นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
19 พฤศจิกายน 2558
 

[แสนเสน่ห์] 4 : สร้างกระแส



ตอนที่ 4

สร้างกระแส



ที่กองถ่ายละครของอันนา กระเต็นเดินเข้ามาหาเพื่อนทันทีเมื่อเห็นนางเอกสาวลงจากรถยนต์

“ไปไงมาไงถึงได้ไปกินข้าวกับเสี่ยกิจได้ล่ะข้าว เธอก็รู้ว่าเขาชอบเลี้ยงอีหนู อยากเป็นนกน้อยในกรงทองแข่งกับนางเอกคนอื่นเหรอ”

“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อยเต็น” อันนาขมวดคิ้วใส่เพื่อน

“แล้วไปกินข้าวกับเขาได้ยังไง”

“เรื่องงานจ้ะ เต็นก็รู้ว่าเสี่ยกิจเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ มีสินค้าในเครือเยอะแยะ เขาสนใจอยากให้ข้าวไปถ่ายโฆษณาให้”

“นอกจากมีสินค้าเยอะแล้ว สาวๆ ในสังกัดของเขาก็เยอะด้วยนะ เผลอๆ อาจเยอะกว่าผู้จัดการดาราบางคนด้วยซ้ำ และเธอก็รู้ว่าเสี่ยเขามีข่าวกับดาราตั้งหลายคน”

“แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดนี่” อันนาแย้ง เรื่องดาราที่ยอมให้เขาเลี้ยงดู เธอก็พอรู้มาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นข่าวกับวีกิจ ซึ่งเธอก็เชื่อว่าตัวเองไม่ใช่หนึ่งในเด็กเสี่ยอย่างแน่นอน

“แต่ดาราแปดในสิบที่เป็นข่าวก็คือความจริง และคนอย่างเขาก็ชอบระดับนางเอกด้วย พี่จ๋าก็เคยมีข่าวว่าเป็นเด็กคนโปรด พี่ดาวก็อีกคน เธอไม่เห็นเหรอว่าพี่ดาวมีงานโฆษณาไม่ขาดเลย ในเครือของเสี่ยกิจทั้งนั้น”

“เรื่องพี่จ๋ากับพี่ดาว ข้าวก็เคยได้ยินมาบ้างตอนที่ยังไม่เข้าวงการ” หญิงสาวพูด เรื่องคาวๆ ของคนในวงการเป็นที่นิยมของแฟนคลับแท้และไม่แท้ เธอก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบอ่านข่าวพวกนี้ แต่ดาราเหล่านั้นก็ปฏิเสธหมด อ้างว่าเสี่ยแค่เอ็นดูเลยสนับสนุนเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลย

ตอนนั้นเธอนึกขัดใจที่นางเอกบางคนโกหกหน้าตาย ทั้งที่มีภาพข่าวขึ้นหราบนหน้าหนังสือพิมพ์ จนเมื่อได้มายืนในจุดเดียวกัน ทำให้เธอเข้าใจนักแสดงเหล่านั้นมากขึ้น
แม้การโกหกจะไม่ใช่เรื่องดี แต่บางครั้ง คนเราก็ต้องโกหกเพื่อรักษาชื่อเสียงและหน้าตาทางสังคม

“กับดาราคนอื่น ฉันไม่รู้หรอกว่าจริงหรือเปล่า แต่กับพี่จ๋าพี่ดาว ฉันคอนเฟิร์มว่าเรื่องจริง ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้น”

“ข้าวเจอกับพี่เขาประจำ ไม่เห็นเขาพูดอะไรเลย” อันนาบอก เพราะนางเอกดังทั้งสองมีผู้จัดการคนเดียวกับเธอ และเธอก็เจอดาวหรือดาหลาบ่อยๆ ที่บ้านพักของเดือนเต็ม แต่กับจิรดา เธอไม่เคยเจอ เพรานางเอกดังมีงานชุกและติดลมบนไปแล้ว จึงไม่ต้องเข้าไปเรียนการแสดงที่บ้านของเดือนเต็ม

“เรื่องแบบนี้ใครเขาพูดกันล่ะ” เพื่อนทำเสียงขัดใจ “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดีนะข้าว จะรับงานอะไรก็ดูหน่อย แม้จะเป็นโอกาสดีแต่มันก็เสี่ยงไม่น้อยเลย ฉันไม่ได้หวังดีประสงค์ร้ายกับเธอนะ อย่าเข้าใจผิด” กระเต็นออกตัว

“ข้าวรู้ว่าเต็นไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ถึงเสี่ยจะมีข่าวกับดาราหลายคน แต่เชื่อเถอะว่าข้าวไม่สนใจหรอก ถ้าได้งานแล้วต้องแลกด้วยชื่อเสียงและเกียรติของตัวเอง ข้าวขอถอนตัวดีกว่า”

“ดีแล้วล่ะที่เธอคิดแบบนั้น เธอเป็นคนสวย เก่ง มีความสามารถ ฉันรับรองว่าเธอยังเป็นนางเอกได้อีกนานเลย” กระเต็นมีสีหน้าสบายใจขึ้น “แล้วที่บอกว่าคุยเรื่องงาน สินค้าตัวไหนเหรอ” เธอถาม

“น้ำผลไม้ผสมคลอลาเจนจ้ะ ตอนนี้กำลังเตรียมบทและตกลงเรื่องสัญญา น่าจะเป็นเดือนหน้า ถึงได้เริ่มถ่าย”

“อีกอย่างที่ฉันอยากจะบอกนะข้าว เรื่องพี่เดือนน่ะ ถ้าเขาให้เธอทำอะไรแปลกๆ เธออย่าทำนะ ฉันรู้มาจากวงในว่าพี่เดือนชอบให้เด็กในสังกัดไปกินข้าวกับเสี่ยกระเป๋าหนัก” กระเต็นกระซิบเสียงเบา

“จริงเหรอ” อันนาถามกึ่งไม่เชื่อ กระเต็นเป็นเพื่อนที่เธอสนิทที่สุดและเธอก็รู้ว่าเพื่อนเป็นคนอย่างไร ส่วนเดือนเต็มก็ทำงานร่วมกับเธอมาเกือบปีแล้วและดูแลเธอดีมาก

“ไม่ลองสังเกตดูล่ะว่าดาราที่มีข่าว ส่วนใหญ่พี่เดือนเป็นผู้จัดการทั้งนั้น ฉันไม่ได้ใส่ร้ายพี่เดือนหรือยุให้เธอเปลี่ยนผู้จัดการนะ เขาเป็นคนต่อรองเก่ง ใครๆ ก็อยากให้เขาเป็นผู้จัดการให้ แต่คนเราก็มีข้อดีและข้อเสีย ยังไงก็ระวังๆ หน่อยแล้วกัน”

“ขอบใจมากนะเต็น ยังไงข้าวจะดูแลตัวเองจ้ะ” นางเอกสาวรับความหวังดีจากเพื่อน เพราะสิ่งที่กระเต็นเตือนไม่ใช่ว่าจะไม่มีเค้าเลย

เธอยอมรับว่าดาราที่เดือนเต็มดูแล มีข่าวว่าเป็นเด็กเสี่ยจริงๆ และตัวเธอก็เคยไปนั่งกินข้าวกับเสี่ยมาแล้วตามคำขอของผู้จัดการ ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเป็นแค่การกินข้าวธรรมดาหรือจะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า

ทางที่ดี ฟังคำเตือนของเพื่อนไว้หน่อยก็ไม่เสียหาย




รถบ้านของศรัณย์ขับไปตามถนนมุ่งหน้าสู่กาญจนบุรี ทีมงานส่วนใหญ่ล่วงหน้าไปกันแล้ว แต่พระเอกหนุ่มเดินทางตามไปทีหลังเพราะมีคิวเข้าฉากช่วงบ่าย ในรถนอกจากจะมีศรัณย์แล้วยังมีสาวร่างอวบผิวคล้ำนั่งรวมอยู่ด้วย ตัวรถมีฉากกั้นระหว่างห้องผู้
โดยสารกับคนขับ เพิ่มความเป็นส่วนตัว

“พี่อยากให้คีย์มีข่าวกับจ๋ามากกว่านี้ จะได้เป็นกระแสมากขึ้น พี่ได้คุยกับเดือนแล้ว เขาก็ยินดีให้จ๋าเป็นข่าวกับคีย์ และอยากให้เปลี่ยนสถานที่จากคอนโดเป็นห้างหรือร้านอาหารบ้าง นักข่าวจะได้เก็บภาพอื่นๆ บ้าง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็คอนโดๆ” ดาด้า ผู้จัดการส่วนตัวของพระเอกหนุ่มบอก

“ผมยังไม่อยากเปิดตัว ถ้าเลิกกันเดี๋ยวจะถูกมองว่าใจง่ายเปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมไม่อยากให้คนดูติดภาพลักษณ์แบบนั้น มันผิดกับละครที่ผมเล่น”

“แล้วไปหาเขาที่คอนโด ภาพลักษณ์เธอไม่เสียหรือไง ถึงเธอจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่คนที่อ่านข่าวเขาไม่คิดแบบนั้นหรอก แล้วกระแสของเธอกับจ๋าก็ดีมากนะ แฟนคลับก็ยุให้เปิดตัวจะแย่อยู่แล้ว นี่ถ้ามีภาพข่าวว่าไปกินข้าวด้วยกันสองต่อสอง รับรองว่าแฟนคลับจิ้นกันกระจายแน่ๆ” ผู้จัดการส่วนตัวบอกด้วยน้ำเสียงฝันหวาน

“ถึงตอนนั้นทั้งงานโฆษณา ทั้งงานอีเว้นท์ คงวิ่งเข้าหาตูมตามไม่หยุดแน่ๆ เลย”

“ให้คนดูเขาลุ้นกันไปแบบนี้ดีกว่าครับ เปิดหมดก็คงไม่มีอะไรให้ลุ้นให้จิ้นแล้ว” ศรัณย์เห็นต่าง

“หวังว่าคีย์คงไม่อยากจะไปเป็นคู่จิ้นกับข้าวหรอกนะ เมื่อคืนที่หายไปแถมยังติดต่อไม่ได้ อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าคีย์ไปไหน” ดาด้าพูดเสียงเข้ม ขณะที่พระเอกหนุ่มยกไหล่เล็กน้อย

“ผมจะไปไหนก็เป็นเรื่องของผม อย่าลืมนะครับว่าผมให้พี่ด้ามาจัดการเรื่องคิวงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว” ศรัณย์ย้ำหน้าที่ของอีกฝ่าย ทั้งสองทำงานร่วมกันมานาน ตอนนั้นทั้งดาด้าและศรัณย์ต่างก็ใหม่ในวงการจึงต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จนเมื่อศรัณย์เริ่มมีชื่อเสียงพลอยทำให้ผู้จัดการส่วนตัวดังไปด้วย ดาด้าเริ่มมีเด็กในสังกัดเพิ่มขึ้น และเธอค่อนข้างเกรงใจศรัณย์ไม่น้อย เช่นเดียวกับพระเอกหนุ่มที่ให้เกียรติผู้จัดการของเขา เว้นแต่อะไรที่ล้ำเส้นเกินไป เขาก็จะเตือน

“พี่ไม่ห้ามหรอกถ้าคีย์จะไปหาข้าว แต่อย่าไปบ่อยนัก เพราะตอนนี้นักข่าวก็เริ่มสงสัยมากแล้ว คีย์ก็บอกประจำว่าข้าวเป็นน้องสาว พี่น้องอะไรกันถึงได้ไปหากันที่คอนโด ข้าวก็ไม่มีละครเล่นกับคีย์ด้วย กระแสอะไรก็ไม่มี เป็นข่าวด้วยกันบ่อยๆ แฟนคลับจะไม่ชอบเอาได้”

“พี่ด้าก็หาละครหรือโฆษณาให้ผมกับข้าวเล่นด้วยกันสิครับ จะได้เป็นกระแส” ศรัณย์แนะนำ ทำเอาผู้จัดการค้อนขวับ

“ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็ดีสิ คนดูเขาติดภาพเธอกับข้าวว่าเป็นพี่น้องกันแล้ว จะให้ไปเล่นละครหรือโฆษณาคู่กันมันไม่ง่ายหรอกและข้าวก็ไม่ใช่เด็กในสังกัดพี่ด้วย กับจ๋า ถ้าไม่ใช่เพราะกระแสพี่ก็ไม่อยากให้เธอไปมีข่าวกับเขา ให้เป็นกับเด็กในค่ายตัวเองดีกว่า เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลไปไหน” ดาด้าบอก แม้เธอกับเดือนเต็มจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันแต่เรื่องผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร เธอเคยพยายามทำให้ศรัณย์มีข่าวกับนางเอกในสังกัดตัวเองแล้วแต่ก็ไม่เป็นกระแส แถมยังโดนแฟนคลับบางคนแอนตี้หาเรื่องโจมตีอีก

“อย่าเลยครับ พี่ด้าก็รู้ว่าผมไม่ชอบมีข่าวกับเด็กในสังกัดตัวเอง” เขาบอก ชายหนุ่มมีกฎที่ตั้งไว้ตั้งแต่เข้าวงการว่าจะไม่ยุ่งหรือมีข่าวกับดาราที่ดาด้าดูแลเพราะไม่อยากมีปัญหาผิดใจกัน และเขาไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นสมภารกินไก่วัด

นั่นเป็นสาเหตุที่ดาด้าไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของอันนา เพราะศรัณย์ไม่เห็นด้วย สุดท้ายก็ไปจบที่เดือนเต็ม ซึ่งเป็นผู้จัดการมือทองลำดับต้นๆ ของวงการ

“ตอนนั้นพี่น่าจะตื๊อข้าวให้มาอยู่ในสังกัด คีย์จะได้ตัดใจได้” ดาด้าพูด ขณะที่ศรัณย์ยิ้ม

“ยากครับพี่ด้า เพราะข้าวเชื่อผมที่สุด ถ้าผมบอกว่าไม่ ข้าวก็จะบอกว่าไม่เหมือนกันครับ” เขาพูดอย่างมั่นใจ

“แต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วมั้ง พี่เห็นข่าวว่าเขาไปกินข้าวกับเสี่ยกิจมานี่ สงสัยจะเป็นรายต่อไปแล้วมั้ง” ดาด้าพูดยิ้มๆ ผิดกับสีหน้าของศรัณย์ที่แสดงความไม่พอใจ

“เรื่องนี้ผมคุยกับข้าวแล้ว เขาแค่นัดกินข้าวเพื่อคุยงานกันเฉยๆ และถ้ามันมีอะไรมากกว่านั้น ผมเชื่อว่าข้าวไม่มีทางยอมหรอกครับ” เขาบอกเสียงเคร่งแล้วหันไปหยิบกระดาษเอสี่ที่อัดแน่นไปด้วยบทละครมาเปิดดูเพื่อยุติบทสนทนาที่ทำให้อารมณ์เสีย




กองถ่ายวันนี้เป็นโลเคชั่นป่าเขา ผู้เข้าฉากนอกจากจะมีพระเอกของเรื่องแล้ว ยังมีจิรดาและนักแสดงสมทบอีกจำนวนหนึ่ง การถ่ายทำดำเนินไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ฉากนั้นไม่มีศรัณย์จึงไม่เป็นปัญหา

หลังแสดงฉากตัวเองเสร็จ ศรัณย์ก็มีเวลาพักเพราะเป็นฉากของตัวประกอบกับจิรดา ชายหนุ่มเข้ามานั่งพักเหนื่อยในเต้นท์ทีมงาน ซึ่งมีเดือนเต็มนั่งอยู่ด้วย จิรดาเป็นเด็กคนโปรดและดังที่สุดในสังกัดของเดือนเต็ม หากเธอมีเวลาว่างและนางเอกมีคิวออกกองต่างจังหวัด เธอก็จะตามมาด้วย เพราะได้ทั้งดูแลและได้เที่ยวไปในตัว

“ผมรู้มาว่าข้าวกำลังจะมีงานโฆษณาสินค้าในเครือบริษัทเสี่ยวีกิจ” ศรัณย์เปรยกึ่งถามเดือนเต็ม ในเต้นท์มีเขากับเดือนเต็มที่นั่งอยู่ เพราะคนอื่นๆ ทำงานกันหมดทำให้คุยกันได้สะดวก

“พี่คิดว่าคีย์น่ารู้ดีกว่าข่าวที่ลงนะ” เดือนเต็มบอก เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างศรัณย์กับอันนา

“ใช่ครับ และหวังว่าจะเป็นแค่การคุยงาน โดยไม่มีนอกมีในนะครับ”

“เรื่องนี้ต้องไปถามข้าวเองแล้วล่ะว่าจะยอมให้มีนอกมีในหรือเปล่า แต่ดูท่าทางแล้วข้าวก็ไม่ได้รังเกียจเสี่ยกิจเลยนะ ออกจะชอบด้วยซ้ำ คีย์ดูนี่สิ” เดือนเต็มพูดพลางยื่นโทรศัพท์มือถือให้พระเอกหนุ่มดู

เป็นภาพของอันนากับเสี่ยวีกิจกำลังนั่งกินข้าวด้วยกันในห้องอาหารหรู มือของวีกิจกำลังลูบไล้ไปตามท่อนแขนเรียวของอันนา โดยที่นางเอกสาวไม่ได้หลบหลีกหรือปัดป้องแต่อย่างใด สายตาของเธอมองมือของวีกิจด้วยสีหน้าเฉยๆ

“พี่ไม่ได้อยากให้คีย์กับข้าวมีปัญหากันหรอกนะ แต่พี่อยากให้คีย์เผื่อใจไว้บ้าง ข้าวเพิ่งเข้ามาเป็นดารา เขาก็ต้องสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองเป็นธรรมดา และการที่เสี่ยกิจจะเอ็นดูและอยากดูแลข้าวก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เรื่องแบบนี้ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น” เดือนเต็มบอกมาอีก

ความจริงเธอไม่อยากใส่ร้ายเด็กในสังกัดเลย และอันนาก็เป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทเธอตลอด แต่ที่เธอต้องทำแบบนี้เพื่อกันศรัณย์ออกจากอันนาเพราะวีกิจอยากได้นางเอกดาวรุ่งคนนี้ ถ้ามีศรัณย์คอยตามวนเวียน อันนาก็จะไม่ยอมไปเป็นเด็กเสี่ย แถมกระแสระหว่างศรัณย์กับจิรดาก็จะตกไปด้วย

จับคนทั้งสองแยกกันแล้วจับคู่ให้ใหม่ ศรัณย์คู่จิรดา อันนาคู่เสี่ยวีกิจ แบบนี้รายได้จากจิรดาก็จะเพิ่มขึ้นแถมเสี่ยวีกิจยังตบรางวัลให้เธออีกด้วย มองทางใดก็มีแต่ได้กับได้

“ตอนนี้กระแสคู่จิ้นกำลังมาแรง ทำไมคีย์ไม่ใช้กระแสนี้สร้างโอกาสให้กับตัวเองล่ะ คีย์ก็รู้ว่ากระแสแบบนี้มันเกิดขึ้นไม่บ่อยและมันก็หมุนไปเรื่อยๆ ด้วย ไม่แน่ว่าหมดช่วงนี้ไป คีย์กับจ๋าอาจไม่ใช่คู่ขวัญของวงการแล้วก็ได้นะ และคีย์กับจ๋าก็เข้ากันอย่างกับกิ่งทองใบหยก ถ้ารักใคร่ชอบพอกันได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องดี มีดาราไม่กี่คู่หรอกที่เปิดตัวแฟนแล้วจะดัง พี่เชื่อว่าคีย์จะต้องดังกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ ถ้าเปิดตัวว่าจ๋าคือคนรู้ใจ”

“แต่มันไม่ใช่นี่ครับ”

“ก็แค่สร้างกระแส ลองไปกินข้าวดูหนังกับเขาสักครั้งสิ แล้วดูกระแสของแฟนคลับ ถ้าไม่ดีก็ค่อยถอยแต่ถ้าดีก็ลุยต่อ เธอสองคนก็เข้ากันดีไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นคงไม่มีข่าวว่าไปเจอกันที่คอนโด” เดือนเต็มถามอย่างรู้ใจ

“แล้วผมจะลองดูครับ เรื่องนี้พี่ด้าก็บอกผมเหมือนกัน” ศรัณย์บอก และเริ่มเห็นด้วยกับสัจธรรมเรื่องการทำงานในวงการบันเทิง...เมื่อมีโอกาสให้รีบคว้าไว้




“แฟนคลับเฮ พระนางคู่จิ้นสวีทกลางร้านอาหาร โดยไม่แคร์สายตาใคร”

คือข้อความพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่ง พร้อมภาพขนาดใหญ่ของชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ในร้านอาหาร ภาพนั้นเห็นหน้าชัดเจนว่าคือศรัณย์พระเอกคนดังของวงการ ส่วนฝ่ายหญิงคือจิรดา นางเอกคู่จิ้นของเขานั่นเอง

อันนาวางหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นลงบนโต๊ะ แต่ภาพยังเด่นหราเพราะกินเนื้อที่กว่าครึ่งของหนังสือพิมพ์ ทำให้เธอต้องเอานิตยสารมาทับไว้อีกชั้นเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ

เดือนเต็มเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่อันนานั่งอยู่พร้อมนักแสดงตัวประกอบอีกสองสามคน เธอโบกมือเป็นสัญญาณให้นักแสดงเหล่านั้นออกไป เมื่ออยู่ตามลำพัง เดือนเต็มก็เดินไปหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมากางอ่าน

“พี่เตือนข้าวแล้วว่าคีย์ไม่จริงใจหรอก ก่อนหน้านั้นก็ไปไหนกันแบบแอบๆ แต่ตอนนี้ไม่แอบแล้ว สงสัยคงอยากเปิดตัว ถ้าข้าวไม่เชื่อข่าวก็น่าจะเชื่อพี่ เพราะพี่ด้า รุ่นพี่ของพี่เป็นผู้จัดการของคีย์ เรื่องพวกนี้เราส่งถึงกันได้ดีกว่านักข่าวอยู่แล้ว และพี่บอกข้าวได้เลยว่างานนี้คีย์กับจ๋ามีสิทธิ์เป็นแฟนกันจริงๆ เพราะจ๋าบอกพี่ว่าคีย์ให้แหวนกับเธอด้วย”

อันนาถึงกับนิ่งเมื่อได้ฟัง ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ก็บอกแบบนั้นแต่ก็เป็นแค่การคาดเดาไม่มีหลักฐาน ตอนที่อ่านเธอก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะนักข่าวมักใส่สีเกินจริง จนได้มาฟังจากเดือนเต็ม ทำให้น้ำหนักความเชื่อมีมากขึ้น

“การเปิดโอกาสให้ตัวเองไม่ใช่เรื่องผิดหรอกนะข้าว เมื่อวานเสี่ยกิจโทรหาพี่ บอกว่าอยากนัดข้าวกินมื้อเย็นอีกครั้ง เพื่อคุยเรื่องสัญญาและค่าตอบแทน งานนี้เสี่ยทุ่มไม่อั้นเลยนะ ข้าวจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้”

“ข้าวคุยไม่เป็นหรอกค่ะ” หญิงสาวแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะเรื่องราคาค่าจ้าง เดือนเต็มเป็นคนดูแลให้เธอ ซึ่งที่ผ่านมาก็สมน้ำสมเนื้ออยู่แล้ว

“ไม่เป็นไร งานนี้พี่จะนั่งเป็นเพื่อนข้าวด้วย คราวนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีข่าวไม่ดีแล้วนะ ข้าวจะรับนัดเสี่ยมั้ย”

“ถ้าพี่เดือนไปด้วย ข้าวก็ไม่มีปัญหาค่ะ”

“ดีมากจ้ะ” เดือนเต็มบอกด้วยรอยยิ้ม



.................................................

โหลดแสนเสน่ห์ ฉบับเต็มในรูปแบบอีบุ๊กได้แล้วค่ะ

 





โหลดเป็นเซตคู่กับเรื่องรักหวาม  -->> SET แสน-รัก







Create Date : 19 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2558 16:27:20 น. 0 comments
Counter : 1096 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com