1 กล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น = อัตราการเผาผลาญที่เพิ่มมากขึ้น

ในแต่ละวัน ปกติธรรมดาแล้วคนที่ตัวใหญ่มักจะกินอาหารในปริมาณมากกว่าคนที่ตัวเล็กกว่า เพราะร่างกายต้องการพลังงานมากกว่านั้นเอง ดังนั้นกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมาก็ต้องการพลังงานในการหล่อเลี้องมันมากขึ้น นั่นหมายถึง อัตราการเผาผลาญในแต่ละวันที่เยอะขึ้น ผมจึงไม่ประหลาดใจเลยที่นักเพาะกายจะกินอาหารอย่างมากมายในหนึ่งวัน

แต่ เวลาเราไม่ได้บริหารร่างกาย (อยู่เฉยๆ) กล้ามเนื้อช่วยเพิ่มการเผาผลาญเพียงนิดหน่อยแค่นั้น กล้ามเนื้อจะเพิ่มพลังในการเผาผลาญพลังงานอย่างมากมายก็ต่อเมื่อมันถูกใช้งาน นั่นหมายความว่า คนที่มีกล้ามเนื้อเยอะเมื่อออกแรงจะใช้พลังงานเยอะกว่าคนที่มีกล้ามเนื่อน้อย

และอีกครั้ง นั่นคือ เวลาคุณทำคาร์ดิโอ คุณก็จะเผาผลาญพลังงานมากกว่าปรกติด้วย

2 กล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น = การเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บลดลง

กล้ามเนื้อจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่อาจบังเกิดในการแข่งขันกีฬา หรือการทำกิจกรรมต่างๆได้ เพราะร่างกายแข็งแรงขึ้น

3 กล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น = รูปพรรณที่ดีขึ้น

เที่ยงตรง โดยปรกติทั่วไป คนที่มีกล้ามย่อมดูดีกว่า คนที่อ้วนหรือผอมแห้ง และไม่เพียงเท่านั้นร่างกายของคุณก็จะสุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะกล้ามเนื้อช่วยเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ไขมันสะสม โคเลสโตรอล น้ำตาลในเลือด ก็จะน้อยลง และนั่นทำให้ คุณจะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น (กล้ามเนื้อที่สร้างโดยการฝึกนะครับ ไม่ใช่ฉีด แต่จริงๆแล้วไอที่ฉีดมันก็ไม่ได้เรียกว่ากล้ามหรอก)

4  กล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น = พลังมากขึ้น

แน่นอนครับ กล้ามเนื้อที่ยิ่งใหญ่ต้องมาพร้อมกับพลังอันใหญ่ยิ่ง มีพลังมากขึ้นก็ทำอะไรได้มากขึ้น ผมจากแต่ก่อนยกปูนกระสอบนึงยังไม่ค่อยจะได้ ตอนนี่สบายครับ

สรุป

การมีกล้ามเนื้อมากขึ้นมีผลประโยชน์ตามมาอีกมากมาย ผมเพียงเสนอที่คิดออกมาเพียง 4 ข้อเท่านั้น และการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด มันช่วยให้สภาพร่างกายและที่สำคัญคือสภาพจิตใจดีขึ้นอย่างแน่นอน

จาก //stronglife.in.th/