รับมือกับความหึงอย่างไร ให้ชีวิตรักไปโลด
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาอธิบายว่าความหึงเป็นปฏิกิริยาเกิดขึ้นต่อสิ่งซึ่งเขาหรือเธอเห็นเป็นการคุกคามต่อสัมพันธภาพความหึงต่างจากความอิจฉา ตรงที่ความหึงมีความกลัวที่จะสูญเสียและมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ความหึงยังมีอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนเช่น เจ็บปวด โกรธ เศร้า อิจฉา กลัว เสียใจ เสียหน้า การกล่าวโทษการเปรียบเทียบกับคู่แข่ง และความสงสารตัวเอง
คำอธิบายต่อสาเหตุของความหึงแตกต่างกันไป เช่นนักจิตวิทยาในแนวฟรอยด์บอกว่า มักเกิดมาจากความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธในวัยเด็กเมื่อเรารู้สึกว่าเราไม่ใช่ลูกรักของพ่อหรือแม่ความรู้สึกเช่นนี้นำไปสู่ความรู้สึกไม่มั่นคงและความหึงโดยไม่รู้ตัวส่วนนักชีววิทยาสังคม อย่างเช่น ชาณ์ลส์ ดาร์วินก็เชื่อว่าความหึงเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดมันเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดในเชิงพันธุกรรม นั่นก็คือ ผู้ชายอยากได้คู่ที่เป็นของตนคนเดียวเพื่อจะได้ส่งต่อพันธุกรรมของตัวเอง ส่วนผู้หญิงก็อยากได้คู่ที่มีความจงรักภักดีเพื่อจะได้ช่วยดูแลลูก ๆ ให้อยู่รอด เป็นต้น แต่คำอธิบายพื้นฐานที่สุดของความหึงก็คือ ความหึงเกิดจากความรู้สึกไม่มั่นคง โดยเฉพาะถ้าคุณต้องพึ่งพิงคู่รักของตัวเองค่อนข้างมากคุณก็มีแนวโน้มที่จะหึงได้ง่าย แต่ผู้ชายมักจะปฏิเสธความหึงขณะที่ผู้หญิงพร้อมจะยอมรับมันมากกว่า แต่ที่น่าแปลกใจก็คือสำหรับคนที่เคยนอกใจคู่รักมาก่อนคนอื่นอาจคาดว่าเราจะหึงน้อยกว่าถ้าคู่รักของเราเกิดมีกิ๊กขึ้นมา แต่การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าคู่ที่เคยไม่ซื่อสัตย์บางคนกลับขี้หึงมากกว่า
ความหึงก็มีข้อดี ในชีวิตคู่ซึ่งเกิดความหึงหวงขึ้นเล็กน้อย และเป็นครั้งคราวมันเตือนให้คู่รักไม่ละเลยกัน และอาจทำให้ทั้งคู่หันมาใส่ใจกันมากขึ้นความหึงทำให้อารมณ์รุนแรง จึงอาจทำให้การเมกเลิฟซาบซ่านยิ่งขึ้น ดังนั้นความหึงในระดับที่พอรับมือได้ อาจกลายเป็นแรงผลักดันในทางที่ดีของความรักแต่ความหึงที่มากเกินไปนั้นต่างกัน อย่างเช่นผู้ชายซึ่งทำเรื่องน่าขายหน้าในงานปาร์ตี้ เพราะภรรยาไปเต้นรำกับเพื่อนเก่าหรือผู้หญิงที่หน้ามืดด้วยความหึง เพราะสามีมีเจ้านายใหม่เป็นผู้หญิงปฏิกิริยาเหล่านี้อาจทำให้ชีวิตคู่ตึงเครียดอย่างหนักและทำให้อีกฝ่ายรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนพื้นที่อันเปราะบาง ฝ่ายถูกหึงต้องคอยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความหึงหวงขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆส่วนคนที่หึงก็มักจะรู้ตัวดีถึงปัญหาของตัวเอง จึงมีอารมณ์แปรปรวนอยู่ตลอดทั้งการตำหนิตัวเองและการแก้ตัวให้ตัวเอง ถ้าคุณคือคนขี้หึง
การเอาชนะความหึงต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างหนัก ถ้าคุณรู้สึกว่าความหึงของคุณมีรากเหง้ามาจากวัยเด็กคุณอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ถ้าคุณเพิ่งถูกนอกใจมาคุณจำเป็นต้องรับมือกับเรื่องนั้นก่อน และนี่คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้กับตัวเอง มองความจริง มองสิ่งต่าง ๆที่มากระตุ้นให้เกิดความหึง และถามตัวเองว่า การคุกคามที่รู้สึกนั้นเป็นจริงแค่ไหนมีหลักฐานอะไรที่ว่าชีวิตรักของคุณกำลังอยู่ในอันตรายและพฤติกรรมของคุณกำลังทำให้สถานการณ์แย่ลงหรือเปล่า? พูดสิ่งดี ๆ กับตัวเองเมื่อคุณเริ่มรู้สึกถึงความหึง ต้องเตือนตัวเองว่าคู่ของคุณรักคุณ ผูกพันกับคุณและนับถือคุณบอกตัวเองว่าคุณเป็นคนน่ารัก และไม่มีอะไรเกิดขึ้น หาความมั่นใจ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะความหึงก็คือ ถามคู่ของคุณให้มั่นใจ (โดยต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้บ่นหรือขู่เขา)โดยบอกเล่าความไม่มั่นใจของคุณให้เขาฟัง และขอให้เขาช่วยคุณเอาชนะปัญหานั้น การอยู่กับแฟนขี้หึง
การมีแฟนขี้หึงเป็นเรื่องน่าเหนื่อยใจนี่คือบางวิธีที่อาจช่วยบรรเทาความหึงของเขาลงได้ มองปัญหาในแง่ดี จำไว้ว่า ความหึงคือสัญญาณของความรัก ถ้าแฟนของคุณไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตรักของคุณคุณก็จะไม่มีปัญหานี้ แทนที่จะป้องกันตัวเอง พยายามเข้าใจและเป็นกำลังใจให้เขาดีกว่า ตรวจสอบพฤติกรรมของตัวเองถ้าคุณรู้ว่ามีพฤติกรรมบางอย่างที่กระตุ้นความหึงของเขา เปลี่ยนมันซะ ถ้าคุณทำได้จนกว่าปัญหานี้จะถูกแก้ไขไป จงให้แน่ใจว่าได้ยึดในข้อตกลงใด ๆก็ตามที่มีต่อกันอย่างเคร่งครัดด้วย แต่หลีกเลี่ยงที่จะสัญญาอะไรที่คุณคิดว่ารักษาได้ยากอย่างเช่น การให้เขาติดต่อได้ตลอดเวลา เป็นต้น สร้างความมั่นใจให้เขาใช้โอกาสทุกครั้งที่มีบอกคู่รักว่าคุณรักเขามากแค่ไหนและทำไมคุณถึงไม่อยากจะอยู่กับคนอื่น ให้คำชมเขาเยอะ ๆและพูดถึงอนาคตที่สุดวิเศษของคุณสองคน และบอกเขาว่าคุณอยากให้มันมาถึงมากเพียงใด
Mrs A-za-ra -------------------------- ที่มา //wedding.kapook.com/บทความความรัก-29583.html
Create Date : 23 กรกฎาคม 2557 |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2557 16:02:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 794 Pageviews. |
|
|
|