กรี๊ด!!! วีซ่าไม่ผ่าน เพราะอะไรๆๆๆ
เหตุผลที่วีซ่าไม่ผ่านมันคืออะไร ???
เข้าเดือนสิงหาคม 2016 แล้วนะคะวีซ่านักเรียนของประเทศออสเตรเลียระบบใหม่ที่เราเรียกกันว่า SSVF หรือ Simplified Student VisaFramework ก็เริ่มใช้งานกันมาได้1เดือนเต็มแล้วนะคะ ซึ่งมีทั้งเสียงตอบรับที่แตกต่างกันหลายเสียงค่ะบางคนก็บอกว่าไม่ต่างจากระบบเดิม บางคนก็บอกว่าวีซ่ายากขึ้นค่ะ แต่น้องๆนักเรียนก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพียงแค่เลือกเอเจ้นท์ที่มีความชำนาญและเชื่อถือได้น้องๆ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องวีซ่าค่ะ สิ่งสำคัญที่น้องๆ นักเรียนพึงระลึกไว้เสมอนั้นคือน้องๆใช้ Student Visa ในการเข้ามาอยู่ในประเทศออสเตรเลียซึ่งวีซ่านักเรียนนี้หมายความว่า เราต้องรักษาสภาพความเป็นนักเรียนให้ดีค่ะอย่าให้ทางอิมมิเกรชั่นมองว่าเรามาทำงานนะคะ ทางอิมมิเกรชั่นเรียกสิ่งนี้ว่า GTEคือ Genuine Temporary Entrance ซึ่งก็ประกอบไปด้วยหลายอย่าง
ตัวอย่างเหตุผลโดยทั่วไปที่ทำให้วีซ่านักเรียนไม่ผ่านคือ 1. ยื่นเอกสารปลอมหรือ ทางอิมมิเกรชั่นสงสัยว่ามีวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่นในการขอวีซ่านักเรียน 2. มีประวัติอาชญากรรมหรืออยู่ระหว่างการติดโทษ 3. ไม่สามารถพิสูจน์ถึงความผูกพันกับประเทศที่ตนเป็นประชากรอยู่ได้ 4. อิมมิเกรชั่นเล็งเห็นถึงความตั้งใจที่จะไปอาศัยอยู่อย่างถาวรหรือทำงาน โดยผิดเงื่อนไขของวีซ่านักเรียน 5. ไม่มีทุนทรัพย์ที่เพียงพอในการใช้จ่ายระหว่างที่เป็นนักเรียนและอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย 6. เป็นโรคติดต่อเช่น วัณโรค ซึ่งประเทศออสเตรเลียเข้มงวดมาก 7. มีประวัติการทำผิดเงื่อนไขวีซ่าหรือฝ่าฝืนกฎของวีซ่ามาก่อนในอดีต เช่น อยู่เกินระยะเวลาของวีซ่า 8. แลดูเหมือนไม่มีความตั้งใจที่จะเดินทางกลับประเทศ พี่ขอยกตัวอย่างเป็นเคสดีกว่านะคะจะได้เข้าใจง่ายขึ้น น้องคนที่ 1: น้องลงเรียนภาษา 1 ปีแล้วต่อด้วยหลักสูตรวิชาชีพด้านบริหารธุรกิจค่ะ แรกๆ น้องก็เข้าเรียนเต็มเวลาแต่พอน้องเริ่มทำงานพิเศษเยอะเข้า ก็มีตื่นไปเรียนไม่ไหว ไปเรียนสาย หรือโดดเรียนบ้างบางครั้งทำให้น้องพัฒนาภาษาอังกฤษได้ช้า และเข้าเรียนไม่ถึง80% ค่ะ แต่ก็ไม่ได้มากนัก ทางโรงเรียนเตือนมาน้องยังแก้ตัวทัน พอเข้าเรียนในหลักสูตรวิชาชีพน้องสนุกกับการทำงานได้เงินเยอะขึ้น โดดเรียนบ่อย ส่งการบ้านไม่ครบทำให้มีปัญหาดูเหมือนไม่ตั้งใจเรียนค่ะ พอน้องเรียนครบ 6 เดือน น้องก็ย้ายโรงเรียนไปเรียนหลักสูตรที่ง่ายขึ้น วันเรียนน้อยลง การย้ายโรงเรียนโดยเรียนไม่จบแบบนี้จะส่งผลถึงการต่อวีซ่าในอนาคตค่ะเพราะทางอิมมิเกรชั่นจะมองว่านักเรียนไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเรียนจริงๆนักเรียนพยายามหาโรงเรียนที่มีค่าเรียนถูก เข้าเรียนน้อยซึ่งเป็นโรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐานเพื่อเอาเวลาไปทำงานค่ะ ตามกฏของการมาเป็นนักเรียนที่ออสเตรเลียนักเรียนต่างชาติจะต้องเป็น Full-time นะคะและจะต้องเข้าเรียนไม่ต่ำกว่า 80% หากนักเรียนขาดเรียนเกินทางโรงเรียนจะแจ้งเตือนค่ะหากนักเรียนยังขาดเรียนอยู่โรงเรียนจะแจ้งไปทางอิมมิเกรชั่นและอาจถูกยกเลิกวีซ่านักเรียนได้นะคะ
น้องคนที่ 2: น้องคนนี้ต่อวีซ่านักเรียนมา 2รอบแล้วค่ะ เริ่มตั้งแต่เรียนภาษาอังกฤษมา 9เดือนแล้วแต่ภาษายังไม่ผ่านเกณฑ์ที่จะเข้าเรียนในหลักสูตรวิชาชีพที่ลงมาทางด้านการเงินและบัญชีค่ะน้องจึงต้องลงเรียนภาษาเพิ่ม และเลื่อนคอร์สเรียนออกไป พอน้องสอบภาษาผ่าน เริ่มเรียนในหลักสูตรวิชาชีพน้องกลับรู้สึกว่ายากและไม่ถนัดเลย จึงขอเปลี่ยนไปเรียนหลักสูตรการท่องเที่ยวแทนเมื่อน้องเรียนจบ น้องลงทะเบียนหลักสูตรวิชาชีพด้านบริหารธุรกิจค่ะซึ่งวีซ่าก็ผ่านาด้วยดี พอเรียนๆ ไป เวลาเรียนไม่เหมาะสมกับตารางการทำงานค่ะ น้องจึงเปลี่ยนไปเรียนการโรงแรมแทนเมื่อจบหลักสูตร ก็ได้เวลาต่อวีซ่ากันอีกครั้งค่ะ น้องลงเรียนหลักสูตรวิชาชีพอีกครั้งแต่คราวนี้เรียนเจาะทางด้านการตลาด ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีค่ะน้องพยายามรักษาสถานะภาพการเป็นนักเรียนให้ดีที่สุดเพราะได้รับคำเตือนเรื่องการส่งการบ้าน และการขาดเรียนมาอยู่บ่อยๆ ค่ะ มาถึงการขอวีซ่าครั้งที่ 3 คราวนี้น้องโชคไม่ดีค่ะน้องโดนปฏิเสธวีซ่า! สิ่งที่ทางอิมมิเกรชั่นเพ่งเล็งคือน้องเรียนไม่จบมาหลายหลักสูตร เปลี่ยนคอร์สเรียนหลายครั้งหลักสูตรที่เรียนอยู่ในระดับเดิมมาตลอดระยะเวลา 8 ปีค่ะ ซึ่งยาวนานมากรวมทั้งทางอิมมิเกรชั่นมองว่า นักเรียนเลือกเรียนในหลักสูตรที่ระยะสั้นและค่าเรียนถูก ยิ่งไปกว่านั้นทางอิมมิเกรชั่นนับวันกันเลยทีเดียวค่ะตลอดระยะเวลาที่น้องเรียนอยู่นั้น น้องเดินทางออกนอกประเทศเพียงแค่ 62 วันทำให้ดูเหมือนน้องดูเหมือนมีจุดประสงค์แอบแฝงในการใช้วีซ่านักเรียนเพื่อทำงานในประเทศออสเตรเลียค่ะ
การที่เราเป็นนักเรียนเราควรจะวางตัวให้สมกับการเป็นนักเรียนนะคะเมื่อตัดสินใจเลือกหลักสูตรที่เรียนแล้วก็ควรเรียนให้จบควรมีการเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ประเทศไทยบ้าง ไม่งั้นทางอิมมิเกรชั่นจะมองว่าน้องนักเรียนไม่มีความผูกพันธ์กับใครเลยที่ไทยนะคะทำให้ทางอิมมิเกรชั่นไม่เชื่อว่าเมื่อน้องเรียนจบแล้วจะกลับไทยค่ะ
น้องคนที่ 3: น้องคนนี้มาเรียนภาษาและปริญญาตรีค่ะซึ่งน้องเลือกเรียนปริญญาตรีในสาขาการบัญชีซึ่งเป็นสาขาเดิมที่น้องเรียนจบมาแล้วจากที่ประเทศไทย วีซ่าของน้องยาว 3ปีครึ่งค่ะ รวมทั้งเรียนภาษา แต่น้องเอาวิชาเรียนที่เรียนไปแล้วจากที่ไทยมาทำ Exemptionซึ่งคือการขอโอนหน่วยกิต ทำให้น้องเรียนจบเร็วยิ่งขึ้นถึง 6 เดือนด้วยกัน เมื่อน้องเรียนจบแล้วน้องไม่ได้ลงเรียนต่อค่ะ แต่ใช้เวลาที่เหลือไปทำงานพอวีซ่าใกล้หมด น้องอยากจะต่อวีซ่า ถึงโรงเรียนจะรับเข้าเรียนนะคะแต่วีซ่าน้องก็อาจจะไม่ผ่านค่ะ เพราะน้องทำผิดกฏของทางอิมมิเกรชั่นค่ะ เนื่องด้วยกฏของทางอิมมิเกรชั่น
ตาม Condition8517 สำหรับผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนนะคะ เมื่อจบหลักสูตรแล้ว หรือมีการเปลี่ยนคอร์สเรียนหรือการเปลี่ยนระยะเวลาของคอร์สเรียนให้จบเร็วขึ้น ซึ่งนับจากวันที่บน CoE หรือตามวันที่จบจริงแล้วโรงเรียนรายงานเข้าไปที่อิมมิเกรชั่นวันเริ่มคอร์สเรียนใหม่ที่ลงเรียนจะต้องมีระยะลาห่างจากคอร์สก่อนหน้านี้ ไม่เกิน 8สัปดาห์ค่ะ
น้องคนที่ 4: น้องคนนี้ เรียนปริญญาโทค่ะและเมื่อน้องเรียนจบวีซ่าของน้องเหลือแค่อีกเพียง 2 เดือนเท่านั้นแต่ไม่ครอบคลุมถึงวันที่น้องจะรับปริญญาค่ะ น้องจึงต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่ออยู่รอจนถึงงานรับปริญญานะคะ ขณะที่น้องเปลี่ยนมาใช้ วีซ่าท่องเที่ยวน้องก็ยังทำงาน Part-time อยู่และเมื่อน้องรับปริญญาแล้วน้องยังไม่กลับค่ะ อยู่ทำงานจนมาถึงวันที่จะกลับ ปรากฎว่า น้องอยู่เกิน 3 เดือนของกฎวีซ่าท่องเที่ยวนะคะอันนี้ก็ไม่ทราบว่าถ้าอยากกลับมาอีกในอนาคตวีซ่าจะผ่านหรือไม่เพราะได้ทำผิดกฎของวีซ่ามาครั้งหนึ่งแล้วค่ะ
หลายๆมหาวิทยาลัยจะมีวันรับปริญญาที่ห่างจากวันที่จบการศึกษานานนะคะ เพราะฉะนั้นน้องๆหลายคนก็อาจจะบินกลับไปพักผ่อนที่ไทยก่อนแล้วขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อกลับมารับปริญญาพร้อมกับครอบครัว และมีน้องๆอีกจำนวนไม่น้อยที่ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวที่ออสเตรเลียต่อเลย เพื่ออยู่รอค่ะแต่การที่น้องๆ เปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าท่องเที่ยวแล้วนั้น น้องๆ จะไม่สามารถทำงาน Part-time ได้นะคะเพราะวีซ่าท่องเที่ยวไม่อนุญาตค่ะ รวมถึงการอยู่เกิน 3เดือนของวีซ่าท่องเที่ยวต่อครั้งด้วยนะคะ หากน้องคนไหน ที่ได้วีซ่าแบบ Multipleและอยากรอรับปริญญาด้วย เที่ยวด้วย ซึ่งเกิน 3 เดือนน้องควรบินออกนอกประเทศไปเที่ยวใกล้ๆ สักครั้งค่ะ แล้วกลับเข้ามาใหม่น้องก็จะอยู่ได้เกิน 3 เดือนโดยไม่ผิดกฎของทางอิมมิเกรชั่นแล้วค่ะ
น้องคนที่ 5: น้องคนนี้เดินทางมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวค่ะแต่สามารถเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียนได้ที่ประเทศออสเตรเลียเลย น้องจึงสมัครเรียนและยื่นวีซ่าทันทีค่ะเพราะน้องอยู่ในปนะเทศออสเตรเลียด้วยวีซ่าท่องเที่ยวเกือบครบ 3 เดือนแล้วทางอิมมิเกรชั่น เรียกขอเอกสารเพิ่มเติมหลายอย่างด้วยกันค่ะ ทั้งประวัติการทำงานและเอกสารของผู้เป็นสปอนเซอร์ เพราะน้องอยู่ในออสเตรเลียมา 2 เดือนกว่าแล้วและอย่างที่บอกในเคสของน้องคนที่ 4 ค่ะ วีซ่าท่องเที่ยวทำงานไม่ได้ทางอิมมิเกรชั่นจึงสงสัยว่าที่น้องสมัครเรียนเพื่ออยู่ต่อและทำงานค่ะ
เพราะฉะนั้นหากใครที่มาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวและอยากจะอยู่เรียนต่อ ติดต่อเอเจ้นท์ที่เชื่อถือได้และรีบสมัครเรียนตั้งแต่เดือนแรก หรือเดือนที่ 2 นะคะ อย่ารอจนถึงกลางเดือนที่ 3วีซ่าใกล้หมด แล้วมาเร่งสมัครเรียนและทำวีซ่าค่ะ อาจโดนปฏิเสธวีซ่าได้จากมุมมองของทางอิมมิเกรชั่นที่คิดว่าเรามาทำงานนะคะ
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวอย่างบางส่วนจากประสบการณ์ที่ได้คุยกันกับน้องๆนักเรียน และเพื่อนๆ ค่ะ การที่น้องๆเข้าไปปรึกษาเอเจ้นท์แล้วถามทางเอเจ้นท์ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่ พี่บอกได้เลยค่ะว่าพี่เอเจ้นท์ฟันธงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็นมุมมองของเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่น เอกสารประกอบการยื่นขอวีซ่าความถูกต้องของเอกสาร รวมถึงประวัติและพฤติกรรมของตัวนักเรียนเองเป็นสำคัญนะคะวีซ่านักเรียนมีค่าอย่างยิ่งค่ะ รักษาไว้ให้ดีนะคะ อย่าทำผิดกฎของทางอิมมิเกรชั่นเรียนให้จบหลักสูตรที่สมัครมา เข้าเรียนให้ครบนะคะ แล้วน้องๆจะสามารถอยู่อย่างสบาย ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องวีซ่าเลยค่ะ
| Create Date : 08 สิงหาคม 2559 |
| Last Update : 8 สิงหาคม 2559 8:36:56 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 5584 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [