นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

 
ตุลาคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 ตุลาคม 2558
 

[แสนเสน่ห์] 2 : เล่นสมบทบาท

: : : คำเตือน : : :

เนื้อหาของตอนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป หากคุณไม่ชอบบทเรท 20+ กรุณาข้าม แต่ถ้าชอบ ก็อ่านโลดดด




ตอนที่ 2

เล่นสมบทบาท



เสียงโทรศัพท์ของอันนาดังขึ้นระหว่างที่เธอกำลังแต่งหน้าเพื่อเตรียมเข้าฉากในละคร หญิงสาวหยิบมาดูและเห็นชื่อ ‘พ่อ1’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เธอเอ่ยขอตัวกับช่างแต่งหน้าแล้วเดินออกไปคุยด้านนอก

“ค่ะ” เธอรับคำ

“ยุ่งอยู่หรือเปล่าครับ” ศรัณย์ถามมาตามสาย

“กำลังแต่งหน้าเข้าฉากอยู่ค่ะ มีอะไรหรือคะ” เธอถาม ไม่เคยมีใครสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับศรัณย์ เพราะหญิงสาวเปลี่ยนชื่อของเขาในโทรศัพท์เป็นบุคคลในครอบครัว

“พี่จะบอกว่าพรุ่งนี้พี่ต้องไปถ่ายละครที่เกาะกูด อาจติดต่อข้าวไม่สะดวกนัก”

“ไปกี่วันหรือคะ ไม่เห็นบอกข้าวก่อนเลย” เธอถาม โดยไม่เอ่ยชื่อของเขาออกมา

“ต้องถ่ายซ่อมฉากเก่าน่ะครับ พี่เพิ่งทราบเมื่อเช้าเหมือนกัน น่าจะไปประมาณสามสี่วัน”

“เรื่องอะไรคะ”

“เหลี่ยมรักซ่อนเล่ห์ครับ”

“พี่จ๋าเป็นนางเอกนี่คะ” เธอถาม และได้ยินเสียงรับคำดังมา “เขาไปด้วยหรือเปล่าคะ”

“เขาเป็นนางเอกนี่ครับ” ชายหนุ่มไม่ตอบตรงๆ

“น้องข้าวคะ ต้องเข้าฉากแล้วค่ะ” เสียงช่างแต่งหน้าดังมาอย่างเกรงใจ ทำให้อันนาที่กำลังอ้าปากถามต้องหยุดไว้ เธอพยักหน้าให้ช่างแต่งหน้า

“แค่นี้ก่อนนะคะ ข้าวขอทำงานก่อน” เธอบอกคนปลายสายก่อนวาง

“สีหน้าน้องข้าวดูไม่ค่อยสบายเลย คุณพ่อเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ช่างแต่งหน้าที่มีความสนิทสนมกันถามอย่างเกรงใจ

“คุณพ่อโทรมาบอกว่าแมวที่บ้านโดนสุนัขข้างบ้านกัดน่ะค่ะ” อันนาบอก คนถามยิ้มแห้งๆ ก่อนผายมือให้เธอไปแต่งหน้าต่อ





ศรัณย์พร้อมทีมงานละครของเขาเดินทางไปถ่ายซ่อมฉากที่ไม่สมบูรณ์ยังเกาะกูดตั้งแต่เช้าตรู่ โดยครั้งนี้มีนักแสดงประมาณสี่ถึงห้าคนเพราะเป็นเพียงฉากไปเที่ยวของพระเอกนางเอกในเรื่อง

ชายหาดสีขาวและน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวในบรรยากาศเย็นย่ำช่างโรแมนติกเหลือเกิน สองหนุ่มสาวในชุดเสื้อยืดบางเบากางเกงขาสั้นเดินเลียบชายหาดแบบช้าๆ ไม่รีบร้อน ทั่วบริเวณมีแค่พวกเขาสองคน ทำให้เกาะแห่งนี้เหมือนเกาะส่วนตัว

“แต่งงานกับผมนะครับลูกศร” ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยเสียงเบาแล้วกระชับวงแขนที่โอบรอบเอวของเธอ หญิงสาวหยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขา สีหน้าตื่นเต้น

“คุณพูดจริงหรือคะพีท” เธอถาม ขณะที่พีทจับมือคนรักของเขาแล้วยกขึ้นจุมพิตเบาๆ

“จริงครับ ลืมความแค้นระหว่างครอบครัวให้หมดแล้วเรามาเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนะครับ ต่อไปจะไม่มีความแค้นอะไรทั้งนั้น ถ้าจะมีก็มีเพียงความรักที่ให้แก่กัน” เขาบอกแล้วมองเธอนิ่ง

“ค่ะ ลืมความแค้นเหลือไว้เพียงความรักของเรา” เธอบอกแล้วโผเข้ากอดคนตัวสูง พีทอุ้มเธอแล้วหมุนไปรอบๆ ทั้งสองหัวเราะให้กัน สีหน้าของลูกศรเต็มไปด้วยความสุข

“ลูกศรรักคุณที่สุดเลยค่ะ” เธอเอ่ยเมื่อเขาวางเธอลง

“ผมก็รักคุณครับ” เขาบอกแล้วค่อยๆ โน้มตัวลง มือของเขาจับที่ปลายคางของเธอ หญิงสาวยิ้มแล้วหลับตาพริ้ม เขาขบริมฝีปากล่างของเธอเบาๆ ก่อนแนบสนิทกับกลีบปากนุ่ม

กล้องตัวใหญ่ค่อยๆ ถอยออกห่างคล้ายต้องการให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพังท่ามกลางเวิ้งทะเลอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

“คัท!! เยี่ยมมาก!” เสียงห้าวดังมาไกลๆ พร้อมเสียงตบมือจากทีมงาน

ศรัณย์ถอนริมฝีปากของเขาออกด้วยสีหน้าเสียดาย ขณะที่จ๋าหรือจิรดาขยับใบหน้าตามเหมือนยังไม่ต้องการให้เขาถอนปากออก

“เยี่ยมมากคีย์ จ๋า เยี่ยมทั้งสองคนเลย ฉากนี้โรแมนติกสุดๆ รับรองว่าใครเห็นต้องฟินจิกหมอนแน่ๆ”

“ขอบคุณครับ” ศรัณย์บอกแล้วก้มศีรษะรับคำชม

“เหมือนเป็นคู่รักมาขอแต่งงานกันจริงๆ เลยนะคะ ฉากจูบเมื่อกี้เล่นเอาพี่เคลิ้มเลยค่ะ พี่เนไม่น่ารีบสั่งคัทเลย” ผู้ช่วยของเนติบอกแล้วค้อนผู้กำกับขวับๆ

“ไม่ต้องห่วงๆ ยังมีฉากให้เธอฟินอีกเยอะ นี่แค่เบาะๆ เท่านั้น” เนติบอกก่อนตบมือหนักๆ “เอาละๆ ตอนนี้เลิกกองได้ พรุ่งนี้เจอกันหกโมงเช้าที่ล็อบบี้รีสอร์ทนะ ตอนนี้ใครอยากเดินเที่ยว เล่นน้ำก็ตามสบายเลย และถ้าพรุ่งนี้เสร็จงานเร็ว พี่จะพาไปออกเรือดำน้ำ”

“เฮ้!!” หลายเสียงเฮกันลั่นด้วยความดีใจ ก่อนแยกย้ายกันไปเก็บของ

“คีย์เล่นจริงแบบนี้ไม่กลัวเป็นข่าวหรือคะ” จิรดาถามเมื่ออยู่ตามลำพัง

“เพื่องานที่สมบูรณ์เราก็ต้องเล่นจริงนี่ครับ และผมชอบเล่นจริงมากกว่าไม่ชอบเล่นแบบหลอกๆ” ศรัณย์บอกและมองนางเอกของเขายิ้มๆ

“ค่ะ จ๋าก็ชอบเล่นจริงมากกว่า พี่เนไม่น่ารีบสั่งคัทเลยนะคะ จ๋ากำลังเคลิ้มอยู่พอดีเลย”

“ว่างจะไปต่อบทกันมั้ยล่ะครับ” เขาเอ่ยชวน “ค่ำนี้เห็นพวกพี่ๆ เขานัดไปเลี้ยงกัน น่าจะเป็นโอกาสให้เราต่อบทกันได้”

“เอาสิคะ เพื่องานที่สมบูรณ์ของเราสองคน งานนี้ไม่มีนักข่าวด้วย คีย์จะได้สบายใจ ไม่ต้องคอยมานั่งโกหกนักข่าว” ท้ายเสียงมีแววประชดเล็กน้อย แต่ศรัณย์ไม่ถือสา

“ผมก็เล่นไปตามบท ดารากับคำปฏิเสธเป็นของคู่กันอยู่แล้ว คุณก็รู้ดี”

“รู้ค่ะ แต่คีย์ก็น่าจะใช้โอกาสนี้เปิดตัวนะคะ”

“อย่าเพิ่งเลยครับ ผมไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว ปิดโอกาสของคุณ”

“ปิดโอกาสของคุณมากกว่ามั้งคะ” เธอถามกลับ

“ของเราทั้งสองคน” ชายหนุ่มสรุป “เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี่ครับ ไม่มีพันธะต่อกัน ไม่มีสัญญาต่อกัน มีแต่ความพอใจต่อกัน” เขาบอกพร้อมทั้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถามความเห็นไปด้วย “คุณคงไม่อยากมีปัญหากับคนที่คุณคบอยู่ตอนนี้หรอก”

“ก็จริงค่ะ” เธอยอมรับ จิรดาก็เหมือนดาราคนอื่นๆ ที่มีคนคุยด้วยอยู่แล้วแต่ยังไม่พร้อมเปิดตัวเพราะกลัวกระแสตก การเป็นแฟนกับดาราด้วยกันเอง สร้างกระแสและรายได้ให้เธอมากกว่าเป็นแฟนกับคนทั่วไปที่ไม่เป็นจุดสนใจ

“คืนนี้หนึ่งทุ่มผมจะแวะไปที่ห้องนะครับ เพื่อบทเข้าหอของเราจะได้สมบูรณ์ไร้ที่ติ” เมื่อเคลียร์เรื่องข่าวจบไป เขาก็เข้าเรื่องส่วนตัว

“ได้ค่ะ แล้วจ๋าจะรอนะคะ” เธอบอกก่อนเดินแยกออกไป ขณะที่ศรัณย์ยิ้มและเดินไปอีกทาง




หนึ่งทุ่ม...บรรยากาศของรีสอร์ทแบบส่วนตัวเงียบสงบ เพราะทีมงานกองละครยกพลไปเที่ยวกันหมด เหลือเพียงพระเอก นางเอกของเรื่องที่ขอพักผ่อนอยู่ในห้อง ศรัณย์อ้างว่าเขาอยากท่องบทและนอนพักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานและการเที่ยวในวันพรุ่งนี้ ส่วนจิรดาบอกว่าเธอปวดหัว สงสัยจะเมาคลื่น

คนในกองรู้ว่าเป็นแค่ข้ออ้างแต่ก็ไม่มีใครทักท้วง เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกกองถ่ายจนเจนตาเสียแล้ว

พระเอกกับนางเอก

พระเอกกับนางร้าย

นางร้ายกับตัวประกอบ

ถูกตาต้องใจกันไม่ใช่เรื่องแปลก แสดงความต้องการของตนก็ไม่ใช่เรื่องผิด ตราบที่คนเหล่านั้นรู้จักป้องกันและไม่ทำให้ตัวเองเสื่อมเสีย

เสียงเคาะประตูห้องพักของจิรดาดังขึ้นเบาๆ พอให้ได้ยิน นางเอกสาวในชุดนอนบางเบาสวมทับด้วยเสื้อคลุมรีบลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งไปเปิดประตู เธอแง้มดูเพื่อให้แน่ใจ จนเมื่อเห็นว่าเป็นพระเอกรูปงามจึงเปิดประตูรับ

“ตรงเวลาดีจังเลยค่ะ” เธอชม

“ผมเป็นตรงต่อเวลาเสมอครับ” เขาบอกแล้วเดินเข้ามาในห้อง ขณะที่จิรดาปิดประตูลงกลอนอย่างดี เมื่อเรียบร้อยเธอก็เดินเข้ามากอดคอศรัณย์

“จะเริ่มจากบทไหนก่อนดีคะ” เธอถามเสียงหวาน

“บทเข้าหอเลยดีมั้ยครับ เรามีเวลาแค่สองชั่วโมงก่อนที่ทีมงานจะกลับมา”

“ก็ดีค่ะ จ๋าก็ไม่อยากให้เสียเวลาเหมือนกัน” นางเอกสาวบอกแล้วปลดเสื้อคุลมออก เผยให้เห็นชุดนอนสีอ่อนบางเบาแนบเนื้อ เธอเอื้อมมือไปลูบแผงอกแข็งแรงของเขาเบาๆ แล้วจัดการปลดกระดุมออก เมื่อเสื้อเชิ้ตของศรัณย์ลงไปกองที่พื้น เธอก็เกี่ยวชุดนอนสายเดี่ยวออกจากไหล่มน และเมื่อชุดนอนลงไปกองรวมกับเสื้อของเขา ร่างเปลือยขาวเนียนก็ปรากฏตรงหน้า เพราะเธอสวมเพียงชุดนอนเท่านั้น

ศรัณย์ดึงร่างบางเข้าหาตัวแล้วประกบปากตัวเองกับกลีบปากนุ่มของเธอ หญิงสาวขบเม้มริมฝีปากของเขาอย่างชำนาญแล้วส่งลิ้นเข้าไปพัวพันและดึงลิ้นร้อนเข้ามาในอุ้งปากของเธอ ขณะที่ศรัณย์ดันนางเอกสาวไปที่เตียง มือหนาบีบนวดก้อนเนื้อเต่งตึงเพื่อจุดไฟสวาท ส่วนมือของเธอก็ไม่น้อยหน้า เพราะกำลังปลดตะขอกางเกงของเขา
เมื่อกางเกงของเขาลงไปกองแทบเท้า หญิงสาวก็ถอนปากออก แล้วไล่ลิ้นเล็กมาที่แก้มสากและปลายคาง ศรัณย์เงยหน้าขึ้นและครางในลำคอด้วยความพอใจ ปากเล็กของจิรดาลากต่ำลงมาจนถึงตุ่มสีน้ำตาล เธอขบเม้มเบาๆ แต่ทำเอาขนกายของพระเอกหล่อลุกชัน

“โอววว ดีมากจ๋า” ชายหนุ่มบอกเสียงเบา

“เดี๋ยวมันจะดีกว่านี้ค่ะ” เธอกระซิบกับหน้าท้องแข็งแรงของเขาก่อนนั่งบนเตียง โดยมีร่างสูงใหญ่ของศรัณย์ยืนค้ำอยู่ ใบหน้าของเธออยู่บริเวณเอวของเขา หญิงสาวจูบซับไปตามกล้ามท้องเป็นมัดจนถึงขอบชั้นในสีเข้ม

มือเล็กจัดการรูดมันออกให้พ้นสะโพกสอบเพื่อปลดปล่อยมังกรร้ายที่ยังหลับใหล เธอมองกายแกร่งด้วยตาเป็นประกาย แม้ยังไม่ตื่นเต็มตัวแต่อาวุธของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เธอเอื้อมมือไปกอบกุมแล้วรูดสาวเพื่อปลุกมัน

“อืมมมม” ศรัณย์ครางอย่างพอใจอีกครั้งแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้เธอมากกว่าเดิม ปากเล็กจ่อใกล้แก่นกายก่อนเธอจะใช้ลิ้นละเลียดความใหญ่โตของเขาที่ค่อยๆ ตื่นและขยายตัว

เธอจูบซับไปตามความยาวแล้วอ้าอมกายแกร่งของเขาไว้ในอุ้งปาก ทำเอาหน้าท้องของศรัณย์หดเกร็ง เขาจับศีรษะของเธอแล้วกดเบาๆ เพื่อให้ครอบครองตัวตนของเขาเข้าไปในปากให้มากขึ้น ซึ่งจิรดาก็ไม่ขัดข้อง เธอดูดกลืนท่อนเนื้อของเขาจนแก้มตอบ ส่วนปลายของกายใหญ่เริ่มมีน้ำใสๆ ซึมออกมา

“โอววว โอ้ยย ดีมากจ๋า เยี่ยมที่สุด อืมมม” ศรัณย์ครางเสียงสั่น เมื่อเธอขยับศีรษะเร็วขึ้นและรูดสาวมือเล็กไม่หยุด ตัวตนของเขาขยายตัวเต็มที่อย่างเตรียมพร้อมลงสนาม

“อีกนิดจ๋า ใกล้แล้ว อีกนิด เร็วหน่อย โอวววว โอววว” เขาเร่งเสียงหอบ ยิ่งทำให้นางเอกสาวดูดกลืนและรูดสาวแรงขึ้น ไม่นานลาวาขาวขุ่นก็ระเบิดในโพรงปากของเธอ หญิงสาวปล่อยให้ท่อนเนื้อของเขาค้างอยู่ในปากเพื่อดื่มกิน แก้มสองข้างตอบเข้าหากันจากการดูดดึง

“อาาาา เยี่ยมมากจ๋า เยี่ยมที่สุด คราวนี้ก็ถึงคราวของผมแล้ว” เขาบอกแล้วจับตัวเธอขึ้นไปนั่งกลางเตียง ใบหน้าของจิรดาแดงก่ำ มุมปากของเธอยังมีหยาดน้ำรักจากตัวเขาติดอยู่

ศรัณย์หยิบกางเกงที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมาแล้วดึงเครื่องป้องกันสองชิ้นออกจากกระเป๋า เขาวางไว้ข้างเตียงหนึ่งชิ้นและส่งให้จิรดาหนึ่งชิ้น หญิงสาวรีบร้อนรับไปและแกะออกโดยเร็วก่อนสวมครอบตัวตนของเขา เมื่อเรียบร้อย เธอก็นอนลงแล้วแยกขาออกอย่างรู้งาน ขณะที่พระเอกหนุ่มแทรกตัวอยู่ตรงหว่างขาของเธอ แก่นกายแกร่งจ่ออยู่ตรงปากทางโพรงอ่อนที่ฉ่ำไปด้วยน้ำหวานสีใส

บทรักดำเนินไปอย่างเร่าร้อนโดยมีเสียงครางอย่างสุขสมของจิรดาคอยโหมไฟสวาทให้ลุกโชน เมื่อส่งกันและกันขึ้นไปบนปุยเมฆเรียบร้อยแล้ว ศรัณย์ก็ถอดเครื่องป้องกันออก ปลดปล่อยน้ำรักบนตัวของเธอ หลังจากนั้นเขาก็หยิบชิ้นใหม่มาสวมแล้วเริ่มต้นบทรักอีกครั้ง

เวลามีน้อยต้องใช้สอยประหยัดก่อนที่ทีมงานจะกลับมา แต่ถึงจะทำด้วยความเร่งรีบแต่ความสุขไม่ได้ลดน้อยลงเลย เขาเติมให้เธออย่างถึงใจและเธอก็ให้เขาอย่างเต็มอิ่ม




อันนาเดินเข้ามาในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้นานาพรรณ ด้านในมีห้องรับแขกหลากหลายแบบ ทั้งแบบเป็นทางการและนั่งเล่น เธอเดินผ่านห้องกระจกที่มีชายหญิงหน้าตาดีหลายสิบคนกำลังฝึกซ้อมบทกันอยู่ บางคนเห็นเธอก็โบกมือทักทายและยิ้มให้อย่างดีใจ อันนายิ้มตอบแล้วเดินขึ้นชั้นสองซึ่งเป็นห้องประชุม

ประตูห้องหนึ่งเปิดแง้มอยู่ หญิงสาวเคาะประตูเบาๆ เพื่อขออนุญาต ด้านในเป็นห้องประชุมขนาดห้าที่นั่ง มีหญิงวัยกลางคนรูปร่างผอมสมส่วนท่าทางคล่องแคล่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว พร้อมโน้ตบุ๊กและแฟ้มงานเต็มโต๊ะ

“พี่เดือน” อันนาทักแล้วปิดประตู

“อ้าวข้าว มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ” เดือนเต็มบอกแล้วเก็บกองเอกสารที่รกๆ ให้เข้าที่เข้าทาง

“งานละครเป็นยังไงบ้าง พี่ป้อนงานให้ข้าวเยอะเกินไปมั้ยหรือว่าน้อยเกินไป” ผู้จัดการส่วนตัวของเธอถาม

“ไม่ค่ะ คิวงานแบบนี้ข้าวชอบค่ะ ทำให้ทำงานได้ง่ายและเป็นระเบียบมากขึ้น ขอบคุณพี่เดือนมากนะคะที่ช่วยจัดการให้ข้าว” หญิงสาวบอก

เธอเลือกไม่ผิดเลยที่ให้เดือนเต็ม ผู้จัดการมือฉมังของวงการมาเป็นผู้ดูแลคิวงาน เพราะระยะหลัง เธอมีงานเยอะขึ้น จะให้คอยมารับโทรศัพท์และจดคิวก็ดูจะวุ่นวายเกินไป ในช่วงแรก เธอคิดว่าตัวเองสามารถจัดการได้ จึงไม่คิดว่าจ้างผู้จัดการ โดยมีแม่ช่วยดูให้อีกแรง

จนเมื่อมีชื่อเสียงและงานเริ่มเยอะขึ้น บางงานรับแล้วก็ไม่ได้เงินบ้าง ได้ไม่ตรงกับที่บอกไว้ตอนแรกบ้าง ครั้นไปท้วงถามก็เจอผัดวันประกันพรุ่ง ทำให้เธอตัดสินใจจ้างผู้จัดการเจนวงการมาช่วยดูแล และนั่นก็ทำให้คิวงานของเธอเป็นระเบียบมากขึ้น และแม่ของเธอก็ไม่เหนื่อยด้วย

“แต่พี่ว่าข้าวรับงานน้อยเกินไปนะ จริงๆ ระดับข้าวเนี่ยต้องมีงานโฆษณาหลายตัวได้แล้วนะ ไหนจะอีเว้นท์อีก อย่างข้าวต้องรับมากกว่าสองงานเป็นอย่างต่ำ ข้าวไหวมั้ย เดี๋ยวพี่รับงานเพิ่มให้ มีออแกไนซ์ติดต่อมาเยอะมากเลยนะ”

“ข้าวไม่รับงานกลางคืนนะคะ และไม่รับงานเอ็มซีด้วย ข้าวไม่ถนัดค่ะ” หญิงสาวออกตัว เพราะรู้ว่างานที่เดือนเต็มพูดถึงเป็นงานประเภทนั้น

“ไม่ลองหน่อยหรือข้าว เงินดีมากเลยนะ ดีกว่าไปโชว์ตัวตามห้างอีก”

“ไม่ดีกว่าค่ะ ข้าวไม่ถนัด เดี๋ยวจะทำให้งานของเขากร่อยซะเปล่าๆ” เธอบอกแล้วยิ้มแห้ง

“แล้วแต่ พี่ไม่อยากขัดใจ” ผู้จัดการไม่เซ้าซี้ “แต่งานที่พี่จะบอกข้าววันนี้ ข้าวห้ามปฏิเสธเด็ดขาดนะ เพราะมันคือโอกาสที่ข้าวจะก้าวไปเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการ”

“งานอะไรหรือคะ” หญิงสาวถาม

“บริษัทของคุณวีกิจอยากให้ข้าวไปเล่นโฆษณาให้” เดือนเต็มบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ข้าวก็รู้ใช่ไหมว่าบริษัทของเขามีสินค้าในเครือเยอะมากและคราวนี้ก็พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะเสี่ยกิจเขาระบุมาเลยว่าอยากให้ข้าวไปเล่นโฆษณาน้ำคลอลาเจนที่กำลังจะเปิดตลาด”

“ค่ะ น่าสนใจดีนะคะ” อันนาเห็นด้วย “ข้าวอยากรับงานนี้ค่ะพี่เดือน”

“ข้าวได้งานนี้แน่นอนแต่มีข้อแม้ว่าข้าวต้องไปคุยกับเสี่ยกิจด้วยตัวเอง”

“คะ ต้องไปคุยด้วยตัวเอง” หญิงสาวทวนด้วยน้ำเสียงงงๆ

“เอาง่ายๆ ไม่อ้อมค้อมเลยนะข้าว เสี่ยกิจเขาสนใจอยากกินข้าวกับข้าวสักมื้อน่ะ ถ้าข้าวตกลง ข้าวได้งานนี้แน่ๆ”

อันนาขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ฟัง ชื่อของเสี่ยวีกิจเธอพอรู้มาบ้าง เพราะชื่อของเขาปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงเป็นระยะ เหตุเพราะมีคนเห็นดาราสาวไปกินข้าวกับเขาเป็นประจำ พร้อมข่าวที่ว่าดาราคนนั้นคนนี้เป็นเด็กเสี่ย

“ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นข่าวหรอกนะ งานนี้พี่เคลียร์ทางให้เอง รับรองว่าทุกคนปิดปากเงียบสนิท” เดือนเต็มบอกอย่างรู้ใจ

“แต่...” อันนาลังเล

“แค่มื้อเดียวเองไม่เป็นไรหรอก และมันก็เป็นแค่การกินข้าวจริงๆ หรือถ้าข้าวไม่มั่นใจ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ข่าวของเสี่ยกิจกับดาราคนอื่นก็แค่การใส่สีตีไข่ของพวกนักข่าวทั้งนั้นแหละ หาความจริงไม่ได้หรอก” ผู้จัดการมือทองหว่านล้อมแต่อันนายังมีสีหน้าลำบากใจ

“ถ้าพลาดโอกาสนี้ ข้าวจะอดสินค้าทุกตัวในเครือของเขาเลยนะ น่าเสียดายจะตาย”

“แค่กินข้าวนะคะ” หญิงสาวย้ำ

“ใช่จ้ะ แค่กินข้าวเท่านั้น และพี่รับรองว่าไม่เป็นข่าวจ้ะ”

“ก็ได้ค่ะ ข้าวจะไป” อันนาบอกในที่สุด นำมาซึ่งสีหน้าดีใจของเดือนเต็ม



..................................................


โหลดแสนเสน่ห์ ฉบับเต็มในรูปแบบอีบุ๊กได้แล้วค่ะ




หรือจะโหลดเป็นเซตในราคาประหยัด คู่กับเรื่องรักหวามก็ได้นะคะ จัดโปรโมชั่นจนถึงวันที่ 1 พย.ค่ะ  -->> SET แสน-รัก












Create Date : 30 ตุลาคม 2558
Last Update : 30 ตุลาคม 2558 14:17:03 น. 0 comments
Counter : 1004 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com