นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
ตุลาคม 2558
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 ตุลาคม 2558
 

[เหลี่ยมเมฆา] 4 : เลขาหนุนนำ


ตอนที่ 4

เลขาหนุนนำ



ภาสิตมาดักรอที่บริษัทจริงๆ แต่ไม่ได้เจอกับกีรติ เพราะคนที่มาเห็นก่อนคือเมฆินทร์ เขารีบเดินเข้าไปบอกยามว่าห้ามให้ภาสิตเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทเด็ดขาด แม้แต่หน้าประตูหรือริมกำแพงก็ห้ามเฉียดเข้าใกล้ ยามรับคำแข็งขันและรีบส่งต่อข้อความไปให้ยามคนอื่นๆ เมฆินทร์ย้ำนักหนาพร้อมขู่อีกด้วยว่าหากเห็นผู้ชายคนนั้นอีก ยามทั้งหมดจะถูกลงโทษ

เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ภาสิตถอยห่างจากกีรติโดยเร็วแล้ว ยิ่งภาสิตมาดักรอแบบนี้ เขาเชื่อว่าสักวัน คนรักเก่าของกีรติต้องรู้แน่ๆ ว่าที่พักใหม่ของเธออยู่ที่ไหน และเมื่อนั้นเธอคงไม่ปลอดภัย

แต่...เขาจะอย่างไรเพื่อให้ภาสิตออกไปจากชีวิตของกีรติ นั่นคือคำถามที่เมฆินทร์ยังคิดไม่ตก ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้คงเป็นการหลบเลี่ยงเลขาและทำที่พักของเธอให้เป็นความลับที่สุด

เมื่อตั้งใจไว้ เมฆินทร์ก็เริ่มทันที เย็นวันนั้น เขาชวนเลขาไปกินข้าวเย็นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ระหว่างที่นั่งกินในร้าน เขาก็คอยสอดส่ายสายตามองหาไปด้วยว่ามีใครตามมาหรือเปล่า แม้จะไม่เจอภาสิตแต่เพื่อความแน่ใจ เมฆินทร์จึงขับรถวนไปเวียนมาหลายรอบกว่าจะไปส่งกีรติที่คอนโดก็เกือบสามทุ่มแล้ว จากนั้นเขาก็แอบซุ่มอยู่ด้านหน้ากว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อให้มั่นใจที่สุดว่าภาสิตไม่ตามมาจริงๆ

การไปกินข้าวที่ห้างในวันแรกๆ กีรติก็พอจะไปได้ แต่หลายวันเข้าทำให้เธออดสงสัยไม่ได้จนต้องเอ่ยปากถาม ซึ่งเขาก็อ้างว่าเธออยู่คนเดียว กลัวจะเบื่อและเหงา เขาใช้งานเธอมาทั้งวันก็อยากตอบแทนบ้างด้วยการพามากินของอร่อยๆ

คำตอบของเขาทำให้ใจของกีรติฟีบลงเล็กน้อย เธอคิดว่ามันจะมีอะไรมากกว่านั้นเสียอีก แต่สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นเธอที่คิดไปเองข้างเดียว!

“ขอบคุณมากนะคะ คุณเป็นเจ้านายที่ดีกับลูกน้องเหลือเกิน” เธอบอกโดยย้ำสถานะชัดเจนจนเมฆินทร์รู้สึกแปลกใจ

“แต่คุณเป็นมากกว่าลูกน้องของผม” เขาเอ่ย ทำให้คนที่มีสีหน้าแปลกใจกลายเป็นกีรติ “เพราะคุณเป็นทั้งเพื่อนและครูของผมที่สำคัญคือคุณทำให้ผมสบายใจเวลาอยู่ใกล้ๆ”

นี่เป็นคำตอบที่หลอกให้เธอคิดไปไกลและสุดท้ายก็บอกไม่มีอะไรอีกแล้วใช่ไหม เธอคงต้องเตือนตัวเองว่าอย่าคิดไปไกลเกินตัว

“ขอบคุณค่ะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ฉันขึ้นตึกก่อนนะคะ” เธอเอ่ยแล้วลงจากรถ

“เดี๋ยวก่อนครับกี้” เขารีบเรียกไว้แล้วลดกระจกลง หญิงสาวโน้มตัวมาใกล้กระจก

“วันมะรืนเราต้องไปงาน คุณเตรียมชุดไว้หรือยัง” เขาถาม

“เตรียมแล้วค่ะ ชุดสีฟ้าที่เคยไปงานครั้งก่อน”

“ใครเก็บรูปไปก็รู้พอดีว่าคุณใส่ชุดซ้ำ ถ้าคุณไม่มี พรุ่งนี้ตอนเย็นเราไปดูชุดกันครับ”

“ชุดนั้นฉันเพิ่งใส่แค่ครั้งเดียวเองนะคะ อุตส่าห์ซื้อมาตั้งเกือบพัน” เธอทำหน้างอ

“แต่ผมไม่อยากให้คุณใส่ชุดซ้ำ”

“งั้นหาร้านเช่าดีมั้ยคะ” เธอเสนอ เพราะคิดว่าตำแหน่งระดับเขา ขืนใครรู้ว่าเลขาใส่ชุดซ้ำ คงรู้สึกเสียหน้าแย่

“ดีเลยครับ” เมฆินทร์รีบตอบเพราะจุดประสงค์ครั้งนี้การคือการพาไปดูชุด เปลี่ยนจากการซื้อเป็นเช่าก็เหมือนกัน

“พรุ่งนี้ตอนเย็นเราไปดูชุดกันนะครับ”

“ค่ะ” เธอรับคำแล้วถอยตัวออกจากรถของเขา เมฆินทร์กดกระจกขึ้นและรอกระทั่งกีรติเดินเข้าอาคารไปแล้ว เขาจึงเคลื่อนรถออก




รถของเมฆินทร์จอดเทียบยังลานจอดชั้นใต้ดินของโรงแรมหรูที่เขากับเลขาต้องมางานในวันนี้ ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้เลขาสาว กีรติลงจากรถแล้วยิ้มขอบคุณ วันนี้เธอมาในชุดสายเดี่ยวสีชมพูกระโปรงยาวรัดรูปแต่ผ่าสูงขึ้นมาถึงครึ่งน่อง ผมยาวสลวยถูกถักเปียไว้สองข้างแล้วพาดไปมัดรวมไว้ด้านหลัง ใบหน้าเนียนแต่งแบบอ่อนๆ เพื่อให้เข้ากับสีหวานของชุดแต่ก็ทำให้เธอดูโดดเด่นไม่น้อยแถมยังน่ามองมากทีเดียว

ทั้งสองเดินเข้าเข้าพร้อมกัน ทุกคนต่างหันมองเป็นตาด้วยและต่างชื่นชมถึงความเหมาะสม สีหน้าของเมฆินทร์ดูมีความสุขมาก เขาทักทายคนรู้จักด้วยความเป็นกันเอง ขณะที่กีรติมีสีหน้าประหม่าเล็กน้อย แม้เธอจะรู้จักลูกค้าทุกคนที่เข้ามาทักเจ้านายแต่เธอไม่ชินกับสายตายิ้มๆ ที่คนเหล่านั้นมองมาเลย

ในงานนี้นอกจากเมฆินทร์กับเลขาจะมางานแล้ว พ่อและแม่ของเขายังมาร่วมงานอีกด้วย เพราะผู้จัดงานเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทที่มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวด้วย เมฆินทร์เข้าไปทักพ่อกับแม่ ซึ่งพวกท่านก็มองเลขาด้วยแววตายิ้มๆ เหมือนที่ลูกค้าคนอื่นมอง ยิ่งทำให้กีรติเขินหนักจนไม่รู้จะวางไม้วางมือตรงไหน

“วันนี้คุณกี้แต่งตัวสวยมาก” คุณธเนศ พ่อของเมฆินทร์เอ่ยชม หญิงสาวเคยเป็นเลขาของท่านก่อนมาเป็นเลขาให้เมฆินทร์ เธอจึงค่อนข้างสนิทกับคุณธเนศ

กีรติยกมือไหว้อย่างนบน้อมเมื่อโดนชม “ขอบคุณท่านมากค่ะ”

“มองไม่ออกเลยว่ากี้เป็นเลขา อย่างกับเพื่อนของตาเมฆหรือไม่ก็คนรู้ใจ” คุณนภา แม่ของเมฆินทร์เอ่ย เธอชอบพอกีรติเป็นทุนอยู่แล้ว เพราะถูกใจในความน่ารักอ่อนน้อมของเธอ

“กี้ไม่อาจเอื้อมถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” เธอเอ่ยแบบถ่อมตัวด้วยน้ำเสียงเกรงใจไม่ใช่น้อยใจ ทำให้คุณนภารีบโบกมือ

“อาจเอื้อมอะไรกันกี้ เธอก็ยกพวกเราเกินไป แค่เป็นเจ้านายกับลูกน้องไม่ได้ทำให้เราต่างกันหรอก” ท่านบอก คุณนภาเป็นคนไม่ถือตัว จิตใจดีและไม่เคยมองคนจากภายนอก ทำให้เป็นที่รักของพนักงานทุกคนรวมถึงเพื่อนๆ ด้วย

“ถ้าไม่ได้เธอคอยช่วยงาน เราคงลำบากกว่านี้มาก ถือว่าเราต่างหนุนนำซึ่งกันและกันดีกว่า” คุณนภาบอกมาอีก ทำให้กีรติยกมือไหว้อีกครั้งในความกรุณาของท่าน ขณะที่เมฆินทร์ซ่อนยิ้ม เขาถูกใจกับคำพูดของผู้เป็นแม่เหลือเกิน

หนุนนำซึ่งกันและกัน

“เมื่อกี้พ่อเจอคุณประสิทธิ์ เขาถามหาลูกด้วย เราน่าจะไปสวัสดีเขาหน่อยนะ” คุณธเนศบอก คุณประสิทธิ์คือเพื่อนเก่าแก่และเห็นเมฆินทร์มาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก

“ได้ครับคุณพ่อ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มลา โดยไม่ลืมแตะแขนเลขาเป็นเชิงให้เธอไปกับเขา กีรติทำหน้างงเล็กน้อย

“เผื่อคุณอาประสิทธิ์คุยเรื่องงาน คุณจะได้ช่วยผมจำ” เขายกเหตุผล เลขาสาวจึงพยักหน้ารับแล้วหันไปยกมือไหว้ประธานบริษัท

“ดิฉันขอตัวก่อนค่ะ”

พ่อและแม่ของเมฆินทร์พยักหน้ารับและยืนมองจนร่างของลูกชายและเลขาพ้นสายตาไป คุณนภาก็หันไปมองสามีด้วยแววตายิ้มๆ เป็นประกาย

“ดูคุณพอใจเลขาคนนี้มาก” คุณธเนศเอ่ยอย่างรู้ใจ

“ค่ะ ฉันชอบกี้มาก เธอน่ารัก อ่อนหวาน สุภาพ ทำงานเก่ง นี่ถ้ามองข้ามเรื่องอายุที่มากกว่าตาเมฆ ฉันก็คิดว่าทั้งสองเหมาะสมกันดี”

“คุณนภา” ผู้เป็นสามีเรียกเสียงยาว

“หรือคุณไม่เห็นด้วยกับฉันคะ” เธอถาม ทำให้คุณธเนศนิ่งคิด

“ผมเห็นด้วย และอยากจะบอกคุณว่ามันไม่สำคัญเลยว่าใครจะอายุมากหรือน้อยกว่ากัน”

“แหม คุณก็ทำเสียงอย่างกับจะค้านฉันอย่างนั้นแหละ” ภรรยาค้อน

“แต่สิ่งที่สำคัญคือตาเมฆกับเลขาของเขาคิดกันเองยังไงมากกว่า”

“ฉันเชื่อค่ะว่าตาเมฆไม่ได้คิดว่ากี้เป็นแค่เลขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ชวนมางานหรอกค่ะ เพราะถึงจะมีลูกค้ามาร่วมงานด้วยแต่คงไม่มีใครเอาเรื่องงานหนักๆ มาคุยกันให้เสียบรรยากาศ แต่ถึงคุย ระดับตาเมฆจัดการได้อยู่ได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งเลขาเลย”

“แล้วท่าทางของเลขาล่ะ เขาตอบรับลูกของเรามากแค่ไหน” คุณธเนศถามความเห็น ขณะที่ภรรยาถอนใจอ่อน

“นั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่มั่นใจค่ะ บางครั้งฉันก็คิดว่ากี้ดูเหมือนจะเกร็งๆ ฉันไม่รู้ว่าที่เขายอมไปไหนกับตาเมฆเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นเลขาเลยต้องตามเจ้านายหรือว่าอยากไปด้วยจริงๆ แล้วเขาจะรู้สึกอึดอัดบ้างหรือเปล่าที่ไปรบกวนนอกเวลางานแบบนี้”

“ยุให้ลูกจีบเลยสิ” คุณธเนศบอก

“ช้าไปแล้วค่ะ ลูกคุณเดินหน้าไปตั้งนานแล้ว ไม่รอให้ฉันหรือคุณมายุหรอก” เธอบอก

“งั้นเรามาเอาใจช่วยลูกกัน แต่ผมไม่อยากให้คุณยื่นมือเข้าไปนะ” สามีเตือน

“ค่ะ ฉันจะดูเรื่องนี้และคอยเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ แต่ฉันเชื่อนะคะว่าลูกต้องทำได้”

“คุณไม่ถือใช่ไหมว่าคู่ของลูกจะเป็นแค่เลขา” คุณธเนศถามมาอีก

“ไม่ค่ะ คุณก็รู้ว่าฉันไม่เคยบอกคนที่ภายนอก แล้วคุณล่ะคะ คิดเห็นเรื่องนี้ยังไง” เธอถามกลับ

“ผมถือคติ ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน ถ้าลูกชอบใคร ขอให้เป็นคนดีและรักลูกของเรา ผมก็เห็นด้วยกับลูก” เขายิ้มให้ภรรยาก่อนมองหาลูกชาย เพื่อดูความสนิทสนมระหว่างลูกกับเลขาสาว




เมฆินทร์พูดคุยทักทายกับคนนั้นคนนี้โดยมีเลขาสาวตามต้อยๆ เธอไม่ได้ออกความเห็นหรือเก็บข้อมูลอะไรเลย เพราะเรื่องที่เมฆินทร์คุยเป็นเรื่องทั่วๆ ไปไม่เกี่ยวกับงานสักนิด

“ไฮ เมฆ เราเจอกันอีกแล้ว” น้ำเสียงดีใจทักขึ้นก่อนสาวสวยในชุดราตรีเกาะอกอวดเนินเนื้อขาวผ่องและผิวเรียบเนียนจะเดินเข้ามา เมฆินทร์หันไปและยิ้มให้เพื่อนของเขา

“อ้าวจิ๊บ มางานนี้ด้วยเหรอ”

“เรารู้จักกับลูกสาวของคุณวิชาญน่ะ เขาเลยชวนเรามา เมฆล่ะ สงสัยคงทำธุรกิจด้วยกัน” จิ๊บถาม

“ใช่ คุณวิชาญเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเราและเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของคุณพ่อด้วย”

“งั้นพ่อกับแม่ของเธอก็มาด้วยสิ ฉันไม่เจอพวกท่านนานแล้วนะ” จิ๊บถามเสียงตื่นเต้น

“มา อยากเจอมั้ย เดี๋ยวฉันพาไป พวกท่านต้องแปลกใจและดีใจแน่ๆ ที่ได้เจอเธอ”

“ไปสิๆ ท่านอยู่ตรงไหน”

“ด้านนู่น” เมฆินทร์บอกแล้วหันมาทางเลขา “คุณรอผมแถวๆ นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมพาเพื่อนไปสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ก่อน”

“ฉันออกไปรอที่สวนด้านนอกดีกว่าค่ะ อยู่ในนี้นานๆ แล้วรู้สึกมึน” เธอบอก

“ได้ครับ ถ้าผมหาไม่เจอ เดี๋ยวผมโทรหา” เขาไม่เกี่ยวก่อนจับแขนเพื่อนสนิทแล้วพากันเดินจากไป

กีรติมองภาพความสนิทสนมด้วยความรู้สึกหม่นๆ อย่างมองไม่ถูก เธอเลี่ยงไปอีกทาง แต่ไม่ได้ออกไปด้านนอก แต่คอยลอบมองเจ้านายและเพื่อนของเขาคุยกับคุณธเนศและคุณนภา

ในตอนแรกทั้งสองคนก็มีสีหน้าแปลกใจเหมือนจำเพื่อนของลูกชายไม่ได้ จนเมื่อเมฆินทร์บอก คุณนภาก็ลืมตาโตอย่างประหลาดก่อนยิ้มแล้วตรงเข้าลูบแขนจับหน้าจิ๊บอย่างสนิทสนม หญิงสาวคนนั้นก็ยิ้มและหัวเราะกับความตื่นเต้นของผู้อาวุโส กีรติเห็นคุณนภาถามสาวสวยคนนั้นไม่หยุดจนเมฆินทร์ต้องยกมือห้าม ขณะที่คุณธเนศหัวเราะ

ดูทั้งสองเข้ากันดี เธอคิดว่าจิ๊บน่าจะเป็นเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนของเมฆินทร์ และเชื่อว่าจิ๊บต้องเคยไปมาหาสู่ครอบครัวนี้ก่อนจะมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้แยกกัน อาจเพราะเมฆินทร์ต้องบินไปเรียนต่อก็ได้

แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เช่นเดียวกับสาวคนนั้นก็สะพรั่งเต็มไปด้วยความสวยสง่า กริยาท่าทางก็ดูเป็นมิตรและมีมนุษย์สัมพันธ์ เขาคงรอให้มั่นใจกว่าก่อนก็ได้ แล้วจึงค่อยแนะนำให้เลขาอย่างเธอรู้จัก

เธอไม่มีความสำคัญกับเขาอยู่แล้ว เขาจะแนะนำหรือไม่ เธอก็เห็นแล้วว่าจิ๊บคือคนพิเศษของเมฆินทร์...กีรติคิดด้วยความรู้สึกน้อยใจและเจียมตัวอยู่ลึกๆ




งานเลี้ยงวันเกิดของวิชาญเลิกเกือบห้าทุ่ม กีรติเดินคู่มากับเมฆินทร์ยังรถของเขาเช่นเดียวกับแขกคนอื่นๆ ที่ทยอยกันออกมา สีหน้าของเมฆินทร์เต็มไปด้วยความสุข ซึ่งเลขาสาวเดาว่าเพราะเขาได้แนะนำคนรักให้พ่อกับแม่ได้รู้จัก

“ตอนนี้ดึกแล้ว เดี๋ยวคุณเมฆส่งฉันที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงแรมก็พอนะคะ เดี๋ยวฉันกลับแท็กซี่เองได้”

“ยิ่งดึกแล้วผมยิ่งต้องไปส่งคุณครับ กลับแท็กซี่ด้วยชุดแบบนี้อันตรายแย่” เมฆินทร์บอกเสียงเคร่งและขมวดคิ้วกับความคิดของเธอ

“ฉันมีผ้าคลุมไหล่แล้ว ไม่อันตรายหรอกค่ะ”

“ไม่ครับ ยังไงผมก็จะไปส่งคุณที่คอนโด”

“ฉันไม่อยากรบกวนค่ะ”

“คุณเป็นอะไรไป ผมเห็นคุณทำหน้าเครียดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว มีใครมาพูดไม่ดีกับคุณงั้นหรือ” เขาถาม

“ไม่มีค่ะ ฉันแค่ไม่อยากรบกวนคุณ วันนี้คุณก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

“คุณก็เหนื่อยเหมือนๆ กับผม เราอย่ามายืนเถียงให้เสียเวลาเลยครับ กลับกันดีกว่า” เขาบอกแล้วเอื้อมมือไปแตะเอวเธอเบาๆ เป็นเชิงให้เธอขึ้นรถ แต่กีรติกลับเบี่ยงตัวหนี ทำให้เมฆินทร์สงสัยหนัก

“ต้องมีคนมาพูดไม่ดีกับคุณแน่ๆ ใครกันครับ เขาพูดอะไรกับคุณ” ชายหนุ่มถามเสียงคาดคั้นและจ้องเธอนิ่ง ขณะที่เลขาสาวเมินหน้าหนี

“ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่มี ไม่มีใครมาพูดหรือมาว่าฉันทั้งนั้นค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบขึ้นรถครับ นี่เป็นคำสั่ง” เมฆินทร์กดเสียงหนักแล้วคว้าข้อมือเธอไว้มั่น กีรติพยามยามบิดมือออกแต่ทำไม่ได้

“ถ้าไม่มีใครมาพูดอะไรให้คุณเข้าใจผิด ก็ขึ้นรถครับ ไม่งั้นผมจะเข้าไปขอดูกล้องวงจรปิดว่าคุณคุยกับใครบ้าง” เขายื่นคำขาด ทำให้กีรติต้องหยุดขืนตัว และยอมเข้าไปนั่งในรถอย่างไม่เต็มใจ




ตลอดการโดยสารในรถเกือบชั่วโมง ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากกีรติเลย แรกๆ เมฆินทร์ก็ถามเหตุผลแต่เธอก็เอาแต่นั่งเงียบ จนเขาต้องสงบปากและรอเวลาให้ถึงคอนโดของเธอเสียแล้ว แล้วเวลาคุยแบบจริงๆ จังๆ คงมาถึงเสียที

“ต่อไป คุณเมฆไม่ต้องมาส่งฉันอีกแล้วนะคะ” กีรติเอ่ยเป็นประโยคแรกเมื่อรถของเจ้านายจอดเทียบหน้าคอนโด

“ผมต้องการเหตุผลครับ”

“ฉันไม่มีให้คุณค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้” เธอบอกแล้วรีบเปิดประตู แต่ยังไม่ทันก้าวเท้า เมฆินทร์ก็ดึงข้อมือเธอไว้

“อย่าเพิ่งไปครับ เราต้องคุยกันก่อน”

“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณค่ะ และขอร้องให้คุณช่วยทำตามที่ฉันขอด้วย”

“ผมต้องการเหตุผลครับ” เขาย้ำประโยคเดิม

“ฉันไม่มีค่ะ”

“ถ้าไม่มีเหตุผลเราก็เลิกคุยเรื่องนี้ วันนี้คุณอาจอารมณ์ไม่ดี ไว้เราค่อยคุยกันใหม่ในวันที่คุณปรับอารมณ์ได้ก็แล้วกัน ผมรอได้ครับ” เขาบอกเสียงขรึม

“เราเป็นแค่เลขากับเจ้านาย เลิกทำดีกับฉันและเลิกให้ความสำคัญกับฉันเสียทีค่ะ” เธอตัดสินใจพูด ขืนให้เก็บและกดไว้แบบนี้ สักวันเธอคงอกแตกหรือไม่ก็ถลำให้ลึกกว่านี้แน่ๆ

“จะให้ผมเลิกทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อคุณคือคนสำคัญของผม” เมฆินทร์พูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เขามองเธอนิ่งตาไม่กะพริบ

“ผมไม่รู้ว่าใครมาพูดอะไรกับคุณ แต่ผมจะบอกว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด คุณไม่ได้เป็นแค่เลขาของผมและคุณก็สำคัญกับผมมากกว่านั้น”

“อย่าปลอบใจฉันเลยค่ะ และอย่ามาทำดีกับฉันทั้งที่ไม่ได้คิดอะไรด้วย” พูดไปแล้วกีรติก็ตกใจ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่คิด” เขาถามเสียงขรึม ทำเอาหญิงสาวตกใจเป็นคำรบสอง

“ทุกสิ่งที่ผมทำ คุณไม่รู้ ดูไม่ออกเลยหรือว่าเกิดจากอะไร ผมขอบอกว่ามันเป็นอย่างที่คุณคิด”

มันคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องบอกความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ ก่อนที่เธอจะไปฟังคำพูดผิดๆ ของใคร...เมฆินทร์คิด



....................................


ตอนนี้เหลี่ยมเมฆา ในรูปแบบอีบุ๊กส์สามารถโหลดได้แล้วนะคะ

 

โหลดจากเมพ -->> เหลี่ยมเมฆา


โหลดจากอีบุ๊ก -->> เหลี่ยมเมฆา


โหลดจากอุ๊คบี -->> เหลี่ยมเมฆา





Create Date : 02 ตุลาคม 2558
Last Update : 2 ตุลาคม 2558 15:29:30 น. 1 comments
Counter : 618 Pageviews.  
 
 
 
 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:16:58:00 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com