มารปรารถนา ตอน นางรำสาว 50%
ครั้นไปถึงศูนย์วัฒนธรรมไทยของนิวยอร์คแล้วเธอก็รีบก้าวเข้าไปยังด้านใน โดยในระหว่างนั้นหญิงสาวผมสั้นประมาณบ่า เรือนร่างเล็ก สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผิวเป็นสีน้ำผึ้งนวลเนียน อายุ 22 ปี อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูนกับกางเกงยีนแบบขาสามส่วนพอดีตัวสีเข้มกับรองเท้าผ้าใบ ก็เดินมาหาเมื่อเห็นเธอจึงเรียกชื่อออกมาอย่างคุ้นเคย มาแล้วเหรอมณี เธอเกิดอาการสะดุ้งกายขึ้นมาในพลัน อุ๊ย อีกฝ่ายทำสีหน้างงงันกับอาการดังกล่าวจึงถามด้วยความสงสัย ขวัญอ่อนจริง มณีไพรำจึงเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ให้เพื่อนสาวได้ฟัง รู้ไหมเข็ม เมื่อกี้นี้ฉันเจอใครมาน้ำเสียงของเธอแสดงความตื่นเต้นอย่างมาก เจอใครเหรอ จัสติน บีเบอร์ขวัญใจของฉันรึไงกัน ถามด้วยความคาดเดา ใช่ที่ไหนล่ะฉันเจออีตาผู้ชายที่วิ่งไล่เราสองคนไงล่ะ รู้ไหมว่าฉันน่ะเกือบโดนจับเข้าคุกแล้ว เพื่อนสาวแสดงความตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น อะไรจะซวยอย่างนี้กันนี่ตานั่นยังไม่เลิกอาฆาตพวกเราอีกเหรอ ยังหรอก ดูท่าจะหัวเสียมากเลย ก็ตานั่นบอกพวกแม่ค้าพ่อค้าในตลาดว่าฉันเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ แถมทุกคนก็พลอยจะเชื่อเขาด้วยว่าพูดจริง เธอเล่าให้เพื่อนฟังตามลำดับ แล้วทำยังไงน่ะมณีพวกนั้นถึงเชื่อเธอ ฉันก็บอกว่าผู้ชายคนนั้นจะปล้ำฉันน่ะสิ แล้วก็บอกว่าเขาดึงฉันเข้าไปจูบด้วย ดวงตาของเข็มปัณต์เบิกกว้าง เพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะพูดเช่นนี้ แล้วทุกคนเชื่อเธอไหม โชคดีที่ทุกคนยอมเชื่อฉัน ฉันก็เลยหนีมาได้โดยให้ทุกคนกันผู้ชายคนนี้ไว้ไม่ให้ตามฉันไป ไม่อย่างนั้นมีหวังฉันคงตายหยังเขียดแน่ๆ พลางทำอาการขนลุกด้วยสีหน้าหวาดหวั่น วันนั้นเราไม่น่าไปหลอกผู้ชายคนนั้นเลยนะ พูดพร้อมกับทำอาการถอนหายใจอย่างไม่สบายใจ ถ้าไม่หลอกว่าโดนรถชนแล้วเธอจะมีเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้านรึไงกัน อีกฝ่ายย้อนถามกลับมา มณีไพรำส่ายหน้าอย่างติดกันและตอบ ไม่มีหรอก ก็นั่นไงโกหกแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากสิคนอื่นทำเลวกว่านี้เขายังไม่รู้สึกอะไรเลย อีกอย่างหนึ่งผู้ชายหน้าหล่อคนนั้นน่ะถึงไม่จ่ายให้เราก็ต้องไปจ่ายเงินให้สาวๆ บางทีมากกว่านี้อีกด้วยซ้ำไป นี่ถ้ายายของเธอไม่ป่วยจนเธอกับแม่ต้องไปยืมเงินเบิร์กลี่มาจ่ายค่านอนที่โรงพยาบาล แล้วเธอไม่โดนขโมยกระเป๋าเงิน ฉันก็คงไม่ต้องโกหกผู้ชายคนนั้นหรอกรู้ๆ อยู่ว่าตานี่น่ะเขี้ยวจะตายชักคิดดอกเบี้ยเป็นวัน ส่วนยายเจ้าของบ้านเช่าก็เขี้ยวพอกัน ซึ่งน้าปิ่นปัทม์กับเข็มปัณต์ก็เอาเงินเก็บมาช่วยด้วยโดยไม่ได้รีบทวงไว้มีค่อยคืนเพราะรู้ดีว่ายังไงตอนนี้ครอบครัวของมณีไพรำก็คงยังไม่มีคืนแน่นอน แต่ก็ยังไม่พอค่าใช้จ่ายของผู้เป็นยายที่ต้องรักษานานหลายเดือนซึ่งทำให้เงินของมณีไพรำกับมารดาแทบไม่พอใช้ ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้ เธอได้จ่ายดอกอานแน่ๆ แถมค่าเช่าก็คิดเพิ่มอีกเป็นรายวัน เข็มปัณต์ปลอบโยนเพื่อนสนิทซึ่งเป็นนางรำ ฉันจะพยายามไม่คิดมากก็แล้วกันนะเข็ม มณีไพรำตอบกลับไปเบาๆ ดีแล้ว เพื่อนสาวยิ้มอย่างเห็นด้วย มารดาของมณีไพรำได้มาทำงานที่นี่เพราะน้าปิ่นชวนมาทำด้วยกัน โดยปิ่นปัทม์เพื่อนของมารดาเป็นแม่ของเข็มปัณต์ มณีไพรำจึงได้มาอยู่และเรียนต่อที่นี่ ซึ่งครอบครัวของแม่ก็เลิกรากันตั้งแต่อีกฝ่ายยังเด็ก แม่จึงต้องไปอยู่กับพ่อก่อนจะแต่งงานและมีเธอ พ่อของมณีไพรำเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย ส่วนน้ารุจิราซึ่งเป็นพี่สาวฝาแฝดคนน้องก็ไปอยู่กับแม่ มณี เข็ม อาทิตย์นี้ว่างรึเปล่า รติวรรณมารดาของมณีไพรำถามหญิงสาวทั้งสอง ว่างค่ะ มีอะไรเหรอคะแม่ ผู้เป็นลูกสาวถาม พอดีว่าวันอาทิตย์นี้จะมีการเลี้ยงส่งท่านกงสุลใหญ่น่ะ เราต้องพาพวกเด็กๆ ไปรำโชว์ด้วยแม่ก็เลยอยากจะให้มณีกับเข็มช่วยดูแลน้องๆ หน่อยน่ะ เพราะวันนั้นคงยุ่งมากเลยทีเดียว มารดาของปิ่นปัทม์บอกให้ทราบ ครั้นได้รับรู้ทั้งสองก็ยิ้มด้วยสีหน้ายินดี ไม่มีปัญหาค่ะแม่ น้าปิ่น เดี๋ยวเราสองคนจะช่วยดูแลน้องๆ ให้เองค่ะ ขอบใจนะลูก รติวรรณจับไปยังบ่าเล็กด้วยรอยยิ้ม นี่เด็กๆ ก็กำลังซ้อมรำค้างคาวกินกล้วยอยู่ เพื่อใช้ในการแสดงที่จะมาถึง โดยทั้งสองก็ได้ไปดูน้องๆ ซ้อมรำซึ่งตรงไหนที่ยังรำไม่ดี มณีไพรำก็จะช่วยบอกให้รู้ด้วย ในช่วงที่เธอทั้งสองไม่ได้มีธุระหรืองานอะไรก็มักจะเป็นคนพาเด็กๆ ไปแสดงโชว์ตามงานต่างๆ ที่ได้รับการติดต่อมา หญิงสาวมีหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยให้กับน้องๆ ในวันแสดงก่อนที่จะไปขึ้นโชว์ เมื่อเธอมองไปยังนาฬิกาบนข้อมือที่สวมอยู่ก็รับรู้ว่าได้เวลาที่จะต้องไปทำงานที่ร้านอาหาร โดยในวันนี้เธอมีหน้าที่รำโชว์ด้วย เข็มได้เวลาทำงานแล้วล่ะ พลางหันไปบอกกับเพื่อนสนิทของตนเอง อย่างนั้นก็ไปกันเลย แม่คะ มณีไปทำงานก่อนนะคะ เธอเอ่ยกับมารดา หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกมาจากศูนย์วัฒนธรรมไทยของนิวยอร์ค ทั้งสองนั่งรถประจำทางมายังร้านอาหารไทยซึ่งอยู่ที่ถนน 25 เมนสตรีท คิงส์พาร์ค เข็มปัณต์ก็ทำงานที่ห้างสรรพสินค้าเป็นพนักงานขายของ ที่ร้านอาหารนั้นมณีไพรำเริ่มจากการทำงานเป็นคนล้างจาน ก่อนจะมาเป็นผู้ช่วยกุ๊กด้วยการหาเงินแบบพาร์ทไทม์ในระหว่างที่เรียนต่อไปด้วย แล้วก็ขยับมาเป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อหาเงินมาเป็นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในบ้าน แบ่งเบาภาระให้กับมารดา เธอต้องช่วยเหลือและรับผิดชอบตัวเองตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ซึ่งทำงานเพียงอาทิตย์ละสี่วัน วันหนึ่งเจ้าของร้านก็ต้องการให้มีการแสดงรำไทยในร้านอาหารด้วย มณีไพรำก็บอกว่าเธอรำได้ จึงได้เป็นนางรำที่ร้านอาหารแห่งนี้ทุกวันพุธ เธอชื่นชอบการรำและเครื่องดนตรีไทย โดยเฉพาะซออู้และจระเข้จะถนัดมากเป็นพิเศษ เมื่อไปถึงร้านอาหารมณีไพรำก็จัดการเปลี่ยนเป็นชุดไทยเรือนต้น ลักษณะชุดคนละท่อนแขนสามส่วน ผ่าอก กระดุมห้าเม็ด ด้วยเสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อนกับสะไบสีน้ำตาลอ่อนเหลือบทองพาดกับบ่าเล็กและผ้าซิ่นที่ตัดเป็นแบบกระโปรงสีฟ้า เพื่อสะดวกในการก้าวเดิน และเข้ากับร้านอาหารไทยส่วนเส้นผมก็ถูกเกล้าขึ้นไปยังด้านบนอย่างเรียบร้อยเป็นชุดฟอร์มของร้านอาหารที่ตนเองทำงานอยู่ ที่นี่จะมีนักเรียนไทยมาทำงานอยู่หลายคน เธอช่วยพนักงานคนอื่นจัดโต๊ะเพื่อเตรียมตัวเปิดร้าน ซึ่งที่ร้านอาหารจะมีอาหารให้พนักงานได้กินก่อนเริ่มทำงาน ระหว่างนั้นดารารัตน์หรือแตงกวานักเรียนไทยที่มาทำงานในร้านอาหารเดียวกัน รู้ว่าหญิงสาวเรียนจบแล้วก็ถามด้วยความอยากรู้ ถ้าพี่มณีได้งานทำแล้วก็คงจะไม่มาทำงานที่นี่แล้วสินะคะ แตงกวาคงคิดถึงพี่มณีแย่เลยค่ะ พี่ก็คงแวะมาหาบ้างน่ะ ไม่ได้หายไปเลยสักหน่อย ยังไงที่นี่ก็เหมือนครอบครัวของพี่เหมือนกัน เธอบอกขณะที่ตักซุปอุ่นๆ ใส่ในถ้วย แต่ถ้ายังหางานทำไม่ได้ พี่ก็คงทำที่นี่ไปก่อนน่ะ หญิงสาวเอ่ยให้อีกฝ่ายทราบ ครั้นได้เวลาเริ่มงานทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง เมื่อมณีไพรำมองเห็นลูกค้าเข้ามาในร้านเธอก็รีบเดินไปต้อนรับอย่างไม่รอช้าพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงและรอยยิ้มที่อ่อนหวานเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาทานอาหารแห่งนี้ ร้านไทย คูซีน ยินดีต้อนรับค่ะ พร้อมกับที่เธอเดินนำลูกค้าไปยังโต๊ะที่ว่างและหยิบเมนูอาหารให้อีกฝ่ายก่อนจะเตรียมทำการจดเมนูอาหารอย่างไม่รอช้าตามหน้าที่เหมือนเช่นทุกวัน ขอเป็นต้มยำกุ้งมะนาวไข่หวาน ปลาทรายทอดขมิ้น แล้วก็กระดูกหมูอบทรงเครื่อง เครื่องดื่มขอเป็นน้ำส้มนะคะ ลูกค้าสั่งอาหารที่อยากทานตามลำดับ ได้ค่ะ เดี๋ยวขอทวนรายการอาหารอีกรอบนะคะ มณีไพรำอ่านรายการซ้ำอีกคราวหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าตนเองไม่ได้จดรายการผิด ครั้นเรียบร้อยแล้วเธอก็บอกกับอีกฝ่ายด้วยคำพูดสุภาพ รอสักครู่นะคะ แล้วกายระหงก็นำใบออเดอร์อาหารไปให้กับพ่อครัวหลังจากนั้นก่อนจะไปรับออเดอร์ของลูกค้าโต๊ะอื่นด้วยท่าที่คล่องแคล่วและวงหน้าผ่องใส ++++++++++++++++ แปะตอนต่อไปให้อ่านต่อค่ะ นางเอกเป็นนางรำพระเอกจะแก้เผ็ดนางเอกยังไงนะ มาลุ้นกันค่ะ
Create Date : 10 ตุลาคม 2557 |
Last Update : 10 ตุลาคม 2557 20:25:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1126 Pageviews. |
|
|