สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

ช่วงนี้พอจะมีฝนหรือลมเย็นๆพัดมาพอคลายร้อนไปบ้างนะคะ

อากาศแบบนี้ทำให้นึกถึงซุปร้อนๆขึ้นมาค่ะ

จากวัตถุดิบหลักคือเยื่อไผ่ที่ซื้อแถวบ้านและสูตรจาก 

//thrice.com/

จึงทำเมนูนี้ค่ะ

ซุปเยื่อไผ่ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน

ส่วนผสม

ซี่โครงหมู 500 กรัม

เยื่อไผ่ 1/2 ห่อ

เครื่องยาจีน 1 ห่อ

เห็ดหอม

กระเทียม

พริกไทย

เกลือ

ซีอิ๊วขาว

ผงปรุงรสเห็ดหอม

น้ำมันพืช

น้ำเปล่า

วิธีทำ

1. ล้างและแช่เยื่อไผ่ในน้ำสะอาดจนพองตัว 

บีบเยื่อไผ่เบามือให้สะเด็ดน้ำแล้วนำมาหั่นท่อน

2. ชุดเครื่องยาจีน 1 ห่อ ประกอบด้วยเก๋ากี้ ฮวยซัว เง็กเต๊ก ตังเซียม และปักคี้

ล้างชุดเครื่องยาจีนและเพิ่มกระเทียมกับพริกไทยดำเล็กน้อย

3. ล้างและหั่นซี่โครงหมูเป็นท่อน

นำน้ำเปล่าใส่หม้อ ตั้งไฟจนเดือด

ใส่ซี่โครงหมูลงไป รอกระทั่งน้ำเดือดอีกครั้ง 

เบาไฟเคี่ยวไปเรื่อยๆ หมั่นช้อนฟองเพื่อให้น้ำซุปใส

3. จากนั้นใส่ชุดเครื่องยาจีน

ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผงปรุงรสเห็ดหอม และเกลือ

เคี่ยวกระทั่งซี่โครงหมูเริ่มนุ่ม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

หมั่นช้อนฟองออก

4. นำเห็ดหอมแห้งแช่น้ำแล้วมาคั่วกับซีอิ๊วขาว โดยใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยในกระทะ

จากนั้นนำเห็ดหอมคั่วซีอิ๊วใส่ลงในหม้อน้ำซุป

ท้ายสุดใส่เยื่อไผ่หั่นท่อนที่เตรียมไว้

เคี่ยวต่ออีกสักครู่เป็นอันเสร็จค่ะ

ตักซุปเยื่อไผ่ใส่ชาม

เมนูนี้ได้กลิ่นหอมและความกลมกล่อมของน้ำซุป

ที่หวานจากการเคี่ยวซี่โครงหมูโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลเลยค่ะ

ซุปเยื่อไผ่ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน

เลือกให้เป็นอีกเมนูคู่บ้านค่ะ

เยื่อไผ่ นั้นคือเห็ดชนิดหนึ่ง 

มีข้อมูลจากสำนักบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์บริการ 

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ความกระจ่างว่า 

เห็ดเยื่อไผ่หรือเรียกอีกชื่อว่าเห็ดร่างแห

เมื่อยังอ่อนมีลักษณะก้อนกลมสีขาวคล้ายฟองไข่นก 

เมื่อโตขึ้นลำต้นและหมวกเห็ดจะยืดตัวแทรกออกจากเปลือก มักขึ้นเป็นดอกเดี่ยวๆ 

และเมื่อโตเต็มที่หมวกเห็ดจะมีรูปร่างเหมือนตาข่ายหรือแห หรือกระโปรงลูกไม้ของสุภาพสตรี 

ก้านเห็ดเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ ส่วนบนสุดของดอกมักมีสีเข้ม 

ทำหน้าที่ผลิตสปอร์และกลิ่นที่เหม็นล่อแมลงเพื่อการขยายพันธุ์ 

เห็ดชนิดนี้มีหลายสีเช่น สีส้ม แดง ขาว เหลือง ชมพู มักขึ้นในป่าที่มีฝนชุกหรือป่าช่วงฤดูฝน

เครดิตภาพ //thaimisc.pukpik.com/

ชาวจีนนำเห็ดชนิดนี้มาใช้ประโยชน์มาตั้งแต่เมื่อประมาณ 3,000 ปีแล้ว 

โดยจัดเป็นส่วนผสมในยารวมถึงปรุงเป็นอาหาร ด้วยความเชื่อว่าสามารถลดคอเลสเตอรอล 

ลดความดันโลหิต บำรุงร่างกายเมื่ออ่อนแอ บรรเทาโรคที่เกี่ยวกับไต ตา ปอด ตับอักเสบ หวัด 

ช่วยระบบขับลม ลดความอ้วน แต่จากการศึกษาและมีรายงานระบุว่า 

นำมาเป็นส่วนผสมน้ำมันนวดแก้โรคเกาต์และรูมาติซึมได้ 

ส่วนประเทศแถบเอเชียนิยมรับประทานเห็ดที่ตากแห้ง โดยนำมาเติมน้ำร้อนและสามารถดื่มได้ทันที 

สำหรับประเทศไทยนิยมนำมาประกอบเป็นอาหาร เช่น ซุปเยื่อไผ่ เป็นต้น

เครดิต https://www.facebook.com/FoodandHealthforyou/

ขอบคุณทุกท่านที่แวะชมนะคะ
ขอบคุณคุณป้าเก๋าและคุณพีชสำหรับของแต่งบล๊อก
พบกันใหม่บล๊อกหน้าค่ะ