เรื่องเล่าจากพงไพร...การตีผึ้งป่าและหาเลี้ยงชีพของชุมชน
 ณ บ้านป่าติดภูเขาที่ไม่ใหญ่มากนักแต่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณหลาก หลายชนิด รวมทั้งต้นยางใหญ่และต้นชวนผึ้ง ที่ผึ้งป่ามาจับจองคบไม้ กิ่งไม้ทำรังกัน จากรังเล็กขยายโตขึ้นเรื่อยๆจนเป็นรังใหญ่ หมู่บ้านเล็กๆนี้ คนในหมู่บ้านรักและช่วยกันดูแลภูลูกน้อยนี้ซึ่งเปรียบเหมือนห้างร้านขายอาหารสดของหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อขึ้นเขาไปกลับลงมาจะได้พืชผัก ผลไม้ แม้แต่สัตว์ที่เอามาทำอาหารติดไม้ติดมือลงมาทุกครั้งไป... การตีผึ้ง ต้องมีสติและมีขั้นตอนของมัน เริ่มแรกก่อนขึ้นภูเขา ต้องทำพิธีบอกเจ้าป่าเจ้าเขาเสียก่อน พอขึ้นเขาไปถึงต้นยางที่รังผึ้งอยู่ ก็ต้องจุดธูปบอกเจ้าป่าเจ้าเขาอีกครั้งว่าจะตีผึ้งที่อยู่บนต้นยางนั้น หลังจากนั้นพ่อก็ปีนขึ้นต้นยางจนใกล้รังผึ้งก็จุดคบไฟรมควันให้ผึ้งตัวใหญ่บินหนีไปแล้วเอามีดปาด(ตัด)รังผึ้งพร้อมผูกเชือกและหย่อนลงมาใต้โคนต้น คนที่อยู่ใต้โคนต้นก็เก็บรังผึ้งใส่ถังทันที ทุกอย่างต้องทำอย่างรวดเร็วและเงียบที่สุด ต้นยางบางต้นมีรังผึ้งหลายรังก็ต้องอยู่บนต้นนานหน่อย พ่อกับลุงทินจะสลับกันขึ้นต้นยางรมควัน ตัดรังผึ้ง หย่อนลงใต้ต้น ทำแบบนี้ทุกต้นที่มีรังผึ้ง ที่พ่อไปดูไว้น่ะ พอเที่ยงก็พักกินข้าวกัน บ่ายก็ตีต่อ จนใกล้เย็นก็ช่วยกันบีบน้ำผึ้งออกจากรังผึ้ง..
 “ แม่มึง...!! พาลูกเข้าบ้าน เข้ามุ้ง เร็วๆๆ ” พ่อตะโกนซ้ำๆ “มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมผึ้งถึงได้บินต่อยตีขนาดนี้” แม่ถามเสียงดัง ทุกคนมองหน้ากัน พ่อก็พูดขึ้น  “ ก็ไอ้ทินนะซิ!! ปากพล่อย ปักธูปไม่ทันจะเสร็จ เสือกพูดว่าอยากกินลูกผึ้งอ่อนแกล้มเหล้า ไม่ทันจะจบคำ ฝูงผึ้งบินลงจากต้นยางมาต่อย เลยต้องวิ่งหนีอย่างที่เห็นนี่  แหล่ะ”...การที่จะตีผึ้ง ไม่ใช่ว่าจะตีกันได้ง่ายๆ เพราะต้องดูข้าง ขึ้น ข้าง แรม ถ้าเป็น ข้างขึ้น จะไม่นิยมตี เพราะผึ้งจะเห็นตัว จึงนิยามตีช่วง ข้างแรม ยิ่งเดือนมึดมากเท่าไหร่ยิ่งดี คือไปรอก่อนค่ำ ถ้าจำไม่ผิด พรานผึ้งจะขึ้นไปตี ก็ประมาณ 3 ทุ่ม การเก็บผึ้ง น้ำผึ้งป่า ความสัมพันธ์เกื้อกูลระหว่างคน ผึ้ง ผี ป่า ...พอเดือน 3 ข้างแรม จัดแจงเครื่องมือเสบียงอาหารบรรทุกเกวียนยกไป ตั้งหลักไกลที่จะตีผึ้งราว 2 เส้นเศษ ตัดไม้เกี่ยวหญ้าคาปลูกเป็นโรงพัก เสร็จแล้วก็ทำ “ขวัญป่า” การทำขวัญป่าเป็นพิธีการใหญ่ต้องใช้เวลา 1 วัน ระหว่างเวลานี้ ก็ช่วยกันทำคบไฟ ที่จะใช้เมื่อเวลาตีผึ้ง ด้ามคบไฟใช้ไม้ที่ตายเอง เอามาผ่ามัดเข้ากับปลายไม้ ยาวราว 1 วา ผึ้งที่จะตี มีอยู่ 5 ชนิดคือ 1. ผึ้งด้ง หรือผึ้งหลวง 2. ผึ้งดา 3.ผึ้งมิ้ม 4.ผึ้งหอยโข่ง 5. ผึ้งโพรง   ผึ้งด้งหรือผึ้งหลวง รังโตเท่ากระด้งตากข้าว ตัวผึ้งเท่ากับตัวเหลือบ ไม่ชอบจับรังเป็นพวกมากๆ มักจับอยู่ 2 รัง 5 รังเป็นอย่างมาก ผึ้งดา รังเล็กกว่าผึ้งด้ง ชอบจับอยู่พวกมากๆ ต้นหนึ่งมี 30 รังไปถึง 220 รัง ผึ้งด้ง ผึ้งดา มักชอบจับอยู่ที่ไม้สูงๆ เช่น ต้นยางและต้นยวนผึ้ง ผึ้งมิ้ม กับผึ้งหอยโข่ง ตัวเท่ากับตัวชันโรง แต่รังผิดกัน ผึ้งมิ้มรังเท่ากับจานฝรั่งย่อมๆ แต่ผึ้งหอยโข่งรังกลมๆเท่ากับกุญแจหอยโข่ง ผึ้งสองพวกนี้ไม่ค่อยมีในป่าสูง มักชอบจับอยู่ตามกอไผ่ ผึ้งโพรง ตัวเท่าผึ้งหอยโข่ง มักอยู่ในโพรงไม้ หรือใต้แผ่นดิน การตอกทอยเสร็จตามเป้าหมาย คนตีผึ้งก็นุ่งกางเกงสวมเสื้อ เสกๆเป่าๆ เอาเชือกเส้นหนึ่งคาดเอว แล้วก็ปีนขึ้นไปตามลูกทอยที่ตอกไว้ ครั้นถึงกิ่งที่ยึดนั่งได้ถนัด ก็เอาเชือกหย่อนลงมา คนข้างล่างก็เอาคบ 1 คบ ขอ 1 ขอ ผูกเชือกให้คนข้างบนสาวขึ้นไป เอาไฟจุดคบจนไฟติดเป็นควันได้ที่ ก็เอาคบแกว่งใต้รังผึ้ง ปากก็บอกว่า “เบิกพ่อเบิก” แค่นี้ ตัวผึ้งก็จะแตกฮือจากรังจนเกือบหมดรัง คนตีก็เอาขอปาดรังผึ้งให้ตกลงกับพื้น แล้วก็เลื่อนไปตีรังอื่นต่อไป จนกว่าจะหมดต้นนี้ ก็ลงจากต้นไปตีรังอื่น...น้ำผึ้งและขี้ผึ้งนี้ นับเป็นสินค้าใหญ่ๆ อย่างหนึ่งของเมืองไทยในอดีต ฝ่ายเหนือ ไม่มีเมืองไหนจะมากกว่าเมืองพิษณุโลก ฝ่ายใต้ เมืองนครศรีธรรมราช ฝ่ายตะวันออก ผึ้งไม่ค่อยชุมเหมือนฝ่ายตะวันตก ตามบรรดาหัวเมืองในพระราชอาณาเขต มีผึ้งทั่วทุกหัวเมือง........เรื่องราวคนตีผึ้งบ้านต้ำใน  เจนจิรา สุทัศน์ ณ อยุธยา เล่าว่า ลึกเข้าไปในป่าใหญ่ ไกลห่างวิถีสังคมเมืองใหญ่ สายน้ำลำธารยังไหลรี่ฉ่ำเย็นสรรรพสัตว์ชีวิตดำเนินครรลองวิถี ต้นไม้ใหญ่แผ่ขยายรากฐานเติบโตอย่างยาวนาน ที่กิ่งก้านแข็งแรงเกาะจับด้วยผึ้งป่ารวงโตกลมดำทมึน มนุษย์ร่างเล็ก ๆ กำลังใช้สองมือสองเท้าที่เหนียวหนับพิเศษของเขากระชับโอบป่ายปีนเสียงตอกลูกทอยดังกังวานสะท้อนก้องราวไพร สูงขึ้นสูงขึ้นไปจนไม่อาจจะมองลงมายังพื้นดิน หัวใจชนิดเหล็กและปากที่พร่ำคาถาอาคมสร้างสมาธิให้มองไปยังปลายทาง เมื่อใกล้ระยะปลายมือเอื้อม จึงหยิบยาเส้นจากย่ามเป่าสายควันสาดไล่ ไม่ได้ทำลายผึ้งป่าเพียงแต่ตัดรวงผึ้งส่วนหนึ่งไม่ลืมที่จะเหลืออีกรังไว้ให้กับนางพญาได้สร้างรวงรังใหม่ เพื่อฤดูกาลต่อไปของเขา “คนตีผึ้ง” และเจ้าของรังที่ยังเหลือชีวิตอยู่ .





Create Date : 26 สิงหาคม 2557
Last Update : 26 สิงหาคม 2557 15:04:30 น.
Counter : 7952 Pageviews.

2 comments
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:4:45:46 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
20
21
23
24
25
27
28
30
 
 
All Blog