อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
แก๊สนํ้าตา คืออะไร

บ่อยครั้งที่เราได้ดูได้ฟังข่าวการสลายการชุมนุมในต่างประเทศหรือในประเทศก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลมักสลายการชุมนุมโดยการยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชน เพื่อให้ฝูงชนแตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง แก๊สน้ำตานี้คืออะไร เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

แก๊สน้ำตา (tear gas) คืออะไร

            แก๊สน้ำตา เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มสารเคมีที่ใช้ในการควบคุมจราจล ซึ่งมีสารที่เกี่ยวข้องมากกว่า 12 ชนิด แต่ที่สำคัญมีอยู่ 3 ชนิดได้แก่

            1. Chloroacetophenone หรือ CN gas (CAS No. 532-27-4;UN Class 6.1; UN Number 1697; UN Guide 153; เป็นยุทธภัณฑ์ชนิด 1 ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530) ได้รับการคิดค้นขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แต่นำมาใช้ในช่วงสงครามเวียดนามโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา ในช่วง ค.ศ. 1960-1979 มีการนำมาใช้ในการปราบจราจลและในกิจการของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านความมั่นคงและความปลอดภัย โดยการใช้งานจะอยู่ในรูปละอองลอยที่บรรจุในภาชนะอัดความดัน ต่อมานำมาใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวแต่ก็ลดน้อยลงมากแล้วในปัจจุบัน เนื่องจากระยะเวลาออกฤทธิ์ค่อนข้างนานและใช้ไม่ค่อยได้ผลกับคนติดยาและติดเหล้า

            2. Chlorobenzylidenemalonitrile : CS gas (CAS No. 2698-41-1; เป็นยุทธภัณฑ์ชนิด 1 ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530) เป็นผงผลึกสีขาว เมื่อไหม้ไฟจะก๊าซไม่มีสี ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1928 แต่ยังไม่มีการใช้จนกระทั่งสงครามเวียดนามจึงมีการใช้เป็นอาวุธสงครามอย่างกว้างขวางและต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

            3. Dibenzoxazepine : CR gas (CAS No. 257-07-8; เป็นยุทธภัณฑ์ชนิด 1 ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530) กระทรวงกลาโหมของอังกฤษพัฒนาขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1960 มีลักษณะเป็นผลึกสีเหลืองซีดมีกลิ่นคล้ายพริกไท ในสหรัฐอเมริกาไม่ใช้สารตัวนี้เป็นสารควบคุมจราจล เนื่องจากมีสมบัติก่อมะเร็ง

            สารเคมีเหล่านี้อาจอยู่ในรูปของแข็ง (ผง) หรือของเหลวก็ได้ เมื่อมีการยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมจะได้รับแก๊สน้ำตาได้ทั้งทางการหายใจเข้าไป การสัมผัสดวงตาและผิวหนัง ซึ่งมีผลให้เกิดการไหม้และระคายเคืองทันทีตามบริเวณที่สัมผัสกับแก๊สน้ำตา อาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสแก๊สน้ำตา ได้แก่

            - น้ำตาไหล มองเห็นไม่ชัด ตาแดง

            - น้ำมูกไหล จมูกบวมแดง

            - ปากไหม้และระคายเคือง กลืนลำบาก น้ำลายไหลย้อย

            - แน่นหน้าอก ไอ รู้สึกอึดอัด หายใจมีเสียงดัง หายใจถี่

            - ผิวหนังไหม้ เป็นผื่น

            - คลื่นไส้ อาเจียน

            โดยปกติแล้ว หลังจากออกมาจากบริเวณที่มีแก๊สน้ำตาและทำความสะอาดร่างกายแล้ว อาการที่เกิดขึ้นจะคงอยู่ประมาณ 30-60 นาที เท่านั้น ถ้าสัมผัสแก๊สน้ำตาเป็นเวลานานๆ เช่น มากกว่า 1 ชั่วโมง หรือได้รับสัมผัสปริมาณมากๆ ในพื้นที่อับอากาศ อาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้ เช่น ตาบอด ต้อหิน ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตเนื่องจากสารเคมีจะไหม้ลำคอและปอด ปริมาณที่ทำให้เสียชีวิตได้จะมากกว่าปริมาณที่ใช้ในการสลายการชุมนุมหลายร้อยเท่า

ควรทำอย่างไร เมื่อถูกสลายการชุมนุมด้วยการยิงแก๊สน้ำตาใส่

            ถ้าอยู่ในวิถีของแก๊สน้ำตาที่ยิงมา ให้วิ่งไปทิศตรงกันข้ามกับทิศที่ยิงแก๊สน้ำตาจนพ้นระยะกลุ่มแก๊ส ไม่ควรวิ่งไปด้านข้างเพราะมีโอกาสสัมผัสแก๊สน้ำตาได้อยู่ การมองเห็นอาจพล่ามัวและอาจสับสนได้ง่าย ดังนั้นระวังอย่าวิ่งเข้าไปหาตำรวจ  ให้ทำใจให้สงบมองดูรอบๆ ตัว แล้วค่อยเคลื่อนไปยังที่ที่ปลอดภัย ถ้าเป็นไปได้ให้ไปอยู่เหนือลมและปล่อยให้ลมพัดผ่านส่วนของร่างกายที่โดนแก๊สน้ำตา จะช่วยให้แก๊สน้ำตาหลุดไปได้เร็วขึ้นและล้างด้วยสารละลายโซเดียมเมตาไบซัลเฟตหรือน้ำเปล่า อย่าเอามือไปโดนเพราะจะทำให้แก๊สน้ำตาขยายวงและซึมเข้าผิวหนังได้ จากนั้นอาจเข้าร่วมชุมนุมต่อได้ทันที เพราะแก๊สน้ำตาปริมาณน้อยจะส่งผลเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และถ้ามีโอกาสให้ล้างตัวด้วยน้ำเย็น อย่าใช้น้ำร้อน เพราะน้ำร้อนทำให้รูขุมขนเปิดกว้างขึ้นทำให้แก็สน้ำตาซึมเข้าไปได้ง่ายขึ้น

            หลังเสร็จสิ้นการชุมนุมให้ผึ่งเสื้อผ้าในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อไล่แก๊สน้ำตาที่ติดอยู่ออก ประมาณ 1 วัน หรือซัก 2 ครั้งด้วยน้ำเย็นก่อนแล้วค่อยซักอีกครั้งด้วยน้ำร้อน

            เนื่องจากแก๊สน้ำตาละลายได้ในไขมัน ดังนั้นไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงและปกป้องผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือวาสลีน

ที่มาของข้อมูล :

//www.nyc.gov/html/doh/html/bt/bt_fact_tear.shtml
//en.wikipedia.org/wiki/CN_gas
//www.crimedoctor.com/self_defense_1.htm
//en.wikipedia.org/wiki/CS_gas
//www.eco-action.org/dod/no7/cs_gas.html
//en.wikipedia.org/wiki/CR_gas
//www.dss.go.th/dssweb/st-articles/files/ct_9_2550_TearGas.pdf




Create Date : 14 มกราคม 2558
Last Update : 14 มกราคม 2558 9:12:01 น. 1 comments
Counter : 1457 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 3773459 วันที่: 27 มีนาคม 2560 เวลา:16:43:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.