ลูกสาวปอดติดเชื้อ  วันนี้ผมจะมีเล่าประสพการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดเลยกันซักหน่อย เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิดสองขวบของน้องพอดี(ลูกสาว) น้องก็ได้มีอาการเป็นไข้แต่คราวนี้ต่างจากที่เคยเป็นไข้ในครั้งก่อนๆ คือน้องหายใจเร็วและรู้สึกว่าจะมีอาการเหนื่อย อาการไข้มาเป็นในช่วงตอนเย็น เช้ามาเลยรีบพาไปโรงพยาบาล ในการตรวจเบื้องต้นตอนคัดกรองพบว่าน้องมีอาการหอบ ซึ่งที่ผมเห็นว่าน้องหายในเร็วตอนอยู่ที่บ้านนั้น เขาเรียกว่าอาการหอบแต่ยังไม่มาก ซึ่งในวันนั้นก็ได้เข้าไปตรวจหมอแนะนำให้นอนที่โรงพยาบาล แต่เราเห็นว่ายังไม่มากก็เลยขอยาและกลับมาดูอาการที่บ้านก่อน เสร็จแล้วผมก็พากลับบ้านแล้วผมก็กลับไปทำงานต่อ ดูแล้วก็ตอนนั้นไม่หนักใจอะไรเพราะคิดว่าไปหาหมอมาแล้วและได้ยามากินก็น่าจะดีขึ้น เวลาผ่านไปช่วงบ่าย 3-4 โมง Line ไปถามอาการของน้องกับแฟน แต่แฟนบอกอาการไม่ดีขึ้นสุดท้ายก่อนเลิกงานแฟนก็ได้ Line มาบอกว่าอาการยังไม่ดีขึ้นแมยังหอบมากขึ้นกว่าเดิม ผมเลยบอกให้เตรียมตัวรอเดี๋ยวกลับถึงบ้านก็จะพาลูกไปโรงพยาบาลเลย แล้วเมื่อผมถึงบ้านก็ได้พาน้องไปหาหมอทันที พอไปถึงหมอเวรให้พ่นยาแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงให้ตรวจเลือดแล้ว Admit ทันทีในคืนนั้นผมเลยต้องให้ญาติมาส่งแม่ยายให้มานอนเป็นเพื่อนคอยเปลี่ยนกับแฟนผมเพื่อดูแลน้อง แล้วผมก็กลับบ้านเพื่อดูแลคนโตส่งไปโรงเรียนแล้วก็ไปทำงานในวันรุ่งขึ้น เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากจัดการกับลูกชายคนโตเสร็จส่งโรงเรียนเรียบรอยแล้ว ผมก็เลยเข้าไปโรงพยายาลก่อน แฟนบอกน้องไม่ค่อยได้นอนเพราะต้องเช็ดตัวตลิดทั้งคืนเพราะมีไข้สูงตลอดและต้องพ่นยาตลอด ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 4 ชั่วโมงครั้ง แต่วันนั้นหมอได้เจาะเลือดไปตรวจแต่ยังไม่รู้ผล ผมเลยกลับไปทำงานต่อเสร็จแล้วตอนเย็นก็เข้าไปใหม่หลังเลิกงาน ได้ผลคือเป็นปอดติดเชื้อชนิดรุนแรง ต้องเช็ดตัวแล้วพ่นยาและยาฆ่าเชื้อครอบอ๊อกซิเจน แต่ตอนนั้นน้องก็ยังไม่ดีขึ้น และแฟนบอกหมอจะให้เจาะอ๊อกซิเจนผมเลยบอกให้ถามหมอว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรไหม สุดท้ายไม่ให้เจาะเพราะกลัวน้องรับไม่ไหว ดูแลเหนื่อยหน่อยดีกว่า จากนั้นผมก็กลับบ้านจัดการลูกคนโตเข้านอนเสร็จโทรถามอาการก็ยังเหมือนเดิม จากนั้นผมเข้านอนพร้อมลูก หลับไปได้ซักงีบก็มีเสียงโทรศัพท์ประมาณเที่ยงคืนแฟนผมโทรมาบอกว่าหมอสั่งให้ย้ายโรงพยาบาลไปในเมืองเพราะโรงพยาบาลที่อยู่ตอนนี้ในอำเภอรักษาไม่ได้ จำเป็นต้องส่งต่อผมเลยต้องขอยืมรถญาติเข้าไปในเมือง ไปถึงโรงพยาบาลเห็นลูกแล้วน้ำตาซึม สงสารลูกหายใจเหนื่อยหอบใจคอเริ่มไม่ดียิ่งได้ยินเสียงลูกเรียกพ่อกลับบ้านแล้วน้ำตาก็ตกใน คิดว่าทำไมลูกถึงเป็นขนาดนี้ ที่มา://mybabynurture.blogspot.com/2014/10/blog-post.html Create Date : 06 ตุลาคม 2557 Last Update : 6 ตุลาคม 2557 23:21:35 น. 0 comments Counter : 1186 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet