นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

 
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 พฤศจิกายน 2558
 

[แม่ม่ายขายขาด] 4 : เสน่ห์ปลายจวัก



ตอนที่ 4

เสน่ห์ปลายจวัก



หลังไม่กลับมานอนที่บ้านนานเป็นอาทิตย์ วันศุกร์สุดสัปดาห์ พิเศกก็ได้ฤกษ์กลับบ้านเสียที ป้ากบดีใจยกใหญ่เมื่อแม็คโทรไปบอกว่าเย็นนี้เจ้านายจะกลับไปกินข้าวที่บ้าน เพราะช่วงนี้งานเริ่มซาลงและเมริสาก็มีคิวต้องเดินทางไปต่างประเทศ

รถยนต์คันหรูที่แม็คเป็นสารถีขับมาจอดยังหน้ามุกของบ้าน เจี๊ยบยืนรอรับอยู่แล้วและเมื่อรถจอดสนิท เธอก็ไปเปิดประตูให้พิเศกแล้วรับกระเป๋าเอกสารของเขามาถือไว้

“ป้ากบดีใจมากเลยนะคะตอนที่รู้ว่าวันนี้คุณพีทจะกลับบ้าน” เจี๊ยบบอก

“ป้าบ่นอะไรบ้าง นี่คงเป็นครั้งแรกที่ฉันไม่กลับบ้านนานที่สุด”

“บ่นค่ะ แต่บ่นด้วยความคิดถึง บอกว่าคุณพีททำงานหนักเกินไปแล้ว อยากให้คุณพักบ้าง” เธอบอกแล้วเดินเข้าบ้าน

“แล้วนี่ป้าเตรียมอะไรไว้บ้าง หวังว่าคงไม่แก้เผ็ดด้วยการเตรียมแค่น้ำเปล่าให้หรอกนะ” พิเศกหันไปพูดกับลูกน้องคนสนิท

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจใช่ครับ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ผมว่าคงเป็นอาหารมื้อใหญ่ที่เลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านก็ยังเหลือครับ” แม็คบอก ทำเอาพิเศกหัวเราะ

เมื่อก่อน สมัยเขายังเป็นนักศึกษาติดเพื่อน ตอนนั้นเขาไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะเอาเวลาไปอยู่กับเพื่อนและสาวๆ มากกว่า ทำเอาป้ากบงอนแล้วงอนอีก อาหารของกินเลยไม่ยอมเตรียมให้เขา สิ่งที่เอามาให้คือน้ำอุ่นเพียงแก้วเดียว ทำให้เขาต้องเข้าไปอ้อนเอาใจและรับปากว่าจะกลับมากินข้าวเย็นฝีมือป้าทุกวัน นั่นแหละ ป้ากบถึงหายโกรธและทำอาหารมื้อใหญ่ให้จนเขาแทบจะกินไม่หมด

กระทั่งโตและเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน ทำให้พิเศกกลับบ้านน้อยลงเพราะงานที่รัดตัวและการอยู่คอนโดก็สะดวกสบายมากกว่า แต่เขาก็รับปากแล้วว่าวันหยุดจะกลับมาอยู่บ้านและจะหาเวลาอยู่บ้านอย่างน้อยอาทิตย์ละสามถึงสี่วัน

แต่นี่...เขากลับหายไปเป็นอาทิตย์ ไม่รู้ป้าจะโกรธเขาหรือเปล่า

และเมื่อเดินเข้าบ้าน พิเศกก็ได้คำตอบว่าป้ากบโกรธหรือดีใจเมื่อเขากลับบ้าน กลิ่นอาหารชวนให้น้ำลายสอลอยเข้าจมูก ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วรีบเดินไปที่โต๊ะอาหาร แต่บนโต๊ะยังว่างเปล่า อาหารคงยังไม่เสร็จหรือไม่ก็ยังไม่ถึงเวลายกออกมา

นี่ขนาดว่าอยู่ในครัว กลิ่นยังลอยออกมาถึงเพียงนี้ เขาเชื่อสุดใจว่าอาหารมื้อนี้ป้ากบต้องทุ่มสุดฝีมือแน่ๆ

“เข้าไปถามหน่อยว่าวันนี้ทำอะไรกิน ทำไมกลิ่นถึงได้หอมนัก” พิเศกหันไปสั่งลูกน้อง แม็คก้มศีรษะรับแล้วรีบเดินเข้าครัว สวนกับเจี๊ยบที่ยกน้ำสีแดงออกมาสองแก้ว แม็คจึงได้โอกาสถาม

“ป้ากบทำอะไร ทำไมถึงหอมแบบนี้”

“ไม่ใช่ป้ากบทำค่ะ แต่เป็นแป้ง” เจี๊ยบตอบยิ้มๆ ก่อนเดินเอาน้ำกระเจี๊ยบไปให้เจ้านาย

“น้ำกระเจี๊ยบค่ะคุณพีท”

พิเศกยกขึ้นจิบ จากตอนแรกที่คิดจะแค่กลั้วคอแต่เพราะรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ทำให้เขาติดใจจนต้องดื่มไปเกือบครึ่งแก้ว มันสดชื่นและดับกระหายได้ดีทีเดียว

“ป้ากบทำไว้เหรอ ดีจัง หอมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ”

“ไม่ใช่ป้ากบค่ะ แป้งเป็นคนทำ อาหารมื้อนี้ แป้งก็อาสาเป็นคนทำนะคะ”

“อะไรนะ เขาเป็นคนทำหรือ กลิ่นหอมๆ ที่ออกมานี่นะ” พิเศกย้ำ

“ใช่ค่ะ สีสันหน้าตาก็น่ากินมากเลยนะคะ นี่ขนาดยังไม่เสร็จ คุณพีทก็ชมว่าหอมแล้ว เจี๊ยบรับรองว่ามื้อนี้คุณพีทต้องเจริญอาหารแน่ๆ เลยค่ะ”

“ใกล้เสร็จหรือยัง ฉันเริ่มจะหิวแล้ว”

“เหลืออีกหนึ่งอย่างค่ะ เดี๋ยวเจี๊ยบเข้าไปเร่งให้นะคะ” สาวใช้บอกแล้วรีบเข้าครัวโดยด่วน

“บ้านเปลี่ยนไปบ้างมั้ยครับ” แม็คถาม ทำให้พิเศกหันมองรอบบ้านและเห็นถึงความเปลี่ยนไป

บ้านของเขาดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นจากดอกไม้บนแจกันที่วางตามจุดต่างๆ ของบ้าน ไม่มากจนรกและไม่น้อยจนมองไม่เห็น หน้าต่างบานสูงถูกเปิดม่านจนสุดทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยแต่เห็นผลชัดเจน

“ฉันไม่กลับมาแค่อาทิตย์เดียว ทุกอย่างเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ ฝีมือผู้หญิงคนนั้นอีกล่ะสิ” ผู้เป็นนายถาม แม็คยิ้มและพยักหน้ารับ

“นายเคยกินอาหารฝีมือเขามั้ย อร่อยหรือเปล่า”

“อร่อยครับ อร่อยกว่าที่ป้ากบทำเสียอีก ผมละเสียดายแทนคุณจริงๆ ที่กว่าจะได้กินอาหารอร่อยๆ ก็ต้องรอตั้งหลายวัน”

“ไม่เห็นนายเคยบอกเลยว่าเขาทำอาหารให้กินแถมยังจัดบ้านให้ใหม่ด้วย”

“ผมอยากให้คุณมาเห็นเอง ถูกใจคุณมั้ยครับ”

“ก็ดี ดูบ้านมีชีวิตขึ้น”

“สวนข้างสระน้ำเขาก็บอกนายชิดให้จัดด้วยนะครับ”

“เหรอ งั้นฉันออกไปดูหน่อยดีกว่า” พิเศกบอกแล้วลุกขึ้น เป็นจังหวะที่ป้ากบเดินเร็วๆ เข้ามาหา

“คุณพีท” นางทักสีหน้ายิ้มแย้ม

“สวัสดีครับป้า สีหน้าสดใสร่างกายสมบูรณ์แบบนี้แสดงว่าตอนที่ผมไม่อยู่คงมีความสุขมาก” พิเศกแซว

“ป้าเพิ่งจะยิ้มได้วันนี้ตอนที่แม็คโทรมาบอกว่าคุณพีทจะกลับบ้าน ป้าดีใจจังค่ะ คุณไม่กลับบ้านมาจะครบอาทิตย์อยู่แล้ว ผอมไปนะคะ สงสัยเพราะมัวทำแต่งานแน่ๆ เลย ข้าวปลาไม่ยอมกิน”

“อาหารไม่ถูกปากต่างหากครับ” เขาพูดยิ้มๆ

“ปากหวาน ถ้าอยากกินอาหารถูกปาก ทำไมไม่กลับบ้านคะ คงเพราะที่อื่นถูกใจมากกว่าจนลืมป้าไปแล้ว”

“ผมจะลืมป้ากบไปได้ยังไง และไม่มีใครทำอาหารอร่อยเท่าป้าอีกแล้ว” เขาอ้อน

“แต่ตอนนี้ป้าว่ามีแล้วค่ะ เดี๋ยวคุณพีทลองชิมฝีมือของแป้งดูนะคะ อร่อยเชียวค่ะ”

“ชักอยากลองแล้วครับ ใครๆ ก็ชมกันแบบนี้ หวังว่าคงไม่ใช่แค่ราคาคุยนะครับ”

“ไม่เลยค่ะ นี่ป้าก็ให้เขาทำเองหลายมื้อแล้ว ถามแม็คดูก็ได้ รายนั้นกินทีสองจานสามจาน” ป้ากบว่า

“แสดงว่าผมช้ากว่าทุกคนเลย ได้ชิมเป็นคนสุดท้าย”

“ถึงเป็นคนสุดท้ายแต่ทุกอย่างจัดเต็มคุ้มค่าแน่นอนค่ะ นี่แป้งก็ใกล้ทำเสร็จแล้ว คุณพีทจะอาบน้ำก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวป้าตั้งโต๊ะรอ”

“ก็ได้ครับ ครึ่งชั่วโมงนะครับ” เขาบอกก่อนเลี่ยงขึ้นชั้นบน




อาหารรสเลิศที่เตรียมรอเขาอร่อยสมคำโฆษณา และเขาก็กินได้มากกว่าทุกวันด้วย อาหารที่เธอทำไม่ได้ใช้เครื่องปรุงที่มีราคาแพงหรือของหายากเลย แต่รสชาติของมันวิเศษจริงๆ ปลาเก๋านึ่งบ๊วยที่เธอทำเนื้อนิ่มหวาน ไม่มีกลิ่นคาวคอยกวนใจ ผัดผักรวมก็มีสีสันสวยงามน่ากิน ซุปมันฝรั่งก็รสกำลังดี แต่ที่พิเศกติดใจและชอบเป็นพิเศษคือหมูทอดกระเทียมพริกไทย ของโปรดของเขานั่นเอง

“อร่อยสมกับที่ป้าบอกมั้ยคะ” ป้ากบถามเมื่อพิเศกรวบช้อน เขาเติมข้าวถึงสองรอบทีเดียว ขณะที่แม็คก็เติมพอๆ กับเขา ส่วนแป้งร่ำที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับกินเหมือนแมวดม

“ครับ เพราะป้ากบสอนหรือเปล่า”

“ไม่เลยค่ะ นี่ฝีมือของแป้งล้วนๆ ป้าแค่เป็นลูกมือช่วยนิดหน่อย”

“กับข้าวของคุณอร่อยมาก” พิเศกหันไปชม แป้งร่ำก้มศีรษะรับ ใบหน้าของเธอผุดผ่องขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่เขาเจอ ดูสวยน่ารักน่ามองมากทีเดียว

“ยังมีของหวานด้วยนะคะคุณพีท ลอดช่องน้ำกะทิค่ะ” ป้ากบบอกเมื่อเจี๊ยบวางขนมหวานตรงหน้า พิเศกยิ้มแบบเหนื่อยๆ แล้วลูบท้องตัวเอง

“ผมกินข้าวไปตั้งเยอะ น่าจะบอกก่อนว่ามีขนมหวานด้วย แล้วนี่จะมีผลไม้ตบท้ายอีกไหมครับ”

“ไม่มีแล้วค่ะ ลองดูสักนิดนะคะ ลอดช่องนี่แป้งก็ทำเองอีกเหมือนกัน” แม่บ้านใหญ่โฆษณา ทำให้พิเศกต้องตักชิมพอเป็นพิธี แต่เมื่อได้ลองแล้วเขาก็อดใจไม่ไหวต้องตักกินอีกจนเกือบหมดถ้วย

“อย่าเอาอะไรมาอีกนะครับ ผมกินไม่ไหวแล้วจริงๆ” เขาโอดครวญพร้อมทำหน้าขอความเห็นใจไปด้วย

“คุณพีทนี่น่ารักจริงๆ ดูสิ กินไม่ไหวก็ยังฝืนกินจนเกือบหมด เป็นไงคะ อร่อยมั้ย”

“อร่อยครับ แต่แน่ใจนะว่าทำเอง ไม่ได้ไปซื้อจากเจ้าดังแล้วมาหลอกผม” เขายังข้องใจ แป้งร่ำอมยิ้ม ขณะที่ป้ากบหัวเราะ

“เจี๊ยบยืนยันได้ค่ะว่าแป้งเป็นคนเอง เจี๊ยบเป็นลูกมือนวดแป้งเองด้วยค่ะ” เจี๊ยบอวดตัว

“ทำกันได้ยังไงครับ ตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ทั้งขนมทั้งอาหาร” พิเศกแปลกใจ

“ฝีมือไงคะคุณพีท แป้งน่ะเขาคล่องมากเลยนะคะ เข้าครัวแค่สองครั้งก็รู้แล้วว่าอะไรอยู่ตรงไหน แถมยังทำงานงกๆ ไม่รู้จักเหนื่อยอีก ไม่รู้ว่าเอาเวลาที่ไหนมาพัก ป้าเห็นเธอทำงานตั้งแต่เช้าจดเย็น ถ้าไม่อยู่ในครัวก็นอกสนามโน่น ป้ากลัวใจจะป่วยซะจริงๆ” ป้ากบบอกแล้วหันไปยิ้มแบบอ่อนใจให้แป้งร่ำ หญิงสาวอมยิ้ม

“แป้งอึดขนาดนี้ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกค่ะ เมื่อก่อนทำงานหนักกว่านี้อีก แป้งก็ยังแข็งแรงไม่เคยป่วยเลย”

“อย่าให้ป่วยแล้วกัน” พิเศกเตือนอีกแรง

“ค่ะ ฉันไม่ทำให้คุณต้องลำบากหรอกค่ะ” เธอบอกเรียบๆ น้ำเสียงผิดกับที่พูดกับป้ากบอย่างสิ้นเชิง

“ก็ดี ผมไม่อยากขาดทุน” ชายหนุ่มบอก “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นไปต้นผมจะอยู่บ้านตลอด คุณเตรียมอาหารให้ผมด้วยแล้วกัน...ให้เขาเตรียมนะครับป้า ทั้งอาหารเช้าและอาหารเย็น” ท้ายประโยคเขาหันไปพูดกับแม่บ้านสูงวัย

“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจะบอกเองว่าให้เตรียมอะไรบ้าง”

“ไม่ครับ ให้เขาคิดเอง เก่งขนาดนี้น่าจะรู้”

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณชอบอะไร”

“ผมกินได้ทั้งนั้น แต่ไม่ชอบกินอาหารซ้ำ บนโต๊ะต้องมีมากกว่าสองอย่าง ผมกินได้ทุกรสแต่อย่าให้โดดเกินไป”

แป้งร่ำอยากร้องประท้วง เพราะกินได้ทั้งนั้นของเขามันครอบจักรวาลเกินไป แถมเขายังไม่ชอบกินอะไรซ้ำอีกด้วย แสดงว่าเธอต้องคิดเมนูมาทำให้เขาทุกวันเลยใช่ไหม

“ทำไมเงียบไป คุณทำให้ผมไม่ได้หรือ” พิเศกเลิกคิ้วถาม

“ได้ค่ะ ฉันทำให้คุณได้” หญิงสาวรีบรับปาก เธอมีสิทธิ์ที่ปฏิเสธด้วยงั้นหรือ

“ดี เริ่มพรุ่งนี้เช้าเลยนะ ค่าอาหารก็เบิกกับป้ากบได้เลย คุณอยากทำอะไรก็ตามสบายใจ ไม่ต้องถามผม แต่ถ้าผมอยากกินอะไรเป็นพิเศษ ผมจะบอกเอง”

“ค่ะ” แป้งร่ำรับคำอีกครั้ง




พิเศกนั่งกินมื้อเช้าและกลับมากินมื้อเย็นตามที่ได้สั่งไว้จริงๆ ซึ่งอาหารที่รอเสิร์ฟเขาบนโต๊ะก็เปลี่ยนไปทุกวันไม่มีซ้ำกันเลย นอกจากนี้เธอยังทำขนมหวาน และทำคุกกี้ไว้สำหรับกินกับกาแฟอีกด้วย

ชายหนุ่มอยู่ติดบ้านมากขึ้น ซึ่งแม็คก็ให้เหตุผลกับป้ากบว่าคงเพราะเมริสาไปทำงานเมืองนอก เขาจึงไม่รู้จะไปที่ไหน พร้อมเอ่ยปากชมเจ้านายด้วยว่าช่วงนี้ประพฤติตัวเรียบร้อย ทั้งที่ปกติหากเมริสาไปเมืองนอก ก็มักจะมีผู้หญิงคนอื่นเข้ามายืนข้างกายเสมอ

ขณะที่ป้ากบ ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่าห้าสิบปีเห็นต่าง เพราะนางสังเกตเห็นสายตาของพิเศกจับจ้องอยู่ที่แป้งร่ำบ่อยครั้งและทุกครั้งก็มักมีรอยยิ้มบางๆ แตะอยู่ในบนหน้าหล่อเหลา เจ้านายของนางอารมณ์ดีมากขึ้นและทำตัวดีขึ้นขนาดนี้ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะหญิงสาวผู้มาใหม่ ไม่เกี่ยวกับที่เมริสาไปเมืองนอกแต่อย่างใด

ฟังไปฟังมาแม็คก็เริ่มจะเห็นด้วย ก่อนจะบอกว่าจริงๆ แล้ว พิเศกก็ชอบพอแป้งร่ำไม่น้อยแต่เขาก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มเปี่ยมด้วยการไม่คิดหักหาญน้ำใจ ที่พิเศกให้เธอมาอยู่ที่บ้านคงเพราะอยากรู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นคนอย่างไรกันแน่และหวังว่าตัวตนของพิเศกที่แสดงออก จะทำให้แป้งร่ำใจอ่อนกับเขาบ้าง

“โธ่พ่อคุณของป้า ทำไมช่างเป็นคนดีแบบนี้ ถ้าเป็นเจ้าหนี้คนอื่นคงได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว หนูแป้งเขาโชคดีที่มาเจอคุณพีท”

“แล้วป้าว่าคุณแป้งเขาเป็นยังไง”

“น่ารัก อ่อนหวาน นิสัยดี เป็นแม่ศรีเรือน ถ้าคุณพีทจะตกร่องปล้องชิ้นกับคนนี้ ป้าเชื่อว่าเธอต้องมีความสุขแน่ๆ อย่าเอาคุณเมญ่าอะไรนั่นเลย เปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน ป้าเห็นเสื้อผ้าที่เธอใส่แล้ว หัวใจจะวาย”

แม็คหัวเราะเมื่อได้ฟัง “ป้ายังจำเขาได้หรือครับ ผมจำได้ว่าคุณเมญ่ามาที่นี่แค่ครั้งเดียว”

“จำได้สิ ครั้งเดียวครั้งนั้นก็เกินพอแล้ว ขออย่าให้มาอีกเลย แล้วนี่เขายังคบกันดีอยู่ใช่ไหม”

“ใช่สิ ป้าคิดว่าที่คุณพีทไม่กลับบ้าน เขาไปอยู่ไหน กับใคร”

ป้ากบถอนใจอ่อนๆ “ดูเหมือนคุณพีทจะจริงจังกับคนนี้ แล้วสายตาที่มองแป้งมันคืออะไร ป้าว่าป้าดูไม่ผิดนะ”

“เรื่องนี้มันต้องลุ้นกันต่อไปนะป้า เพราะจริงๆ คุณพีทก็ไม่เคยพูดว่าคุณเมญ่าเป็นคนรัก ใครถามก็บอกแค่ว่าเป็นผู้หญิงที่สนิทที่สุดเท่านั้น”

“หวังว่าจะเลิกสนิทกันเร็วๆ นี้” นางภาวนา

“ป้าๆๆ คุณพีทถามว่าของว่างเย็นนี้มีอะไร คุกกี้ลูกเกดยังมีอีกมั้ย คุณพีทอยากกิน” เจี๊ยบวิ่งเข้ามาถาม น้ำเสียงหอบๆ

“มี เดี๋ยวฉันเอาออกไปให้เอง” ป้ากบบอกแล้วเลี่ยงไปหยิบขนมพร้อมชงชาใส่กาใบเล็กไปให้เจ้านายด้วย




พิเศกนั่งอ่านนิตยสารเรื่องการลงทุนอยู่ในโถงรับแขก ขณะที่ป้ากบวางของว่าง โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ชายหนุ่มกดรับและนั่นทำให้แม่บ้านสูงวัยรู้ว่าคนที่โทรมาคือเมริสา

“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเมญ่า” เขาถาม

“เมื่อตอนเที่ยงค่ะ ค่ำนี้มาดินเนอร์กันนะคะพีท”

“ผมไม่สะดวกครับ ตอนนี้ผมอยู่บ้านแล้ว ไว้วันหลังนะครับ”
คำตอบนั้น ทำเอาป้ากบลอบมองและทำหน้าแปลกใจ

“ผมเหนื่อยครับ กลับเข้าบ้านแล้วขี้เกียจออกไป ช่วงนี้มีอะไรต้องคิดเยอะด้วย” น้ำเสียงของเขาบอกไปแบบเหนื่อยๆ แต่ป้ากบรู้ว่าเขาแกล้งทำ

“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพีทเหนื่อยเราค่อยเจอกันวันอื่นก็ได้ แต่อาทิตย์หน้าเมญ่าจะไปต่างประเทศนะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็พักผ่อนเถอะครับ รอให้กลับมารอบหน้าเราค่อยเจอกัน” เขาบอก สร้างความแปลกใจให้เมริสาและป้ากบเป็นอย่างมาก แต่มันก็ช่วยย้ำความคิดของป้ากบว่า ใจของพิเศกเริ่มจะเอียงๆ มายังคนที่อยู่ที่บ้านแล้ว

“ก็ได้ค่ะ พีทคงกำลังเหนื่อย งั้นเราค่อยคุยกันอีกครั้งก็ได้ พักผ่อนนะคะ”

“ครับ คุณก็พักผ่อนเหมือนกันนะครับ” จบประโยคนั้นพิเศก ก็วางสายก่อนหันมาพูดกับป้ากบที่ยืนไกลออกไป

“เดี๋ยวเรียกแป้งไปพบผมที่ห้องทำงานเล็กด้วยนะครับ”

“ได้ค่ะ คุณจะคุยกับเธอตอนไหนคะ เดี๋ยวนี้เลยมั้ยคะ”

“ครับ ตอนนี้เลย ยกของว่างเข้าไปที่ห้องด้วยนะครับ” พิเศกเอ่ยก่อนลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องทำงาน



ประตูห้องทำงานเล็กถูกเคาะเบาๆ และเมื่อได้ยินคำอนุญาต แป้งร่ำก็เปิดประตูเข้าไป พิเศกนั่งอยู่บนโซฟาข้างประตู หญิงสาวเดินมานั่งบนโซฟาเดี่ยว โดยเลือกนั่งไกลจากเขา

“คุณเป็นยังไงบ้าง อยู่ที่นี่ได้มั้ย” น้ำเสียงนั้นทอดนุ่มอ่อนโยนฟังดูอบอุ่น

“ดีค่ะ ทุกคนดีกับฉันมาก”

“รวมถึงผมด้วยหรือเปล่า” เขาถามยิ้มๆ

“รวมด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ดีกับฉันถึงขนาดนี้” เธอเอ่ยแล้วยกมือไหว้เขาด้วยความนบน้อม

“คุณอยู่ที่นี่มาอาทิตย์กว่าแล้ว ได้ติดต่อกับคนที่บ้านบ้างมั้ย”

แป้งร่ำมีสีหน้าหม่นลงแล้วส่ายหน้าช้าๆ “ไม่มีเลยค่ะฉันไม่เคยโทรหาพี่สา และเขาก็ไม่เคยโทรมาถามความเป็นอยู่ของฉันด้วย เขาคงไม่สนใจฉันแล้ว”

“อีกสามอาทิตย์เขาก็คงโทรหาคุณ เพราะนั่นคือกำหนดหนึ่งเดือนที่คุณต้องมาอยู่ที่นี่”

“แต่ฉันคงหาเงินมาคืนให้คุณไม่ทันในหนึ่งเดือนหรอกค่ะ และคุณก็บอกว่าฉันคงต้องอยู่ที่นี่อย่างน้อยเป็นปี”

“คุณอยากจ่ายเงินผมให้หมดในหนึ่งเดือนมั้ยล่ะ”

“ยังไงคะ” แป้งร่ำถามเร็วๆ

“ทำให้ผมพอใจและมีความสุขเวลาอยู่บนเตียงสิ” เขาพูดแบบทีเล่นทีจริง ทำเอาแป้งร่ำหน้าแดง เธอก้มหน้างุด พิเศกหัวเราะ “ผมล้อเล่น บอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบบังคับใคร”

“ขอบคุณค่ะ” แป้งร่ำเอ่ยเบาๆ หัวใจของเธอยังเต้นแรง

“ช่วงนี้ผมทำงานหนัก คุณพอจะช่วยนวดให้ผมได้มั้ย”

“นวดหรือคะ” หญิงสาวทวน น้ำเสียงงงๆ

“ใช่ มานวดบ่ากับต้นคอให้ผมหน่อยได้มั้ย” เขาย้ำแล้วบิดต้นคอไปมา

“ได้ค่ะ” เธอรับปากแล้วขยับมานั่งใกล้

“ไปนวดที่ห้องนอนผมตอนหนึ่งทุ่ม”

“คะ?”

“ไม่ได้หรือไง หรือคุณไม่ไว้ใจผม”

“ไม่ค่ะไม่ใช่”

“งั้นเจอกันคืนนี้หนึ่งทุ่ม เอาละ คุณไปเตรียมมื้อเย็นเถอะ ผมจะนั่งอ่านงานอีกนิด” เมื่อเสร็จธุระ พิเศกก็ไล่ทางอ้อมแบบสุภาพ แป้งร่ำรับคำก่อนออกจากห้อง สีหน้าของเธอมีแววกังวลแต่ก็เชื่อมั่นในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา

เอาน่า...มาถึงขนาดนี้แล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่




..................................................

ติดตามเรื่องเต็มในรูปแบบอีบุ๊กได้แล้วค่ะ



โหลดจากเมพ -->> แม่ม่ายขายขาด

โหลดจากอีบุ๊กส์ -->> แม่ม่ายขายขาด




Create Date : 27 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2558 15:29:02 น. 0 comments
Counter : 1067 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com