มกราคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
31
 
All Blog
White Pearl Metropolis : บุษยานคร part 5.1 // 1,000


นี่คือรูปของสิ่งที่
กำอนาคตของอเมริกา
รึเปล่านะ ?


...................................


การก่อวินาศกรรมใน ค.ศ. 2001





วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544


เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001
ได้มีการปล้นเครื่องบินพาณิชย์
และพุ่งเข้าชนอาคารแฝดซึ่งได้แก่
อเมริกัน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11

ชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1
บริเวณชั้นที่ 90-95



และ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175
ชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2
บริเวณชั้นที่ 75-90
ส่งผลให้ทั้งสองอาคารถล่มในเวลาต่อมา





โดยอาคารแรกที่ถล่ม คือ อาคารสอง
ถล่มหลังจากถูกชน 1 ชั่วโมงเศษ



และอาคารหนึ่งได้ถล่ม
หลังอาคารสอง 45 นาที
(หรือหลังจากถูกชน 1 ชั่วโมง 45 นาที)






หลังจากนั้น อาคาร 7 ได้ถล่มในวันถัดมา
เนื่องจากการถล่มของอาคารทั้งคู่
ทำให้รากฐานของอาคาร 7 ไม่มั่นคง

ประกอบกับตัวอาคารเกิดไฟไหม้
ทำให้โครงเหล็กค้ำยันของอาคาร 7 ถล่มลง

แต่โชคดีที่มีการอพยพคน
ออกจากอาคารนี้ก่อนที่จะถล่ม

ส่วนอาคารที่เหลืออีก 4 อาคาร
ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เนื่องจากถูกอาคาร 1 และอาคาร 2 ถล่มทับ


มีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการรวม 2,749 คน



สาเหตุที่อาคารถล่ม
เกิดจากแรงปะทะ
ของเครื่องบินโบอิง 767
ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 170 ตัน

พุ่งเข้าชนตัวอาคาร
แบบเฉือนจุดกึ่งกลางภายในอาคาร
ด้วยความเร็ว 570 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เป็นแรงกระทำต่ออาคารสูง
ขณะอยู่กับที่ (Dynamic Lode)



ชิ้นส่วนบางส่วนของเครื่องบินเช่น
เครื่องยนต์โบอิง 767
ได้หลุดออกจากตัวอาคาร

แต่ส่วนใหญ่ชิ้นส่วนของเครื่องบิน
กระจายฝังอยู่ในตัวอาคาร

ประกอบกับแรงระเบิดมหาศาล
จากการลุกไหม้ของน้ำมันเครื่องบิน
ที่บรรจุมาเต็มถังน้ำมัน



ส่งผลให้เสาหลักและช่องลิฟท์
ของอาคารเสียหาย

ทำให้การกระจายน้ำหนักของอาคาร
ต้องกระจายอ้อมส่วนที่เสียหาย

แต่การชนนี้
ยังไม่ทำให้ตัวอาคารถล่มลงทันที
เนื่องจากอาคารถูกออกแบบ
ให้ทนต่อการชนของเครื่องบิน
ขนาด โบอิง 707



โครงสร้างหลักของอาคาร
เป็นแกนเหล็กตรงกลางอาคาร
(Steel Framed Tuble)
และมีโครงเหล็กถัก (Truss)
จากแกนหลักไปยังผนังอาคาร

เพลิงที่ไหม้ในอาคาร
มีอุณหภูมิสูงถึง 800 องศาเซลเซียส



ส่งผลให้โครงเหล็กถักสูญเสียความแข็งแรง
เกิดการงอตัวจากน้ำหนักอาคาร
และหลุดออกจากจุดยึด
ทำให้อาคารแต่ละชั้นถล่มลง
ด้วยน้ำหนักของแต่ละชั้นเอง
(Self Weight) หลังจากการชน 1 ชั่วโมง

นี่อาจจะเป็นภาพท้ายๆ ของตึกที่
ได้ชื่อว่า เป็นสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจ
ของประเทศที่เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ
ของโลก ในยุคนั้น





การก่อสร้างใหม่

เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
มีแผนการก่อสร้างใหม่ในชื่อ
Memory Foundations



ซึ่งประกอบด้วยอาคารดังต่อไปนี้



อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1
(ชื่อเดิม คือ
ฟรีดอมทาวเวอร์:Freedom Tower)

สูง 2,714 ฟุต (827 ม.) มี 164 ชั้น



เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่
27 เมษายน พ.ศ. 2549
คาดว่าจะแล้วเสร็จ
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2556
โดยมีการปรับปรุงแบบหลายครั้ง

จนในที่สุดได้แบบสุดท้าย
โดยสถาปนิกชื่อลิเบสกินด์ (Libeskind)



และภูมิสถาปนิก
ชื่อ ปีเตอร์ วอล์คเกอร์ (Peter Walker)
ผู้ออกแบบลานอนุสรณ์สถาน




อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2
(200 ถนนกรีนวิช)
สูง 1,776 ฟุต (541 ม.) มี 154 ชั้น
เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่
1 มิถุนายน พ.ศ. 2553
คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี พ.ศ. 2559



อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 3
(175 ถนนกรีนวิช)
สูง 1,460 ฟุต (441 ม.) มี 108 ชั้น
คาดว่าจะแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2557



อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 4
(150 ถนนกรีนวิช)
สูง 1475 ฟุต (437 ม.) มี 104 ชั้น
เริ่มก่อสร้าง
เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2547
คาดว่าจะแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2554



อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 5
(130 ถนนลิเบอร์ที)
สูง 1401 ฟุต (426 ม.) มี 102 ชั้น



อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 7
มีความสูง 1401 ฟุต (426 เมตร) มี 102 ชั้น
เริ่มก่อสร้างเมื่อ
วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545
ก่อสร้างแล้วเสร็จในต้นปี พ.ศ. 2556
โดยเปิดใช้งาน
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน



อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์
11 กันยายน แห่งชาติ
มีความสูง 20 - 23 เมตร
เริ่มก่อสร้างเมื่อ
เดือนมีนาคม พ.ศ. 2549
คาดว่าจะแล้วเสร็จ
ในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554





ไม่ว่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง
ของเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่นี้
หรือจะมีอะไรๆ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน
ขนาดไหนก็ตาม

ถึงจะมีบทสรุปที่แตกต่างกันออกไป

ไม่ว่าจะยังไง
ประเทศที่ครั้งหนึ่ง
เคยได้ชื่อว่า
เกิดการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่
เป็นโศกนาฎกรรม
ที่กระเทือนไปทั้งโลก

แต่มา ณ  วันนี้
เขาก็ก้าวข้ามจุดร้ายๆ เหล่านั้นมา

กลับมายืนในจุดเดิม
ในรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไป
ทันสมัย ตระการตากว่าเดิม

เป็นอีกบทเรียนราคาแพง
ที่คุ้มค่าแก่การรอคอย
ของพวกเขา รึเปล่า ?

อันนี้ต้องค่อยๆ ดูกันไป


Smiley

ครั้งหน้าจะมาคุยกันต่อ
ในเรื่องของ

ประเทศที่เป็นเมืองที่น่าอยู่
ที่สุดในเอเชีย
ครองแชมป์ติดต่อกัน
มากกว่า  15 +  ปีแล้ว


หลายคนคงพอเดาได้


Smiley


>>>  อดีต  >>>  ปัจจุบัน
>>>  อนาคต  <<<



>>>   To  Be  Continue  >>>



Create Date : 28 มกราคม 2558
Last Update : 28 มกราคม 2558 11:44:18 น.
Counter : 2081 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไส้เดือนอเวจี
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมื่อเราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ทุกอย่าง
ได้ด้วยตนเอง

ก็จงมีเวลารับรู้ถึงประสบการณ์ของคนอื่น

เพราะเราคงมีเวลาไม่มากพอที่จะประสบมันด้วยตนเอง
แม้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม