พระบุญปลูกฯ ผู้อุทิศตนเป็นศิษย์กถาคตและชาววนศาสตร์รุ่น35
ท่านเป็นพระแท้ เป็นศิษย์ของกถาคตอย่างแท้จริง ละวางทุกอย่าง มีแต่ของใช้ที่จำเป็น สำหรับการดำรงชีพของพระป่าเท่านั้น เป็นพระที่กราบได้อย่างสนิทใจ ปัจจัยที่พวกเราถวายท่านก็จะนำไปทำบุญต่อไป โดยนำไปบริจาคให้วัดที่ยากจน ในบริเวณที่ท่านจำพรรษา เพื่อใช้ในการซ่อมแซมหลังคาของโบสถ์ที่แตก เมื่อเวลาที่ฝนตก บุญกุศลนี้ขอให้ได้แก่เพื่อนๆและครอบครัวทุกท่านครับ...ท่านปลีกวิเวกเสาะหาสับปายะ สมเป็นพระจริยะงามล้ำ ปฏิบัติภาวนาประจำ ได้ชี้นำทางธรรมสว่างใจ ขออนุโมทนา สาธุ ท่านบรรลุประสงค์ตรงที่หมายละทางโลกมุ่งธรรมน้อมนำใจ ผองเพื่อนได้ปรึกษาค้นหาธรรม (คำนิยมจากท่านอาจารย์ ดร.สุจินต์ ดีแท้)





ประวัติโดยย่อของพระบุญปลูกฯ สมัยเรียนอยู่ที่คณะวนศาสตร์ ท่านอยู่
หอ 14 ผมอยู่หอ 13 แต่ก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน อีกอย่างเราไม่ได้อยู่กรุ๊ปเดียวกันตอนออกป่า พระบุญปลูกเข้ารับราชการพร้อมกันรุ่นแรกที่กรมป่าไม้ ปี2528 อยู่กองเดียวกัน แต่ผมอยู่ฝ่ายปลูกสร้างและบำรุงป่า ส่วนพระบุญปลูกอยู่ฝ่ายอนุรักษ์ต้นน้ำ ท่านทำงานด้านงานการวิจัยต้นน้ำร่วม
กับเพื่อนเม้ง เพื่อนหนูและธรรมนูญ ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ทางภาคเหนือ ท่านรับราชการอยู่ประมาณ 7-8 ปี ก็ลาออกเพื่อบวชเรียนทดแทนคุณบิดาและมารดา โดยบวชเรียนที่วัดถ้ำผาปล่อง ของหลวงพ่อสิม จ.เชียงใหม่ จากนั้นท่านก็เดินธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆในท้องที่ภาคเหนืออยู่หลายปี ต่อมาได้เดินธุดงค์ลงมาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง จนในปีประมาณ 2530 ท่านก็ธุดงค์มาอยู่ที่ราชบุรี โดยมาปฏิบัติแบบพระป่า อยู่ในถ้ำเขาค่าง อำเภอโพธาราม ช่วงนั้นผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์เพาะชำกล้าไม้ราชบุรีและสถานีทดลองปลูกพรรณไม้ราชบุรี ได้ทราบเรื่องก็มาทำหน้าที่โยมอุปฐาก และได้ส่งคนงานเป็นครั้งคราวมาช่วยการเรียงหินทางขึ้นถ้ำ ทำที่นั่ง ปัดกวาดใบไม้เพราะกลัวไฟป่าลามพร้อมช่วยกันปลูกต้นไม้ อะไรขาดแคลนก็สนับสนุน แต่การเป็นพระป่ามาอยู่อย่างนี้ก็ย่อมมีมารมาผจญ เพราะพระบ้านที่อยู่แถวนั้นไม่ค่อยชอบ ประกอบสถานที่ท่านอยู่ พวกผู้ใหญ่บ้านคิดจะฮุบพื้นที่เพื่อขุดลูกรังเหมือนไปขวางผลประโยชน์ของเขา ก็พยายามจะใหัท่านออกไป ท่านอยู่ได้ประมาณ 4-5 ปี หลังจากท่านกลับจากไปอิสาน เผาศพหลวงปู่ขาว และท่านเอาผงอัฐิบรรจุที่เจดีย์เล็กๆบนยอดเขาค่าง ท่านออกธุดงค์ไปอีก แต่ไปที่ใด ผมไม่ทราบ ทราบต่อมาว่าขึ้นไปอยู่ที่เชียงใหม่แถบหน่วยต้นน้ำ สักระยะหนึ่งแล้วก็มาอยู่ที่จันทบุรีแถวอำเภอปะ
ตงอยู่ระยะหนึ่งเช่นกัน ตลอดที่ผมได้เป็นโยมอุปฐากท่าน มีวัตรปฏิบัติของท่านอย่างหนึ่งคือ ท่านธุดงค์ไปที่ใดท่านจะสร้างที่พักสงฆ์ไว้เพื่อให้พระป่าที่ธุดงค์มาพัก ถึงแม้ท่านธุดงค์ไปที่อื่นแล้วเกือบทุกปี พระบุญปลูกก็จะกลับไปดูแล หากว่าชำรุดทรุดโทรมก็จะซ่อมแซมเป็นประจำ เท่าที่ทราบ ที่พักสงฆ์ที่ท่านทำไวัก็มีที่กลางดง จังหวัดสระบุรี ที่ขอนแก่น ที่ไชยา สุราษฎร์ ปะตง จันทบุรีและอีกหลายแห่งที่ผมไม่ทราบ หลังจากที่ท่านธุดงค์มาอยู่ที่สักระยะ ท่านก็กลับไปอยู่เชียงใหม่อีกครั้ง น้องสาวต่างมารดาท่านซึ่งกลับไปเรียนปริญญาโทที่แม่โจ้ได้ไปกราบไหว้ท่าน และเห็นว่าท่านธุดงค์มาเป็นเวลานานแลัวและท่านก็เริ่มชราภาพ พร้อมกลับมีโรคภูมิแพ้ไซนัส ก็เลยนิมนต์ท่านกลับไปอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคายบ้านเดิม โดยนิมนต์ให้ท่านอยู่ในแปลงสวนป่าสักที่นัองเขยและน้องสาวได้ปลูกไว้ ในกุฏิเล็กๆพร้อมโรงเรือนเล็กๆ มาหลายปีแล้ว จนต้นสักโตขึ้นมาแน่น สถานที่ที่ท่านอยู่
เป็นสถานที่เพื่อปลีกวิเวก ห่างจากตัวอำเภอศรีเชียงใหม่สัก 60 กม.ห่างจากอำเภอท่าบ่อปนะมาณ 30 กม. ปัจจุบันที่ท่านอยู่ขึ้นกับกิ่งอำเภอโพธิ์ตาก น่าจะแยกตัวมาจากศรีเชียงใหม่ วัตรปฏิบัติจะวิปัสสะนาและออกบิณฑบาตรทุกวันยกเว้นวันฝนตก  วันเสาร์น้องเขยและน้องสาวจะนำอาหารไปถวาย กุฏิที่ท่านอยู่ไม่มีพระพุทธรูป ท่านกราบไหว้รูปพระพุทธชินราชจากปฏิทิน ท่านกลัวว่าหากมึพระพุทธรูปแล้วกลัวคนจะขโมย กิจวัตรปฏิบัติคือปลูกต้นไม้ไม่ว่าอยู่ที่ใด รวมทั้งอยู่ทึ่ราชบุรี เพื่อนฝูงที่เคยไปเยี่ยม เท่าที่ทราบมีเพื่อนหนู อาจารย์อ้วน  คณะวิทยาศาสตร์ นิพนธ์และภรรยาฯ เงินที่ได้รับบริจาค ท่านก็เอาไปช่วยวัดข้างเคียงที่ยากจนหรือโรงเรียนที่ยากจนข้างเคียง สำหรับครอบครัวผม หลังจากท่านได้ออกไปจากราชบุรีไป ก็ได้เฝ้าติดตามว่าไปอยู่ที่ใด แต่ก็ไม่มีใครทราบแน่นอน จนได้ทราบจากเพื่อน Folkเคยบอกไว้ แต่ไมทราบทางที่จะเข้าไปหาท่าน จนได้อ่าน face bookของเพื่อนนิพนธ์ฯบอกโทรศัพท์ของน้องเขยท่านไว้ ว่าเวลาจะไปหาท่านให้ติดต่อน้องเขยและนัองสายท่านที่อยู่ที่ท่าบ่อปนะมาณ 30 กม. ปัจจุบันที่ท่านอยู่ขึ้นกับกิ่งอำเภอโพธิ์ตาก น่าจะแยกตัวมาจากศรีเชียงใหม่ สำหรับเพื่อนที่จะไปนมัสการที่หนองคาย ให้โทรติดต่อน้องเขยและน้องสาวท่าน ติดต่อที่คุณเกษมก่อน ซึ่งอาศัยอยู่แถวตลาดที่อำเภอท่าบ่อ เบอร์โทร  081-873-0597 นัดหมายกันเรียบร้อยแล้วคุณเกษมจะพาเข้าไปไปวันเสาร์ได้ยิ่งดี เพราะน้องเขยและน้องสาวยังราชการครูอยู่ เพื่อนสนิทท่านที่ยังติดต่อและท่านมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอคือครอบครัวของเพื่อนหนูและเพื่อนเม้ง เล่าแค่นี้ก่อนนะ ผิดพลาดที่ไปกล่าวถึงใครขออภัยด้วยครับ

บุญฤทธิ์ ภูริยากร
17/03/58




Create Date : 19 มีนาคม 2558
Last Update : 19 มีนาคม 2558 10:03:52 น.
Counter : 1844 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
มีนาคม 2558

1
3
4
8
10
11
13
15
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog