ผู้ป่วยอัมพาตสามารถขยับแขนของตัวเองได้ผ่านความคิด

นับว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ผู้เป็นอัมพาตนั้นสามารถขยับมือของตัวเองได้ด้วยการใช้แค่ความคิดผ่านเทคโนโลยีที่นับว่าเจ๋งทีเดียว ซึ่งการประกาศเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ผู้หญิงที่เป็นอัมพาตได้ทำการเตะลูกบอลครั้งแรกที่งานบอลโลกที่บราซิลด้วยความช่วยเหลือจากชุดหุ่นยนต์สวมใส่หรือ exoskeleton

ดูเหมือนว่าการเป็นอัมพาตนั้นเริ่มจะกลายเป็นเรื่องในอดีตไปทุกที

Ian Burkhart นั้นได้สูญเสียความสามารถที่จะขยับร่างกายส่วนใต้หน้าอกตัวเองเมื่อสี่ปีที่แล้วหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุศรีษะกระแทกเข้ากับสันดอนทรายจนคอหักไป ซึ่งหนุ่มวัย 23 ปีคนนี้นั้นไม่สามารถที่จะขยับแขนส่วนใต้ข้อศอกได้อีกนับตั้งแต่เวลานั้น อย่างไรก็ตาม ถือเป็นความโชคดีในโชคร้ายที่อายุและอาการป่วยของเขาที่ให้โอกาส Burkhart เป็นหนึ่งในผู้รับเลือกหลักสำหรับกระบวนการทดลองที่จะทำให้มีการติดตั้งไขกระดูกสันหลังเทียมให้แก่เขา

กระบวนการดังกล่าวนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเหล่าแพทย์ได้เจาะรูขนาดเล็กที่กระโหลกของเขาและทำการฝังชิพลงไปที่สมอง ทำให้แพทย์สามารถติดตั้งเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Neurobridge” หรือสะพานประสาทที่จะช่วย ส่งสัญญาณจากสมองของ Burkhart ไปยังปลอกแขนพิเศษที่จะกระตุ้นกล้ามเนื้อแขนที่เสื่อมสภาพไปแล้วได้  ต้องขอบคุณอิเล็กโทรดจำนวน 96 ตัวซึ่งทำให้ชิพดังกล่าวสามารถอ่านสัญญาณต่างๆจากสมองของเขาและส่งไปยังปลอกแขนและกระตุ้นกล้ามเนื้อส่วนที่จำเป็นสำหรับการขยับมือของ Burkhart

Burkhart เองได้เริ่มต้นจากการใช้ความคิดของเขาควบคุมเคอร์เซอร์บนหน้าจอ แล้วค่อยพัฒนาตนเองขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งสามารถทำกิจกรรมยากๆด้วยระบบอินเตอร์เฟสระหว่างสมองและคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งเหล่าแพทย์นั้นได้กล่าวว่าพวกเขาถือว่า Burkhart นั้นประสบความสำเร็จถ้าหากเพียงแค่เขาสามารถขยับนิ้วได้หนึ่งนิ้ว แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น  Burkhart กลับสามารถหยิบช้อนได้ทั้งคันเพียงเพราะพลังความคิดของเขาเท่านั้น

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเราจะยังห่างไกลจากวันที่ผู้เป็นอัมพาตทั้งแขนขาจะสามารถกระโดดออกมาจากเก้าอี้รถเข็นของตัวเองก็ตาม แต่ก็คงจะไม่เกินไปถ้าจะบอกว่าเรากำลังอยู่ระหว่างการค้นพบวิธีรักษาการเป็นอัมพาตบางชนิดได้แล้ว ซึ่งถ้าเราใช้เวลาสองปีเพื่อพัฒนาจากการใช้ความคิดควบคุมแขนของหุ่นยนต์เป็นการควบคุมแขนของมนุษย์ได้เองแล้วล่ะก็ เราคงได้แต่หวังว่าจะมีการค้นพบอันยิ่งใหญ่อีกเร็วๆนี้

ที่มา : //gizmodo.com/watch-a-paralyzed-man-move-his-hand-with-the-power-of-t-1596089570