5. มีบริการลูกหาบ ใครรู้ตัวว่าแบกสัมภาระไม่ไหว แนะนำว่าให้จ้างลูกหาบจะดีกว่า เพราะไม่ใช่แค่เขาจะช่วยแบกสัมภาระให้เราเท่านั้น ยังคอยช่วยกางเต็นท์ ก่อไฟ หรือต้มน้ำให้ด้วย โดยสามารถติดต่อขอใช้บริการลูกหาบและเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
6. เส้นทางการเดินป่านั้นระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง โดยต้องพักค้างแรม กางเต็นท์บนยอดเขาหนึ่งคืน
7. ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกบนยอดเขา ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีร้านค้า ระหว่างเดินขึ้นนักท่องเที่ยวควรพกน้ำไว้กับตัวด้วยสัก 2-3 ขวด ไว้สำหรับดื่ม หรือเอาไว้ใช้ปรุงอาหารตามจุดแวะพักต่าง ๆ
8. ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ใครที่ติดโซเชียลมีเดียอาจจะต้องเตรียมตัวทำใจแต่เนิ่น ๆ เพราะบนเขาช้างเผือกเรียกได้ว่าสัญญาณโทรศัพท์แทบขึ้นตามไปไม่ถึง จะมีสัญญาณก็เพียงบางจุดหรือบางค่ายก็เท่านั้น คุณอาจจะต้องตัดขาดจากโลกภายนอกสักวันสองวัน แต่เพื่อแลกกับความสวยงามที่ต้องเจอ รับรองว่าคุ้มค่า
9. ไม่มีห้องน้ำ มีแต่ห้องน้ำแบบหลุม ถ้าใครไม่ถนัดเข้าห้องน้ำแบบนี้แนะนำให้ทำธุระของตัวเองในป่าไปเลย
10. เตรียมอุปกรณ์จำเป็นส่วนตัว เช่น ทิชชูเปียก ไฟฉาย เสื้อกันฝน ยารักษาโรค อุปกรณ์การตั้งแคมป์ต่าง ๆ
12. พื้นที่กางเต็นท์บนยอดเขามีพื้นที่จำกัด และไม่มีน้ำใช้
13. เสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับใส่เดินขึ้นเขาช้างเผือกควรเป็นเสื้อแขนยาว ระบายความร้อนได้ดี รองเท้าผ้าใบ เพราะเนื่องจากต้องเดินฝ่าคมหญ้า ซึ่งอาจบาดเนื้อตัวได้
14. ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินขึ้นเขาช้างเผือกไม่เกิน 08.00 น. จะดีที่สุด (อย่าลืมพกหมวกไปด้วย) เนื่องจากระหว่างทางเดินขึ้นค่อนข้างร้อน เพราะแทบไม่มีต้นไม้บังแดดเสียเท่าไร
15. ไฮไลท์วัดใจของเขาช้างเผือก คือ "สันคมมีด" หรือ "สันวัดใจ" มีลักษณะเป็นสันเขาบาง ๆ แคบ ๆ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินแถวเรียงหนึ่งขึ้นไป ถึงจะไม่สูงมากแต่ก็เล่นเอาหลายคนใจสั่น เพราะเมื่อมองออกไปทั้งสองข้างจะเห็นเขาลาดลึกลงเป็นเหว งานนี้อาจมีคนใจสั่นก้าวขาไม่ออกก็มี
16. ถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตยอดเขา หลังจากที่เดินผ่านช่วงไฮไลท์สันคมมีดมาแล้ว จะเป็นเนินเขาให้เดินต่อไปจนถึงจุดสูงสุด ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นวิวได้โดยรอบ ไม่มีอะไรมาบดบัง ใครมาถึงจุดนี้แล้ว ต้องมายืนถ่ายรูปคู่กับป้าย เพื่อเป็นสักขีพยานการเดินทางพิชิตสันคมมีดได้สำเร็จ
17. ฟิตร่างกายมาให้พร้อม การเดินป่าขึ้นเขาข้างเผือกควรเตรียมตัวฟิตร่างกายมาให้แข็งแรง และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องสักหนึ่งเดือนก่อนออกเดินทาง
18. ช่วงที่สวยงามที่สุดของเขาช้างเผือกคือปลายฝนต้นหนาว เพราะเป็นช่วงที่บนเขาช้างเผือกสวยมาก ๆ มองไปทางไหนจะเห็นแต่สีเขียวสด กลางคืนอากาศหนาว ๆ มีหมอกให้เห็น ทำเอานักท่องเที่ยวอย่างเราประทับใจสุด ๆ
19. ปฏิบัติและเชื่อฟังคำสั่งเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไม่เดินออกนอกเส้นทางหรือเดินทางตามลำพัง เพราะนั่นหมายถึงความเสี่ยงที่คุณจะได้พบกับอันตรายไม่คาดฝัน
ถึงแม้ว่าการเดินทางพิชิตเขาช้างเผือกจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากอยู่เสียหน่อย แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเกินความสามารถของนักท่องเที่ยวที่มีหัวใจท้าทายและรักการผจญภัยอย่างแน่นอน เพราะความงดงามสองข้างทาง รวมถึงประสบการณ์ที่ได้ รับรองว่าคุ่มค้าหาไม่ได้จากที่ไหน
อ๊ะ ๆ ใครกำลังมีข้อสงสัยว่าจะเดินทางไปอย่างไร และเปิดช่วงไหนบ้าง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โทรศัพท์ 098 252 0359, 034 510 979 หรือ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ขอขอบคุณข้อมูลจาก
,
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี, tourismthailand