อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
7 หลักการกินเพื่อเสริมการทำงานของสมอง



บำรุงสมอง

วิถีการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันมักถูกกดดันจากสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ครอบครัวหรือการทำงาน ต่างบั่นทอนพลังกาย พลังสมอง บ่อยครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา สมองตื้อ ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ค่อยดี ถ้าปล่อยไว้นานอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดเจ็บป่วยตามมา ประโยชน์ของโภชนาการเริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการเสริมสร้างสุขภาพและเพิ่มพลังให้กับสมอง

คนส่วนใหญ่รู้ว่าอวัยวะสำคัญที่เป็นศูนย์ควบคุมและบัญชาการทำงานของร่างกายคือ "สมอง"เป็นหน่วยเก็บความจำและมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความรู้สึกของคนเราด้วย แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า อาหารมีความสำคัญต่อการพัฒนาของสมองไม่แพ้ทางร่างกาย

          สมองจะทำงานได้ดีโดยเราต้องเลือกการกินอาหารให้หลากหลาย ครบถ้วน ทุกหมวดหมู่ในปริมาณพอเหมาะ ดูแลสุขภาพหลอดเลือดหัวใจไปพร้อม ๆ กัน ร่วมกับการพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอนหรือนอนดึก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และดื่มน้ำเพียงพอ ฝึกใช้สมองความคิดเสมอ ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาและชะลอการเสื่อมของสมองอย่างได้ผลดี

การจะมีสุขภาพกายและสุขภาพสมองที่ดี ต้องรู้จักที่จะปฏิบัติตนให้มีโภชนาการที่ดี สำหรับหลักการกินเพื่อการส่งเสริมการทำงานของสมอง มีดังนี้

อาหารเพื่อสุขภาพ

1. กินอย่างฉลาด

          สารอาหารที่สมองต้องการใช้ในยามเตรียมสอบหรือยามใช้สมองทำงานหนัก ได้แก่ วิตามินบีต่าง ๆ และธาตุเหล็ก อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์โดยเฉพาะส่วนของเนื้อล้วน ผักใบเขียวจัด ถั่วเมล็ดแห้ง นอกจากนี้อาหารฟังก์ชั่นบางชนิดที่สะดวกต่อการบริโภค และให้โปรตีนในรูปเปปไทด์ซึ่งร่างกายนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น เช่น ซุปไก่สกัด ซึ่งมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจำพวกธาตุเหล็กที่เป็นองค์ประกอบของเม็ดเลือดแดงได้ดีขึ้นและช่วยให้เลือดขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองในด้านการเรียนรู้และความจำ รวมถึงช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน

งานวิจัยที่ผ่านมาพบอีกว่าซุปไก่สกัด มีส่วนช่วยลดความอ่อนล้าของสมอง ช่วยให้มีสมาธิและความจำดีขึ้น ล่าสุดมีงานวิจัยในวารสาร Medicine พบว่า ซุปไก่สกัดมีผลช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้จดจำ โดยเฉพะความจำระยะสั้นในกลุ่มคนวัยทำงานที่มีภาวะเครียดและวิตกกังวลสูง ส่วนอาหารที่มีวิตามินบีสูง ได้แก่ ธัญพืชไม่ขัดสี จมูกข้าว ไข่และถั่วต่าง ๆ อาหารโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไก่ ปลา หมู เนื้อ ไข่ รวมทั้งโปรตีนถั่ว ต่างก็ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง

2. กินอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง

          เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน วิตามินอี ใยอาหาร ซึ่งหากินได้ไม่ยากจากผักผลไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นส้ม แอปเปิล กล้วย พรุน เบอร์รี แครอท เป็นต้น สารแอนติออกซิแดนท์จะช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นมากในสมองในยามเครียด ทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น

3. กินให้เป็นเวลา

          จะช่วยให้รักษาระดับพลังงานของร่างกายและวิตามินแร่ธาตุให้คงที่ ในการที่ร่างกายจะดึงไปใช้ได้ตลอดเวลา 

4. กินอาหารมื้อเล็ก ๆ 5-6 มื้อ

          ปรับมื้ออาหารหลักให้มีปริมาณน้อยลงโดยกิน 5-6 มื้อต่อวันจะทำให้ระบบของร่างกายทำงานดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและสมองไม่ล้าตลอดวันและช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

5. ห้ามงดอาหารเช้าเด็ดขาด

เพราะจะทำให้สมองตื้อได้ อาหารเช้าจะช่วยเสริมพลังให้สมอง แต่ทั้งนี้ขึ้นกับคุณภาพของอาหารเช้า หากเป็นกาแฟ โดนัท หรือเค้ก คุกกี้ ไม่ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อาหารเช้าที่ดีควรจะมีโปรตีน แคลเซียม ใยอาหาร ผลไม้และผัก แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว สะดวก ขนมปังโฮลวีทสักแผ่น ซุปไก่สกัดสักขวด แอปเปิลสักผล แครอทสดสักชิ้น นมสักแก้ว ก็ให้สารอาหารดี ๆ มากทีเดียว

6. ให้ผลไม้เป็นอาหารว่างระหว่างวัน

          เพื่อให้สารอาหารดี ๆ ต่อสมองมากกว่าขนมที่มีไขมันสูง เพราะผลไม้เป็นแหล่งของสารแอนติออกซิแดนท์ที่จะช่วยลดอนุมูลอิสระที่จะทำลายสมอง เช่น บลูเบอร์รี พรุน มีสารแอนติออกซิแดนท์สูงสุดในบรรดาผลไม้ด้วยกัน

7. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ

          ควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เน้นการดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและคาเฟอีน คาเฟอีนมากไปจะทำให้เกิดอาการกระสับกระส่ายได้

นอกจากการปฏิบัติตามหลักข้างต้น ต้องหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน ไม่สูบบุหรี่ และพยายามหมั่นทำจิตใจให้แจ่มใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและสมองได้ไม่ยากเลย

ข้อมูลโดย อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพจากสหรัฐอเมริกา




Create Date : 01 สิงหาคม 2559
Last Update : 1 สิงหาคม 2559 5:41:42 น. 1 comments
Counter : 989 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 3773459 วันที่: 28 มีนาคม 2560 เวลา:17:17:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.