บรรยากาศยามเย็นของบ้านท้องนา
บรรยากาศยามเย็นของบ้านท้องนา
รถที่พาเราเข้าไปยังที่พักเป็นรถอีแต๋นคันสีน้ำเงิน ดูจากภายนอกเจ้าอีแต๋นคันนี้คงจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปีพอสมควร รถวิ่งแล่นออกไปผ่านสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ จนกระทั่งเข้าไปยังบ้านไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา พนักงานใส่เสื้อม่อฮ่อมเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ลมเย็นจากท้องนา เริ่มพัดโชยมาให้ความสดชื่น อืม...แตกต่างจากที่คิด แต่กลับดีกว่าที่คิดไว้เยอะ :)
บ้านท้องนา เป็นที่พักสไตล์รีสอร์ท มีอาคารไม้ 2 ชั้น เป็นอาคารหลัก และมีบ้านพักหลังเล็ก ๆ ตั้งอยู่ด้านข้างของบ้านหลังใหญ่ รอบ ๆ ด้านของที่พักเป็นท้องทุ่งนาสีเขียวขจี อากาศเย็นสบาย ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมคะว่าบรรยากาศจะเงียบสงบขนาดไหน เงียบขนาดที่ว่ายามเย็นจะได้ยินเสียงกบเขียดร้องกันระงมเลยทีเดียว แบบนี้แหละที่เรียกว่าการพักผ่อนอย่างแท้จริง
บ้านท้องนา มีบริการจักรยาน
อาหารเมนูสุขภาพ ที่ทางรีสอร์ททำแบบโฮมเมด
อาหารเย็นแบบพื้นบ้าน รสชาติอร่อยเลิศ
ไม่ใช่เพียงแค่ที่พักเท่านั้นที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย แต่คอนเซ็ปต์ของที่นี่ยังทำให้เราเหมือนได้รีเฟรชชีวิตอีกครั้ง เพราะทั้งกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารการกิน ล้วนแต่มุ่งเน้นไปที่การอยู่ดีกินดีแบบธรรมชาติ ใส่ใจสุขภาพแบบกำลังดี การมาพักผ่อนที่นี่จึงเป็นการชาร์จพลังงานที่ยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว
น้ำใบข้าวปั่น บ้านท้องนา
ต้นข้าวอ่อนในแปลงปลูก ก่อนจะถูกนำไปทำเครื่องดื่มและอาหาร
หากจะให้พักผ่อนอยู่ในบ้านท้องนาตลอด 2 วัน ถามว่าทำได้ไหม ทำได้ค่ะ แต่จะดีกว่าถ้าได้ลองออกไปสัมผัสกับสวรรคโลกให้มากขึ้น ซึ่งในอำเภอนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย สถานที่แรกที่อยากจะแนะนำก็คือ สถานีรถไฟสวรรคโลก
สถานีรถไฟสวรรคโลก ตั้งอยู่ภายในตัวเมือง เป็นสถานีรถไฟที่มีความเก่าแก่มากกว่า 100 ปี ตัวอาคารเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น มีข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณเก็บไว้ บางอย่างยังคงใช้งานได้ดี
จากสถานีรถไฟ เดินมาทางขวามือเล็กน้อย ไปหาของกินอร่อย ๆ กันค่ะ
ร้านบะหมี่เม้งเจ้าเก่าเป็นร้านบะหมี่ที่ทำเส้นและเกี๊ยวเองมายาวนานมากกว่า 100 ปี เมนูเด็ดของทางร้านก็คือบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ตัวเส้นบะหมี่และเกี๊ยวจะเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมของแป้งที่ไม่เหมือนที่ไหน น้ำซุปจะรสชาติเข้มข้น แทบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติม
แต่เมนูที่เราอยากจะแนะนำเพิ่มเติมก็คือบะหมี่เกี๊ยวต้มยำและเย็นตาโฟ พร้อมทั้งเกี๊ยวทอดกรอบค่ะ สำหรับเมนูต้มยำไม่ได้เผ็ดมากนัก มีความเผ็ดกำลังดี เปรี้ยวนิด ๆ ส่วนเย็นตาโฟก็มีน้ำขลุกขลิก เส้นเหนียวนุ่ม มีเครื่องเคียงต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ที่ชอบมาก ๆ ก็คือเกี๊ยวกรอบ เนื้อแป้งจะกรอบนุ่ม ได้กินร้อน ๆ กับบะหมี่ต้มยำบอกได้คำเดียวว่าแซ่บ ร้านบะหมี่เม้งเจ้าเก่า เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น.
ตลาดเก่าสวรรคโลก...กินมาอิ่ม ๆ ก็เดินย่อยกันหน่อยค่ะ ไปเดินดูตลาดเก่าแก่ของที่นี่กัน ซึ่งภายในตลาดก็ยังมีบ้านเรือนไม้ให้ได้เดินเที่ยวชม บรรยากาศในตลาดเงียบสงบ มีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ เพียบเลย
เดินไปเดินมาก็ไปจ๊ะเอ๋กับสถานีตำรวจสวรรคโลกหลังเก่า ซึ่งเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง มีบันไดทางขึ้นยื่นจากมุขด้านหน้า 2 ฝั่ง หลังคาของอาคารเป็นแบบทรงปั้นหยาและทรงจั่วที่มุขด้านหน้า หน้าต่างเป็นไม้สักทอง มีพื้นที่ตรงกลางเป็นโถงโล่งกว้าง ปัจจุบันดัดแปลงมาเป็นพื้นที่แสดงเรื่องราวประวัติของอาคารแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาหาความรู้
ถ้าพูดถึงงานด้านสถาปัตยกรรม เมืองสวรรคโลกก็ยังมีอาคารสวย ๆ ให้ได้ไปชื่นชมอีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ
ตึกสวรรค์วรนายก วัดสวรรคาราม เดิมทีที่นี่เคยเป็นกุฏิของเจ้าคุณสวรรควรนายก ตัวอาคารมี 3 ชั้น มีลักษณะเป็นแบบสไตล์ยุโรป ตกแต่งหน้าต่างด้วยกระจกสี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน
จากวัดสวรรคารามเดินออกมาทางด้านหลังวัด เราจะเจอกับ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรควรนายก ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้โบราณอย่างถ้วยชามสังคโลก พระพุทธรูปในยุคสมัยต่าง ๆ ประวัติของเจ้าคุณสวรรควรนายก รวมไปถึงการจัดแสดงนิทรรศการในเรื่องราวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
โดยชั้นล่างของอาคารจะจัดแสดงเครื่องถ้วยชามสังคโลกสมัยโบราณ ที่ขุดพบบริเวณบ้านเกาะน้อย และบ้านป่ายาง อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย พร้อมทั้งที่งมได้จากเรือที่จมอยู่ในอ่าวไทย ชั้นบนจัดแสดงพระพุทธรูปตั้งแต่ก่อนยุคสุโขทัย จนถึงศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น และอาคารทางฝั่งซ้าย ด้านล่างจะเป็นนิทรรศการความรักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ส่วนด้านบนจัดแสดงสมบัติของพระสวรรควรนายก
เที่ยวชมเมืองกันมาครึ่งวัน เริ่มจะหมดแรง มาเติมพลังกันหน่อยดีกว่า คราวนี้ขอไปนั่งทานข้าวท่ามกลางท้องทุ่งนา สระน้ำ และภูเขากันที่
ร้านอาหารบ้านกลางนา เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ แต่รสชาติอาหารไม่ธรรมดาเลยค่ะ มีอาหารไทยพื้นเมืองให้เลือกทานอย่างครบครัน รสชาติจัดจ้าน อร่อยได้ใจ
เมนูแนะนำ อาทิ ผัดฉ่าปลากดคัง, ปลากะพงทอดน้ำปลา, แกงหอยขมใบชะพลู, ผัดสะตอกุ้งสด, ปูนิ่มผัดผงกะหรี่, ต้มยำปลากดคัง, ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก ร้านอาหารบ้านกลางนา อิ่มท้องแล้วก็ไปตะลุยสวรรคโลกต่อค่ะ สถานที่ต่อไปที่อยากจะแนะนำก็คือ
ศาลหลักเมืองสวรรคโลก อ๊ะ ๆ งงใช่ไหมว่าทำไมอำเภอสวรรคโลกถึงมีศาลหลักเมืองด้วย ก็เพราะว่าแต่ดั้งเดิมนั้นสวรรคโลกเคยมีฐานะเป็นจังหวัดมาก่อน แต่ได้มีการยุบให้เป็นจังหวัดเดียวกับสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 2482 นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเคารพกราบไหว้ได้ทุกวันค่ะ ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 08.00-17.00 น.
จากศาลหลักเมืองมุ่งหน้าไปยัง
วัดสว่างอารมณ์ วัดเก่าแก่อีกหนึ่งวัดของอำเภอสวรรคโลก มีปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ
"พระพุทธเรืองฤทธิ์" เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่มีความงดงามและเป็นที่เคารพของชาวบ้านมาก ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ สามารถเข้าเที่ยวชมและกราบไหว้ขอพรได้ทุกวัน
ทริปนี้ช่วงบ่ายกิจกรรมของเราไม่แน่นเท่าไรค่ะ เพราะว่าอยากให้ได้กลับไปพักผ่อนกันที่บ้านท้องนา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน สามารถนำทริปนี้ไปปรับใช้ได้ตามความชอบใจเลยค่ะ
ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวไทยสักแห่งเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง สวรรคโลกก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เล่นเลยล่ะค่ะ เพราะบรรยากาศของที่นี่ทั้งเงียบสงบและอบอุ่น ไม่ต้องเร่งรีบและหัวเสียกับรถติด เติมพลังงานให้กับชีวิตได้อย่างดีทีเดียวขอขอบคุณข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย,
bangkokair.com,
sawankalok.go.th,
info.ru.ac.th