โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

เคยเป็นคนมองโลกในแง่ดี

เคยเป็นคนมองโลกในแง่ดี

แต่พอผิดหวังแรงๆจากการถูกหักหลัง
ก็กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย คิดมาก โมโหง่าย
จะกลับไปเป็นคนมองโลกในแง่ดีเหมือนเดิมได้อย่างไร?


ส่วนใหญ่ ถ้าพลิกจากมองดีมาเป็นมองร้าย
ก็มักมีรูปชีวิตเหมือนๆกันครับ
คือ พื้นฐานครอบครัวดี อบอุ่น เส้นทางเรียบง่าย
ไม่มีอะไรพลิกไปพลิกมา

ซึ่งข้อดีคือเป็นสุข
แต่ข้อเสียคือ ไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันความเจ็บปวดเท่าไหร่
พอเจออะไรกระทบกระแทกแรงๆขนาดโลกพลิกได้
ก็มองต่างมุมจากวันวานเป็นตรงข้าม
กลับขาวเป็นดำ กลับหัวเป็นเท้าได้เช่นกัน


หากเห็นภาพรวมของชีวิตที่ผ่านมา
เพื่อศึกษาและเริ่มชีวิตใหม่ดีๆ
จะพบว่า เดิมทีมุมมองของเรา ‘เกิดจากคนอื่น’
ชีวิตเราเคยอยู่ในช่วงแปรผันไปตามสิ่งแวดล้อม
ยังไม่ได้อยู่ในช่วงทำให้สิ่งแวดล้อมแปรผันตามตัวเราได้


เป้าหมายคือเราจะมีใจคอเป็นตัวของตัวเอง
เป็นอิสระจากสิ่งแวดล้อมให้ได้


ผมรู้จักคนคนหนึ่ง
พ่อแม่นิสัยแย่ พี่น้องแย่
แต่อยู่ๆก็คิดขึ้นมาเองตั้งแต่เด็กๆว่า ‘เราจะไม่แย่ตามคนอื่น’
อันนี้แหละเรียกว่ามีบุญเก่าคุ้มตัวจริง

แม้บาปบางประการจะส่งมาอยู่ในครอบครัวไม่ดี

แต่บุญเก่าก็ตามมาให้กำลังใจ บันดาลให้คิดดีเองได้


ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน
เมื่อใจปักหลักอยู่กับความดีงาม
ความรู้สึกดีงามย่อมถูกบันดาลให้เกิดขึ้นเป็นสมบัติติดตัว


แม้บางครั้งอาจถูกกิเลสถ่วงใจให้คิดว่า
จะทนเป็นคนดีอยู่ตามลำพังในโลกไปทำไม?
ใจก็พร้อมจะตอบว่า "เพื่อให้รู้สึกดีกับตัวเอง"
ตอบตัวเองแค่นั้นได้ก็พอแล้ว คุ้มแล้ว


การมองโลกในแง่ดี ไม่ใช่เชื่อใจใครไปหมด
คติอย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน เป็นสิ่งที่ควรยึดถือไว้อยู่
เพียงแต่ใจเราตั้งไว้ในมุมมองแบบพุทธ
คือ พร้อมจะให้โอกาส พร้อมจะให้อภัย
แล้วดูเอาตามจริงว่าใครเป็นยังไง

ถ้าดีมาก็ดีตอบ ถ้าร้ายมาก็อภัยเสีย ทิ้งเขาไปจากใจเสีย
จะต้องสะสางเอาความตามบทบาทอย่างไรก็ทำไป
แค่สละความรู้สึกผูกพัน
ทำใจไว้ว่าไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีกเท่านั้น


ขอให้ระลึกว่า
ที่จะสละความทุกข์ สลัดมุมมองแง่ร้ายออกจากตัวได้จริง
เราต้องมีความสุขเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว
เช่น ที่จะไม่หวงทุกข์อันเกิดจากความคิดแค้น
เราต้องยินดีในสุขอันเกิดจากการอภัย

เมื่อรู้จักความสุขจากการอภัยครั้งหนึ่ง

ให้จำว่ารสของการอภัยนั้นเบา โล่งหัวอก

ความรู้สึกนึกคิดสว่าง ใจว่างจากทุกข์กันแบบไหน
ให้ย้ำจำ ย้ำระลึกถึงไว้ให้มาก
เมื่อใดความแค้นย้อนกลับมาเล่นงานใจอีก
ก็จะได้หวนกลับไปนึกถึงง่ายๆ
ซึ่งเท่ากับแทนที่ความแค้นได้ง่ายๆเช่นกัน


เมื่อมีความสุขกับจิตอันเป็นกุศลของตัวเอง
คุณจะเป็นคนหงุดหงิดยาก
ความสว่างทางใจจะแหวกม่านหมอกมืดมัว
เปิดให้เห็นโลกจากจุดยืนของตัวดีๆที่เราอยากเป็น
ไม่ใช่เห็นโลกจากฐานที่ตั้งของตัวร้ายๆที่คนอื่นเป็นกันครับ


@ ดังตฤณ


https://www.facebook.com/dungtrin?fref=nf






Create Date : 20 พฤษภาคม 2557
Last Update : 20 พฤษภาคม 2557 10:09:39 น. 0 comments
Counter : 883 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]