ถัดมา คือ ศาลเจ้า Shinagawa สถานที่นี้ได้มาจากอากู๋ พอลองหาเส้นทางไปใน hyperdia จะไม่เจอนะ ต้องหาในอากู๋จากสถานี Sengakuji ไปสถานี Shimbamba พอออกจากสถานีแล้ว เดินไปด้านหน้าสถานี ข้ามถนนไป พอข้ามไปแล้ว เดินไปทางขวา ศาลเจ้าอยู่ทางซ้ายมือ เห็นชัดมีบันไดสูง และมีมังกรพันไว้

ลอดห่วงนี้แล้ว ด้านบนจะมีห่วงแบบนี้อีก เราเห็นคนญี่ปุ่น สูงวัยแล้ว เขาจะเดินวน แต่ละด้าน 3 รอบ แต่เราแค่เดินผ่าน ทำความสะอาดร่างกายก่อน แล้วทำบุญ สักการะ ขอพรตามที่ต้องการ มองไปด้านขวาจะเห็นเสาโทริเล็กๆ เรียงรายให้เดินเข้าไปด้านล่าง

ด้านล่างเหมือนถ้ำเล็กๆ ให้เราสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีบ่อน้ำเล็กๆ ไหลออกมาจากปากมังกร มีตระกร้าใบน้อย เราเห็นคนญี่ปุ่นทำอะไรบางอย่าง ออกมาหาข้อมูล เขาให้เอาเศษเหรียญเงินใส่ตระกร้าล้างน้ำ ขอพร เชื่อว่าจะทำให้ร่ำรวยได้ 

จากนั้นเดินทางไปศาลเจ้าเมจิ ไปลงสถานี Harajukuสถานีนี้ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิม เก่าแก่ แต่รายล้อมด้วยร้านค้าฝั่งตรงข้ามเติมพลังก่อนด้วยขนมชิ้นน้อยๆ ที่คาเฟ่หน้าทางเข้า ผู้คนมากมายทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปเรื่อยๆ ทำความสะอาดร่างกายกันก่อน วันนี้มีพิธีสำคัญสำหรับเด็กๆญี่ปุ่น เราก็ยืนดูสักแพร้บ แล้วก็เดินดูรอบๆ ชอบต้นไม้ใหญ่หน้าศาลเจ้ามากขาเดินออกมา แวะพักกินของหนักที่ Food Center ง่ายๆแต่อร่อยดีนะ ซื้อของฝากนิดๆ หน่อยที่ร้านขายของที่ระลึก

พยายามถ่ายให้ติดคนน้อยที่สุด เพราะคนเยอะมาก

ชอบต้นไม้คู่นี้มาก

ร้านค้าฝั่งตรงข้ามสถานี มองทางซ้าย จะมีร้านขายกระเป๋ายอดฮิตอีกยี่ห้อนึง เราเข้าไปดูแล้ว พอมาเทียบกับราคาในห้างแล้ว ตรงเนี้ยะจะถูกกว่าห้าง

ถัดจากศาลเจ้าเมจิ เดินไปฝั่งตรงข้าม จะไป Takeshita Street ได้เราเคยเดินทางเส้นฝั่งตรงข้ามจากที่มาครั้งแรก ก็เลยไม่ไป จุดมุ่งหมายถัดไป คือชมวิวกว้างๆ ไกล ฟรีด้วย ที่นี้เราอ่านเจอจากหนังสือเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ง้อไกด์ไม่ง้อทัวร์ ขอตามรอย

ไปสถานี Shinjuku ออกทาง West Exitเดินไปตามป้ายว่าเราจะไปศาลาว่ากลางมหานครโตเกียว เดินไปตามป้ายเรื่อยๆ เลย ประมาณเกือบ 30 นาที ระหว่างเดินไปจะพบทางที่ลงใต้ดินกับบนถนนให้เดินบนถนน แต่แดดจะร้อนกว่ามุดใต้ดิน

เดินไปแล้วจะมีป้ายบอกว่าเป็นศาลาว่ากลางมหานครโตเกียว ตึกอยู่ด้านขวามี 2 ตึกใหญ่ๆ เราไปวันอาทิตย์ เขาก็เปิดให้บริการ เดินตามผู้คนเขาไปมีคนไปชมวิวสูงๆ นี้เยอะ เราเลือกได้ว่าจะชมวิวจากฝั่งตึกด้านไหนก็ได้จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและพาเราขึ้นไปชั้นบนเพื่อชมวิว

ถ้าอากาศดีๆ โล่งๆ อาจจะเห็นฟูจิซังได้แต่ช่วงที่เราไปเมฆค่อนข้างเยอะทุกวัน แม้กระทั่งวันนี้ เมฆก็เยอะเป็นจุดชมวิวที่ดีมากแห่งหนึ่ง เพราะเห็นวิวได้รอบๆ เมืองโตเกียว และไกลๆ ได้ด้วยเห็นตึกเป็นจุดเล็กๆ จุดชมวิวจะเป็นครึ่งวงกลม พร้อมกับมีผังบอกว่า ณจุดที่เราชมวิวอยู่นี้ ตึกที่เราเห็น คือ ตึกอะไรบ้าง

เราประทับใจจุดนี้นะ ไม่ต้องเสียตังค์ วิวก็ใช้ได้ หน้าลิฟท์มีให้เราแสตมป์ว่าเราเคยมาที่นี่

เดินชมร้านค้าใกล้ๆ สถานี แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไร เดินทางไปที่  Ikebukuro ต่อ ไปที่ตึกSunshine City วันนี้วันหยุดกลายเป็นถนนคนเดิน คนเยอะมาก เราจะไปร้านดิสนีย์ อยู่ที่ใต้ดินของตึกนี้ ตอนแรกไม่รู้ ถามพนักงานแล้วก็เดินหลงไปไกล จนกระทั่งเดินวกกลับมาถูก ต้องเดินมุดใต้ดินลงไป ร้านค้าเล็กๆ เต็มไปหมด คนเยอะ ช่วงกลางปีร้านค้าด้านล่างตึกลดราคาสินค้าคนเลยเยอะเป็นพิเศษ 

ที่ร้านดิสนีย์ พอมีของบ้าง แต่เราว่าซื้อที่อยู่ด้านใน Disneysea resort หรือ Disneyland เราว่าโอเคกว่านะ อย่างที่มีหลายๆคนที่เคยบอกเล่าในพันทิพแหละว่าร้านดิสนีย์ถ้าอยู่ด้านนอกสวนสนุกของก็ใช้ได้แต่ในสวนสนุกจะถูกใจมากกว่า

จากนั้นเดินฝ่าผู้คนออกมาไปห้างที่ขายร้องเท้ายี่ห้อดังในบ้านเรา ที่ร้านลดราคา มีเบอร์ที่ต้องการ หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไร แวะร้านเครื่องสำอาง ของละลานตา เลือกของที่ผลิตในญี่ปุ่น ราคาจะถูกมาก

พอกลับไปที่พัก ดั้นลืมซื้อของให้พี่คนนึง เขาฝากให้หาให้ด้วย เอาฟ่ะ มีตั๋วtokunai เดินทางได้อีก เอาของไปเก็บที่ห้องพัก แล้วออกมาอีกรอบ แต่หาไม่เจอให้พนักงานดูรูปเขาบอกไม่มี หาอยู่สามห้าง ก็เลยพอดีกว่า เมื่อยแล้ว เข้าใจความรู้สึกคนที่ต้องเดินหาของให้คนอื่นแหละ

แวะซุปเปอร์ซื้ออาหารเย็นกลับไปกินที่ห้อง เพราะเข็ดจากกลางวัน ไปนั่งกินในร้านเจอคนญี่ปุ่นสูบบุหรี่กระหนาบซ้ายขวา หัวเหม็นมากกก เลยเข็ด