เราเข้าสู่ยุคเครื่องจักรและอุตสาหกรรมมานับร้อยปี มีความสามารถเดินทางออกนอกโลกไปเหยียบดวงจันทร์-ดาวอังคาร แต่ชนเผ่าในอัฟริกาหลายประเทศยังทำการเกษตรแบบดั่งเดิมและล่าสัตว์ เหมือนประเทศไทยเมื่อ1500ปีมาแล้ว ชนเผ่ามาไซ ไม่มีบ้านหลังโต-รถยนต์หรู-เงินฝากธนาคาร แต่พวกเขาก็อยูได้และมีความสุขจากความยากไร้และขาดแคลนอันเนืองจากความแห้งแล้งของแผ่นดินอาศัยมาจนกระทั่งปัจจุบัน
ภาพจาก www.thongloke.com
การกระโดดของชาวมาไซ มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับผู้ชายชาวมาไซ
ซึ่งถ้าใครสามารถกระโดดได้สูงคนๆ นั้นก็จะเป็นที่ดึงดูดใจสำหรับ
เพศตรงข้ามและเพื่อนร่วมสังคมในความสามารถ
การเต้นรำแบบนี้จะเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจของเหล่านักรบชาวมาไซ
ก่อนการออกล่าสัตว์หรือออกรบกับเหล่าศัตรูเผ่าอื่นๆ
การเต้นรำนี้จะออกไปในแนวเข้มแข็งและปลุกใจให้ฮึกเหิม
ภาพจากwww.tkc.go.th
ชาว มาไซดำรงชีวิตด้วยการเลี้ยงสัตว์เร่รอน สัตว์ที่เลี้ยงก็คือวัว แพะ และแกะ ซึ่งนอกจากจะเลี้ยงไว้บริโภคแล้ว สัตว์เหล่านี้ยังอาจใช้แลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งสัตว์ประเภทเดิมและ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์เหล่านี้ หรือแม้แต่นำไปขายเพื่อแลกเป็นเงิน การเลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อนดังกล่าวนี้จะเป็นไปตามฤดูกาล กล่าวคือไม่ได้เร่ร่อนไปไหนก็ได้ แต่จะเร่รอนแบบกลับมาที่เดิมตามฤดูกาล
วิถี ชีวิตแบบเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนเช่นนี้ส่งผลให้ชาวมาไซต้องมีระบบบริหารการใช้ ที่ดินแบบสาธารณะ กล่าวคือ ทุกคนในกลุ่มมีสิทธิเท่าเทียมกันในการเข้าไปใช้ทรัพยากรที่มีอยู่บนที่ดิน ที่กำลังถือครองอยู่ในขณะนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในยามอุดมสมบูรณ์นั้น ชาวมาไซจะแบ่งที่ดินเป็นส่วนเพื่อให้แต่ละครอบครัวใช้ทำมาหากิน