วหยักเป็นแอวขันคั่นกับยอดสุดเพื่อให้ยอดสุดดูโดดเด่นยิ่งขึ้นส่วนยอดธาตุสูงประมาณ ๔ เมตร บริเวณรอบธาตุทำเป็นกำแพงแก้วเตี้ยๆ โอบรอบอยู่ทั้ง ๔ ด้านยาวประมาณด้านละ ๕ เมตร บริเวณด้านตะวันออกของธาตุติดกับกำแพงแก้วมีวิหารก่ออิฐหลังเล็กๆ ประดิษฐานพระพุทธรูป ๑ องค์ ก่อขึ้นใน พ.ศ.๒๔๙๕ โดยช่างบ้านตาดทองบริเวณโดยรอบธาตุมีใบเสมาปักอยู่เป็นกลุ่มๆ ลักษณะใบเสมาเป็นหินทรายแดงแกนกลางสลักเป็นภาพสถูป แบบศิลปะทวารวดี และยังมีธาตุที่สร้างในสมัยหลัง เพื่อเก็บอัฐิตามคตินิยมของชาวอีสานตั้งอยู่รายรอบตัวธาตุด้วย

ธาตุตาดทอง นี้มีเรื่องเล่าเป็นนิทานสืบต่อกันมา อธิบายการสร้างธาตุโดยนำไปเชื่อมโยงกับการสร้างพระธาตุพนม ว่ามีผู้คนกลุ่มหนึ่งทราบข่าวว่าจะมีการบูรณะพระธาตุพนม จึงได้พากันรวบรวมของมีค่าจะนำไปบรรจุไว้ในพระธาตุพนม ได้เดินทางมาถึงบริเวณบ้านตาดทอง พบกับชาวบ้านที่ไปช่วยกันก่อสร้างธาตุ จึงนำถาดทองที่ใช้ใส่ของมีค่าที่จะไปบรรจุไว้ในพระธาตุพนมมาใส่ไว้ในธาตุนี้ด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อ “ธาตุตาดทอง”

( ที่มา : www.thadthong.com )










นิทาน ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่

ครั้งหนึ่งเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วที่บ้านตาดทอง ในฤดูฝนมีการเตรียมปักดำกล้าข้าวทุกครอบครัวจะออกไปไถนาเตรียมการเพราะปลูก ครอบครัวของชายหนุ่มคนหนึ่งกำพร้าพ่อ ไม่ปรากฏชื่อหลักฐาน ก็ออกไปปฏิบัติภารกิจเช่นเดียวกัน

วันหนึ่งเขาไถนาอยู่นานจนสาย ตะวันขึ้นสูงแล้วรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียมากกว่าปกติ และหิวข้าวมากกว่าทุกวัน ปกติแล้วแม่ผู้ชราจะมาส่งก่องข้าวให้ทุกวัน แต่วันนี้กลับมาช้าผิดปกติ


เขาจึงหยุดไถนาเข้าพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ ปล่อยเจ้าทุยไปกินหญ้าสายตาเหม่อมองไปทางบ้าน รอคอยแม่ที่จะมาส่งข้าวตามเวลาที่ควรจะมา ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจยิ่งสายตะวันขึ้นสูงแดดยิ่งร้อนความหิวกระหายยิ่งทวีคูณขึ้น

ทันใดนั้นเขามองเห็นแม่เดินเลียบมาตามคันนาพร้อมก่องข้าวน้อยๆ ห้อยต่องแต่งอยู่บนเสาแหรกคาน เขารู้สึกไม่พอใจที่แม่เอาก่องข้าวน้อยนั้นมาช้ามาก ด้วยความหิวกระหายจนตาลาย อารมณ์พลุ่งพล่าน เขาคิดว่าข้าวในก่องข้าวน้อยนั้นคงกินไม่อิ่มเป็นแน่ จึงเอ่ยต่อว่าแม่ของตนว่า

"อีแก่ มึงไปทำอะไรอยู่จึงมาส่งข้าวให้กูกินช้านัก
ก่องข้าวก็เอามาแต่ก่องน้อยๆ กูจะกินอิ่มหรือ?"

ผู้เป็นแม่เอ่ยปากตอบลูกว่า "ถึงก่องข้าวจะน้อยก็น้อยต้อนแต้นแน่นในดอกลูกเอ๋ย ลองกินเบิ่งก่อน"

ความหิว ความเหน็ดเหนื่อย ความโมโห หูอื้อตาลาย ไม่ยอมฟังเสียงใดๆ เกิดบันดาลโทสะอย่างแรงกล้า คว้าได้ไม้แอกน้อยเข้าตีแม่ที่แก่ชราจนล้มลงแล้วก็เดินไปกินข้าว กินข้าวจนอิ่มแล้วแต่ข้าวยังไม่หมดกล่อง จึงรู้สึกผิดชอบชั่วดี รีบวิ่งไปดูอาการของแม่และเข้าสวมกอดแม่













อนิจจา แม่สิ้นใจไปเสียแล้ว..

ชายหนุ่มร้อยไห้โฮ สำนึกผิดที่ฆ่าแม่ของตนเองด้วยอารมณ์เพียงชั้ววูบ ไม่รู้จะทำประการใดดี จึงเข้ากราบ นมัสการสมภารวัดเล่าเรื่องให้ท่านฟังโดยละเอียด

สมภารสอนว่า "การฆ่าบิดามารดาผู้บังเกิดเกล้าของตนเองนั้นเป็นบาปหนัก เป็นมาตุฆาต ต้องตกนรกอเวจีตายแล้วไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเป็นคนอีก มีทางเดียวจะให้บาปเบาลงได้ก็ด้วยการสร้างธาตุก่อกวมกระดูกแม่ไว้ ให้สูงเท่านกเขาเหิน จะได้เป็นการไถ่บาปหนักให้เป็นเบาลงได้บ้าง"

เมื่อชายหนุ่มปลงศพแม่แล้ว ขอร้องชักชวนญาติมิตรชาวบ้านช่วยกันปั้นอิฐก่อเป็นธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่ไว้ จึงให้ชื่อว่า "ธาตุก่องข้าวน้อยฆ่าแม่" จนตราบทุกวันนี้

ทุกวันนี้มีผู้มากราบธาตุก่องข้าวน้อยฯทุกวันเพื่อขอขมาลาโทษเหมือนเป็นการไถ่บาปที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ บางคนเมื่อมีลูกแล้วถึงรู้ว่าบุญคุณแม่มากสุดเหลือคณานับ เพิ่งรู้ว่าเลี้ยงดูลูกนั้นยากหนักหนาขนาดไหน จึงมาสำนึกที่ทำให้แม่ต้องเสียใจ บ้างก็มากราบไหว้เพื่อรำลึกถึงบุญคุณแม่









หลังจากเยี่ยมชมธาตุก่องข้าวน้อยแล้ว เราก้ออกเดินทางกลับบ้าน เป็นอันว่าทริบอุบลฯสามวันเราก้ราบรื่นไปด้วยดี แม้จะมีฝนลงมาบ้างระหว่าง เที่ยว และเดินทาง....

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ



________ END ________








Create Date : 04 มิถุนายน 2552
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 22:26:21 น. 27 comments
Counter : 8355 Pageviews.

 
ไปเที่ยวมาสามวัน แต่คุณ wicsir เก็บสถานที่ท่องเที่ยวได้หลายแห่งมากเลย อย่างทริปวันนี้ยังไม่เคยไปเลยค่ะ

ว่าแล้วก้อขอไหว้หลวงพ่อชา และพระพุทธบาทจำลองซะที่นี่เลยนะคะ


โดย: nLatte วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:17:49:57 น.  

 
เห็นแว่บแรกคิดถึงพระธาตุศรีสองรักเลยค่ะ แต่เป็นทอง
พาไปเที่ยววัดแบบนี้เป็นหนึ่งในที่โปรดเลยค่ะ
ดูแล้วร่มรื่น สบายใจดี

คุณwicsir สบายดีนะคะ





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:19:52:55 น.  

 
วัดหนองป่าพงเคยมาเที่ยวกับคุณแม่ราว ๆ ปีที่พระธาตุพนมล่มแหละค่ะ จำปีจริง ๆ ไม่ได้

ชอบคำสอนของหลวงพ่อชาที่ว่า ความหมายนะคะ
" ไม้ยาวอันเดียวนี่แหละ ถ้าอยากได้ยาวก็ว่าสั้นไป ถ้าอยากได้สั้นก็ว่ายาวไป " .... ไม่กล้าตีความออกอากาศค่ะ เอาเป็นว่าเราคิดได้ยังเงี้ยะ แต่ก็แล้วแต่ใครจะตีความว่ายังไง ก็แล้วแต่อยากได้ไม้สั้นหรือยาว


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:21:00:07 น.  

 

RongKhoon

เห็นพระธาตุก่องข้าวน้อยแล้วเศร้าครับ


โดย: scimovie วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:22:47:40 น.  

 

แวะมาไหว้ด้วยคนนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:0:21:45 น.  

 
สวัสดียาม.....สายวันสุขค่ะ
ขอตามมาไหว้พระที่วัดหนองป่าพง..ด้วยคนค่ะ
ถ่ายภาพได้ สวยงามมากค่ะ
ขอให้มีความสุขในการทำงานนะค่ะ
emoemoemoemoemoemo


โดย: iamorange วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:9:27:05 น.  

 
สัสดีค่ะคุณ Wicsir
ภาพสวยจังค่ะ เจดีย์ + ท้องฟ้า สีฟ้าๆแบบนี้น่ะค่ะ
หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ชา...องค์นี้เหมือนที่อยู่ ที่พิพิธภัณฑ์ หุ่นขี้ผึ้งที่นครปฐม เลยนะคะ

คุณมาเรีย ฯ เธอคงแค่พักบล๊อกน่ะค่ะ...
เดี๋ยวมีไฟเธอก็จะกลับมาเขียนใหม่ ถ่ายรูปใหม่น่ะค่ะ
ถ้าเธอปิดกิจการเลย....คงเสียดายแย่เลยเหมือนกัน
เพราะเธอถ่ายรูปสวยมาก มุมมองดีๆ ได้จากเธอมาหลายอย่างค่ะ
เคยไปออกทริปถ่ายรูปกับเธอแล้วครั้งนึงค่ะ...
เธอเห็นอะไรก็สวยไปหมดแถมถ่ายทอดออกมาเป็นภาพถ่ายที่สวยงามอีกนะคะ นี่ก็กะว่าถ้าสะดวกเมื่อไหร่ ก็จะนัดเจอกันอีกอ่ะค่ะ


โดย: คนชุมแสง วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:10:49:02 น.  

 
หวัดดีครับ nLatte...... ที่จริงยังไปไม่ครบครับ
อยากไปไหว้พระหลายวัดเหมือนกัน...เห็นในใบปลิว แล้วน่าไปมาก..

หวัดดีครับ Sweety.... welcome back to bloggang and our friends
หายไปนานๆ คิดถึงภาพสวยๆแถวยุโรบมากครับ.

หวัดดีครับ คุณตุ๊ก..... คงแบบเดียวกับ "จิตมนุษย์นี้ไซ้ ยากแท้หยั่งถึง" มั๊งครบ.. ความจำดีจัง.

หวัดดีครับ scimovei...... นั่นแหละคน เมื่อรู้ว่าตัวเองพอ ก็สายไปเสียแล้ว .

หวัดดีครับ คุณอุ้มสี...... ดีใจด้วยที่มีเวลาไปทำความดีแก่เด็กๆครับ

หวัดดีครับ iamorange..... ชอบใจนางแบบในบล๊อกมากๆ น่ารักดีครับ

หวัดดีครับ คนชุมแสง....... เห็นภาพแม่น้ำน่าน ยามเย็น และบรรยากาศแบบนั้น แล้วอิจฉา...ชีวิตคงมีความสุขมาก.

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมครับ


โดย: wicsir วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:13:41:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณwicsir
ขอบคุณกับการต้อนรับกลับบ้านค่ะ
แฮะๆ ตอนนี้มีรูปเที่ยวอัดแน่นมากๆ เลยค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อซะก่อนนะคะคราวนี้



โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:22:26:10 น.  

 
หลวงพ่อชา สุได้ยินชื่อบ่อยเพิ่งรู้นะคะว่าอยู่ที่นี่ ที่วัดดูร่มรื่นมากๆ เลยนะคะ เหมือนฝนเพิ่งตกเลย

เจดีย์ก่องข้าวน้อย ก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละค่ะ ได้ยินตำนานมาตั้งกะตอนเป็นเด็ก


โดย: นู๋สุ วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:17:04:19 น.  

 
สวัสดีวันหยุดค่ะคุณwicsir
หวังว่าวันนี้จะเป็นวันสบายๆ ของคุณwicsirน้า




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:21:34:12 น.  

 
หวัดดีครับนู๋สุ..... วัดน่าเลื่อมใสมาก แยกสัดส่วนแต่ส่วนอย่างชัดเจน... ขอบคุณที่แวะมาครับ

หวัดดีครับ Sweety..... สบายดี ขอบคุณครับ


โดย: wicsir วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:8:18:01 น.  

 
เจดีย์สวยแปลกดีครับ


โดย: กาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:22:23:02 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณwicsir
Sweety (ตามที่ชอบเรียกเลยค่ะ) สบายดีค่ะ
ทางนี้ร้อนมาได้สักอาทิย์หนึ่งค่ะ
แต่วันนี้18c ทำเอาต้องหาเสื้อคลุมเหมือนกันค่ะ
ตกลง French Open เป็นยังไงบ้างค่ะนี่





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:0:21:53 น.  

 
ขอบคุณ...กาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ และ.... Sweety
ที่แวะมาเยี่ยมครับ


โดย: wicsir วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:13:03:10 น.  

 
พี่ค่ะ เปิ้ลขออนุญาตเอารูปที่พี่ถ่ายไปทำอัลบั้มเมืองอุบลนะค่ะ ก็รูปสวยถูกใจนี่ค่ะ อิอิ


โดย: Pleja IP: 117.47.78.153 วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:23:22:38 น.  

 
หวัดดีเปิ้ล....
ตามสบายเลยครับ....
ขอบคุณที่ชม และแวะมาเยี่ยมครับ


โดย: wicsir วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:5:15:56 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ที่แวะไปเยี่ยม
ตามไปไหว้หลวงปู่ด้วยคนค่ะ
ไม่ได้ไปนานแล้ว เหมือนกัน


โดย: kidthung maanoy วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:0:49:43 น.  

 
แอบมาเยี่ยมค่ะ...น่าไปเที่ยวมากๆ เลย
วัดหนองป่าพงยังไม่เคยไปค่ะ แต่ธาตุก่องข้าวน้อยเคยแล้ว (แต่ก็นานมากเช่นกัน อิอิ)

ชอบดอกไม้สีขาวข้างทางจังไม่รู้ว่าชื่อดอกอะไร...ดูไม่ออกเลย

หุ่นขึ้ผึ้งก็ดูเหมือนจริงมากๆ (ต้องดูกลางวันเท่านั้นนะ)

หมากแงวกินได้รึเปล่าเอ่ย


โดย: น้ำค้างเดือนหก วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:1:10:13 น.  

 
ขอบคุณ kidthung maanoy และ น้ำค้างเดือนหก

ที่แวะเข้ามาเยี่ยมครับ


โดย: wicsir วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:13:03:12 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ wicsir
ไม่ได้เรียน food science หรอกค่ะ จบ DDS. ค่ะ Doctor of Dental Surgery.... เหมือนไหมน่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:17:32:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่ชม เรื่องของเรื่องก็ชอบกินชอบเที่ยวแหละค่ะ
และได้ความรู้จากที่บ้านมาประกอบ เลยชอบทำค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:10:55:09 น.  

 


สวัสดียามเที่ยงค่ะ คุณwicsir

ยุ้ยนำบรรยากาศงานแจ๊สที่หัวหินมาฝากกัน

เที่ยงแล้ว ทานกลางวันให้อร่อยนะคะ


โดย: nLatte วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:12:16:48 น.  

 
ขอบคุณ คุณตุ๊ก และคุณยุ้ยที่แวะมาเยี่ยมครับ


โดย: wicsir วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:13:30:35 น.  

 
ถ่ายรูปสวยจังเลยคะ ฟ้าเป็นฟ้า เจดีย์ก็สีสวยงาม
ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะคะ


โดย: บี๋ (Yushi ) วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:17:04:07 น.  

 
รักวัดป่าพงมากครับ


โดย: ดีดีดีดีดีดีดีดี IP: 192.168.3.101, 125.24.195.83 วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:22:20:43 น.  

 
มาปฎิบัติธรรมเกือบทุกปีคะ


โดย: สายชล IP: 192.168.3.101, 125.24.195.83 วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:22:25:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.