เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ เปิดรับประสบการณ์ใหม่ เที่ยวด้วยใจเที่ยวด้วยกัน

<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 พฤษภาคม 2558
 

Happy Journey in Hong Kong & Macau: ชิม ช้อป แชะ สนุกทุกองศา

เที่ยวแบบมั่ว ๆ ทัวร์แบบขำ ๆ หลงบ้างอะไรบ้าง แต่ก็สนุกทุกองศา
ฮ่องกงสำหรับเราแล้วครั้งนี้เป็นครั้งที่3 (2 ครั้งแรกมาทำงาน เลยไม่มีเวลาได้เที่ยว) ส่วนมาเก๊าเป็นครั้งแรก ทริปนี้เริ่มจองตั๋ว Everyone Can Fly ไว้ตั้งแต่25 ส.ค. 2557  เดินทางก็ 7 พ.ค. 2558   รอเบาๆ เกือบ 9 เดือน แต่ก็เอาน่าค่าตั๋วถูกรอได้ ๆ เราได้ตั๋วไป กลับ ดอนเมือง – มาเก๊า  ในราคา 3,570 บาท


7/5/2015

แล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง3 สาว ขาเก่าเจ้าประจำ นัดเจอกันในเช้าวันที่ 7พ.ค. ที่สนามบินดอนเมืองเวลา 8.00น. Checkin มาเรียบร้อยไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิว เขียนใบ Immigration ให้เสร็จสรรพ เดินเข้าตม. แบบสวย ๆ เช้านี้ ตม. โล่งมาก ๆๆๆ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็เข้ามาด้านในเดินเล่นสบาย ๆ แวะชมสินค้าดิวตี้ฟรี จัดกันไปเบา ๆ เที่ยวบินของเราเช้านี้ FD762 : 10.10 ถึงสนามบินมาเก๊า 13.40 (เวลาต่างกัน 1 ชม.)

ถึงสนามบินมาเก๊าตรงเวลาแป๊ะเข้าและออก มาเก๊าไม่ต้องเขียน ใบ Immigrationนะจ๊ะ ลงจากเครื่องเดินไป ตม.ได้เลย ต่อคิวเข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ถึง10 นาทีเสร็จ สนามบินมาเก๊าเป็นสนามบินเล็ก ๆ พอ ๆ กับสนามบินดอนเมือง ด้านหน้าสนามบิน จะมีรถบริการฟรีเยอะแยะมากมายจากคาสิโนต่าง ๆ เลือกขึ้นตามใจชอบ เราเลือกใช้บริการรถของเวเนเชี่ยนเพราะตั้งใจจะไปเที่ยวเวเนเชี่ยนก่อนค่อยไปโรงแรม รถบัสของเวเนเชี่ยนแอร์เย็นช่ำชื่นใจ ใช้เวลาจากสนามบินไปเวเนเชี่ยนประมาณ 10-15 นาที แค่ผ่านด้านหน้าคาสิโนต่าง ๆ ยังไม่ได้ลงไปสัมผัสนะโอ้แม่เจ้าอะไรจะทำกันแบบเว่อร์วังอลังการงานสร้างขนาดนี้ ทุกที่ไม่ว่าจะเป็น Sand /City of dream / และที่อื่น ๆ รวมทั้ง Venetian ด้วย บอกได้เลย มันใหญ่มาก





วันนี้เราเลือกที่จะมาVenetian แค่ด้านหน้า Main Lobby ยังไม่ทันได้เดินไปไหน กลิ่นความอลังการงานสร้างก็โชยมาแล้วคือมันสวยงามเลอค่าน่าชื่นชม (เจ้าของคงจะรวยมากสินะ...555) ก่อนจะเริ่มออกท่อง Venetianก็ต้องมองหาป้ายก่อนว่าจะไปอะไรยังไงตรงไหนกันดี เราเลือกที่จะจขึ้นไปชั้น 3 เป็นส่วนของ Shopping Mall ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าแบรนเนมทั้งสิ้น ได้แค่เฉียด ๆ เข้าไปชื่นชม เค้าว่ามา มาเก๊าต้องมาชิมทาร์ตไข่ของคุณลุง LordStow’s Bakery ให้ได้ มาถึงที่แล้วต้องหามาชิม เรา 3 สาว พากันเดินหาอีร้านลุงลอร์ดเดินกันจนขาลากก็ไม่เจอ มีแผนที่ให้ดูก็เดินตามแผนที่นะ แต่เอ๊ะก็ยังไม่เจออยู่ดี ตัดใจไม่กงไม่กินมันและ ไม่ไหวจะเดินเก็บแรงไว้ไปเดินชมซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's) จัตุรัสเซนาโด (Senado Square) ดีกว่า

เราอยู่กันที่Venetianประมาณ 2 ชม. จาก Venetian เราก็ใช้บริการรถฟรีอีกเช่นเคย  เราจะนั่งจาก Venetian เพื่อมาลงท่าเรือมาเก๊าแล้วค่อยต่อแท๊กซี่มาที่พัก ขามาจากสนามบิน รถจะมาจอดส่งที่หน้า Main Lobby แต่ขาออกจากVenetain ต้องเดินมาขึ้นรถทางฝั่ง West Lobby ซึ่งฝั่งนี้จะต้องเดินผ่านคาสิโน โอ้แม่เจ้า!! Oh My God!!  นี่มันตลาดนัดการพนันชัด ๆใหญ่มาก โต๊ะเล่นเยอะมาก คนเยอะมาก สามัญชนคนธรรมดาอย่างอิฉัน ได้แค่ยืนดูอยู่ห่างๆ มิสามารถเข้าไปร่วมแจมได้ เพราะเงินไม่ถึงจริง ๆ  ได้แต่มองตาปริบ ๆแล้วเดินจากมาอย่างสงบ...555++




จากVenetianมาที่ Macau Ferry ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีจากนั้นเราก็ต่อแท็กซี่ มาที่ Hua Kong Hotel ค่าแท็กซี่ 41เหรียญ แท็กซี่ที่มาเก๊าจะสตาร์ทมิเตอร์ที่ 17 เหรียญ คนขับรถพูอังกฤษไม่ได้ เราก็เลยเอาชื่อโรงแรมที่มีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษให้ดู แล้วลุงแกก็มาส่งเราถึงโรมแรมอย่างปลอดภัย เข้า Check in จ่ายค่าห้อง เราผ่านทาง Booking.com มาจ่ายเงินที่ รร.ค่าห้องที่เราพัก รวมทุกอย่างแล้วอยู่ที่ 976 เหรียญ แพงมาก แล้วไม่มีน้ำดื่มให้นะคะแต่ทำไงได้ก็ต้องพัก นี่ขนาดแค่รร.เล็ก ๆ นะ ยังแพงขนาดนี้ที่มาเก๊าของแพงทุกอย่าง (อิฉันคอนเฟริม) ถึงห้องพักเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา ออกเที่ยวต่อเลยจ้า

ที่พักของเราอยู่ไม่ห่างจาก ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล(Ruinsof St. Paul's) และ จัตุรัสเซนาโด(Senado Square) เราจึงเดินแล้วก็เดินต่อไปยังจุดหมาย ณตรงจุดนี้ประมาณว่าเป็น Landmark ของชาวมาเก๊า เค้าเลยแหล่ะคนเยอะมาก ประมาณถนนคนเดิน มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า ขายยามีแทบทุกอย่าง เราเลือกที่จะเดินไปชม ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล(Ruins of St. Paul's) กันก่อน เดินทางตรงเซนาโด้ไม่ไกล สิ่งที่เห็นข้างหน้า สวยดีค่ะ นักท่องเที่ยวก็มานั่งตามขั้นบันได ถ่ายรูปเล่นกันเป็นที่สนุกสนานรวมทั้งเรา 3 สาวด้วย


จาก ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลเราก็วกกลับมาที่เซนาโด้ เดินดูสภาพความเป็นอยู่ของคนมาเก๊ากันต่อ ได้แค่ดูเพราะเราตั้งใจจะไปช้อปกันที่ฮ่องกง



มาถึงมาเก๊าแล้วก็ยังไม่ได้ลิ้มลองทาร์ตไข่ต้นตำรับ เอาวะเดินหาร้านดัง กันอีกสักตั้ง ร้านที่ว่านี้ชื่อ Margaret’s Café e Nata แผนที่พร้อมพิกัดพร้อม ถามคนเดินถนนก็แล้ว แต่เราก็ยังหากันไม่เจอ เฮ้อ!! ถอดใจค่ะไม่กินก็ได้ จบ ๆ ไม่ค้นหาแล้วจ้า สรุปหาไม่เจอ หิวก็หิว เดินมาเห็นร้านอาหารจีน รีบเร่งเข้าร้านเลยมีอะไรก็กิน ๆ กันไปโลด มาดูมื้อแลกในทริปนี้ของเรากันเลยจ้า




อิ่มกันแล้วก็ไปชมแสงสียามค่ำคืน สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเป็นคาสิโน  เค้าถึงว่ากันว่ามาเก๊าคือสวรรค์สำหรับนักเสี่ยงโชค อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง ได้แค่มองคนมีกะตังเขาเดินเข้าเดินออกกันก็เพลินแล้ว





เดินกันแบบขาชากันไปทั้ง2 ข้าง ก็ได้เวลากลับห้องพัก ก่อนกลับระหว่างเดินไปโรงแรม ผ่านร้านขนมร้านนึงเอ๊ะทำไมคนเยอะจังแวะเข้าไปชิมซักหน่อยดีกว่า สิ่งที่เราข้าไปลิ้มรส มันสุดยอดความอร่อยสดชื่นกันไปเลย ชอบมว๊าก อร่อยมากสดชื่นมาก ไม่รู้เรียกอะไร แต่เราเรียกมันว่าเต้าฮวยนมสด ราคาถ้วยละ 27 เหรียญ ก็ประมาณ ร้อยกว่าบาท



ก่อนถึงห้องพักก็แวะหาไรไว้กินเช้ากันหน่อยได้ทาร์ตไข่มาชิม อันละ 8 เหรียญ อร่อยติดใจเลยจ้า กล้วยหอม 5 ลูก กล้วยหอมที่มาเก๊าชั่งกิโลขายนะจ๊ะ ไม่ได้ขายเป็นหวีอย่างบ้านเรา 5 ลูกก็ 14 เหรียญส่วนน้ำดื่มที่มาเก๊าก็ราคาไม่ต่างกับที่ฮ่องกง คือ แพงจริง ๆนึกถึงน้ำดื่มบ้านเราขวดละ 7-8 บาท กินแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ  คนไทยนี่ต้องไปเจอน้ำดื่มแพง ๆอย่างบ้านอื่นเมืองอื่นเค้าบ้างจะได้เห็นคุณค่าของน้ำให้มากกว่านี้ เป็นอันว่าคืนนี้กว่าเราจะกลับถึงห้องพักก็ประมาณ3 ทุ่ม เหนื่อย เพลีย ง่วง อาบน้ำนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปฮ่องกง



8/5/2015

เช้านี้ตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงเก็บกระเป๋า อาบน้ำแต่งตัว วันนี้เราจะไปข้ามไปฮ่องกงกันแต่เช้า เราออกจากที่พักตั้งแต่ 7 โมงกว่า ๆ ขึ้นแท็กซี่จากหน้าโรงแรมไปมาเก๊าเฟอรี่ ใช้เวลาประมาณ 10-15นาที ซื้อตั๋วเรือไปลงที่เกาลูนใช้บริการเรือของ TurboJet ค่าเสียคนละ 153 HKD ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม.




ถึงท่าเรือเกาลูนประมาณ9.40 นาที จากนั้นก็เข้าสู่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ครั้งนี้คือครั้งแรกที่ โดนตม. กักตัว ไปเที่ยวมาก็ไม่ใช่น้อย ๆก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เจ้าหน้าที่ตม. ผู้ชายที่ตรวจ Passport ถามว่าเรามาคนเดียวเหรอเรารีบตอบ No ๆๆๆ มากัน 3 คนจ้า จากนั้น จนท.ผช. ก็เรียกจนท.ผญ.เข้ามาคุยกับเรา ตอนแรกก็งงนิดนึงพอตั้งตัวได้ ก็เอาวะถามมาเลยฉันคิดว่าฉันมีคำตอบหมด คำถามแรก

จนท.ผญ.:คุณมาทำอะไรที่ฮ่องกง

เรา:มาเที่ยวจ้า

จนท.ผญ.:มาเที่ยว

เรา:ใช่มาเที่ยว (คิดในใจกรูมาเที่ยวฮ่องกงไม่ได้เหรอไง)

จนท.ผญ. คุณมีตั๋วเครื่องบินมั้ย

เรา:มีจ้า พร้อมกับยื่นตั๋วเครื่องบินให้นางไป

จนท.ผญ.:ดูตั๋วสักพัก นางก็ถามคุณได้จองที่พักไว้มั้ย

เรา: จองจ้าแล้วก็หยิบใบจองโรงแรมให้นางไป

จนท.ผญ.:ให้เรากับเพื่อนสาวนั่งรอสัก 15 นาที นางก็เอา Passport +ตั๋วเครื่องบิน+ใบจองโรมแรม ของเราไป สักพักนางก็เดินมาบอก โอเคแล้วก็คืนทุกอย่างให้เรา

เรา:ขอบคุณ และไม่ถามเหตุผลอะไรจากนางเลย ว่ากักตัวกรูไว้เพื่อ....

ที่เอามาเล่าให้ฟังเพื่อใครจะเจอเยี่ยงนี้บ้าง เผื่อไปเที่ยว ตปท. สำหรับเรา เราว่าใบจองโรงแรมตั๋วเครื่องบิน สำคัญค่ะ คิดว่าสามารถช่วยเราได้ ว่าฉันมาเที่ยวฉันไม่ได้อยากมาอยู่ในประเทศของเธอหรอกย่ะเพราะสยามเมืองยิ้มบ้านฉันสุขที่สุดแล้วย่ะ (55555++)

กว่าจะออกมาจากตม. ท่าเรือเกาลูนได้ก็ 10 โมงกว่า รายการต่อไปคือเดินหาที่พักตึกMaradorMansion ย่านจิมซาจุ่ย ก่อนหน้านี้เคยมา 2 ครั้งแต่เป็นการมาจากสนามบิน ขึ้นรถสาย A21 หน้าตึกได้เลยรอบนี้เลยต้องเดินหากัน เราก็เดินถามทางกันมาเรื่อยจนเจอ มาถึงที่พัก Sanny Hotel ก็ประมาณ 11 โมงกว่า ๆ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากสาวชื่อว่าAmy นางบริการดีนะคะ เราจองห้องพัก 3 คน 2 คืน ราคา 840 HKD Amy ให้เราพักห้องแบบ 4 คนแต่ราคาเดิม ต้องขอบคุณ Amy จริง ๆ เก็บข้าวของเรียบร้อยก็ออกเที่ยวกันเลย ก่อนไปก็แวะหาอาหารกินซะเลย มือแลกที่เกาลูก เราเลือกกินกันแบบง่าย ๆก๋วยเตี๋ยวฮ่องกง แต่เส้นแบบก๋วยจั๊บญวณเลยอะ ชามใหญ่มาก คืนกินคนเดียวไม่หมด


อิ่มแล้วก็พร้อมออกเที่ยวการเดินทางเที่ยวในฮ่องกง เราเลือกใช้บัตร Octopus จ่ายไป 150 HKD 100 แรกไว้เป็นเงินที่ใช้จ่ายค่าเดินทาง 50เป็นค่ามัดจำบัตร

ที่แรกในวันนี้ที่เราไปกันคือวัดแชกงหมิว หรือวัดกังหัน เราเริ่มต้นกันที่ MTR สถานีจิมซาจุ่ย เดินไปยัง Exit G เพื่อเชื่อมต่อไปยัง สถานี EastTsim Sha Tsui ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีฟ้าอ่อน ที่สถานนี Hung Hom เดินหากันแบบขาลาก ถามเจ้าหน้าเป็นภาษาอังกฤษตอนเค้าตอบมาเผือกเป็นภาษาจีน งงไปเลย ตอนแรกก็ตัดสินใจจะไม่ไปวัดแชกงหมิวแล้ว เพราะงงกับสถานี ก็เลยตัดสินใจจะขึ้น MTR กลับมาที่สถานีจิมซาจุ่ย จากสถานีเซ็นทรัล แต่เราขึ้นผิดฝั่ง พอออกมาใช่เลย สถานี Hung Hom ที่เราตามหา เรา 3คนเลยได้ไปวัดแชกงหมิว (หลงมาจนเจอ...อิอิ) จากสถานี Hung Hom ขึ้นไปลงยัง สถานี Tai Wai Exit B วัดอยู่ฝั่งตรงข้าม วัดจะหลังคาสีเขียว ตัวอาคารสีแดง โดยเดินลง Subway เพื่อข้ามมายังวัด วันนี้ที่เราไปเจอแต่คนไทยจ้า คนไทยเยอะจริง ๆ


ไหว้พระขอพรกันแล้ว ก็ไปต่อกันที่วัดหวังต้าเซียนเราก็กลับมาทางเดินมาเริ่มต้นที่สถานี้จิมซาจุ่ย ไปลงสถานีYauMa Tei แล้วต่อสายสีเขียว ไปลงสถานี Wong Tai Sin : Exit B ออกจากสถานีมาก็เจอวัดเลย  วัดสวยดีมีคนจีนมาไหว้กันเยอะ นักท่องเที่ยวก็เยอะ ส่วนใหญ่ก็นักท่องเที่ยวไทยนี่แหล่ะค่ะเยอะมากไปที่ไหนก็เจอแต่คนไทย บ่งบอกเลยว่าคนไทยรักการเที่ยวจริง





ไหว้พระ เดินชมสถาปัตยกรรมจีน แชะภาพกันพอประมาณ  ก็ได้เวลาหิว กองทัพต้องเดินด้วยท้องเราเลยหาอาหารกลางวันแถว ๆ วัดหวังต้าเซียนกันกันไปเลย ฝั่งตรงข้ามวัดจะมีห้างมีร้านอาหารหลายร้านอยู่ มื้อนี้สั่งแค่ 2อย่างกินกัน 3 คน เพราะสั่งมา คนละอย่างทีไรกินกันไม่เคยหมด รสชาติจี๊นจีน แต่ก็อร่อยดีนะ ตบท้ายด้วยเค้กแบบ ฮ้องกง ฮ่องกง (อร่อยเว่อร์)




จากวัดหวังต้าเซียนไปกันต่อที่ สวนสวยNanLion Garden นั่ง MTRสถานี Wong Tai Sin ไปลงสถานี DaimondHill : Exit C2 เห็นแล้วชอบเลย สะอาด สดชื่น แจ่มใส ใส่ใจนักท่องเที่ยวต้นไม่แต่ละต้นได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีมาก เดินได้เพลินมาก ๆ ที่สำคัญ ฟรี ไม่เสียค่าเข้าชมจ้า แนะนำเลยมาถึงฮ่องกงแล้วต้องมาแวะ สวนสวย Nan Lion Garden ไม่ผิดหวังค่ะ





นั่งพักสูดอากาศหายใจ เติมออกซิเจนให้ร่างกายพอสมควรแล้วเราไปกันต่อที่ ย่านมงก๊ก จากMTRสถานี Daimond Hill ไปลงสถานี Mong kok มงก๊ก : Exit E2 ได้เวลาช้อปปิ้งเราเลือกเดินที่ถนนเส้นที่มีรองเท้ากีฬาเยอะแยะไปหมด เดินดูกันหลายร้านมาก ราคาก็ไม่ต่างกันมากสุดท้ายได้รองเท้ามาฝากหลายชาย 1 คู่ ตกคู่ละประมาณ พันกว่าบาท จากมงก๊กไปจะไปดื่มด่ำบรรยากาศยามพลบค่ำที่ริมอ่าววิคตอเรีย นั่งMTR สถานีมงก๊กมาลง สถานีจิมซาจุ่ย เดินไป Avenue of star เยี่ยมญาติดาราฮ่องกง รอชม Symphony Of Lights ตอน 2 ทุ่มตรง Symphony Of Lights ใช้เวลาในการแสดงแสงสีเสียงประมาณ15 นาที เลิกจาก Symphony Of Lights เราก็พากันเดินกลับที่พักก่อนถึงที่พักก็ตามประสาสาว ๆ นักช้อปแวะซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้เป็นระยะ ๆจนถึงที่พัก ก็ได้กันไปพอหอมปากหอมคอ เหนื่อยและเมื่อยมากนอนพักผ่อนพรุ่งนี้ยังอีกยาวไกล






9/5/2015

วันนี้โปรแกรมที่เราจะไปมี  NongPing ไหว้พระใหญ่โปลิน  CityGate RepulseBay The Peak  ไปเริ่มกันเลยจ้า ที่แรกของเช้าวันนี้ คือ NongPing ไหว้พระใหญ่โปลิน เรามุ่งตรงไปที่ MRT สถานีจิมซาจุ่ย ไปลงที่สถานีLaiKing เปลี่ยนเป็นสายสีเขียวไปลงสถานี Tung Chung วันที่เราไปเป้ฯช่วงที่กระเช้าปิดซ่อมแซม(เงิบ!!!อดขึ้นกระเช้า)  เลยต้องใช้บริการรถบัสสาย 23 ขึ้นไป NongPing แทน ค่ารถคนละ 17.20 HKD ใช้บัตร Octopusได้เลยจ้า  ใช้เวลาค่อย ๆขึ้นไปบนเขา เกือบ 1 ชม. แล้วเราก็มาถึงหมู่บ้านนองปิงสายวันนี้หมอกบนหมู่บ้านนองปิง เยอะมากมองระยะไกลนี่แทบไม่เห็นอะไรเลย  ก่อนจะเริ่มเดินชมความงาม เราก็หาอาหารเช้าเสริมเพิ่มพลังกันก่อนเลย  อาหารเช้าก็ง่าย ๆก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูเห็ดหอม  ขอบอกลูกชิ้นอร่อยมากกกกกกก ติดใจเลยจริง ๆ  ส่วนไข่ที่เห็นในชามเป็นไข่ต้มใบชาซื้อมาลองชิม สำหรับไข่ต้มเราไม่ชอบกลิ่นมัน เลยไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่


อิ่มพุงกันพอสมควร ก็เริ่มสำรวจพื้นที่กันต่อเลยเราเริ่มเดินหาทางขึ้นไปไหว้พระใหญ่ ที่บอกต้องเดินหาเพราะหมอกเยอะทำให้มองไม่เห็นองค์พระใหญ่ ก็ใช้วิธีเดินตามคนอื่น ๆ เค้าไป  เดินมาจนถึงเกือบบันไดทางขึ้น ถึงได้มองเห็นลางๆ ว่าเรามาถึงทางขึ้นแล้ว ค่าเข้าชมก็คนละ38 HKD ตกประมาณ 160บาท เราว่าไม่แพงนะ แถมขึ้นไปถึงข้างบน เอาบัตรไปแลกน้ำดื่มเย็น ๆ 1 ขวดกับไอติมคลายร้อน อีก 1 อัน เราว่าคุ้มมากมาย องค์พระใหญ่ ใหญ่โตสมชื่อ สวยงาม ทึ่งในความศรัทธาอยู่บนเขาขนาดนี้ยังมาสร้างองค์พระได้ใหญ่อลังการจริง ๆ กราบนมัสการองค์พระ ขึ้นไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าถ่ายรูปรอบ ๆ

ได้เวลาอันเป็นสมควรลงมาชมด้านล่างกันต่อ รอบ ๆบริเวณก็จะมีวัดสวยงามแบบฉบับจี๊นจีน ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมเดินออกมาก็มาแวะหมู่บ้านนองปิง อันนี้ยกนิ้วให้กับการบริหารจัดการพื้นที่ได้แบบดีเยี่ยม สะอาดสะอ้านเดินไม่มีเบื่อ มีร้านอาหาร ร้านขายของ จัดได้ลงตัวมาก ๆ ก่อนออกจากนองปิงเราเลือกที่จะแวะชิมขนมแบมะม้วงมะม่วงที่ร้าน HoneymoonDessert จากการอ่านรีวิวมามากมายเค้าบอกว่ามานองปิงแล้วต้องไม่พลาดชิมขนมที่ร้านนี้ถ้าไม่ชิมถือว่า...ผิด...(เรียบแบบครัวคุณต๋อย...555++) กลัวผิดเลยต้องแวะชิมความอร่อยกันซะหน่อย ขึ้นชื่อของที่นี่เลยต้อง เครปมะม่วง สั่งมา 1ที่ ส่วนอีก 2 อย่างที่สั่งมาชิมกันก็ มะม่วงพุดดิ้ง กับมะม่วงสาคูจกการได้ชิมแล้ว นักชิมอย่างอฉันขอฟันธงว่า...ก็งั้น ๆ ค่ะขนมบ้านเราอร่อยและถูกกว่าเยอะ







ชิมรสชาติร้านดังกันไปแล้ว ก็ได้เวลากลับเราใช้เวลาอยู่ที่นองปิงน่าจะสัก 3 ชม. ขึ้นรถบัสสายเดิมไม่เพิ่มราคา มาลงที่ท่ารถแวะ City Gate Outlet ช้อปปิ้งกันให้ซะใจ เดินกันเพลิดเพลินเจริญกระเป๋ามาก ได้กันมาพอสมควร แวะหาอาหารกลางวันที่นี่เลย ที่ City Gate จะมี Food Republic ก็เลือกกินตามใจชอบหน้าตาอาหารก็ประมาณนี้





จาก City Gate ตอนแรกวางแผนกันว่าจะไป RepulseBay แต่ด้วยเวลาไม่เอื้ออำนวยเราเลยตัด Repulse Bay ออกจากแผนการเดินทาง เราทั้ง 3เลยมุ่งตรงไปที่ The Peak แทน การเดินทางก็ MTR สถานี Tung Chung มาลง สถานี Central : Exit A แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปตึก ExchangeSquare ใต้ตึก Exchange Square จะเป็น BusTerminal ขึ้นสาย 15 เพื่อขึ้นไป ThePeak ใช้เวลาเกือบ 1 ชม. ข้างบน The Peak อากาศดีเว่อร์พื้นที่ทำได้ดีมาก ๆ ข้างบนก็มีห้างให้เดินเล่น ช้อปปิ้ง กินข้าวกินน้ำกันขนมฮ่องกงนี้มันเมืองแห่งห้างสรรพสินค้าจริง ๆ วันนี้เราเจอฝนบน The Peak เลยต้องเข้าไปเดินเล่นในห้าง เดินห้างก็ๆไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการช้อปปิ้ง


ได้เวลาออกจากThePeak ก็กว่า 4-5 โมงเย็น ก็เดินลงมาขึ้นรถที่ Bus Terminal ตอนแรกก็จะขึ้นสาย15 กลับไปลงที่ ตึก Exchange Square เหมือนเดิม แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นสาย 1 ป้ายบอกไป StarFerry จะรอช้าอยู่ทำไม ไปยืนต่อแถวรอรถสาย 1 (ค่ารถ 9.80 HKD)ตอนที่ขึ้นมาก็คิดว่ารถจะมาจอด Star Ferry ฝั่งเกาลูน แต่ที่ไหนได้รถมาทางฝั่ง Central Hong Kong ไม่เป็นไรหาทางวกลับไปเกาลูนได้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ 2 ครั้งมาทำงานก็มาที่ HongKong Convention Center ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับที่เราหลงมา เราก็เดินมาท่าเรือเพื่อจะขึ้นเรือข้ามฝากไปลงจิมซาจุ่ย (ค่าเรือ 3HKD)ช่วงค่ำวันนี้ฝนตกตลอดแต่ไม่แรงมาก เราเดินกลับห้องพักโดยเดินเข้า MTR เพื่อหลบฝนคนเข้ามาหลบฝนในสถานีจิมซาจุ่ยเยอะมาก แบบแย่งกันหายใจ กว่าจะกลับถึงห้องพักก็ปาไป 2 ทุ่มกว่า ๆหมดแรงจริง ๆ ถึงห้องเก็บข้าวของ พักผ่อนพรุ่งนี้ได้เวลากลับบ้าน


10/5/2015

เช้านี้เราออกจากห้องพักกันตั้งแต่ 7โมง เดินตามหา Amy เพื่อคืนกุญแจและเงินคืนค่ามัดจำกุญแจ 100 HKD ขอบคุณAmy และ เพื่อนที่ตื่นแต่เช้าเพื่อคืนเงินมัดจำ จากนั้นเราก็รีบตรงไปที่ MTR จิมซาจุ่ย ขึ้นมาลงที่สถานี Sheung Wan มาที่ Hong Kong FerryTerminal มาถึงก็หาอาหารเช้าง่ายๆ เราเลือกกินกันที่แมคโดนัล เสร็จก็เดินเข้าเดินเข้าเกทเพื่อที่จะตรวจหนังสือเดินทาง เที่ยวเรือรอบ 9.00 น. เอาตั๋วเรือ (ซื้อมาตั้งแต่ฝั่งมาเก๊า)ให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องไปเปลี่ยนตั๋วก่อนเพราะเป็นตั๋วที่ซื้อขึ้นทีท่าเรือKowloon (55555++) มาผิดท่า เราก็รีบเดินไปช่องขายตั๋วเสียเงินค่าเปลี่ยนตั๋วไปอีกคนละ 30 HKD สบายใจ ได้เรือเที่ยว 9.45 น. พอไหวถ้าได้ช้ากว่านี้กลัวจะไม่ทันเที่ยวบินขากลับที่สนามบินมาเก๊า เปลี่ยนตั๋วเรียบร้อยก็เข้าช่องตรวจหนังสือเดินทาง เข้ามารอเรือ Hong Kong Ferry Terminal ทัวร์จีนเยอะมาก ๆๆๆ เรือเต็มทุกเที่ยว ใช้เวลา 1ชม. เราก็มาถึง Macau Ferry ประมาณ 10.45 น. 



จากนั้นก็ใช้บริการรถฟรีมาลงเวเนเชี่ยน เพื่อจะมาต่อรถฟรีจากเวเนเชี่ยนไปสนามบิน รอรถที่เวเนเชี่ยนนานพอสมควรไม่ได้การและก็เลยถามเจ้าหน้าที่ บอกอีก 15 นาทีรถถึงจะมา ไม่ได้การและจ้าเราเลยรีบขึ้นแท๊กซี่ไปวนามบินเลยดีกว่า เพื่อความสบายใจจากเวเนเชี่ยนมาสนามบินประมาณ 10 นาที จ่ายค่ารถไป 29 HKD ถึงแล้วก็ตรวจเอกสารต่าง ๆเดินเข้ามาช้อปปิ้งในดิวตี้ฟรี กันต่อ ดิวตี้ฟรีที่สนามบินมาเก๊าก็เล็ก ๆ มีร้านอยู่ไม่กี่ร้าน แต่ก็มีครบทุกอย่างตามมาตรฐานสนามบินจ้าเราซื้อแต่ช๊อคโกแลต กลับมาฝากเด็ก ๆ ชอบสนามบินนี้ตรงที่ว่าเดินจากตรง ตม. มาไม่ไกลก็ถึงเกทรอขึ้นเครื่องไม่เหมือนที่ฮ่องกงเคยเจอแบบเดินจากตรง ตม. มาที่เกทไกลมาก ยิ่งถ้าไปผิดเทอมินัลนี่ยิ่งแล้วเลย วิ่งเท่านั้นที่ช่วยด้วย

เที่ยวบินขากลับเราคือ FD763 เครื่องออก 14.15 แต่เครื่องดีเลย์ไปสัก 20 นาทีวันนั้นถึงดอนเมืองก็ราว ๆ สัก 4 โมงกว่า ๆ กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

จบทริปชิม ช้อป แชะ สนุกทุกองศา Honk Kong & Macau ไปแบบเงินหมดกระเป๋าแต่ก็ได้ไปเห็นสิ่งที่อยากเห็น ได้ชิมสิ่งที่อยากชิม (แม้จะไม่ใช่ร้านดังในตำนาน)ได้ช้อปในสิ่งที่อยากช้อปได้แชะในสถานที่ท่องเที่ยวที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ฮ่องกง และ มาเก๊า ขอบคุณเพื่อนสาวทั้ง 2 ที่ร่วมขบวนทัวร์ไปง่ายๆ สบายกระเป๋า ขอบคุณ Everyone CanFly ที่มีตั๋วราคาโดน ๆ แบบนี้ตลอด ๆ ขอบคุณผู้คนที่ให้ความช่วยเหลือเวลาเดินไปไหนมาไหนไม่ถูกขอบคุณทุกส่งอย่างบนเกาะสวรรค์ของนักช้อปและเกาะสวรรค์ของนักเสี่ยงโชคที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ในชีวิต ขอบคุณจริง ๆ




Create Date : 27 พฤษภาคม 2558
Last Update : 29 พฤษภาคม 2558 8:52:06 น. 2 comments
Counter : 2964 Pageviews.  
 
 
 
 
เขียนซะเหมือนได้ไปก่ะพี่เลยชอบๆๆๆ
 
 

โดย: วิ IP: 27.55.141.169 วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:14:07 น.  

 
 
 
Thanks ja
 
 

โดย: Sita IP: 202.41.190.145 วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:9:02:22 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Life is Journey Life is Travel
[Add กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com