สวัสดีครับ วันนี้ premiumworldtour.info จะพามาเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ดินแดนแห่งโอโซน กันนะครับ : )สวิตเซอร์แลนด์ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตะวันตก มีเขตพื้นที่ประมาณ 41,285  ตารางเมตร มีประชากรประมาณ 8.372 ล้านคนภาษาที่ใช้จะมี 4 ภาษาด้วยกันคือ ภาษา เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และโรมันเนีย กว่า70% ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะเป็นภูเขาและป่าไม้จึงทำให้เป็นประเทศที่มีบรรยากาศดีและวันนี้ผมจะมาแนะนำ 10 สถานที่ รับโอโซนกันเลยดีกว่านะครับเรามาเริ่มกันเลย ..

1.ยอดเขายุงเฟรา (Jungfrau)

ยอดเขายุงเฟราเป็นสถานที่หนึ่งที่มีบรรยากาศดีมาก ยอดเขายุงเฟรานั้นตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้กับเมืองเวงเงินส์ ยอดเขาแห่งนี้มีความสูงถึง 4,158 เมตร  เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์  คำว่า “ยุงเฟรา” มีความหมายว่าหญิงสาวพรหมจรรย์ ยอดเขายุงเฟราเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์และรับบรรยากาศที่บริสุทธิ์

เมื่อมาถึงยอดเขา ยูงเฟราจะมีกิจกรรมให้เลือกได้ตามใจชอบ มีหลายจุดที่ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมโดยแบ่งเป็น 2 โซน

1. โซน ที่ 1 อยู่ระดับชั้นเดียวกับสถานีรถไฟ โดยไม่ต้องขึ้นลิฟต์ จะมีกิจกรรม ดังนี้

• Alpine sensation คือ ห้องจัดแสดงข้อมูลและภาพถ่ายเกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟเพื่อขึ้นมายังยอดเขายุงเฟรา
• Ice palace คือ ถ้ำน้ำแข็งไอซ์พาเลซ เป็นการเจาะอุโมงค์ ใต้ธารน้ำแข็งพร้อมแกะสลักเป็นรูปสัญลักษณ์ต่างๆ
• Plateau เป็นอีกหนึ่งของจุดไฮไลท์ ที่จะเปิดให้ชมในวันที่อากาศดีลมไม่แรงสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีอะไรมาบดบังวิวทิวทัศน์

2. โซนที่ต้องขึ้นลิฟต์ ไปด้านบน

• หอคอย สฟริงส์ เป็นหอคอยสำหรับสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์และในหอคอยแห่งนี้จะมีสินค้าแบรนด์ดังๆมาว่างขายอีกด้วย

การเดินทาง : การที่จะขึ้นไปบนยอดเขายุงเฟรานั้นเราต้องนั้งรถไฟที่ สถานนี  interken ost สถานนีรถไฟแห่งนี้ จะมีรถไฟอยู่ สายสีแดง และ สีน้ำเงิน เราจะเลือกขึ้นอันไหนก็ได้เพราะรถไฟจะมาบรรจบกันอยู่ดี

2..ยอดเขาชิลธอร์น (schilthorn)

ยอดเขาชิลธอร์น (schilthorn) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,970 เมตรยอดเข้าแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลกจากการใช้สถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ ชื่อดังอย่าง เจมส์บอล 007 และ  ยอดพยัคฆ์ราชินี

ยอดเขาแห่งนี้จะมีลักษณะเด่นอยู่ที่ตัวอาคารบนยอดเขาเรียกว่า พิสกลอเรีย (Piz gloria)เป็นห้องอาหารทรงกลมที่สามารชมวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา เพราะพื้นของห้องอาหารสามารถหมุดไปรอบๆได้  ร้านอาหารแห่งนี้จะใช้เวลาประมาณ 55 นาทีในการหมุดจบหนึ่งรอบในการชมวิวทิวทัศน์ไปกินอาหารไปครับ

การเดินทาง : เริ่มต้นที่สถานีรถไฟ Interlaken ost ไม่ว่าจะไป ชิลธอร์นหรือ ไปยุงเฟราก็จะขึ้นรถไฟขบวนเดียวกันแต่รถไฟจะไปตัดขบวนแยกคนละทางอีกครั้ง ด้งนั้นตอนขึ้นรถไฟต้องสังเกตให้ดีว่าตู้ที่เราขึ้นจะไปปลายทางสถานีไนบนขบวนรถไฟจะมีให้เลือกระหว่า Grindelwald กับ Lauterbrunnen ถ้าเราจะไปยอดเขาชิลธอร์นต้องเลือกขึ้นตู้รถไฟที่จะไป Lauterbrunnen เท่านั้น พอมาถึงสถานี Lauterbrunnen ก็ให้ทำการขึ้นกระเช้าก็เป็นถึงจุดหมายปลายทาง

3.ทะเลสาบโอชิเนน (Oeschinen)

ทะเลสาบโอชิเนน  ( oeschinensee ) ตั้งอยู่กกลางหุบเขาโอชิเนน ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ราบระดับพื้นดิน แต่ต้องขึ้นกระเช้าไปชมบนภูเขา เมื่อปี ค.ศ.2007 ที่ผ่านมา ทะเลสาบโอชิเนน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์ารยูเนสโก ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตยุงเฟรา

เมื่อขึ้นกระเช้ามาถึงด้านบน สิ่งแรกที่พบคือ เครื่องเล่น กระดานเลื่อน หรือที่เรียกกันว่า Robelbahn ตั้งในพื้นที่ติดกับสถานีกระเช้าเครื่องเล่นดระดานเลื่อนนี้มีความพิเศษอยู่คือ เราสามารถควบคุมความเร็วได้เอง กระดานเลื่อนี้จะวิ่งไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและทิวทัศน์อันสวยงามของหุบเขาต่างๆ

การเดินทาง : จากบริเวณหน้าสถานีกระเช้าข้าง Rodebahn เดินต่อไปยังทะเลสาบโอชิเนน ตามป้าย Oeschinensee ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือ จะขึ้นรถรับส่งจากหน้าสถานีกระเช้าไปก็ได้

4. มัทเทอร์ฮอนร์น ( Matterhorn)

ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น มีความสูงอยู่ที่  4,478 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้วยรูปทรงที่โผ่ล่พ้นขึ้นจากแนวเทือกเขาแอลป์ไม่เหมือนใคร จึงทำให้ดูสูงเด่นกว่ายอดเขาลูกอื่นๆ ที่ตั้งอยู่รายรอบ ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์นจะปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี  เมื่อทับถมกันมากๆ ก็จะถล่มลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง จนกลายเป็นธารน้ำแข็งซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแม่น้ำหิมะ มีความยาวหลาย สิบกิโลเมตร จากสถานี กอร์แนร์กราท ก็สามารถมองเห็นธารน้ำแข็งได้ ซึ่งธารน้ำแข็งเหล่านี้จะค่อยๆ ละลายกลายเป็นสายน้ำลงไปให้ผู้คนและพืชพันธ์เบื้องล่าง

ส่วนยอดเขามัทเทอร์ฮอร์นั้นจะมีรูปทรงคล้ายปิรามิด หิมะจึงไม่ค่อยเกาะสะสมได้มากเท่าไหร่เราจึงมองเห็นทรวดทรงและริ้วรอยของเส้นลายหินโบราณได้อย่างชัดเจน

วิธีการเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟที่สถานี Gorner grat bahn ที่เมือง zermatt มาลงที่สถานี Gornergrat ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

5. ทะเลสาบเจนีวา

ทะเลสาบเจนีวา (lake Geneva) มีพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ดังน้ันชาวฝรั่งเศสจึงเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่า เลคเลอมอง (lac leman ) ถือเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป  ด้วยอาณาบริเวณของทะเลสาบที่กว้างขวางทำให้เมืองสำคัญในสวิสหลายเมือง เช่น เจนีวา ,โลซานนน์ , มองเทรอซ์ กลายเป็นเป็นที่สำหรับชมทะเลสาบแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้คือ กลางทะเลสาบเจนีวาจะ มีน้ำพุเจ็ตโต เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองน้ำพุแห่งนี้ก่อตั้งแต่ปี ค.ศ.1886 ก็เพื่อให้ช่วยลดแรงดันในระบบน้ำของเมือง ที่ผันน้ำขึ้นไปใช้จากทะเลสาบ น้ำพุส่งสายน้ำพุขึ้นไปบนท้องฟ้าในปริมาณ 500 ลิตรต่อวินาที สูงถึง 140 เมตร ด้วยแรงดันราว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาวบ้านจึงเรียกน้ำพุนี้ว่า น้ำพุจรวด นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเจนีวา ก็มักพากันถ่ายรูปกับน้ำพุนี้ให้ติดกลับไปเป็นที่ระลึก จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปในที่สุด

การเดินทาง : เดินทางจากสถานีรถไฟ อินเทอร์ลาเคน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ในการเดินทางถึงสถานี คอร์นาแวง (Gare Cornavinr)  พอออกมาจากสถานีก็จะสามารถมองเห็นทะเลสาบได้เลย

6. สวนเดอน็องตู (Le Denantou)

ก่อนอื่นเลยเมื่อเดินเข้ามาในสวนเดอน็องตู จะพบกับรูปปั้นลิงสามตัว ปิดหู ปิดตา ปิดปาก เป็นรูปปั้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 และพระบาทสมเด็จเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล ทรงโปรดเป็นอย่างมาก ขณะทรงพระเยาว์หากพระองค์มีโอกศผ่านมาเมื่อไหร่ จะแวะเข้ามาชมอยู่เสมอ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงนิพนธ์ในหนังสือ “เจ้านายเล็กๆยุวกษัตริย์” ไว้ว่า ลิงสามตัวนี้หมายถึง การไม่ยอมฟัง ดู พูด ในสิ่งเลว

ภายในสวนเดอน็องตู ยังมีศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ ที่ชาวไทยภาคภูมิใจ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี พ.ศ.2549 และฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสวิสครบ 75 ปี เป็นศาลาสีทองอร่ามตั้งอยู่กลางสวน ออกแบบโดยนาวาอากาศเอกอาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร และเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาสถาปัตยกรรมไทย เป็นศาลาทรงจตุรมุมสร้างด้วยไม้สักและไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง กว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร สูง 16 เมตร ด้วยฝีมือช่างไทย 16 คน แล้วเสร็จเมื่อปี 2550 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสร็จไปประกอบพิธีเปิดศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติหลังนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มีนามคม 2552 สร้างความปลาบปลึ้มปิติยินดีแก่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดเป็นแหล่งรับโอโซนอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ความพลาด

การเดินทาง : โดยรถไฟ Metro สถานี Ouchy-Olympique แล้วเดินต่อจะเห็นพิธภัณฑ์โอลิมปิก อีกประมาณ 100 เมตรจะเจอสวนเดอน็องตู

7. ยอดเขาพิลาตุส (Mt.Pilatus)

ยอดเขาพิลาตุส (Mt.Pilatus)ตั้งอยู่หากจากเมืองลูเซิร์นเพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น หากมองจากลูเซิร์นในวันที่อากาศดี ก็สามารถมองเห็นยอดเขสพิลาตุสได้อย่างชัดเจน ยอดเขาแห่งนี่มีความสูง 2,128 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลและยังมีรถไฟ

ฟันเฟืองชันที่สุดในโลก รถไปฟันเฟืองขึ้นยอดเขาสพิลาตุส มีความชันถึง 45 องศา จึงสามารถมองเห็นวิวได้อย่างเชดเจน บนยอดเขาพิลาตุส มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวของเมืองลูเซิร์นได้อย่างเต็มอิ่ม เหมาะสำหรับการพักผ่อนรีเฟรชร่างกายบนยอดเขาที่ไม่ไกลนัก หากมีเวลาจำกัดเพียงครึ่งวัน พิลาตุสคือคำตอบที่ดีที่สุด ส่วนในช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นหิมะบนยอดเขาด้วย

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ ลูเซิร์น ไปลงสถานี Alpnachstad หรือขึ้นเรือจากท่าเรือหน้าสถานีรถไฟไปลงที่ Alpnachstad ทั้งสถานีและท่าเรืออยู่ติดกันจึงสะดวกต่อการเดินทาง

8. ยอดเขาริกิ (Mt.Rigi)

ยอดเขาริกิ (Mt.Rigi) ได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งภูเขา (Queen of the Mountains) เพราะเป็นยอดเขาที่ตั้งอยู่โดดๆ ไม่มียอดเขาอื่นมาบดบังทัศนียภาพ แม้จะสูงเพียง 1,798 เมตร แต่ในวันฟ้าเปิดก็เห็นเมืองข้างล่างได้อย่างชดเจน อย่างที่บอกว่ายอดเขาริกิได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งภูเขา ดังนั้นสามารถเดินชมมุมสูงของเมือง และทะเลสาบด้านล่างได้แบบ 360 องศา ยอดเขานี้ไม่มีกิจกรรมให้ทำ แต่ถือว่าเป็นที่พักผ่อนร่างกายให้ตัวเอง ไม่แพ้ยอดเขาพิลาตุส

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟลูเซิร์น สามารถเดินทางไปได้สองวิธี คือ ไปทางเมืองวิซเนา และทางเมืองอาร์ทโกลเดาสามารถเลือกขึ้นทางใดทางหนึ่งก็ได้ จากนั้นลงที่สถานีArth-Golddau จากนั้นเดินเท้าต่อไปตามป้าย Rigi อีกราว 5 นาที จะถึงสถานีรถไฟฟันเฟืองสำหรับขึ้นไปสถานี Rigi-Kulm

9. ยอดเขาทิตลิส (Mt. Titlis)

เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงในบรรดานักท่องเที่ยวชาวไทย และโปรแกรมทัวร์ส่วนใหญ่มักจัดให้ทิตลิสเป็นหนึ่งในภูเขาที่ต้องขึ้นเมื่อมาสวิส ยอดเขาทิตลิสสูง 3,238 เมตร นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเขตนี้ จึงทำให้มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ตัวทิตลิสไม่ได้อยู่ในเมืองลูเซิร์น แต่อยู่ใกล้กับเมืองเองแกลเบิร์ก

ซึ่งเป็นเมืองสกีชื่อดัง ที่เดินทางจากลูเซิร์นสะดวกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึง กิจกรรมที่น่าสนใจบนยอดเขาทิตลิสมีมากมาย เช่น Glacier Cave หรือถ้ำน้ำแข็ง ลักษณะคล้ายกับ Ice Palace บนยอดเขายุงเฟรา หากขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดมี Panorama Terrace มองเห็นวิวของเทือกเขาข้างเคียงได้แบบ 360 องศา ที่ความสูง 3,020 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟลูเซิร์น ให้ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Engelberg เมื่อถึงสถานี สามารเดินเท้าต่อไปสถานีกระเช้าสำหรับขึ้นทิตลิส

10.น้ำตกไรน์ (Rhein Fall)

น้ำตกไรน์ (Rhein Fall)  หรือที่เขียนในภาษาอังกฤษ Rhine Fall เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป กว้าง 150 เมตร สูง 23 เมตร เชื่อกันว่าเป็นน้ำตกที่มีอายุกว่า 14,000-17,000 ปี

ในฤดูร้อน และฤดูใบไม้ผลิ น้ำตกไรน์จะมีน้ำไหลแรงมากกว่าปกติ จนบางครั้งละอองน้ำกระเด็นไปอีกฝั่ง น้ำตกไรน์เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำไรน์ ที่ไหลมาจากทะเลสาบคอนสแตนซ์ในเยอรมัน จากนั้นไหลเข้าประเทศสวิสผ่านน้ำตกไรน์ แล้วววกเข้าเขตแดนประเทศเยอรมันอีกครั้ง

ในบริเวณน้ำตกไรน์จะมีจุดชมวิว3จุดด้วยกันคือ

• เกาะกลางน้ำตก เดินทางโดยเรือ สีเหลือง มีค่าบริการ 8 CF
• ชมความงามปราสาท เดินทางโดยเรือสีแดง มีค่าบริการ 2 ฟรังค์
• ชมวิวฝั่งตรงข้ามเดินทางโดยเรือสีฟ้ามีค่าบริการอยู่ที่ 10 CF

การเดินทาง : จากซูริคนั่งรถไฟไปลง Schaffhausen ใช้เวลา 57 นาที พอถึงก็เดินออกจากสถานีไม่ต้องข้ามถนน จะเห็นป้ายรถเมล์ นั่งสาย 1 ไปลงที่ Neuhausen Zentrum หรือ Rheinfall ก็จะถึงน้ำตกไรน์

เป็นยังไงกันบ้างครับ ? สำหรับสถานที่รับโอโซนถูกใจเพื่อนๆ หรือเปล่าครับ สำหรับใครที่มีสถานที่รับโอโซนที่น่าสนใจสามารถส่งเข้ามาพูคคุยกันได้นะครับ ฝากติดตามกดไลน์กดแชร์กันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ข้อมูลและรูปภาพ : พรีเมี่ยมเวิลด์ทัวร์

Create Date : 23 สิงหาคม 2560
Last Update : 23 สิงหาคม 2560 17:40:57 น.		0 comments
Counter : 1629 Pageviews.
Share Tweet