ไปกด Link ได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/skymantaf หรือ Follow ได้ที่ Twitter https://twitter.com/skymantaf หรือที่ http://www.thaiarmedforce.com นะครับ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
-+= เชิญพบเครื่องบินนานาชาติกับกองทัพอากาศมาเลเซียในงาน .... "LIMA'07" =+-


By analayo at 2007-12-16


ในภูมิภาคนี้ มีงานแสดงการบินทางทหารใหญ่ ๆ ที่คนรักเครื่องบินและนักถ่ายภาพหลายๆ คนทั่วโลกรู้จัก คือ Singapore Air Show ที่ประเทศสิงคโปร์, RTAF Air Show in Children's Day ที่ประเทศไทย และ LIMA ที่ประเทศมาเลเซีย

LIMA หรือ Langkawi International Maritime & Aerospace ถือเป็นงานใหญ่อันดับสองในอาเซียนรองจาก Singapore Air Show ครับ ปีนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นการแสดงการบินงานที่สองที่ Su-30MKM เข้าร่วมหลังจากงานวันประกาศเอกราชของมาเลเซียครับ ฉะนั้นงานนี้ ผมกับคุณ Luftwaffe ซึ่งเป็นโรคบ้าเครื่องบินในระยะสุดท้าย รักษาไม่หายแน่นอน ต้องจำใจ (อย่างเต็มใจ) ไปร่วมงานให้ได้

กระทู้นี้จะคล้าย ๆ การ Review การเดินทางครับ ประกอบกับสาระความรู้เกียวกับอากาศยานทางทหารในงาน และรูปเด็ด ๆ มากมาย

ถ้าพร้อมแล้ว เชิญชมครับ

ปล. เนื่องจากภาพมีเยอะมาก ถ้ารวม ๆ แล้วจะมีขนาด 3.5 MB ทำให้โหลดนานมากฉะนั้น ภาพบางภาพ ผมจะโพสเป็น Thumbnail ครับ ท่านสามารถคลิ๊กเข้าไปดูภาพใหญ่ได้เลยครับ




ผมมักจะมองข้ามงาน LIMA เสมอ เนื่องด้วยคิดว่ามันไม่น่าจะมีอะไรหรอก เก็บตังค์ไป SG Air Show ดีกว่า ......... สามงานที่ผมว่ามามันเรียงขนาดกันอย่างงี้ครับ SG Air Show --- LIMA --- RTAF Children's Day ......... แต่ขนาดมันจะแตกต่างกันครับ เทียบกันก็คือ รถสิบล้อ (SG) --- รถ 4 Wheels (MY) --- รถมอร์เตอร์ไซต์ (TH) ........ ผมก็กะว่า เราไปดูรถสิบล้อดีกว่าเนอะ ....... ไป ๆ มา ๆ คุณ Luftwaffe แกเอามาบูดว่า "เฮ้ย เว็บงานมันบอกว่างานนี้มี Blue angel, Thunderbird, Russian Knight, Red Arrow, Rafale, F-15K, Typhoon และอื่น ๆ อีกมากมาย" ...... ไอ้ผมก็ตาลุกสิครับ เราจึงเตรียมทริปกันภายในเวลา 3 - 4 วัน อย่างโครตจะฉุกละหุกก่อนงานเริ่ม 2 อาทิตย์ ....... โรงแรมไม่มีนอนนะครับ ลืมไปได้เลย อีกอย่างเราไม่ได้เตรียมกะตังค์เอาไว้ ทำให้งานนี้ต้องไปแบบประหยัดสุดชีวิต (ซึ่งผมเสียไป 5 พันบาททั้งทริป)

แม้ว่าเราจะพบว่าไอ้ที่บอกในเว็บนั่นมันจะโม้ทั้งเพเหมือนที่คิดไว้จริง ๆ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าครับ

การเดินทางคือ เราโดดขึ้นรถบขส. จากสายใต้ใหม่ ไปตื่นเช้าที่จังหวัดสตูล นั่งรถมอร์เตอร์ไซต์ต่อไปท่าเรือตำมะลังเพื่อนั่งเรือเฟอร์รี่ต่อไปเกาะลังกาวี และหารถเช่าถูก ๆ ดิ่งไปงานครับ



แต่จักรวาลนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนเหมือนที่ไอเซ็นเบิร์กบอกไว้จริง ๆ ครับ ..... ตารางเวลาที่เราวางแผนมา เลื่อนหมด ......... รถทัวร์มาถึงช้ากว่ากำหนด 1 ชม. เรือไปถึงเกาะช้ากว่ากำหนด 1 ชม. และเราก็ต้องพบว่าโคเบอร์นิคลาสพูดถูกว่าโลกเรามันกลม เพราะเราต้องบวกเวลาไปอีก 1 ชม. เนื่องจากเวลามาเลเซียเป็น GMT +8 (เร็วกว่าเรา 1 ชม.) ............ ไอ้แผนที่วางไว้ตอนแรกว่าจะไปเดินชิว ๆ สาย ๆ กลับกลายเป็นว่า เราต้องรีบบึ่งไปงานอย่างโครตจะรีบเร่ง ....... หลังจากเช่ารถโปรตอนคันนี้ เราก็คล้ำทางหาสนามบินจนเจอ และเราก็พบว่า ฝูงบินผาดแผลง Red Arrow ของอังกฤษตั้งลำรอที่หัวสนามบิน เตรียม take off แล้ว ....... เรารอเข้างานไม่ทันแน่นอนครับ เลยไสหัวรถไปจิ้มที่รั่วสนามบิน แล้วปีนหลังคาถ่ายรูปกัน

อันนี้ภาพตัวอย่าง หุหุหุ



และมันก็เริ่มครับ ........ Red Arrow ซึ่งใช้เครื่องบินฝึกขั้นปลาย Hawk T.1 บินคู่กับ F-111C จากกองทัพอากาศออสเตรเลียครับ หาดูได้ยากจริง ๆ .......... ที่เด็ดกว่าคือ F-111 ทำ Fuel Dumping โชว์ด้วย ...... Fuel Dumping คือการกำจัดเชื้อเพลิงออกในกรณีที่เครื่องบินมีน้ำหนักมากเกินกว่าที่จะร่อนลงได้ การทำก็คือพ่นน้ำมันออกมาครับ แต่จุดเด่นของการทำ Fuel Dumping ใน F-111 นั่นก็คือ น้ำมันมันจะลุกเป็นไฟอย่างงี้ ........ โอ้ววววว เด็ดขาดมาก เพราะนี่คือจุดขายของ F-111 ในทุกแอร์โชว์ครับ ...... อยากจะบอกว่าได้ยินเสียงเหมือนจุดเตาแก๊สแรง ๆ พร้อมกับกลิ่นน้ำมันเลยครับ (กลิ่นน้ำมันก๊าดครับ)

สุดยอดจริง ๆ ชีวิตนี้เพิ่งเคยเห็น



Red Arrow บินสุดยอดจริง ๆ ครับ และจุดที่เราก็ค่อนข้างใกล้ด้วย งานนี้เต็มที่จริง ๆ ครับ



เรากินอาหารและน้ำครั้งสุดท้ายตอนเที่ยงคืนของเมื่อคืน แต่ตอนนี้ลืมหิวครับ



และหลังจากนั้น F-111 ที่ไปบินรอ ก็มาแสดงการบินต่อครับ เจ้าตัวนี้ตัวใหญ่ เสียงดังสะใจ แต่บินต่ำสุด ๆ ประเภทที่สะเทือนไปเลยทีเดียว และยังพ่นไฟตั้ง 3 รอบด้วย โอ้วววววว



จบจาก F-111 บินแล้ว ....... ฮ. S61 Nuri และ F/A-18D+ จำนวน 4 ลำก็บินแสดงต่อครับ .......... เราจึงใช้เวลานี้ขับรถไปจอดพร้อมซื้อตัวเข้างานราคา 20 ริงกิต (200 บาท) แล้วรีบวิ่งเข้าไปในพื้นที่ของงาน เพื่อรอการแสดงการบินของ Su-30MKM ลำด้านซ้าย ซึ่งจะแสดงหลังจาก PC-7 แสดงจบครับ



Su-30MKM มันสุดยอดจริง ๆ ให้ดิ้นตายเถอะครับ ........... ความคล่องตัวมันสุดยอดมาก สามารถทำท่าทางการบินที่ยาก ๆ ได้อย่างสบาย เนื่องมาจากการออกแบบอากาศยานตามสไตล์ของรัสเซีย ปีกคาร์นาร์ด (ปีกเล็ก ๆ ด้านหน้า) และท่อไอพ่นปรับทิศทางได้ (หันได้เพื่อเพิ่มความคล่องตัว)



ผมทำ VDO ของการบินครั้งนี้มาให้ด้วยครับ .......... พูดได้เลยว่า มีการต่อสู้ทางอากาศระยะใกล้ (Dog Fight) นั้น ใครจะกิน MKM ล่ะก็ยากส์ครับ ...... ทั้ง F-15, F-16, Gripen ผมพูดได้เลยว่า ถ้าไม่มีจรวดดี ๆ ติดอย่าง AIM-9X หรือ Python-4 ....... รับรอง จอดได้ง่าย ๆ



และหลังจากนั้นมันก็มา Landing ครับ ..... ฉะนั้น เพื่อเป็นการเอาใจพระเอกของงาน ผมจะขอ Walk Around เจ้า Su-30MKM สักเล็กน้อยครับ



Su-30MKM "Flanker-C" เป็นเครื่องบินขับไล่-โจมตีทางลึก พิสัยไกล ที่พัฒนามาจากเครื่องบินขับไล่ Su-27 ครับ ........ Su-30MKM มีนักบินสองคน นักบินคนที่นั่งด้านหน้าจะทำหน้าที่บังคับอากาศยาน ส่วนนักบินด้านหลังจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานกับระบบอาวุธ (Weapon System Officer) ทั้งนี้การมีนักบิน 2 คน ก็เพื่อลดภาระการทำงานของนักบินครับ



ด้านหน้าของ Su-30MKM ทางด้านซ้ายจะมีลูกบอลซึ่งเป็นระบบ IRST (Infared Search and Track) โดยลูกบอลตัวนี้จะรับสัญญาณอินฟาเรดของเครื่องบินข้าศึกเพื่อสร้างตำแหน่งของเครื่องบินข้าศึกให้นักบินทราบ โดยนักบินไม่จำเป็นต้องเปิดเรด้าร์ ซึ่งจะทำให้ลดการถูกตรวจจับได้ของ MKM ครับ

MKM ติดตั้งเรด้าร์ N011M ของรัสเซีย ซึ่งเป็นเรด้าร์ AESA (Active Electronically Scanned Array) ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถติดตามเป้าหมายได้พร้อมกัน 15 เป้าหมาย และเข้าโจมตีได้พร้อมกัน 4 เป้าหมาย สามารถตรวจจับเป้าหมายที่มีภาคตัดขวางเรด้าร์ (Radar Cross Section:RCS) ได้ที่ระยะ 70 กม. สำหรับเป้าหมายที่มีขนาด RCS เท่ากับ 1 ตร.ม. และที่ 40 กม. สำหรับเป้าหมายที่มีขนาด RCS เท่ากับ 0.1 ตร.ม.



ด้าขวาติดท่อรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ซึ่งน่าจะรับการเติมเชื้อเพลิงจาก KC-130 ของมาเลเซียได้ ส่วนเสาอากาศด้านหน้า น่าจะเป็นระบบพิสูจน์ฝ่าย (Identification Friend or Foe:IFF) เพื่อแยกแยะมิตรและศัตรู ทั้งนี้ แม้ว่า MKM จะเป็นเครื่องบินรัสเซีย แต่มาเลเซียก็น่าจะเลือกติดตั้งระบบ IFF ของสหรัฐ เหมือนในกรณีของ MiG-29 เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกับเครื่องบินรุ่นอื่นของกองทัพอากาศมาเลเซียที่เป็นมาตราฐานนาโต้ได้



จุดเด่นของ Su-30 ตระกูล MKM และ MKI คือปีกคาร์นาร์ดทางด้านหน้า ซึ่งช่วยในการทำท่าทางการบินที่ยาก ๆ และเพิ่มสมรรถนะทางการบินครับ



MKM ใช้เครื่องยนต์ AL-31FP 2 เครื่อง ให้แรงขับรวมราว 33,000 ปอนด์ โดยสามารถปรับทิศทางท่อไอพ่นได้ (Thrust Vectoring Control:TVC) ในแนวขึ้น-ลง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบิน

นอกจากนั้น MKM ยังติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิค ระบบแจ้งเตือนการเข้าหาของอาวุธปล่อย ระบบแจ้งเตือนการถูกตรวจจับจากเลเซอร์ ระบบนำร่องด้วยอิฟราเรด ระบบชี้เป้าด้วยเลเซอร์ รุ่นล่าสุดจากผู้ผลิตในประเทศต่าง ๆ ทั้งฝรั่งเศส รัสเซีย แอฟริกาใต้ ฯลฯ



มาเลเซียจัดหาอาวุธที่จะมาติดตั้งกับ MKM ดังนี้

อากาศสู่อากาศ

- จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Active Radar รุ่น R-77 (เทียบเท่า AIM-120C)
- จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Semi-Active Radar รุ่น R-27R1 (เทียบเท่า AIM-7)
- จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้แบบ R-73E (เทียบเท่า AIM-9X)

อากาศสู่พื้น
- จรวดนำวิถีด้วยกล้องทีวี Kh-29T/TE (เทียบเท่า AGM-65D)
- จรวดนำวิถีด้วยเลเซอร์ Kh-29L (เทียบเท่า AGM-65E)
- จรวดนำวิถีต่อต้านเรือรบ Kh-31A (เทียบเท่า AGM-84 Harpoon)
- จรวดนำวิถีต่อต้านการแพร่คลื่นเรด้าร์ Kh-31P (เทียบเท่า AGM-88 HARM)
- จรวดนำวิถีด้วยกล้องทีวีพิสัยไกล Kh-59ME เทียบเท่า AGM-130)
- ระเบิดนำวิถีด้วยกล้องทีวี KAB-500KR ขนาด 500 กก. (คล้าย GBU-15)
- ระเบิดนำวิถีด้วยกล้องทีวี KAB-500KR ขนาด 1500 กก. (คล้าย GBU-15)
- ระเบิดอนกประสงค์ OFAB ขนาด 100 กก. - 250 กก. (เทียบเท่า Mk.82 - 83)
- ระเบิดอนกประสงค์ FAB ขนาด 500 กก. (เทียบเท่า Mk.84)

(อ้างอิงจากป้ายที่ติดหน้า Su-30)

พูดได้เลยว่า ด้วยระบบอาวุธ ระบบอิเล็กทรอนิค และตัวเครื่องบินเอง ทำให้ Su-30MKM เป็น Su-30 ที่ดีที่สุดในโลก

ปล. เหตุผลหนึ่งที่มาเลเซียจัดหา Su-30 จากรัสเซียนั้น นอกจากเหตุผลทางการเมืองแล้ว รัสเซียยังสามารถขายอาวุธให้มาเลเซียได้ตามต้องการ ต่างจากสหรัฐที่ไม่ขายอาวุธบางรายการให้



ถัดมาเราลองมาดูเครื่องบินลำอื่นกันบ้างครับ

เริ่มจาก F/A-18D+ มาเลเซียมีประจำการทั้งหมด 8 ลำครับ ทั้งนี้รัฐสภาสหรัฐอนุมัติการขาย F/A-18E/f ให้กับมาเลเซียจำนวน 18 ลำมากว่า 5 ปีแล้ว แต่มาเลเซียก็ยังไม่ได้ตัดสินใจสั่งซื้อ และน่าจะไปมองที่ Su-30MKM ฝูงที่สองมากกว่า ทั้งนี้ มีข่าวว่ามาเลเซียต้องการขาย F/A-18D+ จำนวน 8 ชุดนี้กลับคืนไปให้บริษัท Boeing และเพิ่มเงินเพื่อจัดหา F/A-18E/F จำนวน 18 ลำ แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นทางการแต่อย่างใดครับ

F/A-18D+ รับหน้าที่ดูแลน่านน้ำของมาเลเซีย



MiG-29N ของมาเลเซียครับ มาเลเซียจะตัดสินใจอนาคตของ MiG-29N อีกครั้งในอีก 3 ปีข้างหน้า ว่าจะปลดประจำการหรือไม่



Hawk 208 เครื่องบินโจมตีก็มาครับ



RF-5E เครื่องบินตรวจการณ์ก็มาครับ ปัจจุบันมาเลเซียมี F-5E/F จำนวน 5 ลำ และ RF-5E จำนวน 2 ลำ ทำภารกิจลาดตระเวนและสกัดกั้นครับ



MB339A เครื่องบินฝึกขั้นปลาย คล้าย ๆ L-39 ของบ้านเราครับ



และลำนี้ PC-7 ครับ เพิ่งเสร็จจากการบินผาดแผลงมา



มาดูฮ.บ้างครับ S61 Nuri ลำนี้ก็เพิ่งเสร็จจากการบินผาดแผลง ........... S61 Nuri ประจำการมาตั้งแต่ปี 1969 ประสบอุบัติเหตุตก 15 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 89 คน ...... ปีหน้ามาเลเซียจะประกาศแบบของเฮลิคอปเตอร์ใหม่ที่จะมาทดแทน Nuri ครับ

Free Image Hosting at //www.ImageShack.us


ลำนี้ AS365N3 ครับ ภารกิจลาดตระเวนทางทะเล



Mi-171 สีสันสดใส ภารกิจลำเลียงบุคคลสำคัญครับ บินขึ้นบินลงตลอด



C-130H ของทอ.มาเลเซียครับ ........ งานนี้มันแปลกอยู่อย่าง เพราะผมสามารถวิ่งตัดหน้า C-130 ได้เลยทั้ง ๆ ที่มันกำลังวิ่งอยู่ ....... เค้าไม่กั้นเลยครับ อันตรายมากนะครับเนี้ย







ส่วนอันนี้เป็นเครื่องบินต่างชาติที่มาร่วมงานครับ

เริ่มด้วย Il-62 จากรัสเซีย



P-3 Orion ของกองทัพอากาศออสเตรเลียครับ เป็นเครื่องบินที่ใช้ในภารกิจลาดตระเวนทางทะเล ตรงส่วนท้ายจะมีท่อยาว ๆ บรรจุอุปกรณ์ตรวจจับเรือดำน้ำครับ



C-130J ของกองทัพอากาศออสเตรเลียเช่นกันครับ ......... สวย นิ๊ง ราศีจับ



เราออกจากลานบินเมื่อราว ๆ 4 โมงครึ่งครับ เพราะหิว เหนื่อย เนื่องจากไม่ได้กินอะไรเลย (แม้แต่น้ำ) มาตั้งแต่เที่ยงคืนของคืนที่แล้ว ........ มื้อสุดท้ายคือข้าวต้ม บขส. ตอนเที่ยงคืนระหว่างทางมาสตูลครับ ..... ก่อนมานี่ผมเป็นไข้หวัดหนักมาก กินอะไรไมได้เลย (จะยกเลิกทริปก็ไม่ไหว จองตั๋วไปแล้ว) วันก่อนมากินกล้วยไป 6 ใบ และมากินอีกทีตอนเที่ยงคืน ก็ข้าวต้ม บขส. นั่นแหละครับ ..... เขาให้ข้าวต้มมาโต๊ะละ 2 หม้อ ผมฟาดคนเดียว 1 หม้อเต็ม ๆ ..... และหลังจากตื่นบนรถทัวร์ก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย เพราะไม่มีเวลาแม้แต่จะแวะซื้อ ไม่งั้นไปไม่ทันงาน ......... ซึ่งทำให้ราว ๆ 16.30 นี่เราก็ใกล้หมดสภาพเต็มทน จึงหลบเดินเข้ามาในฮอลล์เพื่อดูนิทรรศการภายในครับ



ภายในก็จะเป็นนิทรรศการของบริษัทอาวุธต่าง ๆ ครับ และมีเฮลิคอปเตอร์จริง ๆ ตั้งแสดงด้วย เช่นลำนี้ครับ AS 355N Ecureuil ของกรมตำรวจมาเลเซีย



ลำนี้ก็เด็ดครับ Agusta A109 ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นฮ.ลำเลียงทั่วไปและเป็นฮ.โจมตีด้วย ผมเห็นแล้วก็น้ำลายหก วิ่งแปร๊ดดดด เข้าไปถ่ายภาพห้องนักบินโดยถ่ายผ่านกระจกไป ...... ฉับพลันนักบินของฮ.ลำนี้ก็เข้ามาขอดูรูปครับ เมื่อเขาดูสักพักก็ไม่อยากจะว่าอะไร เพราะมันแทบไม่เห็นอะไรเลย (ไฟในฮอลล์มันสะท้อนหมด) ผมก็ถึงบางอ้อถามเขาว่าถ่ายไม่ได้ใช่ไหมครับ เขาก็บอกว่าใช่ ผมก็ OK ครับ ลบเลย ......... เล่าอย่างนี้อาจจะนึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่อันที่จริงไม่มีอะไรเลยครับ เพราะนักบินคนนั้นเข้ามาด้วยรอยยิ้ม และขอให้ผมลบรูปด้วยรอยยิ้ม ......... เป็นอย่างงี้ทั้งงานครับ สห. มาเลเซีย เมื่อเห็นว่าเราถ่ายรูปอะไรที่ลับ ๆ เขาจะเข้ามาพูดกับเราดี ๆ พร้อมรอยยิ้ม ซึ่งผมก็เต็มใจลบให้เขาดู ............ ขอพูดตรงๆ เลยนะครับว่า พนักงานรักษาความปลอดภัยตามท่าอากาศยานของไทยหลายๆ แหล่ง ควรดูไว้เป็นแบบอย่างครับ บ้านเราเป็นสยามเมืองยิ้มเสียเปล่า แต่หลาย ๆ ครั้งช่างภาพหรือนักท่องเที่ยวที่ยืนถ่ายภาพเครื่องบินกลับได้รับการแสดงกิริยามารยาทที่ค่อนข้างแย่ เหมือนกันว่าเป็นอาชญากรปานนั้น ทั้ง ๆ ที่ถ้าพูดกันด้วยความสุภาพ จะแทบไม่มีปัญหาความไม่พอใจกันเลยครับ

ฝากตรงนี้ไว้นิดนึงครับ



เดินมาอีกนึด ก็เจอเจ้านี่ครับ จรวดต่อสู้อากาศยานพิสัยใกล้แบบเจอร์นาสของมาเลเซียครับ ตัวระบบนี่น่าสนใจครับ และประสิทธิภาพก็ดีทีเดียว ถ้าทอ.หรือทบ. จะเริ่มโครงการจัดหา SAM พิสัยใกล้จริง ๆ เจ้าตัวนี่น่าสนใจมากครับ



โมเดลของ A400M ของ Airbus Military ก็มาตั้งแสดงด้วยครับ เพราะมาเลเซียสั่งซื้อเจ้านี่แล้ว 4 ลำครับ รับมอบในปี 2013 - 15 เป็นเครื่องบินลำเลียงขนาดหนักครับ



แอร์เอเชียกับมาเลเซียแอร์ไลน์ก็มาออกบูทเช่นกันครับ



ข้าง ๆ บูทของแอร์เอเซียยังมีคนต่อแถวกันตรึมเหมือนเมื่อกลางวัน ทำให้ผมสงสัยว่านี่เขายังไม่เลิกกันอีกเหรอ ชะโงกหน้าไปดูก็พบว่ายังไม่เลิกกันจริง ๆ ฮะ แถมคนต่อแถวเทียบกับเมื่อกลางวันยังไม่มีทีท่าว่าจะสั้นลงอีกด้วย

ก็แหม คนดังมานี่ครับ เลยถูกสาว ๆ รุมตอมกันมากหน่อย ชี๊ค มุสซาฟาร์ ชูกอร์ นักบินอวกาศคนแรกของมาเลเซียตัวจริงนี่ ดูดีกว่าในรูปอีกนะครับ ผมเป็นผู้ชายยังยอมรับเลยว่าเขาดูเท่ห์และมีสไตล์มาก และจากประวัติของเขา ไม่แปลกใจครับว่าทำไมเขาถึงได้รับตั๋วมูลค่า 90 ล้านริงกิตขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ด้วยความอนุเคราะห์ของเจ้า MKM ด้วยอีกแรง ..... เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาสั่งซื้อครับ มาเลเซียจ่ายไป 90 ล้านริงกิตในการฝึกนักบินอวกาศและส่งขึ้นสู่วงโคจร) บูทโครงการอวกาศของมาเลเซียบูทนี้ มีแสดงแฟลตวาบ ๆ ๆ ตลอดเวลาครับ



หลังจากออกจากงาน เราก็ออกไปหาอะไรกินกันสักทีครับ โครตหิวเลย ........ เรามา Landing กันแถวนี้ครับ เขาเรียกว่าเจ็ตติหรืออะไรนี่แหละ มีร้านค้าปลอดภาษีเต็มไปหมดเลย



และแล้วก็ได้ฤกษ์หาอะไรกินกันสักทีครับ ..... ด้วยความที่เราไม่รู้จักเลยว่าอาหารแต่ละอย่างคืออะไร เลยใช้วิธีสุ่ม จานแรกได้ Gorang มา คล้าย ๆ ข้าวผัดที่มากับไก่ย่าง อร่อยสุดยอดครับ ....... จานที่สองไม่รู้จะทำยังไง เลยใช้วิธียืนเกะกะหน้าร้านเขาสักพัก พอเขายกอะไรออกไปเสิร์ฟ แล้วดูน่ากิน ก็บอกเจ้าของร้านไปเลยว่า "ขอไอ้นี่อีกจานนึง" ง่ายดีครับ

อาหารเขาไม่ค่อยแพงมากครับ ราคาราว 3 - 5 ริงกิตต่อจาก หรือราว 30 - 50 บาทครับ



และแล้วก็ถึงเวลาหาที่นอน ...... จำได้ไหมครับว่าผมหาโรงแรมไม่ได้เลย (ห้องที่ว่างก็ราคา 4 พันกว่าบาทต่อคืน ตายแน่) ............ เลยใช้วิธีนี้ครับ นอนในรถโปรตอนนี้แหละ แถว ๆ นั้นริมทะเลด้วย เย็น ๆ ดี

เนี้ยฮะที่นอน



รุ่งเช้าเราไปล้างหน้าแปรงฟันกันที่สนามบินฮะ ส่วนน้ำไม่ได้อาบแน่นอน เพราะยังดองเค็มไม่ได้ที (เหตุผลจริง ๆ คือไม่มีที่อาบ) ........ คือ หลังจากนี้ ตอนแรกกะว่าจะไปดูโน้นดูนี่ของเกาะลังกาวีครับ แต่จากประสบการณ์ที่ขับรถหลงรอบเกาะมาแล้ว พบว่าเกาะนี่ก็ไม่ได้มีอะไรเท่าไหร่ ภูเก็ตบ้านเรามีที่เทียวมากกว่าเยอะฮะ จึงไม่มีอะไรทำแล้ว เราเลยเปลี่ยนมาลองขับรถไปจอดเลียบ ๆ ข้างรันเวย์ดีกว่า เผื่อเจอของเด็ด



แม้ว่าเราจะมาไม่ทันถ่าย MiG-29N ที่บินเกาะหมู่ 4 ผ่านไป แต่ก็ได้เจ้านี่มาแทนครับ Super Lynx 300 ลำนี้บินขึ้นมาจากสนามบิน หอบังคับการเขาคงรายงานแล้วล่ะครับว่ามีพวก Aviation Spotter (นักถ่ายภาพเครื่องบิน) อย่างผมยืนเกาะรั้วทำตาละห้อยอยู่ เขาเลยรีบตีวงมุ่งเข้ามาหาเรา (จะได้ไม่หันข้างให้เรา) และรีบไต่หาความสูงอย่างรวดเร็วครับ ......... Super Lynx 300 กลัวโดนถ่ายภาพ แต่เราก็ถ่ายมาจนได้



เราจอดรถกันตรงนี้ครับ และไป ๆ มา ๆ เราก็พบว่าเราไม่ได้จอดกันอยู่ทีมเดียว แต่ข้าง ๆ มีทีมญี่ปุ่น ถัดไปเจออังกฤษ ช่างภาพที่เดินมาอีกคนเป็นฮอลแลนด์ คุยกันเฮฮาปาร์ตี้ดีครับ ประสาคนคอเดียวกัน หุหุหุ คุณ Luftwaffe พูดญี่ปุ่นได้ เลยไปคุยกับเขา ได้ความมาว่าเขาถามว่าเมืองไทยจะได้ Su-30 ปีหน้าใช่ไหม ......... โหย ตกข่าวอย่างแรก

คนฮอลแลนด์ที่ยืนคุยกันด้วยนี่ตัวจริงครับ เขาถ่ายภาพเครื่องบินมา 35 ปีแล้ว ในเมืองไทย นอกจากวันเด็กแล้ว เขายังเคยไปเชียงใหม่ตอน OV-10 ของเราปลดประจำการ ได้ไปอู่ตะเภาเยี่ยมกองการบินทหารเรือ และไปกองบินตำรวจมาแล้วครับ ....... ถามไปถามมาได้ความว่า เขาถ่ายรูปให้กับนิตสาร Air Force Monthly, Scramble และ Flight International ...... โอ้โหสุดยอดฮะ



จอดอย่างนี้ เป็นสุวรรณภูมิหรือภูเก็ต ถูกจับทำประวัติไปแล้วนะครับเนี้ย เหอ ๆ ๆ

หลังจากนั้นก็มีเครื่องบินทะยอย ๆ Take off กลับบ้านครับ เริ่มจาก C-130 ของทอ.มาเลเซีย



P-3 Orion ของออสเตรเลียก็กลับครับ



CN-235 ของทอ.มาเลเซียก็กลับครับ



MiG-29N ครับ ควันดำปี๋เลย เพราะเครื่องยนต์ของ MiG-29 ไม่ใช่ Smoke-Free Engine ครับผม



เจอเจ้าลำนี้ .......... ก็รู้เลยครับว่าของเด็ดกำลังจะ Take off .......... เพราะลำนี้คือ An-32 ซึ่งเป็นเครื่องสนับสนุนของฝูง Surya Kiran ที่มาแสดงในเมืองไทยเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นี่เอง



แล้วตัวจริงก็มาครับ HTJ-16 ลำนี้กำลังจะขึ้นบินเพื่อไปแวะเติมน้ำมันที่สงขลา ก่อนจะไปค้างคืนที่สุราษฏ์ รุ่งเช้าเขาแวะประจวบ และมาลงที่ดอนเมืองครับ ซ้อมอยู่ 1 วัน และเขาก็เปิดการแสดงให้พวกเราชมกัน



ในฐานะเป็นฝูงบินผาดแผลง เขาจะขึ้นไปดื้อ ๆ ธรรมดา ๆ เลยไม่ได้ครับ ต้องมีฟอร์มกันหน่อย .......... เขาวิ่งมาพร้อมกัน 2 ลำเข้าคู่กัน เมื่อมี 2 คู่ = 4 ลำอยู่บนรันเวย์ ก็จะบินขึ้นพร้อม ๆ กัน



น่าเสียดายว่าวันที่ 12 ผมไม่ได้มีโอกาสไปชม เลยไม่ได้ดูเลย



หลังจากนี้เราก็ต้องลาลังกาวีแล้วล่ะครับ .............. เรือเฟอร์รี่ออกราวบ่ายโมง เมื่อถึงสตูล เราก็นั่งรถตู้ต่อไปหาดใหญ่เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพครับ



โชคดีที่ได้ตั๋วโปรโมชั่น เราเลยขึ้น A320 ของแอร์เอเชียลำใหม่เอี่ยมกลับครับ



เครื่องใหม่ บินนุ่ม เบาะนิ่ม นั่งสบายกว่า 737-400 ลำเก่าของแอร์เอเชียเยอะเลยครับ ไอ้พวกผมเดินไปถ่ายรูปเจ้า A320 เครื่องนี้ได้มาหลายรูปทีเดียว



และทริปนี้ก็จบลงครับ

ขอขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์นั่งโหลดภาพอ่านกันมาจนถึงตรงนี้ สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ



ปล. อันนี้คุณ Luftwaffe พูดครับ:

ผมสรุปรายจ่ายให้นะครับ จะได้เป็นแนวทางของท่านอื่นๆ

1. ตั๋วรถ กทม.-สตูล บขส. VIP 24 ที่ 1100 บาท/คน
2. ค่าเรือไป-กลับ สตูล-ลังกาวี 540 บาท/คน
3. ค่าเช่ารถ 1400 บาท/วัน (ตอนแรกเช่าของถูกครับ 700บ แต่ตอนมารถไม่อยู่าแล้วซะงั้น)
แต่ก็คุ้มนะครับ (ที่มาเล น้ำมัน 95 ลิตรละ 19 บาทกว่าๆครับ
4. ค่ารถตู้ สตูล-หาดใหญ่ 80 บาท/คน
5. ค่าเครื่องบิน หาดใหญ่-VTBS 1400 บาท/คน

รายจ่ายจุกจิกอีกประมาณ 500 บาทครับ

จากคุณ : Luftwaffe


Create Date : 16 ธันวาคม 2550
Last Update : 25 กันยายน 2551 8:22:53 น. 9 comments
Counter : 4641 Pageviews.

 


ไม่ได้เจิมนอนไม่หลับ


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 16 ธันวาคม 2550 เวลา:22:57:13 น.  

 
คืนนี้จะนอกใจพี่อเล็กซ์ฝันถึงคนนี้ดีกว่า ชี๊ค มุสซาฟาร์ ชูกอร์


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 16 ธันวาคม 2550 เวลา:22:59:09 น.  

 

แวะมา Say Hi!!!!! ครับ
เห็นว่า ชี๊ค มุสซาฟาร์ ชูกอร์ เค้าเป็นหมอ ด้วยนะครับ สุดยอดคนจริงๆ

อิอิอิ สจ๊วตคนนี้ (รูปรองสุดท้าย) เราเจอประจำเลยครับ ตอนบินไปมาเก๊ากับเวียตนาม

มาชวนดูพิธีปิดซีเกมส์ที่โคราชด้วยกันครับ

ปิดฉากซีเกมส์ที่โคราช เจอกันใหม่ที่ลาว ปี 2009

สามารถคลิกที่ภาพเพื่อเข้า Blog มิสเตอร์ฮองได้ครับ



โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 16 ธันวาคม 2550 เวลา:23:59:26 น.  

 


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:7:02:55 น.  

 
พี่ค่ะเครื่องบินไม่ค่อยอยากดูอย่างดู ชี๊ค มุสซาฟาร์ ชูกอร์


วันเด็กเขาจะมาเมืองไทยไหมค่ะ หรือวันเด็กมาเลย์มีไหมค่ะ อิ อิ จะตีตั๋วเด็กไปยิ้มแฉ่งข้างๆ ก๊ากกกกกกกกกกก


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:8:19:02 น.  

 
emoemoemo ปล. ผมขออนุญาตตอบทางนี้แล้วกันครับ ไม่ได้ลืม แต่ไม่กล้าตอบในกระทู้ กลัวกระทู้กลายพันธุ์ เดี๋ยวหนู๋นีลจะซวย (ไม่มีความซวยหรอกค่ะ มีแต่ความซ่า 555+ ).... ผมส่งหลังไมค์ไปไม่ได้ครับ เพราะ user หนู๋นีล block ตัว user ผม +-+-+-+-+ พี่จ่อยทำอะไรไปนะทำไม block แง้ แง้ งง แล้นดูก็ไม่รู้จะเข้าตรงไหน ทำไงอ๊ะพี่โย



emoemo ตอนนี้กลายพันธุ์ไปแล้นแระพี่ไอซี่องค์ลง emoemo


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:17:32:19 น.  

 


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:7:30:47 น.  

 
อ่านเรื่องแฟนคนเล็กสุดท้องหนูเกือบหายไปในสนามบินยัง อ๊ะ บล๊อคแฟนคนโตหนูเอง อ่านแล้นรักพี่อเล็กซ์ โตน่อยน้อยยังอุตส่าห์จะออกไปตามหาน้อง


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:9:00:16 น.  

 
รูปสวยจังเลยพี่ มีเรือเฟอรี่วิ่งจากสตูลไปมาเลย์ หนูพึ่งรู้นะเนี่ย นึกว่ามีแต่ที่สมุย

มาเลย์ หนูเคยไป KL กับเก็นติ้งอะ ลังกาวีไม่เคยไป


โดย: น้องผิง วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:14:19:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Analayo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [?]




หากโลกนี้มีความยุติธรรม เราคงไม่ต้องมีศาล ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีตำรวจหรอก/Skyman
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @
X
X



free counters


Friends' blogs
[Add Analayo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.