เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินตอนตั้งครรภ์
เราเป็นคนหนึ่งที่ต้องขึ้นเครื่องบินไฟล์ทระยะยาวรวมกว่า 21 ชั่วโมงตอนที่ตั้งครรภ์เดือนที่ 7 ด้วยความที่เป็นห่วงทั้งลูกทั้งตัวเองเลยต้องนั่งศึกษาหาข้อมูลว่าจะเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินยังไงให้เราทั้งสองคนปลอดภัยที่สุด วันนี้เลยอยากบันทึกทั้งความรู้ที่ได้มาและไอเท็มที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตบนเครื่องได้อย่างสะดวกสบายนะคะ

เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินตอนตั้งครรภ์

ก่อนขึ้นเครื่อง

- ศึกษานโยบายของแต่ละสายการบินว่าเขาอนุญาตให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ขึ้นเครื่องได้ถึงอายุครรภ์กี่สัปดาห์ บางสายการบินเช่น การบินไทยจะอนุญาติให้เราขึ้นเครื่องเหมือนผู้โดยสารปกติได้ถึงประมาณ 27-28 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระยะทางที่บิน หลังจากนั้นต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุอายุครรภ์และกำหนดคลอด ตัวอย่างของเราบิน Asiana Airlines อนุญาติให้ขึ้นบินได้ถึง 32 สัปดาห์ โดยที่ไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ คุณแม่สามารถ google ชื่อสายการบิน และ "pregnancy policy" ได้เลยค่ะ

- โทรแจ้ง Customer Service Center ของสายการบินล่วงหน้าว่าเรากำลังตั้งครรภ์อยู่ จะกี่สัปดาห์ตอนเราบินก็ว่ากันไป เขาจะได้ลงหมายเหตุไว้ให้ในรายชื่อผู้โดยสารให้พนักงานบนเครื่องได้ทราบค่ะ

- จัดกระเป๋า Carry-on แบบเบาๆ เพราะเราต้องถือกระเป๋า Carry-on ไปกับเรา ทั้งตอนผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ เดินหิ้วไปรอที่เกท จนเข้าไปในเครื่องและยกขึ้นที่เก็บสัมภาระด้านบน คือจะลองไปขอความช่วยเหลือเอาดาบหน้าก็ได้ให้คนข้างๆช่วยยกกระเป๋าขึ้นลงให้เรา แต่อันนี้ส่วนตัวเรารู้สึกว่าถ้าเราเอาตัวเองเป็นหลักไว้ก่อน ไม่ต้องลุ้นว่าจะไปพึ่งใครได้เราก็จะไม่เครียด และเดินทางแบบกระเป๋าเบาๆนี่สบายตัวกว่าเยอะค่ะ ไม่ดูพะรุงพะรัง

- แต่งตัวไปขึ้นเครื่องบิน เราเลือกใส่กางเกงโยคะจะได้ไม่ต้องใส่เข็มขัด เวลาเดินผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ก็ไม่ต้องถอดเข็มขัดออก เลือกผ้าหนาๆหน่อย เน้นความสบายเป็นหลัก เอาเสื้อกันหนาวขึ้นไปด้วย เพราะอากาศบนเครื่องจะมีอุณหภูมิค่อนข้างเย็น รองเท้าก็เป็นแบบที่ถอดง่ายใส่ง่าย 

- คนท้องสามารถเดินผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่สนามบินได้ค่ะ หมอสูติฯของเราบอกว่าปลอดภัย อันนี้หมายถึงเครื่องที่เราต้องเดินเข้าไปแล้วยกมือขึ้นเหนือศีรษะ ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีรายงานผลวิจัยของรังสีเอ็กซ์เรย์จากเครื่องนี้ต่อเด็กในท้องในระยะยาวนะคะ ดังนั้นถ้าคุณแม่คนไหนห่วงมากๆก็สามารถบอกเจ้าหน้าที่ให้เราเดินผ่านอีกเครื่องที่ให้เดินผ่านเฉยๆและให้เขาตรวจแบบใช้เครื่องมือถือได้ค่ะ 

8 ไอเท็มพกขึ้นเครื่องบินเพื่อความสะดวกสบายของคุณแม่
travel while pregnant flight

1. กระติกน้ำ 
แบบที่ยังไม่เติมน้ำนะคะ เพราะน้ำดื่มถือเป็นของเหลวเวลาผ่านด่านตรวจความปลอดภัยค่ะ เราไปเติมตามที่กดน้ำดื่มในเกท หรือเดินขอพนักงานบนเครื่องให้เติมให้เราได้ค่ะ แค่ดูเวลาที่พนักงานเขาไม่ได้เดินเสิร์ฟน้ำ-อาหาร หรือเก็บถาด หรือกัปตันเปิดสัญญาณรัดเข็มขัดอยู่นะคะ 

น้ำดื่มถือว่าจำเป็นมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนเลือดทำให้มีเลือดไปเลี้ยงลูกได้ปกติ ระบบขับถ่ายดีท้องไม่ผูก ผิวพรรณคุณแม่สดใส ป้องกันท้องลาย ลดการปวดหัว มีระดับน้ำคร่ำปกติ ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด 

ยิ่งพอขึ้นไปอยู่บนเครื่อง ปกติเราก็มีโอกาสประสบภาวะขาดน้ำอยู่แล้ว เพราะอากาศข้างบนเครื่องแห้งมาก และน้ำดื่มที่พนักงานบนเครื่องเดินเสิร์ฟให้เป็นรอบๆนั้นไม่เพียงพอค่ะ ดังนั้คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเตรียมตัวดูแลตัวเองดีๆ อาจต้องเข้าห้องน้ำบ่อยหน่อย แต่เทียบกับสุขภาพคุณลูกและคุณแม่แล้ว เราว่าคุ้มค่ะ (ดังนั้นเวลาเลือกที่นั่ง คุณแม่ควรเลือกที่นั่งติดทางเดินนะคะ จะได้เดินไปห้องน้ำ หรือเดินยืดเส้นยืดสายสะดวกค่ะ ไม่รบกวนใคร)

2. สเปรย์น้ำแร่
สืบเนื่องจากความแห้งของอากาศบนเครื่องบิน สเปรย์น้ำแร่ ที่มีขนาดไม่เกิน 100 ml ก็จะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นแบบทันทีได้ค่ะ 

3. แผ่นเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง
เราเป็นคนติดแต่งหน้า พอท้องแล้วก็แต่งอยู่แต่ลดขั้นตอนบางอย่างเช่น รองพื้น และไม่ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของยารักษาสิวและวิตามินเอ จะไปสนามบินรู้ทั้งรู้ว่าต้องไปนั่งอยู่บนเครื่องเฉยๆไม่มองหน้าใครเป็นเวลามากกว่า 10 ชั่วโมงก็ยังอดแต่งหน้าก่อนไปสนามบินไม่ได้ค่ะ (ขอนิดนึง) เวลาขึ้นเครื่องเราเลยต้องพกแผ่นเช็คทำความสะอาดเครื่องสำอางไปด้วย เราเลือกแบบที่มีสารบำรุงผิวอยู่ในตัว เราชอบ Ole Henriksen The Clean Truth Cleansing Cloths ซองสีส้ม (ซองเล็ก 10 แผ่น ราคา $8) เราเอาไว้เช็ดเครื่องสำอางตอนขึ้นเครื่อง หรือบางทีพอนั่งไปนานๆรู้สึกมีหน้าเริ่มมันก็เอาผ้ามาเช็ดให้รู้สึกสะอาดค่ะ 

4. ลิปบาล์ม
ยังคงวนๆอยู่กับเรื่องอากาศแห้งบนเครื่องบินอยู่ค่ะ เราต้องพกลิปบาล์ม หรือ วาสลีน ติดกระเป๋าไปด้วยไว้ทากันปากแห้งนะคะ

5. หมอนรองคอ
มาเข้าเรื่องความสบายในการนั่งเครื่องนานๆบ้างค่ะ ชิ้นจำเป็นเลยคือหมอนรองคอ เลือกแบบ memory โฟมที่อัดแน่นๆ หน่อยไม่ยวบง่ายๆจะได้นอนพิงสบายไม่เมื่อคอค่ะ ส่วนเราเราว่าแบบเม็ดบีดจะนิ่มไปค่ะ 

6. ผ้าห่ม หมอนหนุนหลัง และผ้าปิดตา
ปกติเวลาบินไฟล์ทระหว่างประเทศยาวๆ ทางสายการบินจะมีผ้าห่มมาให้อยู่แล้วนะคะ แต่กรณีของเรา เราพบว่าเบาะที่นั่งของสายการบินทำให้เราคันผิวค่ะ ช่วงที่เราท้อง ผิวเรา sensitive ขึ้นเยอะค่ะ พอไปนั่งโซฟาหรือเบาะผ้าที่มันไม่ค่อยสะอาดหรือมี polyeser ผสมอยู่ในเนื้อผ้า เราจะคันผิวทันทีเลยค่ะ เราเลยต้องเอาผ้าห่ม 1 ผืนปูรองเก้าอี้และพนักพิงหลัง เอาหมอน 1 ใบมาหนุนหลังไม่ให้ปวดหลังค่ะ และก็มีผ้าปิดตาให้นอนหลับสบายไม่ต้องห่วงว่าคนข้างๆจะเปิดไฟอ่านหนังสือหรือดูหนังแล้วแสงมาแยงตาเราค่ะ

7. รองเท้าใส่นอน สำหรับใส่บนเครื่อง
ไอเท็มนี้ช่วยกันไม่ให้เท้าเราบวมค่ะ ตอนขึ้นเครื่องเราก็ใส่ผ้าใบ หรือ รองเท้าส้นแบนปกติ แต่พอขึ้นเครื่อง และต้องนั่งนานๆ เราก็ไม่อยากให้รองเท้ามารัดเท้าเราค่ะ เราจึงพกรองเท้าใส่นอนมาใส่บนเครื่องให้เลือดลมที่เท้าไหลเวียนสะดวกค่ะ รองเท้าอาจจะเป็นแบบใส่แล้วทิ้งเลยก็ได้ค่ะ เพราะพรมบนเครื่องบินก็ไม่ได้สะอาดมากนัก เดินมาตั้งกี่เท้าแล้วก็ไม่รู้

8. อาหารว่าง ขนมปังกรอบ ผลไม้
คนท้องหิวบ่อยค่ะ ยิ่งตอนท้องโตขึ้น เรากินมื้อใหญ่ไปก็จุก แน่นท้อง กรดไหลย้อน พอทานที่พอดีๆ แป๊บๆเดี๋ยวก็หิวอีก อย่างของเราไฟล์ทจากอเมริกามาต่อเครื่องที่เกาหลี 14 ชั่วโมง จะรอให้พนักงานบนเครื่องเสิร์ฟอาหารเขาก็เสิร์ฟตอนหลังเครื่องขึ้น และก่อนเครื่องลง ตอนที่อยู่ระหว่างกลางเนี่ยแหละค่ะคุณแม่จะเริ่มหิว ของเรา หิวไป 3 รอบ รอบแรกเลยทานแอปเปิ้ลเขียว 2 ลูกหั่นสไลด์ ที่เราเตรียมไปเอง รอบสองขอมาม่าเกาหลีจากพนักงานบนเครื่องมาทาน (ไฟล์ทที่เราบินเขามีให้เลือกอาหารว่างเป็นแซนวิชก็ได้นะคะ หากคุณแม่อยากเลี่ยงเกลือกับผงชูรส แต่ตอนนั้นเราหิวโหยมากค่ะ อยากได้อาหารที่ดูเป็นชิ้นเป็นอัน) รอบสามก็ขอผลไม้สดมาทานค่ะ ประคองตัวได้จนถึงเวลาเขาเสิร์ฟอาหารก่อนเครื่องลง เอาจริงๆ เราว่าเตรียมตัวหิว 2 รอบก็พอค่ะ ตอนเราอยากทานอะไรรอบสามอีกแป๊บๆก็ใกล้เวลาเสิร์ฟแลวค่ะ

ที่กล่าวมาเราก็ลิสต์มาจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ คุณแม่อาจต้องปรับให้เข้ากับตัวเองว่าเราน่าจะมีความต้องการเรื่องอะไรบ้างค่ะ หลักๆก็เรื่องดื่มน้ำให้เพียงพอ เข้าห้องน้ำสะดวก เสื้อผ้ารองเท้าสวมใส่สบาย และดูและตัวเองไม่ให้หิวโหยค่ะ ขอบคุณค่า



Create Date : 29 กรกฎาคม 2558
Last Update : 30 กรกฎาคม 2558 8:07:45 น.
Counter : 1589 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sleepyhead_Sunnyside
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]