งานวิจัยชิ้นใหม่จาก Baylor University พบว่าเด็กมหาวิทยาลัยทุกวันนี้นั้นใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือของตัวเองมากจน น่าตกใจ และนักวิจัยก็ได้กล่าวเตือนระวังการ เสพติด โทรศัพท์มือถืออีกด้วย
แน่นอนว่าตัวเลขที่ได้มานี่เป็นตัวเลขที่ น่าตกใจ สำหรับนักวิจัยวัยกลางคนที่เป็นคนทำการวิจัยในครั้งนี้ แต่คงเป็นตัวเลขที่ดูธรรมดาสำหรับตัวเด็กมหาวิทยาลัยเอง ซึ่งหลายๆคนเห็นตัวเลขนี้แล้วก็คงจะไม่ได้รู้สึกอะไร แล้วก็คงก้มน่าก้มตามองโทรศัพท์มือถือของตัวเองต่อไปเสียด้วยซ้ำ
สำหรับข้อมูลในงานวิจัยดังกล่าวนั้นพบว่า
- สำหรับผู้หญิงที่เรียนมหาวิทยาลัยนั้นใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 10 ชั่วโมงต่อวันกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ส่วนผู้ชายนั้นใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งข้อความดังกล่าวนั้นขัดแย้งกับมุมมองที่มีมาแต่เดิมว่าผู้ชายจะใช้เวลาอยู่กับเทคโนโลยีมากกว่าผู้หญิง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ให้เหตุผลไว้ว่าผู้หญิงนั้นอาจจะมีแนวโน้มสูงกว่าที่จะใช้โทรศัพท์มือถือด้วยเหตุผลทางสังคมต่างๆอย่างเช่นการส่งข้อความหรืออีเมล์เพื่อสร้างความสัมพันธ์และอีกทั้งยังมีการสนทนาในเชิงลึกมากกว่า ส่วนสำหรับผู้ชายเองนั้นถึงแม้จะใช้มือถือเพื่อการใช้งานและการบันเทิงอื่นๆมากกว่า แต่พวกเขาก็ไม่ได้ปราศจากอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด พวกเขาก็ยังใช้งาน Facebook, Instragram หรือ Twitter อยู่ดี
- 60% ของนักเรียนมหาวิทยาลัยนั้นยอมรับว่าพวกเขาอาจจะมีพฤติกรรมเสพติดโทรศัพท์มือถือก็เป็นได้
นอกจากนั้นแล้ว พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ที่กินเวลาในแต่ละวันไปนั้นประกอบไปด้วย การส่งข้อความ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 94.6 นาทีต่อวัน การส่งอีเมล์ที่ 48.6 นาที การเช็ค Facebook 38.6 นาที และการใช้อินเตอร์เน็ตอื่นๆ 34.4 นาที และการฟังเพลงบนโทรศัพท์มือถือที่ 26.9 นาที ตามลำดับ
แน่นอนว่าการสำรวจครั้งนี้ได้ทำขึ้นที่ Baylor University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยคริสเตียนในรัฐ Texas ซึ่งไม่ค่อยมีความโดดเด่นด้านภูมิทัศน์เท่าไหร่นัก และอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือของตนเองมากกว่าปกติก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเลขดังกล่าวก็นับว่าสูงมากกว่าปกอยู่ดี
แล้วคุณล่ะ ใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือของคุณวันละกี่ชั่วโมง?
ที่มา : //gawker.com/college-students-spend-most-of-college-looking-at-cell-1628455611/
อุ้มแวะมาอ่านค่ะ