|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
วรรณยุกต์ ในภาษาไทย
วรรณยุกต์ คือ อะไร วรรณยุกต์ คือ เสียงสูงต่ำในภาษาไทย หรือ เราเรียกวรรณยุกต์อีกชื่อหนึ่งว่า เสียงดนตรี เพราะมีเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ นั่นเอง ภาษาที่มีลักษณะเช่นนี้ ในโลกนี้มีเพียง 2 ภาษาเท่านั้น คือ ภาษาไทยและภาษาจีน เสียงสูงต่ำนี้ มีความสำคัญต่อความหมายมาก เพราะ เสียงสูงต่ำ ทำให้ ความหมายของคำ ๆ นั้น เปลี่ยนแปลงไปได้ ค่ะ เช่น ไข ไข่ ไข้ จะเห็นว่า 3 คำนี้ มีเสียงวรรณยุกต์ ต่างกัน ความหมายก็จะแตกต่างกันไป นี่คือ ความสำคัญของเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย ค่ะ ปัญหาที่เราพบเกี่ยวกับการใช้วรรณยุกต์ในภาษาไทย คือ การใช้รูป วรรณยุกต์ผิด ถ้าปัญหาในการสอบ ซึ่งจะถามเสียง วรรณยุกต์ของคำที่กำหนดให้ ถ้าเป็นการกำหนดให้บอกเสียงวรรณยุกต์เป็นคำ ๆ ก็ไม่ยากนักสามารถ ผันเสียงวรรณยุกต์ด้วยการผันเสียงเทียบกับอักษรกลาง ซึ่งเป็นอักษรหมู่เดียวที่ผันได้ครบเสียง กล่าวคือ วรรณยุกต์ของภาษา ไทยจะมี 4 รูป 5 เสียง คือ รูป เอก โท ตรี จัตวา (ก่า ก้าก๊ก ก๋า) เสียง มี 5 เสียง คือ เสียงสามัญ เอก โท ตรี จัตวา การบอกเสียงวรรณยุกต์ตามแบบเก่าที่เราเคยเรียนมา คือ ใช้การเทียบ เสียงจากอักษรกลางตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ถ้าหากว่า ข้อสอบที่มีตัวเลือก มีคำน้อย ๆ มาให้เราเลือก เราก็คงจะ สามารถผันเสียงวรรณยุกต์ด้วยการเทียบเสียงจากอักษรกลางได้ ทันเวลาในการสอบ แต่ถ้าตัวเลือก เป็นประโยค ไม่ต่ำกว่า 5 คำ กว่าจะผันให้ครบทุกตัวเลือกจะเสียงเวลามาก ซึ่งถ้า เป็นข้อสอบแข่งขัน มีเวลาน้อยกว่าการสอบโดยทั่วไป ก็จะยิ่งต้องทำข้อสอบให้เร็วที่สุด ถ้าจะมัวแต่ผันเสียงโดยการเทียบ เสียงแบบเก่าที่เราเคยเรียนมา ก็คงทำข้อสอบ ไม่ทันแน่นอน ฉันเห็นปัญหาข้อนี้ตอนฉันติวข้อสอบให้นักเรียน จึง พยายามสังเกต หาเทคนิคที่จะให้บอกเสียงวรรณยุกต์ โดยไม่ต้องไปเทียบเสียงกับอักษรกลาง เช่น อยากรู้ว่า ไพร่ เป็น เสียงวรรณยุกต์อะไร ก็ต้อง เทียบกับอักษรกลางว่า ไป ไป่ ไป้ จึงจะได้เสียงเทียบ คือ ไพร่ กับ ไป้ จึงจะบอกได้ว่า ไพร่ นั้นเป็นเสียงวรรณยุกต์โท ซึ่งทำให้เสียงเวลา ในการเทียบเสียงมาก
ดังนั้น ฉันจึงสร้างเทคนิคการบอกเสียงวรรณยุกต์โดยไม่ต้อง เทียบเสียงจากอักษรกลาง คือ ให้จำกฎที่ฉันคิดขึ้น เพื่อใช้ในการบอกเสียงวรรณยุกต์โดยไม่ต้องเทียบเสียงจากอักษร กลางที่เราเคยเรียนกันมาแต่เดิม ค่ะ คือ มองเห็น คำนั้น ๆ เราก็สามารถบอกเสียงวรรณยุกต์ของคำนั้น ๆ ได้ ค่ะ
บทเรียนสำเร็จรูป เทคนิคการบอกเสียงวรรณยุกต์โดยไม่ต้องเทียบเสียงจากอักษรกลาง ค่ะ
ฉันขอสรุปกฎเกณฑ์ในการรู้หรือบอกเสียงของวรรณยุกต์ของคำ โดย ไม่ต้องเทียบเสียงจากอักษรกลาง ดังนี้ ค่ะ
1. ท่านผู้อ่านทุกคนต้องจำอักษรสามหมู่ หรือ ไตรยางศ์ ให้ได้ เพราะอักษรสามหมู่จะต้องนำมาใช้ในการสังเกตเสียงวรรณยุกต์ ของคำที่เราต้องการทราบว่าเป็นเสียงวรรณยุกต์อะไร
อักษรกลาง มีทั้งหมด 9 ตัว คือ ก จ ฎ ฏ ต ด บ ป อ อักษรสูง มีทั้งหมด 11 ตัว คือ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ส ษ ห ส่วนอักษรต่ำ ท่านผู้อ่านไม่ต้องจำค่ะ เพราะอะไรคะ ก็เพราะว่า เมื่อจำ อักษรกลางและอักษรสูงได้หมดแล้ว ที่เหลือ ก็จะเป็นอักษรต่ำทั้งหมด นั่นเอง 2. เหตุผลที่ต้องให้ท่านจำอักษรกลางและอักษรสูงให้ได้ เพราะว่า หมู่อักษรสูงและอักษรกลาง จะมีรูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน กล่าวคือ เมื่อท่านผู้อ่านเห็นรูปวรรณยุกต์อยู่บนหัวของอักษรสูง หรือกลางเป็นรูปวรรณยุกต์อะไร ก็จะมีเสียงวรรณยุกต์ ตามรูปนั้น เช่น เมื่อเห็นคำว่า "จ่าย" ท่านก็บอกได้ว่า คำว่า "จ่าย" มีเสียงวรรณยุกต์ เอก เพราะว่า "จ" เป็นอักษรกลาง ตามกฎ จะมีรูปและเสียงวรรณยุกต์ ตรงกับรูป หรือ ตัวอย่างคำว่า "ไข้" ท่านผู้อ่านก็บอกได้ว่า คำว่า "ไข้" เป็นเสียงวรรณยุกต์ "โท" เพราะว่า ตามกฎ "ข" เป็นอักษรสูง มีรูปและ เสียงวรรณยุกต์ตรงกัน ท่านคงเห็นแล้วใช่ไหมคะว่า เรื่องของวรรณยุกต์ ถ้าเรารู้ถึงหล้กการ สังเกตตามกฎที่กล่าวมาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับเราเลยใช่ไหมคะ ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่า เอ้า แล้วอักษรต่ำล่ะ รูปและเสียงวรรณยุกต์เป็นอย่างไร ไม่เห็นพูดถึงเลย ไม่ต้องสงสัยค่ะ กำลังจะให้เป็นกฎข้อที่ 3 นะคะ 3. อักษรต่ำ คำเป็น เป็นอักษรหมู่เดียวที่รูปและเสียงวรรณยุกต์ไม่ตรง กัน ยกเว้นอักษรต่ำคำตาย ที่มีเสียงวรรณยุกต์ที่ตรงตามรูป และไม่ตรงตามรูปวรรณยุกต์ที่ปรากฏให้เห็น อธิบายให้ชัดเจน ดังนี้
ถ้าเป็นอักษรต่ำคำเป็น เมื่อเห็นรูปวรรณยุกต์เอก เสียงของคำนั้นจะเป็น เสียงวรรณยุกต์โท เช่น คำว่า "ค่า" จะเป็นเสียงวรรณยุกต์โท เพราะว่า "ค" เป็นอักษรต่ำ คำเป็น เมื่อเห็นรูปวรรณยุกต์เอกบนหัว "ค" จะมีเสียงวรรณยุกต์โท แต่เมื่อเห็น รูปวรรณยุกต์โท บนหัวของอักษรต่ำ เสียงวรรณยุกต์ของคำนั้นจะเป็น เสียง ตรี ตัวอย่างเช่นคำว่า "ท้าย" จะมีเสียงวรรณยุกต์ ตรี เพราะว่า "ท" เป็นอักษรต่ำ ตามกฎ เมื่อเห็นรูปวรรณยุกต์โท เสียง วรรณยุกต์จะเป็นเสียงตรี
สำหรับอักษรต่ำคำตาย จะมีทั้งรูปวรรณยุกต์ตรงกับเสียงและไม่ตรงกับ เสียง คือ เสียงจัตวาจะตรงกับรูปจัตวาเท่านั้น เช่น คำว่า ม๋ด โค๋ก เป็นต้น จะมีเสียง จัตวาเมื่อมีรูปวรรณยุกต์จัตวากำกับอยู่ แต่ คำเหล่านั้น มักไม่ค่อยใช้ในภาษาเขียน
ก่อนอื่นขออธิบายเกี่ยวกับ คำเป็น คำตาย ซึ่งจะต้องใช้เกี่ยวข้องกับ เรื่องของวรรณยุกต์ คือ คำเป็น กับคำตาย จะผันเสียงวรรณยุกต์ได้ไม่เท่ากัน
ลักษณะที่เราจะสังเกตได้ว่าเป็นคำเป็น คือ 1.ต้องประสมกับสระเสียงยาว เช่น อีกา รูปู โอ่อ่า จำไม่ ใต้ เอา เป็นต้น 2.ต้องไม่มีตัวสะกดอยู่ในแม่ กก กบ กด (แม่ กบด) เช่น จาน มัมมี่ เวร กัน งง เฉย เทอญ เป็นต้น ลักษณะที่เราจะสังเกตได้ว่าเป็นคำตาย คือ 1.ต้องประสมกับสระเสียงสั้น เช่น กะทิ โอ๊ะ เลาะ ทะลุ 2.ต้องมีตัวสะกดในแม่ กก กบ กด ( แม่กบด)เช่น จับ กวาด ฉก ลบ
นอกจากนี้ ยังมีอีกสองคำที่ต้องทำความเข้าใจ นั่นคือ คำว่า คำตาย เสียงสั้น กับคำตายเสียงยาว เพราะจะเกี่ยวข้องกับการผันเสียงวรรณยุกต์ในอักษรต่ำคำตาย ในเรื่องคำพื้นเสียงด้วย 1.คำตายเสียงสั้น หมายถึง คำที่เป็นอักษรต่ำคำตายที่ประสมกับสระ เสียงสั้น เช่น งก รถ ซบ เป็นต้น 2.คำตายเสียงยาว หมายถึง คำที่เป็นอักษรต่ำคำตายที่ประสมกับสระ เสียงยาว เช่น โงก ชาติ ซีก เป็นต้น
นักเรียนจะเห็นว่า กฎข้อ 1 ,2 และ 3 ที่กล่าวมาแล้ว เป็นการบอกเสียง วรรณยุกต์โดยมี รูปวรรณยุกต์ให้สังเกตได้ แต่คำในภาษาไทย ยังมีอีกพวกหนึ่งที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์กำกับไว้ให้เรา ใช้สังเกตตามกฎที่ฉันให้ไว้ คำพวกนี้ จะเป็นคำพื้นเสียง ของอักษรทั้ง 3 หมู่ ซึ่งจะมีคำพื้นเสียงทั้งหมด 7 เสียง ที่ท่านต้อง จำให้ได้ว่าอักษรแต่ละหมู่ทั้งคำเป็นและคำตาย จะมีพื้นเสียงเป็นเสียงใดบ้าง ดังนี้
4. คำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์ให้สังเกต ต้องจำเสียงวรรณยุกต์ของคำพื้น เสียงของอักษรทั้งสามหมู่ให้ได้ ดังนี้
อักษรกลาง คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ ผันวรรณยุกต์ได้ 5 เสียง เช่น กาน ก่าน ก้าน ก๊าน ก๋าน คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียงเอก ผันวรรณยุกต์ได้ 4 เสียง เช่น ปัด ปั้ด ปั๊ด ปั๋ด อักษรสูง คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น ขัน ขั่น ขั้น คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียงเอก ผันวรรณยุกต์ได้ 2 เสียง เช่น ขด ข้ด อักษรต่ำ คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น คาน ค่าน ค้าน คำตายเสียงสั้น มีพื้นเสียงเป็นเสียงตรี ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น โคก โค้ก โค๋ก คำตายเสียงยาว มีพื้นเสียงเป็นเสียงโท ผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง เช่น มด ม่ด ม๋ด
สรุปได้ว่า ท่านผู้อ่านต้องจำคำพื้นเสียงของอักษรสามหมู่นี้ให้ได้ เพื่อ ที่จะบอกเสียงวรรณยุกต์ของคำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์กำกับ ให้สังเกต เช่น เมื่อเห็นคำว่า " ปด" ท่านก็บอกได้ว่า เป็นเสียงเอก เพราะว่า "ป" เป็นอักษรกลาง คำตาย มี พื้นเสียงเป็นเสียง เอก หรือเห็นคำว่า "สอย" ท่านบอกได้ทันทีว่า เป็นเสียง จัตวา เพราะว่า "ส" เป็นอักษรสูงคำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียง จัตวา เป็นต้น
นอกจากนี้ ฉันขอให้ข้อสังเกตในเรื่องการใช้วรรณยุกต์ไว้สังเกต เพื่อ ไม่ให้เขียนหนังสือผิด ดังนี้ 5. อักษรกลาง คำเป็น หมู่เดียวเท่านั้นที่สามารถผันเสียงวรรณยุกต์ได้ ครบ 5 เสียง 6.อักษรสูงและอักษรต่ำ ไม่มีรูปวรรณยุกต์ตรีใช้ ถ้านักเรียนเห็นมีรูป วรรณยุกต์ตรีอยู่บนหัวของอักษรทั้งสองหมู่นี้ แสดงว่าเขียนผิด ค่ะ ข้อนี้ไว้ใช้สังเกตข้อสอบที่ให้เลือกข้อใดใช้คำผิด หรือ ข้อใดใช้คำถูกต้อง
ฉันหวังว่า กฎเหล่านี้ คงจะช่วยให้ท่านผูอ่านบอกเสียงวรรณยุกต์โดย ไม่ต้องนับนิ้วในการผันวรรณยุกต์หรือเทียบเสียงวรรณยุกต์ จากอักษรกลางอีกต่อไปแล้วนะคะ ลองทำข้อสอบข้อต่อไปนี้ สัก ข้อ นะคะ โดยใช้เทคนิคที่ฉันให้ไว้ ค่ะ ใหม่ ๆ อาจจะลำบาก แต่ถ้าคล่องกฎนี้แล้ว ท่านก็จะไม่ต้องนำคำนั้น ๆ ไปเทียบเสียงกับอักษรกลาง เห็นคำนั้น ๆ แล้ว ก็สามารถบอกเสียงวรรณยุกต์ของคำนั้นได้ทันที ค่ะ ลองทำดูนะคะ อิอิ
ประโยคใดต่อไปนี้ มีเสียงวรรณยุกต์ตรี 2 คำ
ก. เกิดเป็นไทยแล้วใจต้องสู้ ข. ศัตรูหน้าไหนไม่เกรงกริ่ง ค. หากมาช่วงชิงตายเสียเถิด ง. ถิ่นไทยเรารู้เรารักยิ่ง
อย่าเพิ่งแอบดูข้อเฉลย นะคะ
คำเฉลย ก. เอก สามัญ สามัญ ตรี สามัญ โท โท เหตุผล เกิด เป็น เสียงเอก เพราะ ก. เป็นอักษรกลาง คำตาย เป็น ป เป็นอักษรกลาง คำเป็น เสียงสามัญ ไทย สามัญ เพราะ ท เป็นอักษรต่ำ คำเป็น เสียงสามัญ แล้ว เสียง ตรี เพราะ ล เป็นอักษรต่ำ เห็น รูปโท เสียงเป็นตรี ใจ สามัญ เพราะ จ อักษรกลางคำเป็น เสียง สามัญ ต้อง เสียงโท เพราะ ต เป็นอักษรกลาง รูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน สู้ เสียงโท เพราะ ส เป็นอักษรสูง รูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน ข. เอก สามัญ โท จัตวา โท สามัญ เอก เหตุผล ศัต เสียงเอก ศ เป็นอักษรสูง คำตาย เสียงเอก ตรู สามัญ ต เป็นอักษรกลาง คำเป็น เสียงสามัญ หน้า เสียงโท ห เป็นอักษรสูง รูปและเสียงวรรณยุกต์ตรงกัน ไหน เสียงจัตวา เพราะ ห อักษรสูง คำเป็น เสียงจัตวา ไม่ เสียงโท ม อักษรต่ำ รูปเอก เสียงโท เกรง เสียงสามัญ เพราะ ก เป็นอักษรกลาง คำเป็น เสียง สามัญ กริ่ง เสียงเอก เพราะ ก เป็นอักษรกลาง รูปและเสียงตรงกัน
ค. เอก สามัญ โท สามัญ สามัญ จัตวา เอก เหตุผล หาก เป็น เอก เพราะ ห เป็นอักษรสูง คำตาย เสียงเอก มา เสียงสามัญ เพราะ ม. อักษรต่ำ คำเป็น เสียงสามัญ ช่วง เสียงโท เพราะ ช เป็น อักษรต่ำเป็นรูปเอก เสียงเป็น โท ชิง สามัญ ช เป็นอักษรต่ำ คำเป็น เสียงสามัญ ตาย สามัญ เพราะ ต เป็นอักษร กลาง คำเป็น สามัญ เสีย เสียงจัตวา เพราะ ส เป็นอักษรสูง คำเป็น เสียงจัตวา เถิด เสียงเอก เพราะ ถ เป็นอักษรสูง คำตาย เสียงเอก ง. เอก สามัญ สามัญ ตรี สามัญ ตรี เอก เหตุผล ถิ่น เสียงเอกเพราะ ถ เป็นอักษรสูง รูปและเสียงตรงกัน ไทย เสียงสามัญ เพราะ ท เป็นอักษรต่ำ คำเป็น เสียงสามัญ เรา เสียงสามัญ เพราะ ร เป็นอักษรต่ำคำเป็น เสียงสามัญ รู้ ตรี เพราะ ร เป็นอักษรต่ำ รูปโท เสียงจะเป็นตรี เรา (อธิบายแล้ว) รัก เสียงตรี เพราะ ร เป็นอักษรต่ำ คำตายเสียงสั้น เสียงเป็นตรี ยิ่ง เสียงโท เพราะ ย เป็นอักษรต่ำ เห็นรูปโทเสียงเป็นตรี
ฉันได้ให้เหตุผลของคำแต่ละคำ ซึ่งเป็นไปตามกฎที่ฉันบอกค่ะ เพื่อน ๆ ชาวบล็อก อาจจะนำไปใช้สอนลูกหลานได้ หรือ อาจจะเป็นความรู้ที่ทำให้เราใช้วรรณยุกต์ได้ถูกต้อง มากยิ่งขึ้น ค่ะ ใครที่เลือก ข้อ ง. เป็นข้อที่ถูกต้องค่ะ เพราะมีเสียงตรี สองคำ ตามโจทย์ต้องการ ค่ะ คือ คำว่า รู้ และ คำว่า รัก
สวัสดี ค่ะ
Create Date : 28 สิงหาคม 2564 |
Last Update : 28 สิงหาคม 2564 22:28:46 น. |
|
36 comments
|
Counter : 3806 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณดาวริมทะเล, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณSweet_pills, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**, คุณkatoy, คุณชีริว, คุณคนผ่านทางมาเจอ |
โดย: หอมกร วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:6:07:37 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:15:31:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:18:31:29 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:22:32:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2564 เวลา:6:54:17 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 30 สิงหาคม 2564 เวลา:8:25:36 น. |
|
|
|
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 30 สิงหาคม 2564 เวลา:15:45:20 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2564 เวลา:22:39:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 สิงหาคม 2564 เวลา:6:28:24 น. |
|
|
|
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 31 สิงหาคม 2564 เวลา:13:45:25 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 31 สิงหาคม 2564 เวลา:14:38:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 สิงหาคม 2564 เวลา:19:43:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กันยายน 2564 เวลา:6:09:29 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 1 กันยายน 2564 เวลา:10:59:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กันยายน 2564 เวลา:11:02:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กันยายน 2564 เวลา:6:48:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กันยายน 2564 เวลา:11:44:32 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:0:45:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:6:36:31 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:9:42:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:19:36:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กันยายน 2564 เวลา:6:37:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กันยายน 2564 เวลา:17:29:10 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 4 กันยายน 2564 เวลา:21:15:24 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2564 เวลา:7:14:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2564 เวลา:18:28:31 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 5 กันยายน 2564 เวลา:23:01:30 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 6 กันยายน 2564 เวลา:18:51:24 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กันยายน 2564 เวลา:20:22:41 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|
แต่งหนังสือด้วยเก่งจังค่ะ ไก่จิกเด็กตายเฎ็กฏายบนปากโอ่ง ค่ะ