Toradora! : episode 9



- ในความฝัน ริวจิก้มหัวขอแต่งงานกับไทกะ ซึ่งไทกะก็ยอมตกลงด้วยท่าทีวางอำนาจเช่น
เดิม จากนั้นริวจิจึงได้เห็นบ้านสุนัขขนาดใหญ่ที่เลื่อนมาสู่สายตาเขา พร้อมกับยาสึโกะคอส
ชุดหมา อุ้มลูกหมาน้อยสักขีพยานความรักของทั้งไทกะและริวจิมาให้ดู พร้อมกับคำยืนยันจาก
ปากของไทกะ(ในชุดสุนัขเต็มยศ)ว่านั่นเป็นลูกของริวจิ ทำให้ริวจิผวาตื่นขึ้นมา เมื่อเขา
เริ่มซักผ้าพลางบ่นความฝันที่เพิ่งเกิดขึ้นไป ไทกะก็ตื่นขึ้นมาบอกเขาว่าเธอฝันถึงเรื่องที่ริวจิ
เป็นสุนัข และเป็นสามีของเธอด้วย แล้วตบท้ายด้วยการบอกเขาว่า มันเป็นความฝันที่เลว
ร้ายสิ้นดี
- ไทกะนำริวจิออกมาแข่งแบดมินตันกันเพื่อหาผู้ที่จะได้รับการสนับสนุนจากอีกฝ่ายอย่างเต็ม
ที่ในการไปเที่ยววันรุ่งขึ้น เพราะเธอเชื่อว่าความฝันเมื่อคืนจะเป็นลางบอกเหตุถึงอนาคต
ของทั้งคู่ ซึ่งถ้าปล่อยไว้ก็อาจจะเป็นจริง ซึ่งผู้ชนะคือริวจิ ในวันต่อมาเมื่อทั้งคู่เดินไปถึง
สถานีโตเกียว ริวจิก็หวั่นใจว่าแผนที่ว่าจะได้ผลรึเปล่า ไทกะก็ตอบอย่างเซ็งอารมณ์ว่าหลัง
จากทริปคราวนี้ ความสัมพันธ์ของริวจิกับมิโนริจะก้าวหน้าขึ้นมากแน่นอน ทันใดนั้นก็ปรากฏ
ร่างของมิโนริและคิตามูระเข้ามาทักทายทั้งคู่ด้วยการเต้นอาลีบาบา~ พร้อมกับชวนไทกะและ
ริวจิมาร่วงวงด้วย เมื่ออามิมาถึงก็ต้องพบกับภาพแสยงลูกตาของนักเรียนม.ปลายสี่คนเรียง
แถวเต้นสยายมือ ทำเอาเธอรีบเดินหนีไปเลย
- ในระหว่างเดินทางบนรถไฟทั้งคู่เริ่มแผนการโดยให้ริวจิไล่ถามเรื่องที่แต่ละคนต้องทำใน
ช่วงปิดภาคฤดูร้อนโดยพอมาถึงคิวของไทกะ เธอจึงให้มิโนริฟังผลงานเสียงหวีดสยองที่เธอ
อัดเก็บไว้ ทำให้มิโนริออกอาการผวาสุดขีด พิสูจน์คำที่ไทกะบอกเขาไว้เมื่อวานว่ามิโนรินั้น
แพ้ทางเรื่องขนหัวลุกแบบสุดๆ ตามแผนการนั้น ไทกะจะพยายามหลอกมิโนริให้ผวาเปิด
โอกาสให้ริวจิเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้าไปช่วยเหลือหล่อน เมื่อทั้ง 5 คนมาถึงที่หมายแล้ว
อามิเห็นว่าควรจะทำความสะอาดที่พักกันเพราะไม่มีคนใช้มาเป็นปีแล้ว ข่าวนี้ปลุกพลังพ่อบ้าน
ที่หลับไหลอยู่ของริวจิให้ลุกโชน แต่คนอื่นนั้นพากันไปเล่นน้ำหมดปล่อยให้ริวจิทำความสะอาด
ที่พักอยู่คนเดียว
- ตกเย็น คิตามูระจะออกไปซื้อกับข้าวเข้ามาทำกิน ริวจิจึงเสนอให้ไทกะไปกับเขาด้วย แต่
ไทกะกลับปฏิเสธโดยบอกว่าเธอกลัวการนั่งมอเตอร์ไซค์ คิตามูระจึงไปกับมิโนริแทน ไทกะ
จึงแก้เขินด้วยการบอกว่าเธอต้องใช้เวลานี้หาจุดทำตามแผนการ ริวจิจึงหยอกไปว่าไทกะ
เขินก็พูดออกมาตรงๆก็ได้ก่อนจะโดนไทกะอัดปากไม่ให้พูดได้ต่อ ภายหลังเมื่อริวจิเดินดูตาม
แต่ละห้อง เขาเปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินเข้าไปข้างในพร้อมพบว่าอามิอยู่ในอ่างอาบน้ำ เมื่อ
เขาจะรีบออกไป อามิก็จับแขนรั้งตัวเขาไว้พร้อมเชิญชวนให้เขาเข้าไปในอ่าง เมื่อไล่ต้อน
ริวจิจนมุมแล้ว เธอจึงเปิดม่านออกมาบอกให้เขาเข้าไปทำความสะอาดข้างใน เมื่อถูกอามิ
เล่นหัวแบบนี้ริวจิจึงรีบแจ้นไปฟ้องไทกะ ก่อนโดนไทกะตวาดซ้ำอีกรอบ แต่ไทกะก็เดินขึ้นไป
ช้ันบนเพื่อจะสั่งสอนอามิแก้แค้นให้ริวจิด้วย เธอกลับเปิดเข้าไปเจออามิกำลังอาบน้ำอยู่จริงๆ
เมื่อไทกะเดินลงมาพร้อมกับรอยตบบนแก้มข้างซ้าย เธอที่อยู่ในอาการช๊อกก็เริ่มพรรณนาถึง
สรรพคุณของความตู้มที่ได้ประสบพบเจอ ก่อนที่อามิจะออกมาขว้างขันใส่หัวไทกะลงไปนอน
สลบเหมือด
- เมื่อมิโนริกลับมาจากซื้อของ ไทกะก็เริ่มดำเนินแผนต่อโดยนำสาหร่ายทะเลมาวาดผ่าน
หลังของมิโนริพอให้สยิวเล่น พร้อมกับที่ไทกะชูนิ้วโป้งแสดงความสำเร็จ จากนั้นริวจิจึงเริ่ม
ทำกับข้าวให้ทุกคนกิน โดยมีเมนูเป็นแกงกะหรี่ เมื่อคิตามูระโผล่มาก็ทำเอาทุกคนตะลึงใน
สรีระที่ไร้อาภรณ์ประคองกาย โดยมีแค่ผ้าเช็ดตัวปิดของลับเอาไว้ไม่ให้โผล่ เมื่อไทกะที่
ช็อคกับภาพที่เห็นร่วงไปกองกับพื้นแล้ว มิโนริก็เข้าโหมดตาลุงหยิบกล้องมือถือออกมาถ่ายนู้ด
คิตามูระในมุมต่างๆ พอคิตามูระเริ่มเขิน มือขวาที่กำผ้าไว้ก็หลุดไปโดยไม่เจตนา ทำให้
มิโนริที่กำลังถ่ายภาพอยู่นั้นเห็นชั่วครู่แห่งสาหร่ายทะเลดำประจักษ์ซึ่งแก่ตา แม้ริวจิจะเข้ามา
รับผ้าไว้ได้ทันก่อนจะอุจาดไปกว่านี้ แต่มิโนริที่เผชิญกับผีสาหร่ายก็ลงไปนอนหงายตายแล้ว
โดยคำขอสุดท้ายของเธอที่มีต่อริวจินั้นคือ "ช่วยทำแกงกะหรี่ให้เผ็ดสะระตี่ทีเถอะ!"
- หลังจากที่ทุกคนผ่านแกงกะหรี่สูตรเด็ดเผ็ดสะท้านของริวจิไปได้แล้ว ทุกคนก็มากินไอติม
แก้เผ็ดกันโดยไทกะนั้นถึงกับแสบท้องเพราะรับอาหารรสจัดไม่ไหว คิตามูระจึงชวนไทกะไป
กินยาที่ห้องของเขา ริวจิจึงรีบรับลูกตอบตกลงให้กับไทกะทันที เมื่อทั้งคู่จากไปแล้ว อามิจึง
ได้ทีเข้าไปหยอกริวจิบ้าง จนริวจิถึงกับรำพันว่าอยู่กับอามินี่ไม่เคยได้เบื่อเลย ก่อนที่อามิจะ
ได้โอกาสชวนริวจิไปเดินหาดกันสองต่อสอง มิโนริก็เรียกให้เขามาช่วยเธอล้างจานก่อน
ริวจิจึงไม่ทันได้ฟังคำชวนของอามิ อามิจึงปัดว่าเธอไม่ได้พูดอะไร
- เมื่อไทกะกินยาเสร็จแล้ว คิตามูระจึงถามถึงอาการของเธอ ไทกะก็ไม่ตอบอะไรเพราะ
ความเขิน คิตามูระจึงเสนอให้ไทกะลงนอนบนเตียงเพื่อฟื้นตัว ส่วนริวจิกับมิโนรินั้นหลังจาก
ล้างจานกันเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็ออกมากินขนมที่เธอซื้อมา ขณะที่ริวจิกินไปพลางมองมิโนริไป
พลาง มิโนริจึงมองฟ้าพร้อมกับชื่นชมดวงดาวยามราตรีไป เมื่อริวจิเห็นว่าเป็นโอกาสแล้ว
เขาจึงเสี่ยงถามเธอไปว่ามิโนริมีแฟนแล้วหรือยัง เธอจึงเริ่มพูดถึงผีสาหร่ายเมื่อครู่ว่ายัง
อยู่แถวนี้หรือไม่ แล้วถามริวจิว่าเขาเคยเห็นผีมาก่อนมั้ย ริวจิที่งงอยู่จึงตอบไปตรงๆว่าไม่
เคย มิโนริจึงอธิบายว่าเธอเชื่อว่าผีมีอยู่จริง แม้เธอจะไม่เคยเห็นกับตาเองก็ตาม แถมเธอ
ยังไม่เชื่อเรื่องเล่่าของคนอื่นที่เคยประสบพบเห็นมาก่อนเลยด้วย แต่เธอก็ยังเชื่อว่ามันมีอยู่
จริง ซักวันเธอคงจะพบเจอความรัก ได้แต่งงาน ได้มีความสุข แม้ว่าจนบัดนี้คนที่ทำให้เธอ
รู้สึกแบบนั้นจะยังไม่โผล่มา ในโลกนี้ ความรักนั้นยังเป็นสิ่งที่ไกลห่างจากตัวเธออยู่มาก
เพราะเธอมองไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น เหมือนดังกับที่เธอคิดว่าโลกนี้ไม่มีผีสางแล้ว ชั่วทั้งชีวิตนี้
เธอก็จะไม่ได้พานพบกับสิ่งเหล่านั้น เป็นบทสรุปของคำตอบว่า ไม่มี เธอจึงถามเขาว่าแล้ว
ริวจิเป็นคนที่เคยเห็นผีสางหรือไม่? ริวจิจึงตอบว่าเขาเป็นคนที่อยากจะเห็นมัน เขาเลยลอง
ไปในที่ๆเขาลือว่ามี เช่า DVD หนังผีมาดู เขาอยากรู้ถึงความรู้สึกของคนที่เคยเห็นของพวก
นี้ว่าในครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นนั้น ความรู้สึกมันเป็นยังไงกันแน่? ระหว่างคนที่ไม่เชื่อถือมัน
กับคนที่พยายามขวนขวายจนได้พบกันมันในที่สุด เขาคิดว่าคนแบบนี้อยู่ ถ้ามิโนริตัดสินใจว่า
ทั้งชีวิตเธอจะไม่พบเจอกับเรื่องแบบนี้ เขาก็ไม่ว่าอะไร ทันใดนั้นมิโนริก็ชี้ให้ดูดาวบนฟ้าที่
เคลื่อนไหวอยู่ว่าเป็น UFO รึเปล่า ริวจิคิดว่ามันเป็นดาวเทียมมากกว่า ริวจิจึงสำทับต่อว่า
เขาอยากให้ซักวันหนึ่งมิโนริได้มีโอกาสเห็นกับตาตัวเอง ผีที่เธออยากเห็นนั้นอาจอยู่ไม่ไกล
จากตัวเธอนักก็เป็นได้ มิโนริจึงถามกลับไปว่าเพราะงี้รึเปล่า วันนี้ถึงมีเรื่องประหลาดเกิด
ขึ้นบ่อย จนเธอเริ่มรู้สึกติดใจกับผีสาหร่ายตัวนั้นเข้าซะแล้ว พร้อมกับกระซิบว่าเธอจะได้เห็น
มันเข้าซักวันก็ได้ แล้วหัวเราะกลบเกลื่อนจนริวจิต้องคอมเมนต์ว่าแปลกคน
- เมื่อไทกะหายปวดท้องแล้ว เธอก็มาเรียกให้ริวจิลงไปทำกับข้าวมื้อดึกให้เธอกิน เมื่ออิ่ม
แล้ว เธอก็ถกถึงเรื่องแผนการต่อเพราะเห็นว่าริวจิไม่ได้คืบหน้าไปถึงไหน ริวจิจึงตอกกลับ
ไปบ้าง ไทกะเองก็ยอมรับว่าการได้อยู่กับคิตามูระทั้งวันนั้นทำให้เธอประหม่าและตื่นเต้นจน
เธออยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่พอมาอยู่กับริวจิแล้ว เธอก็รู้สึกสบายใจ ถึงแม้จะอยู่
กันในห้องใหญ่ๆแบบนี้ พวกเธอก็ยังคงใกล้ชิดกันอยู่ อาจเป็นเพราะความเคยชินที่อยู่ด้วยกัน
ในหอพักหลังเล็กๆนั้น เธอจึงรำพึงว่าบางทีความฝันที่ได้เห็นนั้นอาจจะมีความหมายอะไรที่
ลึกซึ้งกว่าที่คิด เมื่อริวจิตามความคิดของไทกะไม่ทัน เธอจึงขอตัวไปนอนก่อน เมื่อริวจิกลับ
ถึงห้อง เขาก็พบรอยน้ำรูปร่างคนเตียงนอนของเขาพร้อมเส้นผมปรอยๆติดอยู่บนหมอน ซักครู่
ไทกะก็เข้ามาเรียกให้เขาไปดูสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในห้องของเธอด้วย โดยมีชุดกระโปรงของ
ไทกะเปียกเละวางกองอยู่บนเตียง เมื่อทั้งคู่ได้เห็นดังนั้น ก็เกิดเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
พร้อมรับกับเสียงเคาะระเบียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่เชื่อว่านี่เป็นความฝันต่อจากบ้านคุณหมา
ของเมื่อคืน ถ้าทั้งคู่หลับตาลงไป ทั้งคู่ก็จะตื่นมาพบกับความจริง... รึเปล่า?

ตอนนี้เป็นตอนที่น่ารักดีนะครับ จำได้มั้ยครับว่าผมเคยบอกว่าไม่ชอบความไฮเปอร์สุดเหวี่ยง
ของมิโนริในตอนแรกๆ แต่เมื่อผมได้เห็นอีกด้านที่ขี้กลัวของมิโนริแล้ว ผมก็เริ่มจะโอนอ่อน
ให้กับเสน่ห์ของเธอแล้วบ้างเหมือนกัน ตอนนี้เข้าใจเปรียบเปรยเอาประสบการณ์เรื่องสัมผัส
วิญญาณหลอนมาขานรับกับความรู้สึกรักชอบพอคนได้อย่างน่าสนใจดี ที่เปรียบการมองเห็นผี
ได้เหมือนกับคนที่ได้เจอความรักในที่สุด เป็นอุปมาที่มิโนริยกขึ้นมาแล้วริวจิรับลูกได้สวย สื่อถึง
สิ่งที่ตัวเองคิดออกมาได้แบบไม่ต้องเปิดเผยความจริงในใจออกมา ถ้ามิโนริยังไม่เคยชอบ
ใครมาก่อน พ่อบ้านตาโหดก็ดูจะทำคะแนนในส่วนนี้ได้ไม่เลวเอาเลยล่ะครับ อีกด้านนั้นความ
สัมพันธ์ของไทกะกับริวจิก็ยิ่งแน่นขึ้นไปอีกขั้นถึงขนาดฝันเรื่องการสร้างบ้านหมาอยู่ด้วยกันเลย
ตัวของไทกะเองก็เริ่มจะเห็นข้อเท็จจริงแล้วเช่นกันระหว่างคนที่ตัวเองมีความรู้สึกรักแบบ
แรกรุ่นกับคนที่เธออยู่ด้วยได้อย่างสบายใจ แม้ริวจิจะยังไม่ได้มองประเด็นนี้ลึกเท่า
กับไทกะ แต่เขาก็คงไม่รู้ตัวอีกเช่นกันว่า ณ ตอนนี้ ริวจิเริ่มเปิดประตูฮาเร็มขึ้นมาแล้ว แม้ผม
จะเดาผิดไปไกลว่าตอนนี้ริวจิกับอามิจะได้มีโอกาสสวีทกันหน่อย แต่ผมก็ยังไม่ปิดประตูความ
คิดนี้และคิดว่าตอนต่อไปอามิจะรุกหนักยิ่งกว่านี้ ทดแทนที่พลาดไปในตอนนี้เป็นแน่


Create Date : 06 ธันวาคม 2551
Last Update : 6 ธันวาคม 2551 22:15:37 น. 2 comments
Counter : 559 Pageviews.

 
เอ่อขอประทานโทษอย่างยิ่งคับมีอนิเมมั้ยครับถ้ามีก็ขอความกรุณาช่วยส่งมาด้วยนะครับถ้าจะให้ดีขอตอน 10ด้วยนะครับเมล์ผมmanchan_panithan@hotmail.com


โดย: แมนชั่น IP: 125.26.233.101 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:19:59:25 น.  

 
ผมเป็นแฟนเรื่องนี้


โดย: แมนชั่น IP: 125.26.233.101 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:20:03:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

suckoja
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ตัวเรานั้นเป็นเพียงเศษละอองแห่งดวงดาว...
เล็กกระจิ๋วเมื่อเทียบกับสากลโลก...
แต่เศษละอองนี้จะเปลี่ยนแปลงโลกได้...
ด้วยศรัทธา...

Thomas Clover's Facebook profile

Suckoja Updates

    Group Blog
     
    All Blogs
     
    Friends' blogs
    [Add suckoja's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.