Welcome to my blog
4 วัน 3 คืน กระบี่ ท่องแดนธรรมชาติจากผืนป่าสู่ท้องทะเลงาม (ตอนที่ 1: วันแรกที่อ่าวนาง)


สถานที่ท่องเที่ยว :อ่าวนาง, กระบี่ Thailand
พิกัด GPS :
8° 1' 46.18


ช่วงปลายปีแบบนี้ หลายคนคงกำลังมองหาที่เที่ยวสำหรับพักผ่อนให้กับตัวเองอยู่ใช่ไหมครับ ผมเองก็คงเหมือนกับใครหลายคน ที่ต้องการหาที่เที่ยวพักผ่อน ชาร์ตแบตให้กับตัวเองสำหรับปีที่หนักๆอย่างปีนี้

สำหรับในรีวิวตอนนี้ ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวยังจังหวัดหนึ่งที่เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของไทย ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านความสวยงามของธรรมชาติ จนชาวต่างชาติ ทั้งฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ต่างพากันแห่มาเยือน ที่นั่นก็คือ จังหวัดกระบี่ ครับ


ถ้าพูดถึงกระบี่ หลายคนคงต้องนึกถึงทะเลสวยๆที่ เกาะพีพี แน่นอน แต่จริงๆแล้ว กระบี่ไม่ได้มีดีแค่นั้นครับ หลายคนคงยังไม่รู้ว่า ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอื่นๆอีกมากมาย ตั้งแต่ป่าดงดิบที่มี สระมรกต ซุกซ่อนอยู่ ไปจนถึงท้องทะเลที่ไม่ได้มีดีแค่เกาะพีพีเท่านั้น แต่ยังมีเกาะอื่นๆอีกมากมายให้เราไปเที่ยวกัน
 

ทริปนี้ผมไปมาในช่วงวันหยุดยาว 10-13 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งปกติถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของกระบี่ แต่เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้แทบไม่มีชาวต่างชาติมาเที่ยวเลย กระบี่จึงเงียบเหงาลงไปมาก แต่ถ้ามองในแง่ดี การไปเที่ยวในช่วงนี้ ก็ทำให้เรามองเห็นกระบี่ในมุมมองใหม่ๆ และที่สำคัญ ทะเลช่วงนี้ถือว่าสวยที่สุดในรอบหลายๆปีเลยทีเดียว (เท่าที่ถามคนท้องถิ่นมา เค้าบอกว่า ตั้งแต่เกิดมา ก็เพิ่งเคยเห็นทะเลสวยที่สุดก็ตอนนี้แหละครับ) นอกจากนี้ ช่วงนี้ของยังถูก ค่าครองชีพต่ำ แถมยังมีมาตรการต่างๆจากทางภาครัฐอย่าง เราเที่ยวด้วยกัน และ คนละครึ่ง ทำให้ทริปนี้ประหยัดลงไปเยอะเลย
 
รู้จักกับจังหวัดกระบี่

เป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ฝั่งอันดามันของไทย ถือเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากมาเยือนที่นี่

สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของกระบี่ก็คงหนีไม่พ้นหมู่เกาะต่างๆ ใน อุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองกระบี่ ซึ่งมีที่เที่ยวทางทะเลต่างๆมากมาย ได้แก่ เกาะพีพี อ่าวมาหยา เกาะปอดะ ทะเลแหวก อ่าวไร่เลย์ และ ถ้ำพระนาง นอกจากนี้ กระบี่ยังมีที่เที่ยวบนฝั่ง ไม่ว่าจะเป็น สระมรกค และ น้ำตกร้อน ที่อยู่ในเขต อำเภอคลองท่อม ไปจนถึง วัดถ้ำเสือ ซึ่งมีจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วยครับ

 
 
ย่านท่องเที่ยวหลักของกระบี่อยู่ที่ อ่าวนาง ครับ ที่นี่จะมีที่พักหลากหลายเกรดตั้งแต่โฮสเทลราคาถูก ไปจนถึงรีสอร์ทหรูๆ และยังมีร้านอาหาร ร้านขายทัวร์ ร้านขายยา คลินิก ไปจนถึงมัสยิด ดังนั้น ถ้าใครจะมาเที่ยวกระบี่ ผมขอแนะนำให้มาพักในย่านนี้ เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับการเดินทางไปเที่ยวยังที่ต่างๆภายในจังหวัด
 
 
เที่ยวช่วงไหนดี

ภูมิอากาศของที่นี่จะคล้ายๆกับจังหวัดอื่นในภาคใต้ฝั่งอันดามัน กล่าวคือ ช่วงที่น่าเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงพฤษภาคม ส่วนช่วงอื่นของปีเป็นฤดูมรสุม ไม่น่าเที่ยวครับ

 
 
สำหรับทริปนี้ ผมเดินทางไปในช่วงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งอากาศดีมาก แทบไม่เจอฝนเลย คลื่นลมค่อนข้างสงบ และที่สำคัญอากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะวันที่เดินเที่ยวชมสระมรกตนี่ฟินมาก ส่วนข้อเสียของช่วงนี้คือ ปกติช่วงนี้จะเป็นช่วงไฮซีซั่น ค่าใช้จ่ายต่างๆจะค่อนข้างสูงซะหน่อย แต่ผมไปในปีที่มีโควิด เลยไม่กระทบเท่าไหร่ (อันนี้บอกไว้ เผื่อในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า ใครมาอ่านบล็อกนี้จะได้รู้ไว้)

แผนเที่ยว

วันที่หนึ่ง
  • บินจากกรุงเทพไปยังกระบี่ ด้วยสายการบิน Thai Air Asia (FD7229)
  • เดินทางถึงสนามบินกระบี่ นั่งรถตู้จากสนามบินไปที่อ่าวนาง
  • เช็คอินเข้าที่พัก (อ่าวนาง ปรินซ์วิลล์ วิลล่า รีสอร์ท)
  • เดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกดินที่อ่าวนาง
  • กินซีฟู้ดที่ร้าน Family Thai Food & Sea Food
วันที่สอง
  • เหมารถทั้งวันเที่ยวสระมรกต น้ำตกร้อน และวัดถ้ำเสือ
วันที่สาม
  • ซื้อทัวร์เที่ยว 4 เกาะ และทะเลแหวก
วันที่สี่
  • เช็คเอาท์ นั่งรถตู้ไปสนามบิน
  • เดินทางกลับกรุงเทพ ด้วยสายการบิน Thai Air Asia (FD7211)
ที่พักที่จังหวัดกระบี่ (อ่าวนาง)

อย่างที่บอกไปในตอนแรกครับ ถ้าใครมากระบี่ ผมแนะนำให้มาพักที่อ่าวนาง เพราะถือเป็นศูนย์กลางสำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดนี้ สำหรับทริปนี้ ผมเลือกพักที่ อ่าวนาง ปรินซ์วิลล์ วิลลา รีสอร์ต แอนด์ สปา เป็นเวลา 3 คืน ราคารวมอยู่ที่ 4,212 บาท สำหรับ 2 คน โดยราคานี้หักส่วนลดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันเรียบร้อยแล้วครับ

ข้อดีของที่พักนี้คือ ทำเลดีมาก แทบจะติดหาดเลย (มีถนนคั่น) แถมพนักงานบริการดี ห้องใหญ่ สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาหารเช้าอร่อย ส่วนข้อเสียคือ ช่วงที่ผมไปพักมีบางส่วนของที่พักปิดซ่อม และมีการก่อสร้าง แต่ไม่ได้กระทบอะไรมากครับ เพราะเค้าทำช่วงกลางวันตอนที่เราออกไปเที่ยว

 

วันที่หนึ่ง

ทริปนี้เป็นทริปสบายๆกะมาพักผ่อนครับ เราเลยไม่ได้ออกเดินทางแต่เช้ามาก เที่ยวบินก็เป็นเที่ยวบินบ่าย เพื่อให้มาถึงที่พักช่วงเย็นๆ

 

รอบนี้บินกับหางแดงเจ้าเก่าเหมือนเดิมครับ ช่วงนี้ใครขึ้นเครื่อง Air Asia แนะนำให้ลองสั่งขนมปังเบบี้นมสดนูเทลล่ากับชานมไข่มุกมาลองทานกันดู ถ้าซื้อ 2 อย่าง ราคาแค่ 150 บาทเท่านั้นเองครับ แล้วไฟลท์ของคุณจะฟินขิ้นเยอะเลย
 

บินแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงสนามบินกระบี่แล้วครับ
 
 

การเดินทางจากสนามบินกระบี่ไปยังอ่าวนาง

ทริปนี้ผมเลือกพักที่ อ่าวนาง ซึ่งเป็นย่านโรงแรม รีสอร์ทใกล้ชายหาดของกระบี่ ซึ่งการเดินทางจากสนามบินถือว่าสะดวกสบายมากครับ พอเดินออกมาให้หาบูธหน้าตาแบบนี้ แล้วเข้าไปติดต่อซื้อตั๋วราคา 150 บาทต่อคน จากนั้นพนักงานเค้าจะพาเราไปขึ้นรถตู้ส่งถึงโรงแรมที่เราพักเลยครับ

 
 
 
รู้จักกับอ่าวนาง 

อ่าวนาง / อ่าวพระนาง ถือเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของกระบี่ครับ ที่นี่มีที่พักหลากหลายเกรด ตั้งแต่โฮสเทลไปจนถึงโรงแรมห้าดาว นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านค้า บาร์ บริษัททัวร์ ไปจนถึงร้านขายยา และคลินิก ดังนั้น ถ้าใครมากระบี่ ผมขอแนะนำให้เลือกพักที่นี่ครับ

 





อนุสาวรีย์ปลากระทงแทง หนึ่งในสัญลักษณ์ของอ่าวนาง
 

ถ้ามองออกไปในทะเลไกลๆ เราจะมองเห็นเกาะแก่งต่างๆมากมาย ซึ่งมีตำนานท้องถิ่นเล่าต่อกันมาดังนี้ครับ

ตำนานอ่าวพระนาง

มีตำนานเล่าว่า มีหมู่บ้านใหญ่ 2 หมู่บ้านตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล หมู่บ้านแรก มีหัวหน้าชื่อ "ตายมดึง" ส่วนอีกหมู่บ้านหนึ่ง มีหัวหน้าชื่อ "ตาวาปราบ" ซึ่งมีลูกชายชื่อ "บุญ" โดยทั้งสองหมู่บ้านนี้เป็นอริต่อกันมาช้านาน

ยายรำพึง ภรรยาของตายมดึง นอยากจะได้ลูกสาวไว้เชยชมสักคนหนึ่ง จึงไปบนบานศาลกล่าวกับ พญานาค ผู้เป็นเจ้ารักษาท้องทะเล ให้ดลบันดาลให้ตนมีลูกสาว แต่กลับมีข้อแม้ว่า เมื่อนางเป็นสาวแล้วจะต้องให้แต่งงานกับลูกชายของพญานาค ซึ่งมักแปลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาท่องเที่ยวอยู่เสมอ สองตายายก็รับสัญญา หลังจากนั้นไม่นานยายรำพึง ก็ท้อง และได้ลูกสาวสมใจ ให้ชื่อว่า "นาง"

เรื่องราวผ่านไปเมื่อ "นาง" โตเป็นสาว ก็เป็นที่หมายปองของ "บุญ" ซึ่งเป็นลูกชายของ "ตาวาปราบ" "บุญ" ได้ไปอ้อนวอนให้ "ตาวาปราบ" ไปขอคืนดีกับ "ตายมดึง" และขอให้ "นาง" ได้แต่งงานกับตน ด้วยความรักลูก "ตาวาปราบ" ยอมลดทิฐิไปสู่ขอ "นาง" ลูกสาว "ตายมดึง" ส่วนฝ่าย "ตายมดึง" ก็อยากจะให้ลูกสาวแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา จึงยอมตกลงยกลูกสาวให้ โดยลืมสัญญาที่ให้ไว้กับ พญานาค

เมื่อวันแต่งงานมาถึง ฝ่ายเจ้าบ่าวก็จัดกระบวนขันหมากยาวเหยียดมาทางชายทะเล นำโดย "ตาวาปราบ" สะพายดาบไว้บนบ่าทั้งซ้าย ขวา เล่มหนึ่งใหญ่ เล่มหนึ่งเล็ก ในขณะที่งานกำลังดำเนินไปด้วยความสนุกสนานนั้น เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น พญานาคที่แปลงกายมาเป็นมนุษย์ ก็เข้าแย่งชิงเจ้าสาว เกิดวิวาทฆ่าฟันกันขึ้น ร้อนถึงพระฤาษีซึ่งบำเพ็ญตบะอยู่ในถ้ำออกมาห้ามปราม แต่ไม่มีใครเชื่อฟังพระฤาษีโกรธมาก จึงสาปให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นหิน ไม่ว่าจะเป็นผู้คน เครื่องใช้ บ้านเรือนก็กลายเป็นภูเขา เป็นถ้ำ เป็นเกาะแก่งในทะเลทั้งสิ้น เช่น บ้านเจ้าสาวกลายเป็นภูเขา เรือนหอกลายเป็นถ้ำ เรียกว่า ถ้ำพระนาง ข้าวเหนียวกวนที่นำมาเลี้ยงกันหกเรี่ยราดกลายเป็นเปลือกหอยทับถมในทะเลต่อมากลายเป็น สุสานหอย ฝ่ายพญานาคพยายามกระเสือกกระสนลงทะเลแต่ไปไม่ถึงกลายเป็นหินทางด้านเหนือชาวบ้านเรียกว่า หงอนนาค บริเวณที่พญานาคกลิ้งเกลือกกลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ชาวบ้านเรียกว่า หนองทะเล

 

 
ในช่วงเย็นๆ กิจกรรมที่ห้ามพลาดคือ การมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่อ่าวนาง สำหรับผม ที่นี่ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของไทยเลย
 

 

ประติมากรรมยายสา

ยายสาเป็นประติมากรรมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2561 โดยนายคามิน เลิศชัยประเสริฐ ศิลปินชาวไทยที่นำเสนอในงานศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ 

สำหรับตำนานของยายสา ที่นายคามิน เลิศชัยประเสริฐ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการสื่อ เป็นเรื่องราวของหญิงชราคนหนึ่งที่เป็นชาวจังหวัดกระบี่ วัย 89 ปี ที่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง โดยเธอเฝ้ารอคอยสามีที่ล่องเรือสู่ท้องทะเลด้วยความหวัง รอตั้งแต่เช้ายันเย็นยันค่ำ

ประติมากรรมยายสาตั้งอยู่ภายในกล่องขนาดใหญ่ด้านในมืดทึบ จัดวางถ้ำไว้ริมหน้าผา ด้านหน้าเป็นทะเลกว้าง โดยตัวหุ่นหันหน้าออกทะเล สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้อย่างพอดี

 

 
ร้าน Family Thai Food & Seafood

ในเมื่อมาทะเลทั้งที เราก็ต้องกินซีฟู้ดครับ ตอนแรกผมก็ไม่ได้กะจะมากินร้านนี้หรอก แต่เนื่องจากช่วงที่ผมไป อ่าวนางเงียบเหงามาก ร้านอาหารต่างๆปิดไปเยอะ ร้านที่กะว่าจะไปกินตอนแรกก็ปิด พอเดินไปเรื่อยๆเลยมาเจอร้านนี้ครับ

ผมสั่งอาหารไป 4 อย่าง ได้แก่ ปลากะพงทอดน้ำปลา, หมึกผัดไข่เค็ม, ใบเหลียงผัดไข่ และ ทอดมันกุ้ง และมีผลไม้แถมฟรีให้ด้วย อาหารทั้งหมดนี้อร่อยใช้ได้เลยครับ แถมราคาก็ถูก ทั้งหมดนี้ ผมจ่ายไปแค่ 375 บาทเท่านั้น (ราคานี้หักส่วนลดโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้ว ถ้าจ่ายเต็มคือ 625 บาทครับ)

 

โดยรวมผมชอบร้านนี้นะครับ พนักงานบริการดี  อาหารอร่อย ราคาถูก เลยเอามาบอกต่อ ใครมาอ่าวนางแนะนำให้มากิน แต่ร้านนี้จะไม่ติดถนนนะครับ ต้องเดินเข้าซอยไปนิดเดียว ใครสนใจจะไปทานให้ลองเปิด google map หรือลองทักไปสอบถามที่เพจได้ครับ https://www.facebook.com/FamilyAonang

ทานอาหารเย็นเสร็จ ผมก็เดินช็อปปิ้งแถวนั้นต่ออีกนิดหน่อย แล้วก็เดินกลับที่พัก ทริปในวันแรกก็จบเพียงเท่านี้ครับ

บล็อกอื่นที่เกียวข้อง



Create Date : 29 ธันวาคม 2563
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2566 22:59:00 น. 3 comments
Counter : 7828 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:3:23:30 น.  

 
ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวภาคใต้ครับ ตามไปเที่ยวแบบแห้งๆด้วยคนครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:13:59:49 น.  

 
ตามมาเลยครับ ช่วงนี้มีเวลาน้อย แต่จะพยายามเขียนให้จบครับ


โดย: เจ้าสำนักคันฉ่องวารี วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:22:35:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าสำนักคันฉ่องวารี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ชอบท่องเที่ยว สนใจประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการเมืองระหว่างประเทศ

Blog นี้จะใช้เขียนความทรงจำในการเดินทาง และวิธีการเดินทางอย่างละเอียด เผื่อใครจะมาตามรอย หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

ถ้าชอบ blog เนื้อหาประมาณนี้ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เจ้าสำนักคันฉ่องวารี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.