นักวิจัยกำลังจะค้นพบวัคซีนตัวแนวใหม่หลายตัวที่จะช่วยให้คนต่อสู้กับโรคมาลาเรียได้ โดยครั้งนี้นักวิจัยได้ทดสอบโปรตีนหลายๆตัวจากปรสิต Plasmodium falciparum ที่เป็นต้นเหตุของโรคมาลาเรีย กับแอนตีบอดีที่สร้างจากระบบภูมิคุ้นกันของเด็กที่ติดเชื้อเพื่อหาว่าวัคซีนตัวใดที่มีประสิทธิภาพและผลิตในปริมาณมากๆได้
การทดสอบนี้คือการวัดว่า โปรตีนตัวไหนที่ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กจะตอบสนอง และผลการทดสอบได้บ่งบอกถึงแอนตีเจนที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อน และสามารถนำมาทำเป็นวัคซีนได้ต่อไป
"การดื้อยารักษาโรคมาลาเรียกำลังเป็นปัญหามากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ดังนั้น วัคซีนจะต้องสามารถต่อสู้กับปรสิต Plasmodium falciparum ให้ได้ก่อนที่มันจะมีโอกาสไปทำให้ร่างกายคนป่วยได้ การศึกษาครั้งนี้ทำให้เราได้ทราบวัคซีนที่เป็นไปได้หลายๆตัวที่อาจจจะช่วยเหลือคนได้ต่อไปในอนาคต" ดร.เฟธ โอซิเยร์ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยการแพทย์เคนย่าเผย
นักวิจัยที่สถาบันวิจัยการแพทย์เคนย่า (KEMRI) ได้ติดตามอาการของเด็กที่ป่วยเป็นโรคมาลาเรียเป็นเวลากว่า 6 เดือน ผู้ป่วยบางคนมีอาการป่วย แต่บางคนกลับมีแอนติบอดีธรรมชาติที่สามารถหยุดเชื้อปรสิตมาลาเรียไม่ให้แทรกซึมเข้าไปยังเซลล์เม็ดเลือดแดงในช่วงที่เลือดติดเชื้อที่จะทำให้เกิดไข้และโลหิตจาง นักวิจัยใช้ตัวอย่างเลือดจากเด็กๆเหล่านี้เพื่อหาว่า แอนติบอดีกลุ่มใดหรือคู่ใดที่สามารถให้ผลการปกป้องจากโรคมาลาเรียได้ 100 เปอร์เซ็นต์
การศึกษาครั้งนี้ได้ใช้โปรตีนที่มาจากปรสิตหลายๆตัวที่สร้างขึ้นโดยใช้ขั้นตอนที่พัฒนาโดยสถาบันเวลคัมทรัสต์แซนเกอร์ นำโดย ดร.เกวิน ไรท์ และ ดร.จูเลียน เรย์เนอร์ นักวิจัยเหล่านี้ได้พัฒนาวิธีการที่จะแสดงโปรตีนจากปรสิต Plasmodium falciparum ทำให้ทราบโปรตีนที่จะเจาะไปยังเซลล์เม็ดเลือดแดงของมนุษย์ได้ และในการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยจากสถาบันนี้ก็ได้ร่วมมือกับทางเคนย่าเพื่อศึกษาว่า โปรตีนตัวใดในนี้ที่ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อต่อต้านจนปกป้องได้สำเร็จ
"การใช้โปรตีนจากโครงการมาลาเรียของสถาบันแซงเกอร์ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงจุดที่อ่อนไหวที่สุดในวงจรชีวิตของปรสิตมาลาเรียได้ การทดสอบวัคซีนในอดีตที่ผ่านมาจะดูไปที่วัคซีนเป้าหมายทีละตัวๆและโอกาสประสบความสำเร็จก็น้อยลงไป และถ้าใช้วิธีการนี้ เราสามารถที่จะทดสอบวัคซีนเป้าหมายได้อย่างเป็นระบบ ทีละหลายๆตัว และค้นพบวัคซีนเป้าหมายที่อาจจะทำงานได้ดีเมื่อต้องนำมารวมกันได้" ดร.จูเลียน เรย์เนอร์ เผย
การค้นพบครั้งนี้ยังบอกเราด้วยว่า การรักษาโรคมาลาเรียในระยะโรคติดเชื้อนี้น่าจะต้องใช้แอนติเจนหลายตัว ก้าวตอ่ไปคือการสร้างแอนติบอดีที่สามารถต่อสู้กับโปรตีนทุกตัวจากปรสิตได้ และทดสอบในห้องปฏิบัติเพื่อดูว่าแอนติบอดคู่ใดที่สามารถปกป้องไม่ให้ปรสติเจาะเข้าไปในเม็ดเลือดโดยตรงได้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการวิจัยของสถาบันวิจัยแซงเกอร์
"ในแต่ละปี มีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคมาลาเรียหลายแสนคน แต่คนเป็นร้อยล้านคนมีอาการติดเชื้อ บางคนก็ได้รับการคุ้มครองเพราะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี การร่วมือกับสถาบันแซงเกรอ์จะช่วยให้เราได้นำเทคโนโลยีล่าสุดเข้ามาทำให้งานวิจัยสาขานี้ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงคู่ของแอนติบอดีในธรรมชาติที่สามารถนำมาสร้างเป็นวัคซีนตัวใหม่ได้" ดร.เควิน มาร์ช ผู้อำนวยการของ KEMRI เผย
อ้างอิง: Wellcome Trust Sanger Institute. (2014, July 30). New malaria vaccine candidates identified. ScienceDaily. Retrieved July 31, 2014 from //www.sciencedaily.com/releases/2014/07/140730151136.htm
งานวิจัย: Osier, F et al. New antigens for a multicomponent blood-stage malaria vaccine. Science Translational Medicine, 2014 DOI:10.1126/scitranslmed.3008705
เห็นข่าวแล้วมีเชื้อโรคใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกเสมอ
ไม่ชอบเลยค่ะ