Morocco - การผจญภัย ครั้งใหม่ในดินแดนอาหรับ ตอนที่ 4 - Moulay Idriss


วันที่ 4 ออกเดินทางไปยัง Moulay Idriss ด้วยรถไฟ

ช่วงเช้าเป็นช่วงที่เราพอจะมีเวลาที่จะไปแวะเยี่ยมเยืยน Hassen II Mosche (แต่นินเลือกลงไปในตอนที่แล้ว เพราะจะได้แยกเป็นสถานที่นะคะ)
ณ เวลา 11.00 น. ถึงเวลาที่คณะทัวร์พร้อมจะออกเดินทางด้วยรถไฟจากสถานี Casa Voyageurs Station ไปยังสถานี Meknes ระยะเวลาการเดินทางโดยประมาณ 3 ชั่วโมง และหลังจากนั้นเราก็นั่งแท็กซี่ต่อไปยังเมืองจุดม่งุหมายปลายทางของเราวันนี้ นามว่า Moulay Idriss





ระหว่างทางเราก็ดื่มดำไปกับบรรยากาศข้างทาง ถือได้ว่าช่วงเวลาที่เราเดินทาง สภาพอากาศค่อนข้างเป็นใจมาก เห็นแต่ท้องฟ้าสีฟ้า ถ่ายรูปออกมาเลยสวยมาก แม้กระทั่งใช้กล้องมือถือถ่ายก็ได้ภาพออกมาสวยทีเดียว



ความสำคัญของเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Moulay Idriss
เมืองนี้ตั้งอยู่ทางเหนือของโมรอกโก ห่างจากเมือง Meknes เพียงแค่ 25 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง 2 เนินเขาของภูเขา Zerhoun เมื่องนี้ก่อตั้งโดยกษัตริย์นามว่า Moulay Idriss I ได้เดินทางมาที่เมืองนี้เพื่อเริ่มราชวงศ์ใหม่ของพระองค์ พร้อมด้วยศาสนาอิสลาม จึงได้ก่อตั้งเมืองและให้ชื่อตามพระองค์ว่า Moulay Idriss ซึ่งตัวเมืองไม่ได้ใหญ่และมีถนนที่ค่อนข้างแคบตามแบบเมืองเก่าของโมรอกโก (หรือที่เราจะคุ้นชินหูว่า Old Medina ในหลายๆ เมือง) ใจกลางเมืองก็จะมีสุสานของกษัตริย์ Moulay Idriss I และพระบรมวงศานุวงศ์ถูกบรรจุไว้ที่นี่ (หลังคาสีเขียว) ที่นี่ถือว่ามีความสำคัญกับซึ่งคนมุสลิมของโมรอกโกเมื่อถือช่วงเวลาแสวงบุญก็จะมาที่นี่ ซึ่งทุกคนชาวมุสลิมที่อาศัยที่โมรอกโกควรต้องมาที่นี่ซักครั้ง อีกสถานที่ที่น่าสนใจไม่ไกลจาก Moulay Idriss คือ Volubilis ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นอาณาจักรโรมันโบราณ (เราจะไปชมพรุ่งนี้ค่า)



เมื่อไปถึง ก็มาลาน้อยขนสัมภาระของเราขึ้นไปยังสถานที่พัก เค้าขนได้มากกว่าน้ำหนักตัวอีก แถมเดินเร็วมากๆ ด้วย



ที่พักวันนี้เราพักกับโฮมสเตย์ที่ถือว่าดีที่สุดแห่งเมืองนี้ ชื่อว่า Dar Zerhoune เพราะได้รับเรทติ้ง 9++ จาก Booking.com ทีเดียว ลักษณะการปลูกบ้านของคนโมรอกโกที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์คือจะปลูกบ้านเป็นแบบสี่เหลี่ยม และตรงกลางบ้านจะสร้างหลังคาแบบโปร่ง เพื่อเปิดรับแสงอาทิตย์ให้ส่องลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน ระหว่างชั้นก็จะมีการทำระเบียงเพื่อเดินไปมา ด้านบนสามารถที่จะมองเห็นวิวของเมืองได้ด้วย (หากเราไปอยู่ที่ Riad คล้ายเกสเฮ้าส์ ก็จะมีลักษณะคล้ายกัน)






หลังจากเราขนสัมภาระของเราเข้าไปยังสถานที่พักแล้ว เราก็ออกไปสำรวจเมืองกัน กับไกด์ท้องถิ่นของเรา นามว่า Mouhammed









วันนี้อาหารเย็นเราไม่ได้รวม เราสามารถที่จะทานกับโฮมสเตย์ในราคาคนละ 80 Dirham ไม่รวมเครื่องดื่ม ถือว่าไม่แพงเลย เพราะ


Zaalouk ทำจากมะเขือ พริก คล้ายอาหารอินเดีย


Harira Soup ซึ่งชาวมุสลิมนิยมทานช่วงถือศีลอด


Couscous with chicken


Kefta with Egg on top (Kefta คือลูกชิ้น)

พอดีของหวานเป็นส้มโรยหน้าด้วยซินเนม่อน ถือว่าคุ้มกับราคามากๆ เราทานกันจนจะเดินไม่ไหวเลย จากนั้นหนังท้องตึง หน้าตาเราก็เริ่มหย่อน พร้อมแล้วที่จะเข้านอน และเตรียมพร้อมกับการผจญภัยวันใหม่



Create Date : 24 พฤษภาคม 2559
Last Update : 24 พฤษภาคม 2559 15:42:02 น.
Counter : 829 Pageviews.

2 comments
  
ว๊าวๆๆๆ....
สวยจังคะ ยิ่งสีอาคารบ้านเรือน สวยคะ ชอบจัง....
จะรออ่านต่อนะคะ
โดย: อนันตลัย (อนันตลัย ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2559 เวลา:20:57:03 น.
  
ขอบคุณคร่าาาาาา
โดย: สมาชิกหมายเลข 2696677 วันที่: 27 พฤษภาคม 2559 เวลา:14:26:41 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 2696677
Location :
Bern  Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชื่อ นิลวดี เอ็กเกอร์ คร่า ชอบท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เนื่องจากเราเที่ยวไม่ค่อยเหมือนใคร ลุยบ้างแล้วแต่โอกาส เคยเป็นหัวหน้าทัวร์ประมาณ 5 ปี โดยเ้ส้นทางที่ทำทัวร์ เขมร เวียดนาม ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ ปักกิ่ง มองโกเลีย รัสเซีย ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ 100% จุดนี้ทำให้ได้พบรักกับสามีชาวสวิส ก่อนมาเปิดบริษัททัวร์ในประเทศไทย 2 ปี ตอนนี้เพื่อนทำต่อ เพราะเราแต่งมาอยู่ที่สวิสแล้ว

สวิสเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆ คน หากใครต้องการข้อมูล หรือรายละเอียด คำแนะนำ สามารถเขียนมาถามกันได้นะคะ ยินดีให้คำแนะนำคร่าาา