1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30
เรื่องราวของ คำว่า "อัศวิน"
เรื่องราวของ คำว่า "อัศวิน" คำว่า "อัศวิน" คิดว่า ทุกคนคงจะเคยได้ยินและมีความหมายไปในทาง บวก ให้ความรู้สึกว่า คนนั้น ๆ ที่ได้รับสมญานามว่า"อัศวิน" ต้องเป็นคนเก่ง โดยเฉพาะเก่งในเรื่องของการรบ การมีคนเก่ง มาช่วยเหลือในยามที่ขับขัน เช่น ตอนที่เรากำลังตกอยู่ ในห้วงอันตราย อับจน เข้าตาจน แล้วก็มีคนเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ นั้น ๆ ให้ผ่านพ้นภัยไปได้ เรามักจะพูดว่า "อัศวิน ขี่ม้าขาวมาช่วย" ที่กล่าวมาเป็นความรู้ทั่ว ๆ ไปที่ทุกคนรู้ แต่ คงมีไม่มากนักที่จะรู้ถึงความเป็นมาของคำว่า "อัศวิน" ว่า มันมีความเป็นมาอย่างไร ใช่ไหมคะ รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย ห้าห้า สาเหตุที่ฉันนำเรื่อง คำว่า "อัศวิน" มาเขียน ก็เพราะช่วงนี้ไม่ได้ไป เที่ยวไหนเลย เพราะโควิดเป็นเหตุ จึงมีเวลาอ่านหนังสือ มากขึ้น ฉันจัดตู้หนังสือ พบหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งซื้อไว้นานมากแล้ว ซื้อ เพราะไปอบรมความรู้ทางภาษาไทย ที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ได้พบวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้ท่าน หนึ่ง ฟังเรื่องที่ท่านบรรยาย ท่านมีความรู้เกี่ยวกับวรรณคดี สันสกฤตมาก มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาเล่าประกอบทำให้เกิดความรู้ ความเพลิดเพลิน เป็นเรื่องที่เราสามารถนำไป ประกอบการสอนได้เป็นอย่างดี ท่านผู้นี้ คือ ศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิย ชาติ สยามบรมราชกุมารี (ได้รับการแต่งตั้ง เมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – ปัจจุบัน) ในการ อบรมครั้งนั้น ได้มีหนังสือของคณาจารย์หลายท่านวางขาย ด้วย ฉันก็ได้ซื้อหนังสือที่ อาจารย์ศักดิ์ศรีเขียนด้วย น่าจะ 2-3 เล่ม เล่มที่มีเรื่องราวของ "อัศวิน" อยู่ด้วย คือ "ศักดิ์ศรีนิพนธ์" ค่ะ นอกจากอ่านจากหนังสือของอาจารย์ศักดิ์ศรี แล้ว ฉันยังได้ค้นคว้า เพิ่มเติมจากในกูเกิลเพิ่มเติมประกอบอีกด้วย หนังสือที่ฉันซื้อมาและมีเรื่องราวของ "อัศวิน" ด้วยค่ะ จากการอ่านทั้งในหนังสือของอาจารย์ศักดิ์ศรีและข้อมูลจอินเทอร์เน็ต ฉันสรุปไว้สองประเด็น ค่ะ คือ ประเด็นที่1 เป็น"อัศวิน" ในเรื่องของคนจริง ๆ เป็นเรื่องทางฝั่งตะวันตก ประเด็นที่ 2 เป็น "อัศวิน" ในฐานะความเป็น "เทพ" เป็นเรื่องทางฝั่งตะวันออก โดยอ้างอิงเรื่องราวของ "อัศวิน" จากตำรา พระเวทต่าง ๆ ในศาสนาพราหมณ์ ประเด็นที่1 นั้น "อัศวิน" เป็นเรื่องของคนเก่ง ค่ะ ลักษณะเด่น คือ เป็น นักรบ ผู้อุทิศตน มีหน้าที่คุ้มครองผู้ที่มีอำนาจหรือคุ้มครองสตรี เป็นวีรบุรุษในการต่อสู้ในสงคราม ตลอดจนในการประลองฝีมือ สร้าง ชื่อเสียงเกียรติยศจนมีตำแหน่ง "อัศวิน" และมี คุณความดีต่อราชวงศ์และบ้านเมือง แต่ก็ใช่ว่า"อัศวิน" จะมีอยู่ในยุโรป ตะวันตก เพราะตั้งแต่สมัยกรีกก็มี"อัศวิน" อยู่ เหมือนกันโดยโซลอน (Solon) กำหนดว่า นักรบกรีกที่จะมีตำแหน่งสูง ถึงขั้น"อัศวิน" จะต้องเป็นบุคคลชั้นที่ 2 ตามกฎหมายของเอเธนส์ ในยุคของโรมัน "อัศวิน" คือ ผู้เก่งกาจทางการรบบนหลังม้า และแม้จะ ไม่ใช่นักรบ หากแต่เป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ของบ้านเมืองได้ ก็เป็น"อัศวิน" ได้เช่นกัน บรรดา"อัศวิน" ผู้สวมเกราะเหล็ก มือถือโล่และอาวุธ ตระเวนดูแลดินแดน ที่ตนรับผิดชอบจากกษัตริย์หรือขุนนางที่เป็นนายของ"อัศวิน" ต้อง ตระเวนอยู่บนหลังม้า ใช้ชีวิตอยู่กับการต่อสู้ไปจนตาย นอกจาก"อัศวิน" บางคนที่เก่งกาจ และมีอำนาจมากก็สร้างปราสาทเป็น ที่อยู่ขึ้น ซึ่งปราสาทจะใหญ่หรือเล็กก็แล้วแต่อำนาจวาสนา ของ"อัศวิน" นั้น ๆ แล้วก็มิใช่สร้างเอาไว้อยู่ เท่านั้น บรรดาปราสาทนั้น ๆ ยังใช้เป็นที่มั่นของ"อัศวิน" เมื่อยามถูก รุกรานด้วย ตำแหน่ง "อัศวิน" สามารถสืบทอดกันด้วย คือ จะส่งลูกชาย ที่อายุเลย 7 ขวบ จะถูกส่งตัวไปเป็นผู้รับใช้และฝึกงานอยู่ในปราสาทของ"อัศวิน" มีบางคน ที่อาจถูกส่งจากปราสาทใหญ่ไปยังปราสาทที่ห่างไกลอันเป็นที่อยู่ของ"อัศวิน" เป็นครั้งคราว เพื่อฝึกให้เป็นผู้เก่งกาจในการสู้รบ ขี่ม้า ยิงธนู และฟันดาบครั้นอายุได้ 14 คราวนี้ก็จะต้องฝึกอาวุธที่ทำด้วยไม้ไปก่อน จนชำนาญจึงเปลี่ยนเป็นอาวุธ หอกหรือดาบเหล็กแถมพกด้วยลูกตุ้มหนามมีโซ่ร้อย จากนั้นก็จะต้อง ฝึกอาวุธสำคัญคือ ไม้ด้ามยาวถึง 10 ฟิต มีปลายหุ้มเหล็ก แหลนศึกหรืออาวุธยาวนี้ถือเป็นอาวุธสำคัญชนิดหนึ่ง ซึ่งจะต้องถือพลางควบม้าเข้าไปแทงเป้าให้ถูก เป้านั้นเป็นวงกลม 2 ชั้น ถ้าแทงแม่นถูกกึ่งกลางก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ ถ้าแทงพลาดไปถูกวงกลมนอกที่มิใช่จุดหมาย กลไกที่เป้า ก็จะเหวี่ยงลูกตุ้มหนามเหล็กที่มีโซ่ร้อยออกมาตีผู้แทง หลบไม่ทันก็ บาดเจ็บเป็นการสอนว่าถ้าแทงศัตรูไม่ตาย ศัตรูก็จะทำอันตรายตอบแทนดังนั้น หนุ่มอนาคตอยากจะเป็น"อัศวิน" จะต้องฝึกให้แม่น หลบให้คล่อง เพราะการต่อสู้ชนิดนี้นั้น คือการต่อสู้ที่จะทำให้ตนก้าวไปสู่ความเป็น"อัศวิน" และนอกจากจะฝึกการรบสารพัดแล้ว ในยามไม่ได้ฝึกก็จะต้องทำหน้าที่ รับใช้ "อัศวิน" ในปราสาทนั้นไปด้วยอยากเป็นผู้กล้าแถวหน้าก็ต้องหัด เป็นคนทำงานสารพัดก่อน การแต่งกายของอัศวินทางซึกโลกตะวันตก ค่ะ การสู้รบบนหลังม้าของเหล่าอัศวินแต่ละเมืองเพื่อป้องกันดินแดน ของตนเองประเด็นที่ 2 "อัศวิน" ในความหมายของความเป็น "เทพเจ้า" ตามตำราทางพระเวทต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้หลายพระเวทใน หนังสือของ อาจารย์ศักดิ์ศรี อธิบายไว้ว่า คำว่า "อัศวิน" ตามรูปศัพท์ แปลว่า"ผู้มีม้า" เป็นเทพฝาแฝดของอินเดีย ในสมัยพระเวท มีบทสวดสรรเสริญอยู่ในคัมภีร์ฤคเวทและบทสวดอื่น ๆ อีกหลายพระเวท จึงนับว่า เทพ "อัศวิน" เป็นเทพที่ยิ่งใหญ่ เป็นอันดับที่ 4 รองลงมาจากพระอินทร์ พระอัคคี และ โสมะ และคำว่า "อัศวิน" มาใช้ในเวลาต่อมาในความหมาย "นักรบผู้ขี่ม้า" สมัยหนึ่งในประเทศไทยเราก็เคยใช้ศัพท์คำว่า "อัศวิน" เป็นคำยกย่อง ตำรวจผู้มีฝีมือทางการแราบปรามผู้ร้าย บางคนก็ได้รับยกย่องเป็นพิเศษกว่า"อัศวิน" อื่น เรียกว่า "อัศวินแหวน เพชร" และเป็น"อัศวิน" ที่ไม่เคยขี่ม้าเลย ซึ่งไม่ตรง กับความหมายของคำว่า "อัศวิน" ตามรูปศัพท์ที่แปลว่า "ผู้มีฝีมือรบบน หลังม้า" เท่านั้น คำว่า "อัศวะ" แปลว่า "ม้า" ทุกคนก็แปลได้อยู่แล้ว ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า เทพอัศวิน ต้องมี อะไรเกี่ยวกับ ม้า และด้วยเหตุนี้ จึงมีการปั้นรูป เขียนรูป เทพ"อัศวิน" เป็นรูปครึ่งม้าครึ่งคนคือ มีหัวเป็นรูปหัวม้าส่วนตัวเป็น เทวดา ซึ่ง "อัศวิน" ที่กล่าวถึงในคัมภีร์ ฤคเวท นั้น ไม่เคยขี่ม้าเลย ไม่ได้เป็นเจ้าเหนือม้า ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับม้า เลย คัมภีร์พระเวทได้กล่าวถึง ลักษณะของพระอัศวิน ว่า พระ"อัศวิน" เป็นเทพรูปร่างงดงามยิ่งนัก หนุ่มกว่าเทพเจ้าทั้งมวล ทรงสังวาลดอกบัว มีกายเป็นสีทองเปล่งปลั่ง มีสติปัญญาเลิศล้ำ แข็งแรงมีเดชานุภาพ มีรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบาง ความคิดฉับไว พระ"อัศวิน " เป็นโอรสของฟ้า บางตำราก็ว่า เป็นโอรสของพระอาทิตย์ พระมารดา คือ สรัณยู โอราของ พระ"อัศวิน" คือ ปูษัน เป็นเทพที่มีลักษณะเหมือนพระอาทิตย์องค์หนึ่งราชรถของ"พระอัศวิน" มีสามล้อ เป็นสีทองสุกใส มีแสงกระจายไป นับพันราวกับแสงพระอาทิตย์ สายบังเหียนก็เป็นทอง รถทรงนั้น บรรทุกน้ำผึ้ง ซึ่งโปรดเสวยน้ำผึ้งมาก จึงได้พระนามอีกพระนามหนึ่งว่า" มธุปา" รถทรงของพระ"อัศวิน" เทียมด้วยนกแก้วเป็นพาหนะพารถทรงแล่นเร็ว ปานความความคิดสามารถแล่นไปทั้งฟ้าและแผ่นดินโลกภายในวันเดียว นอกจากนี้ พระอัศวินยังเป็นแพทย์สวรรค์ ท่องเที่ยวไปรักษาโรคและบำบัดทุกข์ภัยต่าง ๆ ในโลกมนุษย์ด้วย พระอัศวินเป็นเทพที่มีชื่อเสียงในเรื่องการให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ที่เดือดร้อน หรือ ตกอยู่ในอันตราย ในคัมภีร์ของอินเดียวได้กล่าวถึงเรื่องการช่วยเหลือของพระอัศวินไว้ มากมายและมีผู้ที่บูชาพระ"อัศวิน" มากมายเช่นกัน ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องราวของ "อัศวิน" ตามคัมภีร์ในพระเวทต่าง ๆ ของ อินเดีย ค่ะ เราจะเห็นว่า "อัศวิน" ของทางยุโรปกับทางเอเซีย มีที่มาต่างกัน แต่จุดหมายปลายทางเดียวกัน คือ "อัศวิน" เป็นผู้ที่ ช่วยเหลือคน เป็นฮี่โร่ เป็นคนมีความสามารถ นั่นเอง ค่ะ ความเข้าใจที่คิดว่า "อัศวิน"ต้องเกี่ยวกับม้า จึงสร้างรูปเทพ"อัศวิน" ฝาแฝดให้มีเศียรเป็นหัวม้า ค่ะ ภาพของเทพฝาแฝด "อัศวิน" (ภาพจากอินเทอร์เน็ต) ฉันหวังว่า เรื่อง "อัศวิน" ที่ฉันค้นคว้านำมาเขียนในบล็อกนี้ คงจะให้ ความรู้ ความบันเทิงแก่ผู้อ่านได้บ้าง พอสมควร นะคะ สวัสดี ค่ะ (ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจากอินเทอร์เน็ตและ ขอบคุณ อาจารย์ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา ผู้เขียน หนังสือศักดิ์ศรีนิพนธ์ )
Create Date : 11 กันยายน 2564
Last Update : 11 กันยายน 2564 13:25:46 น.
47 comments
Counter : 2621 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36 , คุณทนายอ้วน , คุณกะว่าก๋า , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณสองแผ่นดิน , คุณhaiku , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณหอมกร , คุณเริงฤดีนะ , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณtuk-tuk@korat , คุณชีริว , คุณSweet_pills , คุณnewyorknurse , คุณจันทราน็อคเทิร์น , คุณนายแว่นขยันเที่ยว , คุณ**mp5** , คุณเนินน้ำ , คุณkae+aoe , คุณmariabamboo , คุณดาวริมทะเล , คุณอุ้มสี , คุณSertPhoto , คุณThe Kop Civil
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 กันยายน 2564 เวลา:14:25:55 น.
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 11 กันยายน 2564 เวลา:16:13:24 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2564 เวลา:18:42:45 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:7:00:31 น.
โดย: หอมกร วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:7:36:48 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:11:31:08 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:11:45:11 น.
โดย: ชีริว วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:21:58:57 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 13 กันยายน 2564 เวลา:0:40:29 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กันยายน 2564 เวลา:7:05:11 น.
โดย: ชีริว วันที่: 13 กันยายน 2564 เวลา:21:09:48 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กันยายน 2564 เวลา:22:00:33 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 กันยายน 2564 เวลา:0:46:22 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กันยายน 2564 เวลา:5:52:59 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กันยายน 2564 เวลา:18:24:20 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กันยายน 2564 เวลา:6:13:26 น.
โดย: **mp5** วันที่: 15 กันยายน 2564 เวลา:8:47:46 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 กันยายน 2564 เวลา:10:11:12 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 กันยายน 2564 เวลา:12:20:53 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กันยายน 2564 เวลา:21:00:58 น.
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 15 กันยายน 2564 เวลา:23:05:07 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กันยายน 2564 เวลา:6:48:17 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 16 กันยายน 2564 เวลา:10:17:37 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กันยายน 2564 เวลา:12:46:15 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กันยายน 2564 เวลา:6:41:04 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กันยายน 2564 เวลา:14:24:35 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 17 กันยายน 2564 เวลา:23:15:13 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กันยายน 2564 เวลา:6:58:49 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กันยายน 2564 เวลา:13:30:36 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 กันยายน 2564 เวลา:17:11:08 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กันยายน 2564 เวลา:6:18:45 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กันยายน 2564 เวลา:17:11:00 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:6:11:06 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:9:27:24 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กันยายน 2564 เวลา:18:56:46 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 21 กันยายน 2564 เวลา:0:51:58 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กันยายน 2564 เวลา:6:56:59 น.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [? ]
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
ถ้าเป็นในเชิงอุปมา เช่นมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย ความเป็นจริงเราจะหวังพึ่งพาอัศวิน ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะมีจริงหรือไม่มาช่วยไม่ได้หรอก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ครับ