อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
20 กว่าปีผ่านไปยังจําได้มั๊ย???.....ไทยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเซีย

ในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีอัตราการแข่งขันสูงแต่หลายประเทศประสบปัญหาสภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งในตอนก่อนหน้านี้ MThai ข่าวภาคซ่าส์เคยนำเสนอ เรื่องราวปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจในตอนวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งมาแล้ว

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง เสือแห่งเอเชีย ซึ่งเสือที่ว่านี้ไม่ใช่สัตว์แต่เป็นเสือเศรษฐกิจและจะมาเช็คกันว่า บ้านเราเมืองเราเดินไปถึงไหน ถอยหลัง หรือ ยืนอยู่ที่เดิม ในขณะที่โลกหมุนไปเรื่อยๆและเรากำลังจะเข้าสู่อาเซียนแล้วด้วย

ใครคือ 4 เสือแห่งเอเซีย

ก่อนจะไปพูดถึงเสือตัวที่ 5 ของเอเซีย เรามาย้อนกันดูก่อนว่า 4 เสือที่มีอยู่แล้วคือประเทศใดบ้าง สี่เสือแห่งเอเชีย ( Four Asian Tigers) หรือมังกรเอเชียเป็นคำที่ใช้อ้างถึงเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็วของฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้และไต้หวัน ก่อนเข้าสู่วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ส่งผลให้ประเทศกลุ่มนี้ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มของประเทศที่พัฒนาแล้ว

ซึ่งปัจจุบันสิงคโปร์เป็นประเทศที่พัฒนาสูงสุดของโลกอยู่ในอันดับที่ 9 และอันดับ 1 ของเอเซีย ส่วนฮ่องกง เกาหลีใต้อยู่ในอันดับประเทศที่พัฒนาแล้วของโลกอันดับที่ 15 ส่วนไต้หวันจัดอยู่ในกลุ่ม ประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าของ IMF โดยนโยบายหลักของประเทศสี่เสือคือการสนับสนุนการส่งออกและการเป็นชาติอุตสาหกรรม

cats

ไทยคือเสือตัวที่5ของเอเซีย

หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน เด็กยุค90 หรือผู้ใหญ่ในยุคนั้นก็จะมีการได้ยินว่าไทยเป็นเสือตัวที่ 5 มีการบรรจุเข้าในตำราเรียนท่องจำกันใหญ่ เห่อกันมาก ซึ่งเป็นช่วงสมัยรัฐบาลของ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่มีการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า”

หลายประเทศล้วนจับตาว่า ไทยอาจจะเข้ามาเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเซียแน่นอน เพราะยุคนั้น รัฐบาลได้อนุมัติให้เอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่น โครงการโทรศัพท์พื้นฐาน 3 ล้านเลขหมาย โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ในเขตกรุงเทพมหานคร และโครงการทางด่วนยกระดับ ตัวเลขความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงนั้นพุ่งสูงขึ้นมาก

แต่ก็เกิดเหตุการณ์รัฐประหารโดยคณะ รสช.ก่อนนำไปสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ล้มเป็นโดมิโน่ตามมาซ้ำด้วยวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง คราวนี้เสือตัวที่ 5 ก็เลยกลายเป็นแมวไปซะอย่างนั้น และเหมือนว่าจะกลับขึ้นมาเป็นเสืออีกครั้งในยุครัฐบาล พตท.ทักษิณ แต่ก็ล้มลงอีกเพราะเหตุการณ์ทางการเมือง

ซึ่งปีที่ผ่านมา 2557 ไทยมี GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ)โตแค่ 0.7% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้จ่ายภายในประเทศทั้งเอกชนและภาครัฐที่ลดลง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักธุรกิจที่ชะลอลงทุน แต่เดี๋ยวก่อน!!! อย่าเพิ่งเศร้าไปเพราะ ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับโตต่อเนื่อง

ซึ่งตั้งแต่เดือน ต.ค. 57 จนถึง 25 พ.ค. 58 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 19,417,520 คน สร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว 9.44 แสนล้านบาท ซึ่งประเทศที่มาเที่ยวในไทยมากที่สุดคือ จีน

SWOT รู้จุดแข็ง รู้จุดอ่อนของไทย

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้ทำการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของไทยในการแข่งขันกับอาเซียน ดังนี้

จุดแข็ง

ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรหลายรายการรายใหญ่ของโลกตั้งอยู่ในสภาพที่อำนวยต่อการเป็นศูนย์กลาง โครงข่ายเชื่อมโยงคมนาคมด้านต่างๆสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วถึง, มีระบบธนาคารค่อนข้างเข้มแข็ง และมีจำนวนแรงงานเยอะมาก

v

จุดอ่อน

แรงงานในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังขาดทักษะ ทั้งทางฝีมือและทักษะทางด้านภาษาด้วย ในขณะที่ประเทศอื่นในอาเซียนอย่างสิงคโปร์ แรงงานมีทักษะสูงกว่ามากพูดได้ทั้งอังกฤษ จีน มีความรู้ดีเยี่ยม มีความชำนาญด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล และธุรกิจ รวมถึงแรงงานในไทยเทคโนโลยีการผลิตส่วนใหญ่ยังเป็นขั้นกลาง ไม่ใช่ขั้นสูงแบบประเทศที่ออกแบบการผลิตเอง

ทั้งนี้ หากไทยอยากกลับมาเป็นว่าที่เสือตัวที่ 5 เหมือนเดิมคือต้องเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับมา ซึ่งขณะนี้บางบริษัทตรียมย้ายฐานการผลิตไปในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว รวมถึงไทยยังต้องสร้างเสถียรภาพทางการเมือง พัฒนาฝีมือทักษะแรงงาน ความรู้ความสามารถทั้งฝีมือและภาษา ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางอาเซียนเป็ฮับเชื่อมต่อของภูมิภาค ตั้งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์

และศูนย์กลางการท่องเที่ยว ซึ่งหากทำได้ทั้งหมดไม่แน่ว่าไทยอาจจะกลับมาผงาดอีกครั้ง แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงเหนื่อยหน่อยเพราะเราเดินถอยหลังมาไกลเหลือเกิน 20 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้เดินไปไหนเลย ในขณะที่ประเทศอื่นเค้าเดินแซงหน้าไปไกลมากแล้ว

MThai News




Create Date : 06 มิถุนายน 2558
Last Update : 6 มิถุนายน 2558 6:08:43 น. 1 comments
Counter : 1470 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: peepoobakub วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:11:34:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.