นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 กันยายน 2558
 

4 : ค้าง!


: : : คำเตือน : : :

เนื้อหาของตอนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป หากคุณไม่ชอบบทเรท 20+ กรุณาข้าม แต่ถ้าชอบ ก็อ่านโลดดด



ตอนที่ 4

ค้าง!



ความมืดปกคลุมไปทั่วบ้านไม้กลางป่าควบคู่ไปกับความเงียบสงัดในช่วงเวลากลางดึก โถงกลางบ้านไม้มีเต้นท์ขนาดสองคนตั้งอยู่ ซึ่งเป็นที่นอนสำหรับโชติในคืนนี้ ภายในบ้านปิดมิดชิดแต่ถึงกระนั้นอากาศเย็นๆ จากด้านนอกก็ยังเล็ดลอดเข้ามาได้ จนไม่ต้องพึ่งพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเลย ซึ่งก็เหมาะสมดีแล้ว เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้

ในเต้นท์ผ้าใบ โชติกำลังเคลิ้มใกล้หลับ แม้พื้นจะแข็งไปสักหน่อยและผ้าห่มก็ไม่หนานุ่มเหมือนในห้องนอน แต่ด้วยอากาศเย็นๆ แสนสบายก็พอที่จะทดแทนกันได้ ระหว่างนั้นเขาได้ยินเสียงเปิดประตูของห้องนอนที่อยู่ด้านขวามืออย่างแผ่วเบาและยังได้ยินเสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้อีกด้วย ไม่นานซิปของเต้นท์ผ้าใบก็ค่อยๆ เปิดออก เขานอนฟังนิ่ง เพื่อจะดูว่าหญิงสาวคนนั้นจะทำอะไร

เมื่อซิปของเต้นท์เปิดจนสุดแล้ว เขาก็เห็นร่างบางคลานเข้ามาช้าๆ แม้ในบ้านจะไม่มีไฟฟ้าแต่แสงจันทร์จากด้านนอกก็พอจะทำให้เขาเห็นอะไรลางๆ

ปานชีวาขยับตัวมานั่งคุกเข่าข้างลำตัวของโชติ เธอชะโงกหน้ามาเพ่งมองใบหน้าของชายหนุ่มแล้วยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นเขายังนอนนิ่ง มือเล็กวางตรงอกของเขาก่อนค่อยๆ รูดซิปเสื้อแจ็คเก็ตลง แต่ปลดมาได้แค่ครึ่งทางก็ถูกมือใหญ่จับไว้

“คุณจะทำอะไร” เขาถามเสียงเย็น

“คุณต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันต้องขาดแสงสีในยามค่ำคืน และทำให้ฉันต้องอยู่ในความมืดแบบนี้ และคุณยังเป็นต้นเหตุให้ฉันต้องถูกจับตัวมาใช้แรงงานหนักแบบนี้ด้วย” เธอโน้มตัวมากระซิบข้างหูเสียงแผ่วชวนใจสั่น

“คุณต้องถูกลงโทษที่ทำให้ฉันต้องลำบาก” จบคำ ริมฝีปากนุ่มๆ ก็แตะที่ริมฝีปากของโชติ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้ง นอนตัวแข็ง เพราะไม่คิดว่าเธอจะจู่โจมเขาเร็วขนาดนี้

ปากต่อปากประกบแนบชิด ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดลิ้นของเขาจนโชติถึงกับหายใจหอบ อากาศหนาวเย็นเมื่อครู่พลันร้อนขึ้นมาทันที

“อืมมมม” ชายหนุ่มครางเสียงเบาพร้อมลูบต้นแขนเธอไปด้วย
เขากำลังตกหลุมสวาทที่ปานชีวาขุดล่อไว้!

หญิงสาวกระตุกยิ้ม ดวงตาแฝงความเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นโชติเริ่มเคลิ้มกับรสสัมผัสที่เธอป้อนให้ เธอผละจากปากหนา เรียกเสียงครางแบบไม่พอใจให้ดังขึ้น ก่อนเขาจะผ่อนเสียงอย่างพอใจเมื่อปากนุ่มแตะยังปลายคางแล้วลากไซร้ไปตามลำคอของเขา เสื้อแจ็คเก็ตถูกปลดซิปจนสุด มือบางสอดเข้าไปใต้เสื้อเพื่อสัมผัสกับผิวเนื้อของเขา
ขณะที่โชติก็ไม่ยอมน้อยหน้า มือหนาอุ่นของเขาสอดเข้าไปในเสื้อของเธอเช่นกัน เป้าหมายของเขาคือปทุมถันอวบใหญ่ที่เคยติดใจ พร้อมกันนั้น ใจของเขาก็ยิ่งเตลิดเมื่อพบว่าเธอไม่ได้สวมชั้นใน!

อาจเพราะเธอถอดมันเพื่อซักหรือไม่ได้ใส่เพื่อยั่วเขากันแน่ ชายหนุ่มก็สุดที่จะคาดเดา แต่ที่แน่ๆ เขาพอใจ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาถอดให้วุ่นวาย

มือหนาลูบคลำและบีบเนื้อนุ่มเบาๆ เรียกเสียงครางหวานให้ดังขึ้น หญิงสาวเลื่อนตัวลง ลากปากร้อนไปตามเนื้อตัวของเขา ทำให้มือของเขาต้องผละจากอกนุ่มไปด้วย

“เดี๋ยวป่าน อย่าเพิ่ง” ชายหนุ่มร้องห้าม เขาอยากบีบคลึงอกอวบของเธอให้นานกว่านี้

“อย่าใจร้อนสิคะ ยังมีอะไรให้ตื่นเต้นยิ่งกว่านี้อีกคะ” เธอกระซิบบอกแล้วเลื่อนตัวไปยังแก่นกายของเขา มือเล็กลูบสิ่งที่กำลังขยายตัวผ่านกางกางผ้าขายาว

“อืมมม” โชติครางเสียงต่ำอย่างพอใจ

หากนี่คือสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบที่ทำให้เธอต้องมาลำบาก เขาก็ยินดีที่จะให้เธอลำบากต่อไป

กางเกงของโชติหลุดจากสะโพกสอบไปอย่างง่ายดายด้วยความร่วมมือจากเจ้าตัว มือเล็กกอบกำแก่นกายใหญ่ไว้พร้อมบีบกระตุ้นเบาๆ สร้างความเสียวสะท้านให้โชติ จนต้องเกร็งหน้าท้อง มือหนึ่งของเธอกำอยู่ตรงโคน อีกมือทำการรูดขึ้นลงเพื่อปลุกให้เขาตื่นตัวยิ่งขึ้น ก่อนจ่อปากเล็กชิดส่วนปลายแล้วอ้าอมแก่นกายแกร่งเข้าไปในปาก

“อาาาา” โชติครางยาว เขายกสะโพกขึ้นเพื่อส่งตัวตนเข้าไปในปากเธอให้ลึกขึ้น
ปานชีวาค่อยๆ ละเลียดท่อนเนื้อลำยาวอย่างไม่รีบร้อน เธอใช้ลิ้นไล่เกลี่ยไปตามความยาว ดูดกลืนขบเม้มตัวตนของเขาแผ่วเบา แต่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งและครางไม่เป็นคำ

“แบบนั้นครับป่าน ดีมากครับ อืมม” เขาบอกเสียงหอบและหายใจหนักขึ้น หญิงสาวเร่งจังหวะจนท่อนเนื้อผลุบเข้าออกเร็วๆ จนเปียกชื้นไปด้วยน้ำลาย

“แรงอีกหน่อยครับ โอวววว ดีจริงๆ ผมใกล้แล้วป่าน โอววว โอววว” ชายหนุ่มร้องบอกเสียงหอบ เขาหายใจถี่และหนัก เอ็นรอบท่อนเนื้อโป่งขึ้นเหมือนจะระเบิด บ่งบอกว่าใกล้ถึงจุดหมายที่รอคอยแล้ว

“พอแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกแล้วหยุดทุกการกระทำของตัวเอง

มันเป็นการกระชากโชติที่กำลังไต่ขึ้นสวรรค์ให้ตกลงไปในขุมนรกชัดๆ!

ปุยเมฆแสนนุ่มตรงหน้าที่กำลังจะเอื้อมคว้ากลับมลายหายไปในพริบตา

“ไม่ป่าน อย่า!” เขาห้ามเสียงหลง แก่นกายของเขาปวดตึงไปหมด เหมือนมีใครเอาเชือกมารัดไว้ เช่นเดียวกับเนื้อตัวที่สั่นเทาด้วยไฟสวาทที่ถูกจุดขึ้นแต่จู่ๆ ก็เหมือนโดนห่าฝนถล่มจนมอดดับไม่เหลือดี

“ไม่ค่ะ แค่นี้พอแล้ว” เธอบอกยิ้มๆ รู้สึกสะใจที่เห็นเขาคลั่งเจียนตาย

“คุณเป็นคนเริ่ม คุณต้องทำให้มันเสร็จก่อน ไม่งั้นเราเห็นดีกันแน่” เขาขู่ด้วยน้ำเสียงที่ยังหอบสั่น

“ก็ลองดูสิคะ ถ้าคุณทำอะไรฉัน ฉันจะฟ้องพี่ภูว่าคุณลวนลามฉัน และถ้าคุณใช้กำลังบังคับฉัน ฉันจะหนีเข้าไปในป่า จะลองดูมั้ยล่ะคะ ฉันยอมเจอสัตว์ดุร้ายดีกว่าปล่อยให้คุณทำอะไรโดยที่ฉันไม่ยอม” หญิงสาวขู่กลับด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง ทำเอาอารมณ์ที่กำลังลุกโชนด้วยไฟสวาทต้องชะงักค้าง

เขาไม่กลัวว่าเธอจะหนีเข้าป่า เพราะแถบนี้ไม่มีสัตว์ดุร้ายอาศัยอยู่ แต่เขากลัวว่าเธอจะฟ้องภูวดลต่างหาก เจ้านายของเขาให้มาเฝ้าดูแลความปลอดภัยของเธอ ไม่ใช่ให้เขามาทำมิดีมิร้ายเธอเสียหน่อย

และถ้าเป็นการใช้กำลังบังคับเพื่อให้เธอทำงาน เจ้านายของเขาก็คงพอทน แต่ถ้ากำลังนั้นถูกใช้ไปในทางที่ไม่ดี ภูวดลต้องไม่ยอมแน่ๆ

“ผมยอมคุณแล้วป่าน ทำทุกอย่างให้มันเสร็จเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว” เขาเปลี่ยนมาใช้เสียงอ่อนอ้อนวอนเธอ

“ทนไม่ไหวก็ต้องทนค่ะ ให้เหมือนที่ฉันต้องทนอยู่กับความมืดและสิ่งไม่คุ้นเคยแบบนี้ นี่คือบทลงโทษของคุณที่ทำให้ฉันต้องมาอยู่ที่นี่” เธอบอกเสียงแข็งก่อนยิ้มเย็น

“แต่ถ้าคุณไม่อยากโดนลงโทษแบบนี้ ฉันมีข้อเสนอ”

“อะไรครับ ผมยอมทุกอย่าง คุณบอกมาได้เลย” โชติรีบรับและพร้อมยอมแลก หากมันทำให้เขาไม่ต้องตกสวรรค์แบบนี้

“ให้พี่ภูมาอยู่เป็นเพื่อนฉันสิคะ คุณจะได้ไม่ต้องทนให้ฉันมายั่วแบบนี้ และถ้าพี่ภูไม่ยอมมา ฉันจะยั่วและทำให้คุณค้างแบบนี้ไปทุกๆ คืน และถ้าคุณไม่รับข้อเสนอ พรุ่งนี้ฉันจะบอกพี่ภูว่าคุณลวนลามฉัน” ข้อเสนอของเธอเป็นการมัดมือชกชัดๆ

“ผมจะพยายาม” เขาแบ่งรับแบ่งสู้

“ฉันเชื่อว่าคุณทำได้ ถ้าคืนต่อๆ ไป ฉันเห็นคุณมานอนอยู่ในนี้ วันรุ่งขึ้น คุณเตรียมตัวโดนไล่ออกได้เลย หรือถ้าเขาจะเก็บคุณไว้ คุณกับพี่ภูก็เตรียมหาทนายเก่งๆ ไว้แล้วกัน เพราะฉันจะหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ แล้วฉันก็จะแจ้งความ จับทุกคนในไร่ให้หมด” เธอขู่มาอีก

“ผมจะพยายาม” เขาย้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นกว่าคราวแรก สร้างความพอใจให้ปานชีวา

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยแล้วมุดตัวออกจากเต้นท์กลับเข้าห้อง ปล่อยให้โชติทิ้งตัวนอนแผ่ ตาแข็งค้าง

ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจชัดๆ! ชายหนุ่มสบถ





เช้าวันถัดมา โชติออกจากป่าพร้อมคนงานในช่วงเกือบเที่ยง โดยสั่งความกับปานชีวาให้เธอจัดการกับแปลงดอกไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ให้เรียบร้อย เพื่อให้ภูวดลชื่นใจ หญิงสาวรับปากพร้อมทั้งขู่ว่า ถ้าเย็นนี้ เธอเห็นเขามาที่นี่อีก เธอจะวิ่งเข้าป่าไปตายเอาดาบหน้า และเขากับเจ้านายจะต้องมีตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต

ประตูห้องทำงานของภูวดลถูกเคาะเบาๆ และเมื่อได้ยินเสียงเจ้าของห้องอนุญาต คนที่อยู่นอกห้องก็เปิดประตูเข้าไป

“เป็นอะไรไป” ผู้เป็นนายถาม เมื่อเห็นใบหน้าเรียบเฉยติดจะไม่พอใจของลูกน้อง

“ผมไม่สบายใจครับ” โชติเริ่มต้น ทำให้ภูวดลต้องผลักแฟ้มเล่มหนาออก เขาเอนตัวพิงพนักแล้วผายมือเป็นเชิงให้ระบายสิ่งที่คับข้องใจออกมา

“ผมอยากให้คุณไปดูแลคุณป่านครับ” โชติพูดแบบชัดและตรงประเด็นที่สุด ขณะที่ผู้เป็นนายเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามให้แน่ใจ

“ครับ ผมอยากให้คุณภูไปดูแลคุณป่านที่บ้านป่า” ลูกน้องย้ำ

“ทำไมฉันต้องลงไปดูแลผู้หญิงคนนั้นด้วย”

“ผมอยากให้คุณจัดการกับเธอครับ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์มาก ไม่แปลกที่คุณภาคจะหลงหัวปักหัวปำ เธอทำเอาผมไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย” เขาบอกและชะงักค้าง เมื่อเห็นสายตาของเจ้านายที่มองมาอย่างสงสัย

“ผมหมายถึง เธอวุ่นวายจะเอาโน่นเอานี่ จะอาบน้ำก็ร้องหาสบู่ หาน้ำอุ่น จะนอนก็ร้องหาแอร์ ทั้งที่อากาศเย็นจะตาย แถมยังบ่นไม่หยุดเรื่องที่บ้านนั้นไม่มีไฟฟ้าใช้ เธอบอกว่าไม่เคยอยู่ในความมืดแบบนี้มาก่อน และกว่าจะเข้าไปนอนได้ก็เล่นเอาผมหูชาไปเลยน่ะครับ” โชติรีบอธิบาย

“อีกอย่างนะครับ เธอโวยเรื่องเสื้อผ้า บอกว่าทั้งเก่าและเชยและหลวม เธอใส่ไม่ได้ แถมยังไม่มีชั้นในให้เธออีก” ท้ายประโยค ลูกน้องพูดเสียงเบา

“จริงสิ ฉันก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป เลยเตรียมให้แต่เสื้อกับกางเกง เดี๋ยวให้นายแสงขับรถพาป้าสุไปซื้อสักสี่ห้าชุด ไซส์น่าจะเท่ากับน้ำฟ้า เดี๋ยวให้น้ำฟ้าไปช่วยเลือกอีกคนแล้วกัน” ภูวดลเปรย ... น้ำฟ้า เป็นลูกสาวของคนงานในไร่และทำงานในตำแหน่งบัญชี

ไม่เลย ไม่เท่าเลย ของปานชีวาใหญ่กว่า...โชติร้องค้านในใจ เขารู้เพราะใช้มือวัดขนาดของสองสาวมาแล้ว แต่ไม่กล้าพูดออกไป กลัวนายจะถามว่า เขารู้ได้อย่างไร
เรื่องระหว่างเขากับน้ำฟ้า ยังเป็นความลับระหว่างคนสองคน เพราะนายเรือง พ่อของน้ำฟ้า ซึ่งเป็นคนงานเก่าแก่ของที่นี่ ขึ้นชื่อว่าหวงลูกสาวที่สุด และหากนายเรืองรู้ว่าเขารู้ขนาดหน้าอกของลูกสาวสุดหวง คงเป็นเรื่องแน่ๆ

“แล้วยังมีอะไรอีกมั้ยที่เธอต้องการ” ผู้เป็นนายถาม

คุณไง...

โชตินึกตอบในใจ แต่ไม่กล้าพูดอีกตามเคย กลัวเจ้านายจะไม่ยอมไป

“หลักๆ เท่าที่บ่นก็มีเท่านี้ครับ”

“ถ้าฉันเตรียมทุกอย่างให้ เธอก็คงไม่บ่นให้นายได้ยินแล้ว ถ้าอย่างนั้น นายก็คงไปดูแลเธอต่อได้” เจ้าของห้องเอนตัวและบอกด้วยน้ำเสียงสบายๆ

“ไม่ได้ครับ!” โชติรีบปฏิเสธ ทำให้ภูวดลเลิกคิ้วถามอีกครั้ง

“เพราะคุณเป็นคนบอกให้ผมจับตัวเธอมา และผมคิดว่าถ้าคุณอยากแก้แค้นแทนคุณภาค คุณน่าจะต้องจัดการเองนะครับ”

“แต่นายเป็นคนเสนอให้จับตัวมา คนเสนอความคิดก็ต้องรับผิดชอบสิ” ภูวดลโบ้ย

“แต่หน้าที่ในการสั่งสอนเป็นของคุณนะครับ ถ้าคุณอยากแก้แค้นที่เธอทำให้คุณภาคเกลียดที่นี่และต้องบินไปเมืองนอก คุณต้องลงมือด้วยตัวเองนะครับถึงจะสะใจกว่า ให้คนอื่นไปทำ มันจะไปรู้รสได้ยังไง จริงมั้ยครับ” โชติบอกและหาทางตะล่อมให้คล้อยตาม

“มันก็จริง” ผู้เป็นนายเปรย เขาเอนตัวพิงพนักแล้วโยกเบาๆ อย่างใช้ความคิด ทำเอาโชติถึงกับหน้าชื่นขึ้นมาทันใด เขารีบกล่อมต่อ

“ผมว่าคุณภูน่าจะลองไปคุมเธอดูบ้างนะครับ เพราะเท่าที่ผมดู เหมือนคุณป่านจะไม่ค่อยกลัวผมเท่าไหร่ เธอคงรู้ว่าผมเป็นแค่ลูกน้อง ไม่มีอำนาจสั่งเธอเท่าไหร่นัก”

“เย็นนี้ฉันจะแวะไปดู และคงต้องทิ้งงานที่นี่สักสองสามวัน นายจัดการต่อด้วยนะ แต่ไม่ต้องห่วง ไม่มีงานด่วนอะไรแล้ว แต่ถ้ามีก็ให้แสงไปตามแล้วกัน” ภูวดลรับปาก

“ได้ครับ” ลูกน้องรับคำและต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกักเก็บความดีใจไว้ เขาอยากร้องตะโกนให้ก้องฟ้า อยากกระโดดแล้วเต้นไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ทำไม่ได้
เป็นอิสระจากนางมารร้ายแล้วโว้ยยยย!!!

และได้แต่หวังว่าเจ้านายจะไม่โกรธที่ส่งเขาไปเข้าปากนางเสือจอมยั่ว



ช่วงเย็นเกือบหกโมง แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ปานชีวานั่งอยู่หน้าชานของบ้านไม้กลางป่า สายตาของเธอคอยชะเง้อมองไปยังลำธารฝั่งข้ามอย่างรอคอย ก่อนเธอจะถอนใจเมื่อพบกับความว่างเปล่า

หรือโชติจะหลอกเธอ เขาคงไปแล้วไปลับ และคงปล่อยให้เธออยู่กลางป่าแบบนี้คนเดียวกับเจ้าดำ ของแห้งที่คนงานเอามาให้ คงเป็นอาหารสำหรับใช้ประทังชีวิตที่เหลืออยู่ อย่างมากเธออาจอยู่รอดได้สองถึงสามวัน

คิดแล้วก็น่าเจ็บใจจริงๆ ที่ปล่อยให้เขากลับกับคนงานไปจนหมด ความจริงเธอน่าจะเอ๊ะใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่เพราะมัวแต่ดีใจที่เย็นนี้ภูวดลจะมาอยู่เป็นเพื่อน ทำให้หญิงสาวไม่ขัดข้องที่ต้องอยู่กลางป่าคนเดียว เพราะถึงอย่างไรก็เป็นแค่ช่วงกลางวันเท่านั้น ภัยอันตรายคงไม่มี

แต่...นี่มันก็เย็นมากแล้ว และแสงสุดท้าของวันก็ใกล้จะลาขอบฟ้าเต็มที่ แต่เธอก็ยังไม่เห็นใครโผล่หน้ามาเลย ตอนนี้เธอขอแค่ใครสักคนที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนยามค่ำคืน ไม่ต้องเป็นภูวดลก็ได้

ไม่นาน ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ ในที่สุดความมืดก็ปกคลุมทั่วผืนป่า ปานชีวาจำต้องลุกจากเฉลียงบ้านเข้าไปในนั่งด้านใน โดยจุดตะเกียงอันใหญ่ไว้กลางบ้าน หญิงสาวนั่งกอดเข่าจ้องเปลวไฟสีส้มตาไม่กะพริบ

“เฮ้อออ!!” ปานชีวาถอนใจเป็นรอบที่ร้อย ทำไมชีวิตของเธอถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ

ไร้ญาติ ขาดมิตร ติดต่อใครไม่ได้ ไปไหนก็ไม่ได้ เธอต้องอยู่อย่างไม่รู้ชะตากรรมแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน?

หญิงสาวเฝ้าถามตัวเอง เพื่อนๆ ที่เคยเที่ยวด้วยกัน ดื่มด้วยกัน จะรู้หรือเปล่าว่าเธอถูกจับตัวมา คนพวกนั้นจะสงสัยไหมว่าเธอหายไปไหน ถึงไม่ไปเที่ยวผับร้านประจำ และเพื่อนร่วมงานของเธอจะสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมเธอถึงไม่ไปทำงาน ไหนจะคนที่ติดต่อให้เธอไปเปิดตัวสินค้าอีก ถ้าเธอไม่ไปตามนัด เขาจะถามหาเธอกับคนอื่นหรือเปล่า

หลายคำถามยังคงวนเวียนซ้ำๆ และยังหาคำตอบไม่ได้

“ถ้าตอนนั้นเรานึกสงสัยสักนิดว่าเขาเข้ามาแบบแปลกๆ ก็น่าจะดี น่าจะมีเพื่อนสักคนอยู่ด้วย เราหายไป เขาจะได้รู้” หญิงสาวคร่ำครวญในความผิดพลาดของตัวเอง
ทั้งที่ปกติแล้ว หากใครเข้ามาติดต่อเรื่องงานกับเธอ หญิงสาวจะขอเบอร์ไว้และต้องพูดคุยให้รู้จักกันพอประมาณก่อนเสมอ แต่กับโชติในวันนั้น เธอชะล่าใจเกินไป เพราะเห็นว่าเขาหน้าตาดี มาดดี น่าเชื่อถือ แถมเขายังแสดงความมีน้ำใจ ให้เธอนั่งร่วมโต๊ะอีกด้วย

แต่ใครจะรู้ว่านั่นคือแผนการของเขา!

และบทลงโทษในความชะล่าใจของเธอ ก็คือการถูกตัดขาดจากแสงสีเสียงที่คุ้นเคยนี่เอง

เธอเหงา เธอโดดเดี่ยว เธออ้างว้าง เธออยากพบปะผู้คนที่สามารถคลายความเหงาให้กับเธอได้ เธอไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในที่มืดๆ แบบนี้เลย
มันทำให้เธอนึกย้อนไปเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก

ชีวิตครอบครัวของปานชีวาไม่อบอุ่นเหมือนหลายครอบครัว พ่อกับแม่ของเธอทะเลาะกันเกือบทุกวัน และทุกครั้ง เธอก็จะร้องกรี๊ดๆ เพื่อให้ทั้งสองหยุด แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือการถูกทำโทษให้อยู่ในห้องน้ำมืดๆ เธอจำได้ว่าตัวเองร้องไห้ โวยวายจนหมดแรง หลายปีต่อมา เมื่อเธออายุได้สิบกว่าขวบ พ่อกับแม่ก็แยกทางกัน เธออยู่กับแม่ ส่วนพ่อแยกไปมีครอบครัวใหม่

ไม่นาน แม่ของเธอก็มีครอบครัวใหม่เช่นกัน เมื่อตอนเธอย่างเข้าวัยรุ่น หญิงสาวไม่ลงรอยกับพ่อเลี้ยงนัก เธอรู้ว่าเขามาเพื่อเกาะแม่ของเธอ แต่ตอนนั้นความรักมันบังตา เธอพูดอะไร แม่ก็มองเป็นการใส่ร้ายไปเสียหมด เธอทะเลาะกับแม่บ่อยขึ้น ไม่กลับบ้านบ่อยขึ้น

และเมื่ออายุได้สิบหกปี เธอก็ตัดสินใจออกจากบ้าน เพราะทนกับพฤติกรรมหัวงูของพ่อเลี้ยงไม่ไหว เธอไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อทางอารมณ์ของพ่อเลี้ยง และแน่นอนว่าหากเกิดขึ้น แม่ของเธอคงหาว่าเธอให้ท่าพ่อเลี้ยงแน่ๆ เธอจึงขอเลือกที่จะเดินออกมาเอง ซึ่งแม่ของเธอก็ไม่ได้ห้ามปราม เพราะแม่ก็ระแวงในเรื่องนี้ไม่น้อยเหมือนกัน
ตอนนั้นเธอตัดสินใจไปอยู่กับพ่อ แต่แล้วปัญหาการไม่ลงรอยกับคู่ชีวิตใหม่ก็วนเวียนเข้ามาอีก แม่เลี้ยงไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่นัก และมักหาเรื่องทะเลาะอยู่เสมอ หญิงสาวทนอาศัยอยู่กับพ่อได้แค่สองปี ก็ตัดสินใจบอกลา และย้ายไปอยู่กับน้าสาวฝ่ายแม่ ซึ่งครองตัวเป็นโสด

ตอนนี้เองที่ปานชีวารู้ว่าอิสระที่แท้จริงคืออะไร เธอมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน น้าสาวของเธอเข้าใจโลก และเข้าใจปัญหาของเธอ และน้าสาวคนนี้ก็สอนให้เธอใช้ชีวิตอีกด้านที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เธอเริ่มออกเที่ยวกลางคืนตามน้าสาว เริ่มรู้จักใช้เสน่ห์ของตัวเองที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี และเริ่มใช้เรือนร่างของตนหาความสุขกับเพศตรงข้ามเมื่ออายุยี่สิบปี โดยชายหนุ่มคนแรกของเธอคือรุ่นพี่ร่วมสถาบัน ทั้งสองคบกันอยู่หลายเดือนก่อนจะเลิกรากันไป ซึ่งทำให้ปานชีวาเสียใจมาก เธอจริงจังกับความรัก แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำพูดของเขาที่บอกว่า เขาคบกับเธอไว้แก้เหงา แค่สนุกๆ ไม่ได้คิดจริงจังด้วย

นับตั้งแต่นั้น ปานชีวาก็ขยาดความรักและกลายเป็นคนไม่แคร์ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน และไม่เชื่อว่ารักแท้จะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ทุกอย่างล้วนมาจากความพึงพอใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ความรัก

และถึงแม้เธอจะมีสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน แต่เธอก็เลือกคนที่คบด้วยเสมอ หญิงสาวมีมาตรฐานของตัวเอง อันดับแรกคือต้องหน้าตาดี มาดดี อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่น สองคือต้องเป็นคนมีฐานะ ถึงเธอจะไม่เคยขอเงินใคร แต่เมื่อไปไหน เขาต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการจ่ายให้เธอ และสามคือ ต้องไม่ผูกมัดเธอ ต้องเป็นคนที่คุยรู้เรื่อง ไม่เรื่องมาก

ที่สำคัญกว่านั้นคือ เธอป้องกันทุกครั้งและคู่นอนของเธอต้องตามใจเธอด้วย หากใครคิดจะละเมิดกฎของเธอ หญิงสาวจะหยุดทุกการกระทำ เคยมีบางคนคิดจะใช้กำลังกับเธอ ตอนนั้นหญิงสาวถึงกับกรี๊ดลั่นห้องและขว้างปาสิ่งของ จนอีกฝ่ายต้องยอมสยบให้

เรื่องนี้น้าสาวของเธอก็เป็นคนสอนเช่นกัน เพราะถ้าคิดจะสนุกก็ต้องรู้จักป้องกันตัวเอง ป้องกันทั้งจากโรคติดต่อที่อีกฝ่ายจะนำมาให้ และป้องกันการท้องโดยไม่พร้อม เหมือนที่พ่อกับแม่ของเธอเคยประสบ เพราะนั่นจะทำให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมาได้ ซึ่งหญิงสาวปฏิญาณว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเด็ดขาด

จุดเปลี่ยนของปานชีวาเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อน้าสาวพบรักแท้กับฝรั่งคนหนึ่ง ซึ่งเพียรตามจีบนานถึงสองปี จนน้าของเธอยอมใจอ่อน ในที่สุด ทั้งสองก็ตกลงแต่งงานกันและน้าของเธอก็ย้ายตามสามีไปอยู่เยอรมันได้เกือบปีแล้ว

ความคิดของปานชีวาล่องลอยไปไกล แต่ละเรื่องสร้างความสะเทือนใจ จนหญิงสาวต้องกอดเข่าให้แน่นขึ้น มีเพียงตัวเองเป็นเพื่อนคอยปลอบใจให้หายดี เธอคิดถึงน้า อยากคุยกับน้า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อกับน้าสาวได้อย่างไร และถ้าเธอหายไปหลายวันแบบนี้ น้าสาวของเธอจะสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมเธอถึงไม่โทรไปถามสารทุกข์เหมือนอย่างเคย

“ปานชีวาชื่อที่แปลว่ามีความหมายดั่งชีวิต แต่กลับไม่เป็นที่ต้องการของใครเลย ทำไมชีวิตของฉันถึงได้แย่แบบนี้นะ” ปานชีวาสะอื้นกับเข่าตัวเอง นานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ได้เสียน้ำตาให้กับความอ้างว้าง โดดเดี่ยวแบบนี้ เธอซุกซบท่อนแขนตัวเองที่วางพาดบนเข่า ดวงตาของเธอค่อยๆ ปรือลงจนหลับไปในที่สุด



........................................


อีบุ๊กราคาพิเศษ ยังอยู่ในช่วงลดราคาค่ะ แต่ใกล้หมดโปรแล้วนะคะ ถึงแค่สัปดาห์หน้าเท่านั้น!!






Create Date : 02 กันยายน 2558
Last Update : 2 กันยายน 2558 12:46:38 น. 1 comments
Counter : 1080 Pageviews.  
 
 
 
 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:18:27:38 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com