ตามล่านางพญาเสือโคร่ง


Hello word
สวัสดีชาวโลก

ทอสกับโมออกเดินทางกันอีกแล้ว ทริปนี้ดองมานานเพิ่งได้มาเขียนรีวิว
เท้าความไปเมื่อหลายปีก่อนได้มีโอกาสไปนอนบนดอยขุนแม่ยะแล้วเกิดความประทับใจเอามากๆ
เพราะเป็นทริปแรกเลยที่เราเลือกไปนอนเต็นท์แบบลำบากกัน แต่สิ่งที่ชอบมากๆ ก็คือ
ตรงที่เรากางเต็นท์กันนั้นเต็มไปด้วยดอกพญาเสือโคร่งแบบ 360 องศากันเลย สีชมพูพรึบไปหมด
แถมด้วยดวงดาวสว่างสดใสเหมือนเราอยู่ใกล้มันมากๆ แต่คราวก่อนนั้นเตรียมตัวไม่พร้อมในหลายๆ
เรื่องเอาเลนส์ติดกล้องไปตัวเดียว เลยได้รูปมาน้อยเสียดายจริงๆ

ผ่านมาหลายปี ปีแล้วปีเล่าก็ยังไม่ได้กลับไปซ้ำซักที เพราะเนื่องจากถ้าเราเดินทางแค่ 2 คน
จะต้องเสียค่ารถขึ้นลงแพงเอาการเลยต้องพยามหาคนมาหารด้วย

จนมาปีนี้ได้ไปเจอ page ใน facebook แห่งหนึ่งเข้า มีการจัดทริปไปท่องเที่ยวถ่ายรูปกันพอดี
ไม่รอช้ารีบจองในทันที วันเดินทางคือ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน มกราคม

แต่ปีนี้โชคร้ายนิดหน่อยเนื่องจากอากาศหนาวน้อยและหนาวช้าอีกด้วย
ตามแผนคือการ นอนขุนแม่ยะ 1 คืนแล้วก็ขุนวางอีก 1 คืน
แต่ได้มีการปรับแผนนิดหน่อย เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรมาติดตามกันนะฮ๊าฟฟ




ทริปเริ่มต้น ที่ซอยรางน้ำ เรารวมตัวกันในคืนวันศุกร์ กำหนดการคือออกเดินทางในเวลา 2 ทุ่มครับ
แต่เนื่องจากมันเป็นวันศุกร์ที่รถติดเป็นพิเศษ ทำให้สมาชิกร่วมทริปบางคนมาช้า แต่ก็ไม่เป็นไร
จะไปเที่ยวอย่าหงุดหงิด 
21.00 น. ออกเดินทางกันครับ รถตู้ 3 คัน
พอขึ้นรถในความเข้าใจของผมคนที่ไม่รู้จักกัน มาเดินทางด้วยกันคงประมาณทำความรู้จักกันเล็กน้อย
แล้วคงจะนอนหลับกันบนรถครับ แต่เรื่องจริงนั้นเปล่าเลยครับ ต่างคนต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวกัน
อย่างสนุกสนานเหมือนรู้จักกันมาเป็น 10 ปี พวกเราสามคนเรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่มีอายุน้อยที่สุดบนรถ
รู้สึกแปลกใจอย่างไม่น่าเชื่อ นี่มันทัวร์คุณป้าชัดๆ อิอิ (ล้อเล่นคร้าบ) เราได้แต่นั่งฟังเรื่องราวของผู้ร่วมทริป
รถวิ่งฝ่าความมืดไปเรื่อยๆ อากาศเริ่มเย็นลงครับ พร้อมกับเสียงสนทนาที่ลดลงเช่นกัน
เหอๆ ได้นอนซะที อิอิ

ตื่นเช้ามาที่แรกที่เราแวะก็ คือ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร  ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ฮอด
ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคุณโมซะด้วย



จากจุดนี้เราก็ได้แวะกินข้าวเช้ามื้อแรกที่เชียงใหม่ พร้อมทั้งตักบาตร เอาฤกษ์เอาชัยซะก่อน จะได้โชคดีในการเดินทาง




จากนั้นก็ขึ้นดอยอินทนนท์เพื่อเดินทางไปที่ โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ เพื่อไปตามหาพญาเสือโคร่งกันครับ
โดยผู้นำทริปได้ไปหาข้อมูลมาแล้วว่าที่นี่มีแน่นอนครับ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ
ถึงจะมีน้อยแต่ก็มี





ทุกคนดูตื่นเต้นกันยกใหญ่ เพราะมันสวยมากดอกสีชมพูเข้มตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า สวยจริงๆ



นกแว่นตาขาวสีทอง เกาะอยู่บนต้นเต็มไปหมดไล่กินเกสรดอกไม้อย่างขะมักเขม้น





เราใช้เวลาที่นี่อยู่พักใหญ่ก่อนจะแวะทานอาหารเที่ยงที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
เราจึงได้โอกาสปั๊มตราอุทยานซะเลย



จริงๆ จุดหมายในวันนี้ คือ ขุนวาง แต่เเป็นอันต้องเปลี่ยนแผน เพราะขุนวางดอกพญาเสือโคร่งยังไม่ออก
เลยต้องมาที่ขุนแม่ยะเลย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีหรือไม่

กว่าจะมาถึงทางขึ้นขุนแม่ยะก็จะค่ำอยู่แล้ว พอถึงก็รีบจัดแจงกางเต็นท์อย่างด่วยเลยก่อนจะไม่มีแสง
พอที่จะทำอะไรได้




ตื่นแต่เช้าครับกับอากาศที่หนาวจัดทีเดียวแทบทนไม่ไหว ถุงนอนที่เตรียมมาช่วยได้มาก
อากาศที่นอกเต้นท์หนาวจนแทบทนไม่ไหวบวกกับลมอ่่อนๆ ทำให้ไม่อยากจะเดินไปห้องน้ำเลย

แสงเช้าเริ่มออก ทิวเขาตรงหน้าคือ ดอยหลวงเชียงดาว



แดดอุ่นๆ เริ่มมาแล้วครับ





ทิวต้นไม้ตรงนี้ควรจะเต็มไปด้วยดอกพญาเสือโคร่งสีชมพู แต่ไม่มีครับ
เนื่องจากอากาศไม่เย็นพอ ดอกเลยไม่ยอมออก แถมเริ่มจะแซมใบแล้วด้วย เจ้าหน้าที่บอก




พวกเรารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยครับแต่ก็ไม่เป็นไร มาเที่ยวแบบนี้ธรรมชาติถือหุ้น 99%

ตรงนี้คือทางเดินขึ้นไปบ้านเจ้าหน้าที่เพื่อทานอาหารเช้า ทำเอาคนกรุงเทพออกกำลังกายน้อยหอบเอาได้ง่ายๆ



ข้าวต้มร้อนๆ ใส่ไข่พอช่วยให้หายหนาวได้ในอากาศแบบนี้






ช่วงระหว่างเดินทางลงคนขับรถที่จะพาเราลงดอยได้บอกว่าที่ดอยช้างมีพญาเสือโคร่งเป็นร้อยต้นเลย
ทุกคนในทริปตาลุกว้าว คนขับเสนอว่าจะพาไป พร้อมทั้งไกด์เด็กท้องถิ่น น้องเมย์
น้องเมย์บอกกับทุกคนว่ามีเพียบเลยที่บ้านหนู ถ้าไม่มีพี่มาเหยียบหน้าหนูได้

เราใช้เวลาเดินทางเืกือบชั่วโมงเพื่อไปดอยช้างกัน

พอมาถึงก็เป็นอย่างที่เห็น สตั้นไป 5 วิ



ไหนร้อยกว่าต้น น้องเมย์หายไปอย่างไรร่องรอย
ทุกคนเริ่มโวยวาย
สุดท้ายก็ต้องกลับแบบไม่ได้อะไร แถมเสียเวลาเดินทางไปอีกเกือบ 2 ชั่วโมง

เพราะเรายังต้องเดินทางไปอ่างขางที่เป็นที่หมายถัดไป




ถึงอ่างขางเกือบจะมืดเช่นเคย ทุกคนพักผ่อนตามตามอัธยาศัย บ้างถ่ายรูปบ้างอาบน้ำ
เรานอนโฮมสเต ชื่อ จี๊ดจ๊าดกันครับ หลังจากผู้ร่วมทริปบางส่วนหนาวจนทนไม่ไหว
ไม่สามารถนอนเต๊นท์ได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีเลยได้มีโอกาศอาบน้ำหลังจากไม่ได้อาบมาหนึ่งคืน

อากาศต่ำกว่า 5 องศาตั้งแต่ 2 ทุ่ม พวกเราตั้งวงสนทนากันเล็กน้อยก่อนเข้านอน
จึงได้มีโอกาศทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทริปอื่นๆ ด้วย มีการแลกเปลี่ยน facebook
และประสบการ์ณการเดินทางอย่างสนุกสนาน





ตื่นตั้งแต่ตี 5 เดินฝ่าความหนาวอออกมาตามหาแม่คนิ้ง อากาศตอนนี้ -1 เข้าไปแล้ว
หนาวจริงๆ



แม่คนิ้งหาไม่ยากเลยบนหลังคารถก็เต็มไปหมด นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้เห็นเหมือนกัน

บนใบผักที่สถานีเกษตรอ่างขางก็เต็มไปด้วยเกร็ดน้ำแข็งเล็กๆ น่าอิจฉาคนที่นี่จังได้กินผักที่สดและสะอาด
แถมอากาศยังดีสุดๆ



ไม่ต้องการ 3G WIFI Iphone

แค่ผ้าห่มอุ่นๆ ก็พอ



ยอดหญ้า



แปลงบ๊วยกับหมอกเอื่อยๆ


เดินเล่นในสถานีซักพักพร้อมทั้งซื้อองุ่นกินแทนอาหารเช้า
แล้วก็เดินกลับทีพักกัน เพื่อเตรียมตัวที่จะกลับ



เราแวะทานอาหารกันเล็กน้อยก่อนครับเพราะหิวจริง

ขาหมู หมั่นโถ ขาดไม่ได้





ก่อนจะลงจากดอยอ่างขางก็มีการแวะไปไร่สตอเบอรี่ก่อน ตามเสียงส่วนใหญ่ ไปก็ไป






ความสุขง่ายๆของเด็กบนดอยครับ ไม่ต้องเยอะ




แวะถ่ายรูปอีกรอบบนถนนสีชมพู



การเดินทางแบบจอยทริปแบบนี้อาจจะไม่สามารถทำอะไรแบบที่เราต้องการได้ทุกอย่างต้องเข้าใจ
ทริปนี้เราก็ได้รูปมาค่อนข้างน้อยไปหน่อยครับ แต่ก็ไม่เป็นไรถือว่ามาเที่ยวครับ



ปิดท้ายทริปด้วยใบนี้ซึ่งผมถ่ายใบนี้เป็นใบสุดท้ายจริงๆ

ขอให้มีความสุขกับการเดินทางครับ
แล้วพบกันใหม่เมื่อ "ทอสกับโมออกเดินทาง"






Create Date : 06 กรกฎาคม 2556
Last Update : 6 กรกฎาคม 2556 21:22:51 น. 2 comments
Counter : 2025 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:7:58:19 น.  

 
สวยงามมากครับ เมื่อต้นปีผมได้เดินทางไปเที่ยวโซนเหนือเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาศได้ตามล่าพญาเสือโคร่งเลย น่าเสียดายมาก ไปคราวหน้าจะเก็บภาพมาฝากครับ


โดย: NaiKonDin วันที่: 8 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:20:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Papatos
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


















Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Papatos's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.