95 ปี วิหารคริศศาสนา จังหวัดตรัง
สวัสดีเพือนบล็อกค่ะ
ครบ ๑๐ วันที่รับปากแล้วนะคะ สำหรับการทำบล็อก ตอนนี้สาวขอเอารูปจากที่สาวขึ้นกระทู้ในห้องสมุดมาฝาก สำหรับ งานวันฉลองครบรอบ 95 ปี วิหารคริศศาสนา จังหวัดตรังเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา
สำหรับ95 ปี วิหารคริศศาสนา จังหวัดตรังบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕
ซึ่งข้อมูลทั้งหมด สาวเอามาจากกระทู้
//www.pantip.com/cafe/library/topic/K9872585/K9872585.html
ก่อนหน้านี้สาวได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ สยามคือบ้านของเรา ซึ่งบทบันทึกที่ได้รับการแปลจากบันทึกของ มิสซิส เอ็ดน่า บรูเนอร์ บัลค์ลีย์ มิชชันนารีชาวอเมริกันที่มาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสยามสมัยรัชกาลที่ ๕ ถึงตอนต้นรัชกาลที่ ๙ ซึ่งในบทบันทึกได้บรรยายวิถีชีวิตของเธอตั้งแต่ตัดสินใจมาเป็นครูในสยาม ในโรงเรียนวังหลัง จนกระทั่งตัดสินใจแต่งงานกับ Dr. L.C. Bulkley และได้ย้ายมาอยู่ในจังหวัดตรัง ดังที่เธอกล่าวว่า "ฉันคิดว่า..เมืองตรังเป็นเมืองที่สวยที่สุดในสยาม"
ความเป็นมาของคริสตจักรตรัง
จังหวัดตรังเป็นหัวเมืองอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย มีประชากร หลายพวกหลายเหล่ามาอาศัยอยู่ ได้แก่คนอินเดีย คนมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามได้อยู่รวมตัวกันเป็นหมู่บ้านตามอำเภอต่าง ๆ มีสุเหร่าหลายแห่ง เพื่อประกอบศาสนพิธี และศาสนกิจ มีอาชีพทำสวนยาง สวนพริกไทย การประมง เล็ก ๆ น้อย ๆ คนจีนเดินทางเรือจากประเทศจีนเข้ามาทางแม่น้ำตรัง จะมาขึ้นที่ตำบลแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียก "ท่าจีน" คนจีนเหล่านั้นพูดภาษาต่างกันตามเผ่าของเขา เช่น จีนแคะ จีนฮกเกี้ยน จีนไหหลำ จีนกวางตุ้ง ฯลฯ
คนจีนส่วนใหญ่ทำการค้าขาย จึงทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดตรังอยู่ในมือคนจีนเป็นส่วนใหญ่ ฐานะการเงินของจังหวัดตรังอยู่ในระดับที่ดี มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ เช่น ในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เป็นเจ้าเมืองตรัง ชาวตรังค้าขายกับชาวปีนัง ประเทศมาเลเซีย และกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะท่านเจ้าเมืองเองมีบรรพบุรุษ และญาติพี่น้อง อยู่ในประเทศจีน ชาวจีนที่มาอยู่นับถือพุทธศาสนาบ้าง ศาสนาเต๋าบ้าง และยังมีลัทธิอื่น ๆ มากมาย แต่ยังไม่มีการเผยแพร่คริสต์ศาสนาในจังหวัดตรัง จน Mr. John Carrington ซึ่งทำงานกับสมาคมพระคริสตธรรมอเมริกัน (Ameriean Bible) มาจังหวัดตรัง
ค.ศ. 1905 Dr. & Mrs.Gugene P. Dunlop มาเที่ยวจังหวัดตรังและได้รับมอบเงินจำนวน 3,000 ดอลล่าห์ จากข้าหลวงเมืองตรังเพื่อสร้างโรงพยาบาลทับเที่ยง จังหวัดตรัง Dr. G.P. Dunlop จึงมีเสนอให้คณะมิชชั่นนารี มาเปิดสถานประกาศที่ตำบล ทับเที่ยง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการประกาศคริสต์ศาสนาในจังหวัดตรังของมิชชั่นนารีชาวอเมริกัน
วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1910 คณะมิชชั่นนารีอเมริกัน เปิดสถานีประกาศทับเที่ยง มี Dr. L.C. Bulkley ประจำสถานประกาศจนการสร้างโรงพยาบาลทับเที่ยง และบ้านพักหมอเกือบเสร็จแล้ว ครอบครัว Dulop ต้องเดินทางไปสถานประกาศที่สิงคโปร์ ปีนัง และที่กันตัง ส่วน Bulkley ต้องเดินทางไปดูแลครอบครัว คริสเตียนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามทั้งครอบครัว Dunlopและครอบครัว Bulkley ต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ซึ่งมีเพียง 3 ห้องและมีการนมัสการในบ้านหลังนั้นเป็นเวลา 7 เดือน จนครอบครัว Dunlop ได้บ้านหลังใหม่
30 มิถุนายน ค.ศ. 1912 (ศก.131) คณะมิชชั่นนารีใช้ห้องประชุม (Chape) ของโรงพยาบาลทับเที่ยง เป็นที่ประชุมศิษย์ของพระเยซู (ชื่อตามบันทึกของ Dr. G.p. Dunlop) และตั้งคริสตจักรตรังเป็นครั้งแรกเรียกว่า คริสตจักรทับเที่ยง ผู้มาร่วมประชุมเป็นผู้ใหญ่ 102 คน ,เด็ก 18 คน , และได้มีคนรับบัพติศมา 34 คน Dr. Dunlop ได้รับการแต่งตั้งจากคณะเพรสไบทีเรียนสยามให้เป็นผู้ดูแลคริสตจักรตรัง เทศนาสั่งสอนเรื่องพระเยซู ได้เลือกชาวไทยช่วยงานคริสตจักรเป็นผู้ปกครอง (elders) 4 คน ได้แก่ Dr. L.C. Bulkey , นายจอง ,นายสุกนายตุ๋น และเลือกผู้ดูแลทรัพย์สิน 5 คน (five triestees) คือ นายสุก, นายด่วน, เถ้าแก่ลอยนายช่วย , นายพาด 1 มกราคม ค.ศ. 1912 (ศก 131 ) เริ่มมีการถือศีลระลึกถึง ความมรณาของพระเยซู ให้บัพติสมาแก่ผู้รับเชื่อและยังบัพติสมาเด็ก 9 กรกฎาคม 1912 มีการนมัสการตามบ้าน
30 มิถุนายน ค.ศ. 1912 ถึง กันยายน 1920 Dr.G.P. Dunlop เป็นประธานการประชุมกรรมการและทำบันทึกของคริสตจักรเป็นภาษาอังกฤษและนายยวง (พวงภู่) เยื้อนแย้ม เป็นผู้แปล ค.ศ. 1913 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงอนุญาตให้ คริสตจักรตรังซื้อที่ดินเพื่อทำสุสานและเพื่อสร้างโบสถ์ ตัวโบสถ์ทำด้วยไม้ไผ่ มุงหลังคาจากสร้างบนดินที่พูนขึ้น เมื่อโบสถ์สร้างเสร็จแล้วจึงมีการใช้นมัสการแทนห้องประชุมของโรงพยาบาล บางคนเรียกว่าโรงสวดทับเที่ยง มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 53 คน มีคนจากหลายแห่งมารับเชื่อ เช่น ตำบลท้ายพรุ กันตัง , ทับเที่ยง , เขาขาว , ทุ่งสง, นาเกลือ, เขาเศษ , บ้านท่าประดู่ , นาโยง ฯลฯ
4 มิถุนายน ค.ศ. 1913 ได้จัดตั้งโรงเรียนวันอาทิตย์ (Sunday School) เพื่อศึกษาพระคัมภีร์ภายหลังการสวด Mrs. Dunlop และ Mrs. Bulkley Snyder เป็นผู้รับผิดชอบ Dr. Dunlop นอกจากดูแลคริสตจักรตรัง ท่านยังรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโรงเรียนรัฐบาลที่จังหวัดตรังอีกด้วย 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1915 มีพิธีถวายอาคารโบสถ์ถาวรของคริสตจักรตรัง มีอักษรจารึกไว้เหนือบันไดทางเข้าข้างหน้าว่า "วิหารคริสตศาสนา สร้าง ค.ศ. 1915" การฉลองวิหารทับเที่ยงมี 3 วัน คือวันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1915 แต่เดิมนั้นหอระฆังเป็นเพียงดาดฟ้ามีลักษณะคล้ายกับป้อมทหารสมัยโบราณ หลังจากนั้นมีปรับปรุงใหม่ เนื่องจากระฆังที่อยู่ในหอระฆังชั้นที่สองดังก้องมากเกินไป จึงเพิ่มชั้นบนขึ้นเช่นที่เห็นในปัจจุบัน
หมายเหตุ วิหารหลังนี้ซ่อมแซมครั้งสุดท้ายเมื่อ กันยายน -- ตุลาคม ค.ศ. 1985 เปลี่ยนหลังคาจากกระเบื้องซีเมนต์แบบเก่าทรงสี่เหลี่ยม กลายเป็นกระเบื้องใยสังเคราะห์ยางอัลฟัลทาสีภายนอกและภายใน เพดานบุกระเบื้องยิบซัม พื้นปูคอมปานาสีขาวครีม ต่อมา เมื่อเริ่มสร้างโบสถ์หลังใหม่ จึงเปลี่ยนกระเบื้องใยสังเคราะห์เป็นแผ่นไลสาด เพราะกระเบื้องใยสังเคราะห์เมื่อโดนแดดมาก ๆ จะบิดเสียรูปทำให้น้ำรั่วหน้าฝน และทำเวทีใหม่ลดต่ำลงมา หลังจาก การฉลองโบสถ์ถาวรในปี ค.ศ. 1915 มีผู้รับเชื่อจากที่ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น จากท่ามิหรำ จังหวัดพัทลุง บ้านนาทองหลาง บ้านหนองเทา ตำบลเมท ตำบลนาโยง บ้านเขากอบ จึงตั้งคณะธรรมกิจเพิ่มขึ้น คณะธรรมกิจจัดแบ่งเงิน ถวายเป็นสัดส่วน เพื่อใช้อย่างมีระเบียบทุกอาทิตย์ เช่น ค่าผู้รักษาโบสถ์ ค่าน้ำมันก๊าด ซื้อพระคัมภีร์ ค่ารักษาป่าช้า ค่าเช่าที่โรงสวดในตลาดและเงินใช้เบ็ดเตล็ดถ้าได้เงินมาถวายมากกว่า 11 บาท จะเป็นเงินอุดหนุนโรงเรียนคริสเตียนในจังหวัดอื่น
ขอบคุณที่มาประวัติค่ะ
//trangchurch.org/church/content/view/12/32/
ตรงนี้เป็นรูปมาจากการจัดนิทรรศการ ซึ่งยังจัดแสดงอยู่ที่วิหารคริสต์ ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม จนถึงต้นมกราคม ผู้สนใจสามารถไปชมได้ค่ะ
ภายในวิหาร มีของเก่าๆหลายอย่าง
ชุดทำพิธี
หม้อ
กะทะ
ตู้กับข้าว
เตารีด
ชุดเครื่องเสียง
Dr. & Mrs.Gugene P. Dunlop
Dr. L.C. Bulkley และ มิสซิส เอ็ดน่า บรูเนอร์
มาถึงปัจจุบันกันบ้างนะคะ
ร้องเพลง
เด็กๆ
วงดนตรี
ผู้ร่วมงาน
ประธานในพิธี
ขอบคุณทุกๆคนสำหรับการเยี่ยมชมและทักทาย
ขอบคุณที่มาจากเว็บ //www.trangchurch.org/
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 7:05:28 น. |
|
43 comments
|
Counter : 3495 Pageviews. |
|
|
|
***ขอบคุณมากจริงๆๆค่ะมิตรน่ารักบล็อกแก๊งค์***
คุณแคทนำบุญกฐินพร้อมภาพน่ารักสดใสมาฝากค่ะ
อนุโมทนาบุญมากมายค่ะ
ยอดเงินบริจาคเป็นจำนวนเงิน
124,933.-บาท
1 แสน 2 หมื่น 4 พัน 9 ร้อย 3 สิบ 3 บาท
รวมทั้งชาว BLOGGANG ชาวบางขุนเทียน และชาวบ้านค่ะ
******************