สถานที่แห่งที่สองในการเที่ียวพม่า ชายแดนเมืองท่าขี้เหล็ก ของเราคือเจดีย์ชเวดากองจำลองค่ะ

เจดีย์นี้จำลองมาจากงค์จริงที่ตั้งอยู่เมืองย่างกุ้ง ในขนาดที่ย่อลงจากของจริง 5 เท่า อยู่ลึกเข้าจากชายแดนประมาณ 2 กม.ตั้งอยู่บนเขาสูง ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของฝั่งประเทศไทยและของประเทศพม่าลักษณะเป็นเจดีย์สีทองทรงระฆังคว่ำแบบพม่า คำว่า "ชเวดากอง" เป็นคำที่ชาวพม่าใช้เรียกเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบนี้ 

และเนื่องจากชาวพม่ามีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก ดังนั้นชาวพม่าตั้งแต่ในสมัยชาวมอญยุคแรกที่ได้สร้างเจดีย์ชเวดากองเป็นต้นมา ผู้คนก็นำแบบจำลองไปสร้างเอาไว้ทุกเมือง เพื่อให้ผู้คนเคารพบูชา ประหนึงเหมือนได้สักการะองค์เจดีย์ชเวดากองตัวจริง เพราะลำพังชาวพม่าเองจะเดินทางจากเมืองสู่อีกเมืองเป็นเรื่องที่ลำบากการคมนาคมไม่สะดวกนัก จึงมีเจดีย์แบบชเวดากองกันทั่วเมือง ให้เราได้สักการะเจดีย์ชเวดากอง (จำลอง) กันที่เมืองท่าขี้เหล็กแห่งนี้

เนื่องจากภายในบริเวณพระธาตุเจดีย์ชเวดากองจะห้ามไม่ให้ใส่รองเท้าเข้าไป (เช่นเดียวกับองค์จริง) ดังนั้นพื้นร้อนขนาดไหนคงต้องทนค่ะ แดดเปรี้ยงเที่ยงตรงอย่างี้ พื้นปูน พื้นกระเบื้องร้อนขนาดไหนบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ แต่ที่แน่ๆ คือเหยียบพื้นเต็มเท้าไม่ได้ค่ะ เดินไปโดดไป กระย่องกระแย่ง ที่สุดของความร้อน จะบอกว่าเหมือนเดินบนกระทะ ก็ไม่เคยเดินบนกระทะ ไม่รู้จะหาอะไรมาเปรียบ

เจดีย์ชเวดากองเป็นพระธาตุประจำปีมะเมีย (ม้า) ใครที่เกิดปีม้าควรไปกราบไหว้สักการะบูชา และรอบๆ องค์พระธาตุเจดีมีองค์พระประจำวันเกิด ทั้ง7 วันไว้สรงน้ำพระตามวันเกิด เพื่อความเป็นสิริมงคล (เราเสียสละให้แม่สรงน้ำที่วันเกิดแม่คนเดียวค่ะ ที่เหลือสละสิทธิ์ สู้ความร้อนของพื้นไม่ไหว) 

แม่บอกว่า : "ได้มาตั้งไกลมาทำบุญถึงนี่แล้วต้องอดทน... โอยย ร้อนว้อยย"

หนวดบอกว่า : "ร้อนมาก อดทนมาก ศรัทธามากก็ได้บุญมากนะ"

เราบอกหนวดว่า : "งั้นฝากเดินตามแม่ด้วยนะ ฝากถ่ายรูปด้วย เราจะรออยู่ตรงนี้แหละ .........."

.......... จากนั้นหนวดก็ไม่พูดอะไรอีก

และในบริเวณนี้ เราจะได้นมัสการพระพุทธรูปสามประเทศ (ไทย-พม่า-จีน) อีกด้วยค่ะ

แผนที่เมืองพม่าค่ะ

จากตรงนี้เราสามารถมองเห็นวิวเมืองพม่าด้วยนะคะ 

ใครจะมาเที่ยวที่นี่.. แนะนำว่า ให้แดดร่มๆ ก่อนค่อยแวะมาเถอะนะคะ บอกเลยว่าร้อนมากกกกกก