กระต่ายกับเต่า ความแตกต่างระหว่างเพศในการก้าวของการวี่งมาราธอน
จากการศึกษาใหม่นี้นำโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยของรัฐ Grand Valley พบว่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะชะลอการก้าวในการวิ่งมาราธอนมากกว่าผู้หญิงซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Medicine & Science in Sports & Exercise การศึกษานี้ซึ่งนำโดย รศ. ดร. Robert Deaner ภาควิชาจิตวิทยา ที่ Grand Valley State ได้ศึกษาจากงานวิ่งมาราธอน 14 ครั้งในสหรัฐอเมริกาในปี 2011 ที่มีผู้เข้าร่วม 92,000 คน พบว่าโดยเฉลี่ยช่วงครึ่งหลังของการวิ่งมาราธอนร้อยละ 15.6 ของผู้ชายวิ่งช้าลงกว่าครึ่งแรก ในขณะที่ร้อยละ 11.7 ของผู้หญิงจะชะลอตัวในครึ่งหลัง แม้ว่าระดับของการชะลอตัวนี้แปรผันตามการแข่งขันที่แตกต่างกัน แต่ความแตกต่างทางเพศนี้เกิดขึ้นจากการวิ่งมาราธอนทั้งหมด 14 ครั้ง ซึ่งความแตกต่างทางเพศนี้เห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณานักวิ่งที่ชะลอตัวลงร้อยละ 30 หรือมากกว่า ซึ่งเป็นผู้ชายอยู่ประมาณสามเท่าของผู้หญิง นักวิจัยตัดสินใจที่จะทำการศึกษาในเรื่องนี้เพราะพวกเขามีสมมติฐานที่ว่าการก้าวย่างระหว่างการวิ่งมาราธอนอาจจะสะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจและการศึกษาก่อนหน้านี้ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าโดยทั่วไปผู้ชายมักจะตัดสินใจเลือกความเสี่ยงมากกว่าในทุกๆสถานการณ์ Deaner กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์การกีฬาได้ให้ความสนใจกับการก้าวของนักกรีฑามาช้านานแล้ว แต่พวกเขามุ่งไปที่ความไวของนักกรีฑามากกว่าจะสนใจกับบทบาทของการตัดสินใจของนักกรีฑา พวกเราเลยให้เหตุผลว่าการตัดสินอาจจะสำคัญสำหรับนักวิ่งสมัครเล่น ผู้ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการวิ่งมาราธอนที่ถูกต้องหรือความพร้อมของร่างกายของตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะเริ่มวิ่งเต็มฝีเท้าและมีการก้าวที่ไม่สม่ำเสมอในช่วงระยะทางไมล์แรกๆของการวิ่งมาราธอน พวกเราได้คาดการณ์ว่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะทำเช่นนั้นมากกว่าผู้หญิงและผลที่ตามมาก็คือพวกเขาอาจจะมีปัญหาในช่วงครึ่งหลัง ในขณะที่การตัดสินใจมีบทบาทสำคัญ ปัจจัยทางสรีรวิทยายังอาจเป็นอีกปัจจัยหลักที่อธิบายถึงการชะลอตัวช้าลงของผู้ชายเมื่อเทียบกับผู้หญิง Sandra Hunter ผู้เขียนร่วมและศาสตราจารย์สาขาวิทยาศาสตร์การออกกำลังกายที่มหาวิทยาลัย Marquette กล่าวว่า โดยทั่วไปผู้หญิงมักจะใช้ไขมันมากกว่าและใช้คาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าในระหว่างช่วงการออกกำลังกายที่ต้องใช้ความอดทนหรือทนทานต่อความเหนื่อย ซึ่งทำให้พวกหล่อนมีโอกาสน้อยที่จะวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และเมื่อยล้า เพราะพวกหล่อนมีแนวโน้มที่กล้ามเนื้อซึ่งมีไกลโคเจนที่จะถูกใช้ให้หมดไปนั้นมีน้อยกว่า คณะวิจัยหวังว่าผลการศึกษาของพวกเขาจะกระตุ้นให้เกิดการศึกษาในอนาคตเกี่ยวกับการก้าวของนักกรีฑาสมัครเล่น Hunter กล่าวว่า พวกเขาอยากผลักดันให้การศึกษาการก้าวของนักกรีฑาสมัครเล่นอยู่ในความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ มันคงน่าสนใจมากที่จะทำให้การศึกษานี้สมบูรณ์โดยอาศัยเพียงเวลาวิ่งครึ่งทางและเวลาเข้าเส้นชัยเท่านั้นร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ซึ่งอาจรวมถึง การฝึกทักษะการวิ่ง การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป้าหมายการก้าว ความรู้สึกของคนวิ่ง และขนาดทางสรีวิทยา การศึกษาเหล่านี้อาจจะดำเนินไปเพื่อช่วยให้นักวิ่งสมัครเล่นประสบความสำเร็จในการวิ่งได้ดีขึ้น และสนุกกับการแข่งขันมากยิ่งขึ้น สิ่งที่แสดงถึงความทนทานในการวิ่งที่สำคัญเกือบทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับการย่างก้าวทั้งสิ้น ดังนั้นการค้นพบใหม่นี้แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงจะมีการก้าวย่างที่ดีกว่าผู้ชายในการแข่งขัน Deaner กล่าวว่า ใช่เลย คุณสามารถมองมันให้เหมือนกับสถานะการณ์เดียวกับกระต่ายกับเต่าเลยก็ว่าได้ ผู้ชายจะรู้สึกอ่อนล้าบ่อยขึ้นและไม่ค่อยสบายตัว แต่ผมคิดว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าผู้หญิงนั้นเป็นนักวิ่งที่ดีกว่า เนื่องจากการแข่งขันไม่ได้ชี้ไปที่การก้าวที่ดีเพียงอย่างเดียว บางคนอาจจะใช้ความระมัดระวังในการวิ่ง ซึ่งมาจากขั้นตอนการฝึกฝน และขีดความสามารถของแต่ละคน ดังนั้นคำถามนี้จะไม่ได้รับการตอบอย่างแท้จริงจนกว่าจะมีการศึกษาในอนาคตที่ศึกษาเกี่ยวกับการฝึกฝนของนักวิ่งและเป้าหมายของพวกเขาไปพร้อมๆกับการย่างก้าวของพวกเขา ผลการศึกษาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการก้าวอย่างช้าๆนั้นดีกว่าการวิ่งช้าๆ และความแตกต่างทางเพศในการก้าวได้ขยายออกไปในนักวิ่งมาราธอนที่วิ่งช้าๆ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่เข้าเส้นชัยภายใน 3 ชั่วโมง ร้อยละ 6.9 ของผู้ชายจะวิ่งช้า ขณะที่ร้อยละ 5.5 เป็นของผู้หญิง ทั้งหมดนี้ความแตกต่างทางเพศคิดเป็นร้อยละ 25 และจากการวิ่งเข้าเส้นชัยภายใน 5 ชั่วโมง ร้อยละ 18.8 ของผู้ชายจะวิ่งช้า ขณะที่ร้อยละ 14.5 เป็นของผู้หญิง ซึ่งความแตกต่างทางเพศคิดเป็นร้อยละ 30 นักวิจัยยังได้ทำการศึกษาว่าประสบการณ์ในการแข่งขันเกี่ยวข้องกับการย่างก้าวหรือไม่ และอาจจะนำไปสู่ความแตกต่างทางเพศได้ด้วยหรือไม่ โดยพวกเขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ในการแข่งขัน จากการค้นคว้าข้อมูลในเว็บไซต์ athlinks จากนักวิ่ง 2,900 คน ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายการแข่งขัน ยิ่งมีประสบการณ์ในการแข่งขันหลายปีประกอบกับยิ่งลงแข่งขันมาราธอนบ่อยครั้ง ทั้งสองส่วนนี้มีความเกี่ยวข้องกับการก้าวอย่างมาก อย่างไรก็ตามผลกระทบของประสบการณ์ในการวิ่งของทั้งชายและหญิงไม่ได้แตกต่างกัน ดังนั้นการควบคุมประสบการณ์ในการวิ่งมาราธอนจึงไม่ได้มีผลต่อความแตกต่างทางเพศในการย่างก้าว คณะวิจัยยังพบอีกว่าความแตกต่างทางเพศในการก้าวได้ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ ซึ่งมันยังครอบคลุมไปถึงการปรับสภาพร่างกายของผู้หญิงประมาณร้อยละ 12 ในการได้รับออกซิเจนสูงสุดของผู้ชายมีมากกว่าและความเร็วในการวิ่งที่เร็วกว่าผู้หญิง ที่มา www.sciencedaily.com/releases/2014/07/140707161729.htm เอกสารอ้างอิง: Robert O. Deaner, Rickey E. Carter, Michael J. Joyner, Sandra K. Hunter. Men are More Likely than Women to Slow in the Marathon. Medicine & Science in Sports & Exercise, 2014; 1 DOI:10.1249/MSS.0000000000000432
Create Date : 11 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 11 สิงหาคม 2557 4:50:09 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1276 Pageviews. |
|
|
เหนื่อยมาก ไม่ชอบออกกำลังกายด้วย
แย่มากๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่า