รีวิว ทริปประจวบฯ 2 วัน 1 คืน มีอะไรมากกว่าที่คิด
หลังจากห่างหายการเขียนรีวิวไปนานมาก ภาพอาจจะเล็กใหญ่บ้าง ต้องขออภัยไว้ก่อนนะคะ
Trip นี้เกิดขึ้นด้วยความอยากไปเที่ยวทะเล ในหน้าฝน ประมาณกลางเดือน กค. ที่ผ่านมาเลยรวมตัวกันกับเพื่อนๆ
เรา: ไปไหนดี เอาแบบไม่ใกล้ ไม่ไกลซัก 200 กิโลเมตรขึ้นไปนะ เพื่อน: ประจวบมั้ย เรา: ประจวบนี่มีอะไรอ่ะ ทะเลสวยมั้ย เพื่อน: ไม่รู้ว่ะ คงเหมือนๆกับทะเลหัวหิน พัทยามั้ง แล้วนี่หน้าฝน คงออกแนวขุ่นๆเหมือนกันแหละ
ได้คำตอบจากเพื่อนมาแค่นี้ เราเริ่มหาข้อมูลทันที คนส่วนใหญ่จะเที่ยวแนวพระราชวัง หรือซานโตรินี่ แต่เราอยากเที่ยวแบบให้มีความแตกต่างจากที่คนส่วนใหญ่เที่ยวกันเวลาเดินทางมาโซนหัวหิน ประจวบฯ สุดท้ายแผนทริปของเราก็ลงตัว เพื่อหาคำตอบว่า ประจวบฯ มีอะไรดี
เริ่มออกเดินทางจาก กทม. ประมาณ 8 โมงเช้า แล้วเราก็แวะซื้ออาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดมหาชัยเมืองเก่ากัน สำหรับปาร์ตี้มื้อดึกของเรา ใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็เข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี
จุดแรกที่เราแวะเที่ยวกันก็คือ ถ้ำเขาหลวง ตั้งอยู่บนเขาหลวง ห่างจากเขาวังประมาณ 5 กิโลเมตร ถ้ำนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ในเมืองเพชรบุรี เคยเป็นที่เสด็จประพาสของรัชกาลที่ 4 ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นหินงอกหินย้อย ที่ถ้ำแห่งนี้มีการสร้างบันไดคอนกรีต เพื่อให้เราลงไปด้านล่างของถ้ำ ซึ่งไฮไลท์ของถ้ำนี้ก็จะอยู่ตรงบริเวณที่มีประดิษฐานหลวงพ่อโต ที่มีช่องแสงส่องลงมา ดูสวยงามมากๆ
ภายในถ้ำนี้แบ่งออกเป็นห้องๆ ประมาณ 3 ห้อง ให้เราเดินชมกัน แถมยังมีประวัติเมืองลับแลด้วย จากจุดนี้ก็ประมาณ 11 โมงกว่าแล้ว พวกเราจึงตัดสินใจหาร้านอาหารกินกลางวันกัน นั่นก็คือร้านเจ๊กเม้ง ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนหน้าเขาวัง ตรงข้ามปั๊มเชลล์ อ.เมือง ร้านนี้มีชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้นตำรับเพชรบุรี แต่ด้วยความที่พวกเราไม่มีใครกินเนื้อเลย เลยสั่งเมนูอื่นแทน ซึ่งอร่อยเด็ดเหมือนกัน คือเมนูบะหมีกรรเชียงปูราดซอสตาลโตนด ราคาชามละ 100 บาท แพงพอสมควร แต่อร่อย แนะนำค่ะ นอกจากนี้ ยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นรสชาติดีไม่แพ้กัน
กินอิ่มเสร็จสรรพ ออกเดินทางต่ออีกประมาณ 2 ชั่วโมง มุ่งหน้าสู่ประจวบฯ เรามุ่งหน้าสู่อำเภอบางสะพาน เพื่อแวะไปสักการะพระพุทธกิติสิริชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระผงด้วย ซึ่งผู้ที่จะเข้ามาสักการะด้านในพระมหาธาตุจะต้องแต่งกายเรียบร้อย ห้ามใส่สั้นค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ก็มีผ้าถุงให้บริการสำหรับคนที่ใส่สั้นไปค่ะ
บริเวณพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศนี้ ค่อนข้างสงบ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว คิดว่าคนส่วนใหญ่อาจจะมองข้ามสถานที่นี้ไป เนื่องจากตั้งอยู่บนเขา จึงมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก
| พระมหาเจดีย์ภักดีประกาศ |
| จุดนี้เราเที่ยวชมกันอยู่นาน ตอนนี้ประมาณ 5 โมงเย็นแล้ว พวกเราจึงมุ่งหน้าเข้าสู่ที่พัก ทริปนี้เราไปพักกันที่หาดสนรีสอร์ท อยู่ที่ อ.บางสะพานน้อย ซึ่งเป็นที่พักติดทะเล มาตรฐานทั่วไป ราคาห้องพักมีตั้งแต่ 800 - 3000 บาท ที่พักมีบริการร้านอาหาร และมีห้องครัวให้พวกเรายืมเตรียมอาหารสำหรับปิ้งย่างมื้อดึกของเราด้วย |
| วิวที่พักยามเย็น | จบวันแรกอย่างอิ่มหนำสำราญ
เช้าวันใหม่ เราตื่นกันแต่เช้า เนื่องจากเราซื้อแพคเกจดำน้ำของที่พัก ราคา 400 บ/คน รวมค่าอุปกรณ์ดำน้ำ และอาหารกล่องมื้อกลางวัน ที่พักนัดแนะพวกเราตอน 8 โมงเช้า เพื่อออกเดินทาง ไปยังเกาะทะลุ เช้านี้อากาศดี พวกเราลุ้นขอให้ฝนไม่ตก จะได้ดำน้ำได้สวยๆ
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงจุดแรก คือเกาะทะลุ พี่คนขับเรือ ก็จอดให้พวกเราถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่จุดนี้
| เกาะทะลุ | จากนั้น พี่คนขับก็พาพวกเราไปที่จุดดำน้ำจุดแรก คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น พี่เค้าก็ช่วยดูแลเป็นพิเศษ โดยพี่เค้าจะมีแผ่นโฟมขนาดใหญ่ ให้เกาะ แล้วพี่เค้าจะพาลากไปดูจุดที่สวยๆ โดยคอยบอกเทคนิคให้พวกเราตลอด
ตอนหลังคนที่ว่ายน้ำเป็นก็พากันมาเกาะโฟม ให้พี่เค้าลากไปดูที่จุดสวยๆ ซึ่งเราเสียดายมากที่จุดนี้คนที่ถือกล้องไม่ได้มาด้วย เลยไม่มีภาพตรงจุดที่สวยที่สุดมาให้เพื่อนๆดู แต่มีภาพที่จุดอื่นๆแทน ภาพที่เราเห็น ใต้น้ำทะเลประจวบฯ ยังคงสวย และสมบูรณ์มาก ถึงแม้น้ำอาจจะไม่ใสเหมือนที่จังหวัดทางตอนใต้ๆ แต่ก็นับว่าสวยงามมากๆเลย
จุดถัดมา เป็นจุดสุดท้าย พี่เค้าพามาบริเวณที่น้ำใสกว่าตอนแรก และมีทรายที่ค่อนข้างละเอียดมาก และขาวสวย ตรงบริเวณนี้สามารถยืนได้ พวกเราดำน้ำ ถ่ายรูปเล่นกันซักพัก พี่คนขับเรือ ก็พาเราไปดำน้ำตรงจุดที่ลึกขึ้น พี่เค้าพาดูปลิงทะเล แล้วก็ชี้ให้ดูพวกปลาดาว ปลากระเบน
จบการดำน้ำที่จุดนี้ ก็เป็นเวลาเกือบๆเที่ยง พวกเราจึงตัดสินใจกลับที่พักเลย ขึ้นมาบนเรือพี่คนขับก็เตรียมแตงโม และข้าวกล่องไว้รอพวกเรา ฟินมาก ณ จุดนี้
พอไปถึงที่พัก พวกเราก็อาบน้ำแต่งตัว และเดินทางกลับกทม. กันเลย กว่าจะถึง กทม. ก็ประมาณ 1 ทุ่มกว่าแล้ว เพราะขาเข้า กทม. รถจะติดหนักมากในวัน อา. ใครที่มาเที่ยว ก็ควรเผื่อเวลาเรื่องรถติดไว้ด้วย
สรุปทริปนี้ เป็นทริปที่สนุก ประทับใจ และใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกทม. เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย เช่น วันหยุด ส-อา ค่าใช้จ่ายไม่แพง ค่าเสียหายที่เราใช้ไปสำหรับทริปนี้คือ คนละประมาณ 2000 บาท ตลอดทริป เลยอยากแนะนำเพื่อนๆ ถ้ามีโอกาส ก็ลองพิจารณาประจวบฯ เป็นสถานที่พักผ่อนในครั้งต่อไปได้นะคะ
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2558 |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2558 21:08:42 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1343 Pageviews. |
|
|