Bloggang.com : เรลกันคุง : (รีวิวการ์ตูนไทย) คำสารภาพของบรรณาธิการ (ธัญลักษณ์ เตชศรีสุธี (บ.ก.ซัน))

(รีวิวการ์ตูนไทย) คำสารภาพของบรรณาธิการ (ธัญลักษณ์ เตชศรีสุธี (บ.ก.ซัน))

จะเกิดอะไรขึ้น!!! เมื่อบรรณาธิการการ์ตูนไทย Let's Comic มีโอกาสได้ออก "รวมเล่ม" ของตัวเองเป็นครั้งแรก -- จากความฝันของเจ้าตัวที่ว่า "ซักวันหนึ่ง จะต้องมีผลงานเป็นของตัวเองให้ได้" (และ "ตูอยากเป็นนักวาดการ์ตูนโว้ยยยยย!!" 5555+) ในที่สุด การ์ตูนที่วางแผนจะทำเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก็เสร็จสิ้น และได้ฤกษ์ออกวางแผงตามร้านหนังสือกับเขาเสียที วู้ฮู้!!! เปิดเพลง "ห้าปีที่เธอลืม" ฟังแป๊บ (มันเกี่ยวมั้ย?)

ธัญลักษณ์ เตชะศรีสุธี (หรือในนามปากกา Sonoson หรือ บ.ก.ซัน) มีบทบาททำหน้าที่หลักเป็น บรรณาธิการสำนักพิมพ์การ์ตูนไทย Let's Comic ซึ่งเคยสร้างชื่อให้กับนักเขียนมาแล้ว หลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เดอะดวง, Puck, สะอาด, มุนิน และอื่นๆอีกมากมาย -- Let's Comic ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักอ่านที่ต้องการสัมผัสความแปลกใหม่ ด้วยความนอกกระแส ทั้งเนื้อหาที่หลุดโลกและงานภาพที่แตกต่างจากแพทเทิร์นมังงะทั่วไป ทำให้หลายต่อหลายคน ต่างพากันหลงเสน่ห์กับการ์ตูนของค่าย Let's Comic ไปไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวเชียว

สำหรับแฟนหนังสือ Let's Comic นี่คือโอกาสทองที่เราจะมีโอกาสได้รับรู้ถึงเบื้องหลังการทำงานที่ลึกชัดจัดเต็ม ผ่าน "คำสารภาพของบรรณาธิการ" Let's Comic แบบตัวเป็นๆ ทั้งความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนนักเขียน แนวคิดการทำงาน และความรู้สึกที่มีต่อวงการการ์ตูนไทยในอนาคต -- ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึงมีความพิเศษเป็นอย่างมาก เปรียบได้กับสมองและหัวใจของบรรณาธิการที่ถูกเปลือยเปล่า เพื่อเฝ้ารอให้เราได้เข้าไปค้นหาคำตอบที่ซุกซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ

เรื่องราวภายใน 72 หน้านี้ เกี่ยวกับ บรรณาธิการสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง (หรือตัวผู้เขียนเอง) ในวัย 50 ปี ได้พบว่าโลกที่ตัวเองอยู่นั้น ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ไม่ต่างจากโลกแฟนตาซี ภายหลังจากที่ถูกชักชวนให้ทดลองใช้ "เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง ที่สั่งการด้วยคลื่นสมอง" โดยบุคคลลึกลับรายหนึ่ง -- การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ของบรรณาธิการในยุคล่มสลายของสื่อสิ่งพิมพ์ จึงเริ่มต้นขึ้น

"คำสารภาพของบรรณาธิการ" เริ่มต้นวาดครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ด้วย "สไตล์ภาพสีน้ำแบบไม่ใช้เส้น" แต่หลังจากทำไปได้เพียงแค่ 2 หน้า ผู้เขียนก็ไม่สามารถกลับมาสานต่อให้เสร็จ เนื่องจากภาระหน้าที่อันหนักหน่วงในฐานะบรรณาธิการ ที่ไม่สามารถหาเวลากลับมาทำต่อได้ -- จนกระทั่งในช่วงยุค 2560 ซึ่งเป็นยุคมืดของสื่อสิ่งพิมพ์ ประกอบกับนักเขียนในสังกัดบางคนย้ายออกไปทำอิสระ Let's Comic จึงได้รับผลกระทบเต็มๆ อยู่ในสภาพเดินบนเส้นลวด ส่งผลทำให้ บ.ก. ซันมีเวลามากพอที่จะสานต่อโปรเจ็กต์ให้เสร็จสิ้น เพื่อแสดงให้ทั่วจักรวาลได้เห็นว่า "สำนักพิมพ์ Let's Comic จะไม่ตายง่ายๆแค่นี้แน่"

การ์ตูนเปิดเรื่องด้วยสภาพความเป็นอยู่ของกรุงเทพในอีกหลายปีข้างหน้า ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนา หลายสิ่งหลายอย่าง -- โดยเฉพาะ "เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง" ที่เข้ามาแทนที่ "การมีอยู่ของสื่อสิ่งพิมพ์" โดยสมบูรณ์ -- ทำให้ "สื่อสิ่งพิมพ์" นั้น มีสภาพไม่ต่างจากกองขยะที่เย็นชืดตามท้องถนน (แบบในหน้าปก) (เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงในที่นี้คือ เราสามารถเข้าไปเป็นตัวเอกในการ์ตูนเรื่องนั้นได้เลย โดยอาศัยการทำงานของคลื่นสมองขณะนอนหลับ (หรือใช้งานเครื่อง) คล้ายๆกับเกมออนไลน์ Neo Universe ในการ์ตูน Executional)

ด้วยทักษะต่างๆที่ถูกนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น การลงแสงเงาด้วยมือ เทคนิคการลงสี การใส่สกรีนโทน ความจัดเต็มในเรื่องรายละเอียดภาพ ความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงสไตล์ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ ล้วนกลั่นมาจากประสบการณ์ของบรรณาธิการหนุ่มไฟแรงคนหนึ่ง ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการการ์ตูนไทยมานานนับ 20 ปี ซึ่งเราจะสามารถเข้าใจได้เลยว่า ทำไมเจ้าตัวถึงสามารถวิจารณ์งานคนอื่นได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

โดยรวมแล้ว ภายในเล่มก็จะเปิดเผยถึง แนวคิดและบทบาทหลากหลายด้าน ในฐานะบรรณาธิการการ์ตูนไทยคร่ำหวอดอยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน อย่างเรื่องของความหวั่นวิตกที่มีต่อ "การล่มสลายของสื่อสิ่งพิมพ์ในอนาคต" ที่พูดถึงไปแล้ว รวมไปถึง ความรู้สึกชื่นชมที่มีต่อนักเขียนที่เคยร่วมงาน จนขนาดถึงขั้น shout out ผ่านบทพูดของชายชุดดำในเรื่อง ("สิ่งที่เราต้องการจากคุณก็คือ เนื้อหาเจ๋งๆสำหรับโลกเสมือนของเรา") รวมไปถึงที่มาที่ไปของโลโก้ Let's Comic และที่มาของการได้เป็นบรรณาธิการ ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ในเล่มนี้นี่แหละ

ถึงจะไม่ได้สื่อกับคนอ่านแบบตรงๆ แต่ บ.ก.ซัน ก็ดูเหมือนค่อนข้างที่จะชื่นชม "คนแปลกๆ" พอสมควรเพราะเอาตรงๆเลย คนแปลกๆเหล่านี้ มักจะมีพรสวรรค์ในด้านของไอเดียสร้างสรรค์ที่มีความแตกต่างจากคนทั่วไป มีความหลุดกรอบ เหนือโลก คาดเดาอะไรได้ยาก มีเอกลักษณ์ของตัวเองชัดเจน ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับการทำสื่อสร้างสรรค์ ซึ่งดูเหมือนจะตรงกับนโยบายของ Let's Comic อยู่แล้ว ในเรื่องของการขับเน้น "สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์" มากกว่า "งานภาพและเนื้อเรื่องที่แข็งแรง"

ยกตัวอย่างง่ายๆ ในโลกโซเชี่ยล เราจะมีโอกาสได้เห็น "เพจการ์ตูนคนเหนือโลก" ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง อย่างพวกเพจ Monday8th, ซอกหลืบ112, กายโดยกาย และ Forever Alone Drawtime -- ซึ่งในเรื่องนี้ก็เช่นกัน "คนแปลกๆที่ว่า" ก็มาในบทบาทของ "ผู้คิดค้นเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง" ซึ่งสามารถปฏิวัติสื่อบันเทิงให้สามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ทำให้การมีอยู่ของสื่อสิ่งพิมพ์นั้น ถูกเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์ ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!!!

อันนี้แถมๆ ไม่รู้ว่าจะเขียนลงไปดีรึเปล่า แต่ก็ลงเผื่อไว้ดีกว่า จะได้สมกับที่หายไปนาน แฮ่!!! -- คือตลอดทั้งเล่ม เราจะมีโอกาสได้เห็นโมเมนต์แปลกๆ ผ่าน personality ของบอกอ อย่างการที่ชอบพูดทีเล่นทีจริง ในสถานการณ์ที่ไม่เข้ากัน ซึ่งมันจะฟังดูแปลก ถ้าเอามาพูดกันในชีวิตจริง ยกตัวอย่างเช่น (วันนี้ผมจะมาเสนอสิ่งที่เรียกว่า "การเปลี่ยนแปลง" ยังไงล่ะครับ/ เอ่อ ถ้าเป็นน้ำยาแอร์ ผมเพิ่งเปลี่ยนไปเองนะ แฮ่!!! (เฮ้ย!!! จริงจังกับคนที่เข้ามาส่งงานหน่อย)) และ (หรือถ้าคิดมากไปหน่อย ตอนนี้คุณอาจกำลังท้าทายบทบาทของพระเจ้าอยู่ก็เป็นได้นะครับ (ว็อท? ไปโน่นเลย)) หรือแม้กระทั่ง (ไม่เอาน่า อย่าล้อเล่นสิครับ ตอบหน่อยสิครับ แฮ่!!! (ตกลงเดือดร้อนจริงๆใช่มั้ยวะนั่น!!!)) ก็ถือว่าเป็นการปูทาง "นิสัยของตัวละคร" แต่ละตัว เอาไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะเข้าสู่เล่มต่อไป (การเดินทางของบรรณาธิการ)

โดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเป็นรวมเล่มที่ค่อนข้าง personal พอสมควร ในเรื่องของการเปลือยเปล่าแนวคิดและเรื่องส่วนตัวต่างๆ แต่ทว่า สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนหนังสือ Let's Comic มาแต่อ้อนแต่ออก แต่อยากรู้เบื้องหลังการทำงานของ "บรรณาธิการหนังสือการ์ตูน" ก็สามารถอ่านเล่มนี้เข้าใจได้ เพราะเนื้อหาก็เล่าออกมาได้สั้นและกระชับดีด้วย

แม้จะไม่สามารถฟันธงได้ว่า ในอนาคตนั้น จะเกิดขึ้นแบบเดียวกับหนังสือการ์ตูนหรือไม่ และวงการการ์ตูนไทยจะไปในทิศทางใด -- แต่ที่แน่ๆ "คำสารภาพของบรรณาธิการ" นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งรวมเล่มที่เฉิดฉายในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงทักษะงานภาพและการเล่าเรื่องที่ทำออกมาได้ดี ไม่แพ้นักเขียนมืออาชีพ การ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ที่แสดงให้ทั่วจักรวาลได้รู้ว่า "บรรณาธิการก็สามารถเขียนการ์ตูนได้เหมือนกัน" แม้เนื้อหาในเล่มส่วนมากจะยังเป็นเพียงแค่ปฐมบทก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุด เคสนี้ก็ได้แสดงให้เห็นว่า ยังมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามจะรักษาสื่อสิ่งพิมพ์ (ซึ่งถือเป็น "จุดกำเนิดของหนังสือการ์ตูน") ไม่ให้ตายจากไป ....แต่จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน มันก็อีกเรื่องหนึ่งนั่นแหละนะ

(สรุป 7/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/

ข้อมูลเพิ่มเติม ตีพิมพ์ครั้งแรกวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2562 มีโปรโมชั่นสำหรับคนที่สั่งจองผ่านเว็บ Let's Comic Shop ช่วงแรก โดยจะได้ รูปโปรไฟล์หน้าเราเอง ในลายเส้นของ บ.ก.ซัน เป็นของแถม

Create Date : 09 มิถุนายน 2563

Last Update : 9 ธันวาคม 2565 19:54:38 น.

0 comments

Counter : 1325 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณhaiku, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse